Group Blog
 
All blogs
 
Truth or Die บทที่ 7

Truth or Die บทที่ 7

"บอกความจริงมาซะดีๆ" เสียงของเขาอ่อนโยน

"อะ...อะไรนะ?" แพรีจ้องเข้าไปในดวงตาของไบรอัน

ดวงตาของเขาเป็นสีเขียวเข้มเหมือนกับดวงตาของแครอล แต่ดวงตาคู่นี้ก็ไม่เหมือนของเเครอลตรงที่มันอบอุ่น เป็นมิตรและจริงใจ

"จริงหรือกล้า" ไบรอันพูด เขาจับมือแพรีแกว่งไปมาในขณะที่พวกเขาเดินกลับจากดูภาพยนตร์ที่โรงหนังในถนนเพนซิลเวเนีย "นั่นเป็นคำพูดที่คุณบอกว่าคุณกำลังจะทำอะไรกับกางเกงในในลิ้นชักที่ห้องของผมใช่ไหมครับ?"

แพรีพูดหลังจากได้สติ "ตอนแรกฉันคิดว่าห้องทั้งห้องของคุณเป็นลิ้นชักกางเกงในเสียอีก"

"โธ่...พูดทำร้ายจิตใจกันจัง...ผมเจ็บนะเนี่ย" ไบรอันพูด "ผมรู้...ห้องผมไม่ได้รกหรอก ผมก็แค่สร้างสรรค์...เป็นบางวัน และพอผมเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง คนอื่นก็จะคิดว่าห้องซักผ้าไม่ได้เป็นแค่ห้องซักผ้า...สีของมัน องค์ประกอบ และ..."

"สร้างสรรค์เหรอ มันสร้างสรรค์มากกกก" แพรีพูด เธอเลิกคิ้วล้อเลียน

"แล้วคุณชนะเกมนี้ไหม?" ไบรอันถาม

"เกม? อ้อ...เกมจริงหรือกล้า...ใช่...ฉันคิดว่าอย่างนั้นนะ ฉันหมายถึง ฉันทำคำท้าสำเร็จ"

"แล้วคนอื่นล่ะ?"

"ทุกคนก็ทำได้" แพรีตอบ

"ตอนแรกผมคิดว่ามันจะเป็นแค่พิธีการเข้าเป็นสมาชิกของกล่มเพื่อนผู้หญิงอะไรทำนองนั้นเสียอีก" ไบรอันพูด "แต่พวกคุณก็เล่นกันเพื่อความสนุกเท่านั้นนี่...ใช่ไหม?"

"ใช่...เพื่อความสนุก" แพรีพยักหน้า

"แต่คุณต้องแลกกับความลับสักอย่างด้วยใช่ไหม? ผมไม่เคยเล่นเกมแบบนี้เลย"

"จริงเหรอ? คุณหมายถึง...ไม่เคยมีเพื่อนคนไหนของคุณท้าให้คุณทำอะไรสักอย่างเลยรึ?"

"โอ้...มีแน่นอน...เมื่อตอนผมเป็นเด็ก...คุณก็รู้...เราขอท้านาย ฉันขอท้านาย...อะไรประมาณนี้ แต่ผมไม่เคยเล่นเกมจริงหรือกล้า"

"เเล้วคุณชอบมันไหมล่ะแพรี?" ไบรอันหยุดและดึงแพรีให้หยุดอยู่ตรงประตูทางเข้าของหอกริสโวล์ด ตึกวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยซาเล็ม

"คุณคิดว่าคุณต้องการจะเล่นอีกไหม?"

ชั่วขณะนั้น แพรีคิดว่าไบรอันรู้เรื่องที่พวกเธอตกลงจะเล่นเกมกันอีกรอบ คิดว่าเขารู้ว่ามีคำท้าบ้าๆ ที่เขียนใส่กระดาษอยู่ในกระเป๋าเสื้อของเธอ รู้เรื่องคำท้าแปลกๆ น่ากลัวของการเล่นรอบที่สองที่เขียนอยู่ในกระดาษที่พวกเธอหยิบขึ้นมาจากแจกัน

แต่ไบรอันก็พูดต่อไปว่า "อย่างเช่น...ผมขอท้าให้คุณพูดความจริง...คุณเชื่อเรื่องรักแรกพบไหม? คุณเคย..." เขาค่อยๆโน้มตัวต่ำลง คำพูดของเขาหายไปทันทีที่ริมฝีปากเขาแตะริมฝีปากเธออย่างแผ่วเบา

อีกครู่ต่อมา แพรีเงยหน้าขึ้นมองไบรอัน

"แสดงว่าคุณอยากเล่นเกมจริงหรือกล้าใช่ไหม?" ไบรอันถาม

เธอมองไบรอันที่ยิ้มยิงฟันขาวให้เธอใต้เงาประตูทางเข้า

"อาจจะ" เธอตอบ "แต่ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณพูดความจริง"

"คุณจะรู้" ไบรอันตอบ "คุณจะรู้แน่ เพราะผมไม่เคยโกหก" เขาดึงเธอเข้ามาใกล้อีกครั้ง

"เชื่อผมสิ"





"โอ้พระเจ้า!" เด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างหลังเกรซและแพรีตรงกำแพงหินเตี้ยๆ ที่อยู่รอบระเบียงของศูนย์นักศึกษากรีดร้องออกมา

"มันเหมือนกับหายนะ! เธอน่าจะได้เห็นหน้าของศาสตราจารย์ตอนที่เขาเทสารเคมีจากหลอดหนึ่งไปยังอีกหลอดหนึ่ง พูดเรื่องการทำปฏิกิริยาของสารของเคมี และหนึ่งนาทีถัดไป...ห้องแล็บทั้งห้องก็เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นร้ายกาจ ดูเหมือนหลอดทดลองจะระเบิดด้วย"

"ไม่!" พวกเธอร้องออกมาพร้อมกัน

"ฉันอยากให้เธอเห็นมันจัง"

หญิงสาวคนแรกสั่นศีรษะ "มันน่ากลัว ฉันหมายถึง...ฉันรีบวิ่งสุดชีวิตเลยรู้ไหม? ฉันหมายถึง...ฉันจะรู้ได้ยังไงว่ามันไม่ใช่ยาพิษหรือระเบิด...ใช่ไหม?"

"แล้วมันใช่ไหมล่ะ?" หญิงสาวคนที่สองถาม

หญิงสาวคนแรกตอบ "ไม่ ไม่...มันก็แค่ระเบิดไข่เน่าที่ไม่มีอันตราย แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง พวกเขาคิดว่าบางทีอาจมีใครสักคนสลับหลอดทดลองหรือสลับอะไรสักอย่าง..."

เกรซมองตาแพรี...เด็กสาวทั้งสองนั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างหน้าของศูนย์นักศึกษาเพื่อคุยกันเรื่องเดตเมื่อคืน แต่การสนทนาที่พวกเธอได้ยินอยู่นี่ทำให้การสนทนาของพวกเธอหยุดชะงัก เพราะพวกเธอรู้ว่าความจริงเรื่องระเบิดมันเป็นยังไง

พวกเธอรู้ว่ามันเกิดได้ยังไง

แครอลจัดการกับคำท้าของเธอแล้ว

และเมื่อเช้า...มีเสียงกรีดร้องออกมาจากห้องอาบน้ำ พวกเธอจึงแน่ใจว่าลิลได้ทำตามคำท้าของเธอ...นั่นก็คือ เอาสีย้อมผมใส่ในแชมพูของใครก็ได้

"มันเป็นสีเขียว!" หญิงสาวโหยหวน เดินโซเซจากห้องอาบน้ำ...ที่ไหล่ของเสื้อคลุมและผ้าเช็ดตัวเต็มไปด้วยสี

"ผมฉันเป็นสีเขียว"





"ทีมว่ายน้ำ" ลิลบอกกับพวกเธอระหว่างกินมื้อกลางวัน

"บางทีคลอรีนในน้ำอาจทำปฏิกิริยากับสีย้อม ทำให้ผมของเธอกลายเป็นสีเขียว" ลิลคิดไตร่ตรอง...จากนั้นเธอก็พูดต่อว่า "อยากรู้จังว่าเธอจะทำยังไงกับผมสีเขียวนั่น”

แพรีช็อก "เธอหมายความว่ามันเป็นสีย้อมแบบฐาวรรึ?"

"ฉันคิดว่านะ" ลิลยักไหล่ "ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับยาย้อมผมเลย...เธอก็รู้"

"แต่นั่นมัน..." แพรีอ้าปากค้าง

ลิลไม่พูดอะไรทว่ายักไหล่แทน

ไม่มีใครแปลกใจหรือกังวลใจเลย การสนทนายังคงดำเนินต่อไป

เธอคิดว่าจะมีหนึ่งในพวกเธอที่เป็นห่วงเสียอีก แพรีคิด ตามองไปรอบโต๊ะอาหาร

มันแปลกมาก ทำไมพวกเธอทั้งหมดถึงได้แสดงท่าทางเป็นปรกติกับเรื่องแบบนี้ได้นะ? หรือมีอะไรผิดปรกติเกิดขึ้นกับฉัน? บางที่ฉันอาจจะคิดมากไปก็ได้

เกรซพูดต่อ "ฉันไม่ชอบเลย"

"ไม่ชอบอะไรล่ะ?" แพรีถามด้วยความหวัง

แต่เกรซก็ไม่ได้หมายถึงเรื่องสาวผมเขียวคนนั้น เธอหมายถึงเรื่องคำท้าของเธอเอง

"ศจ.กุยเลียนนีเป็นคนบ้า! จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาพบว่าฉันเป็นคนปล่อยลมยางออกจากรถของเขา? ฉันหมายถึง...ทุกคนก็รู้ว่าเขารักรถที-เบิร์ดโบราณของเขามากเเค่ไหน...เขาจะต้องฆ่าฉันด้วยมือเปล่าแน่"

"อย่างน้อยวันพรุ่งนี้เธอก็ไม่ต้องหาทางกลับบ้านจากทะเลสาบไร้ก้นในความมืดหรอก" แพรีพูด "เธอก็แค่ไปที่บ้านศจ. แต่มัลลอรีที่น่าสงสารจะต้องไปเดินเล่นรอบป่าตลอดเย็น...คนเดียว"

"เราจะไม่พาเธอไปที่ป่า แต่เราจะพาเธอไปตรงที่ที่อยู่ใกล้ๆ กับบ้านพักแถวทะเลสาบไร้ก้น"

"ฟังดูน่ากลัวจัง" แพรีพูด "ฉันเกลียดความมืด มันจะต้องเป็นคำท้าที่แย่ที่สุดแน่ๆ และฉันพนันได้เลยว่ามันจะต้องเป็นความคิดของจีนหรือไม่ก็ของเเครอล"

"แต่ต่อจากนี้ เธอจะต้องใส่แค่ชุดนอนกับเสื้อกันฝนทั้งวัน" เกรซพูด

"จีนได้คำท้าง่าย... ตอบประกาศโฆษณาในคอลัมน์ส่วนตัวของครอนิเคิล...แต่...บางทีที่เเย่ที่สุดที่เธอต้องทนคือการออกเดตกับพวกทึ่มๆ" เกรซบ่น

แพรีหวังว่าหน้าของเธอคงไม่เป็นสีเเดง นั่นเป็นคำท้าที่เธอเขียน เธอบอกว่า "ฉันต้องเกลียดการไปไหนมาไหนโดยมีแค่ชุดนอนกับเสื้อกันฝนแน่ๆ แต่ฉันคงเกลียดสิ่งที่จีนจะต้องทำมากกว่า"

เกรซไม่ได้ฟัง เธอครุ่นคิดอยู่กับคำท้าของเธออีกครั้ง "ฉันจะบอกเธอว่าฉันเกลียดอะไร...ฉันเกลียดเกมนี้" เธอพูด "เป็นความคิดของใครนะ?"

"ความคิดของแครอล" แพรีพูด "แต่ถ้าไม่ชอบมัน...ทำไมเธอต้องเล่นต่อล่ะ? ฉันจะไม่เล่นถ้าเธอไม่เล่น"

เกรซไม่ได้ตอบคำถามของแพรี ไม่ได้สนใจกันข้อเสนอของเธอเลย

"มันเป็น" เกรซถาม "มันเป็นความคิดของเเครอลรึ?" สีหน้าประหลาดบนใบหน้าของเกรซ...แต่มันก็หายไปอย่างรวดเร็วจนแพรีคิดว่าเธอคิดไปเอง เกรซลุกขึ้นแล้วพูดว่า

"เอาล่ะ...เราควรรีบไปทำมันให้จบๆ ซะ...จากนั้นเราจะได้เริ่มชีวิตธรรมดาที่นี่...ที่มหาวิทยาลัยซาเล็ม"





คืนถัดไป...แพรีในชุดนอนกับเสื้อกันฝนกำลังเคาะประตูห้องของเกรซ

"นั่นใครน่ะ?"

"เกรซเหรอ?"

"เธอไม่ได้อยู่ที่นี่" เพื่อนร่วมห้องของเกรซเปิดประตูและโผล่ศีรษะออกมา เธอมองชุดกันฝนของแพรีอย่างสงสัย แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไร

"งั้นเธอน่าจะอยู่ที่..."แพรีหยุดพูด เธอไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมห้องของเกรซรู้เรื่องเกมจริงหรือกล้ากับเรื่องคำท้าของเกรซหรือเปล่า...แต่ยังไงก็ตาม...ถ้าเกรซโดนจับได้ เธอจะต้องมีปัญหาใหญ่แน่ ดังนั้นอย่าให้มีคนรู้หลายคนจะดีกว่า

แพรีกลืนน้ำลาย "เอ่อ...ความจริงเธอน่าจะกลับมาแล้วนะ?"

เพื่อนร่วมห้องดันแว่นบนจมูกของเธอ "เอาอย่างนี้นะ" เธอพูด "ฉันจะบอกเกรซให้ว่าเธอมาหา"

"ขอบคุณนะ" แพรีพูด เธอเดินออกไปจากหอช้าๆ

เกรซไปอยู่ที่ไหนนะ? เธอออกไปเมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว บ้านของศจ.กุยเลียนนีอยู่ในย่านบ้านเก่าสไตล์วิคตอเรียนที่อยู่ถัดจากมหาวิทยาลัย เดินไปก็ไม่น่าจะเกินสิบห้าหรือยี่สิบนาทีเลย และเธอจะใช้เวลาสักเท่าไหร่กันเชียวกะอีแค่ปล่อยลมยาง?

ฉันจะทำยังไงดี?

ความคิดแวบแรกของแพรีคือ...ไปที่ห้องของแครอล...

แครอล...คนที่เป็นคนเริ่มเกมนี้ คนที่เธอไม่ไว้ใจ

แต่เธอก็คิดได้..

ทะเลสาบไร้ก้น

เธอลืมไปได้ยังไงนะ? แพรีสงสัย
แต่เธอก็รู้คำตอบในทันที เธอนัดกินข้าวเย็นกับเกรซและมัลลอรีและลิลที่โรงอาหารของควอด...แพรีในชุดกันฝน...เกรซรีบกินอาหารเย็นของเธอ ใจของเธอลอยไปไหนนะ...มัลลอรีนิ่งเงียบ เคาะจานของเธอเล่น...ลิลทำให้เพื่อนๆ ขำโดยการเล่าเรื่องที่เธอเรียกว่าสงครามฟุตบอล

"เธอน่าจะมาวิ่งกับฉันนะ...เธอรู้ไหม...ถ้าเธอออกกำลังกาย...เธอจะกินอาหารอร่อยๆ แบบนี้ได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องรูปร่างเลย" ลิลลดเสียงต่ำลงโดยอัตโนมัติ "มีชีวิตโดยไม่ต้องกังวลน่ะ"

มัลลอรีผลักจานอาหารของเธอกลับไปและเงยหน้ามองทุกคน "ฉันไม่อยากทำ" เธอพูด

"ก็ได้...คิดถึงอาหารที่ดีกว่านี้สิ" ลิลพูด

"ฉันไม่อยากไปทะเลสาบไร้ก้น ฉันจะกลับบ้านได้ยังไง?" ดวงตาสีน้ำตาลที่เบิกกว้างของมัลลอรีเต็มไปด้วยความกลัว

"ว่ายน้ำไง" ลิลตอบโดยไม่ได้สังเกตความกระวนกระวายใจของมัลลอรี

อย่างลิลน่ะหรือ แพรีคิด "เธอเอาไฟฉายไปได้นี่ มัลลอรี...เธอมีไหมล่ะ ไฟฉายน่ะ?" แพรีพูดออกมา

มัลลอรีพยักหน้าและเกรซก็พูดว่า "ไฟฉายเหรอ หลังจากมื้อเย็น ฉันต้องไปเอาไฟฉายและถอดต่างหูพวกนี้ทิ้ง" เธอชี้ต่างหูรูปเหยี่ยวสีทองแดงและสีเงินที่บินถลาบนติ่งหูแต่ละข้าง "ฉันไม่อยากใส่อะไรที่ต้องแสงไฟ"

"ถูกของเธอ เธอจะไปจัดการกับรถของศจ.คืนนี้ใช่ไหม?" ลิลถาม

มัลลอรีพูดว่า "เราแลกกันไม่ได้หรือเกรซ?"

เกรซดูเหมือนกำลังใช้ความคิดอยู่ แต่ลิลโพล่งออกมาว่า

"ไม่ได้หรอก...จำตอนที่ฉันใส่ชุดโง่ๆ นั่นได้ไหมล่ะ? ฉันก็อยากจะแลก แต่มีใครแลกกับฉันไหมล่ะ?"

"นั่นมันไม่เหมือนกัน" มัลลอรีแย้ง "ฉัน...ฉันไม่ชอบความมืด ฉันว่ายน้ำไม่เก่ง"

"เอาเถอะ...แครอลและฉันจะไม่ทิ้งเธอที่ทะเลสาบหรอก...แค่ทิ้งไว้ที่ใกล้ๆ...เธอต้องมีไฟฉาย เธอจะเลือกกลับด้วยวิธีอะไรก็ได้...โบกรถเอย...เรียกแท็กซี่เอย"

"โบกรถรึ? ใครจะไปอยู่ที่นั่นตอนกลางคืนล่ะ"

"มีคนไปที่นั่นกันนะมัลลอรี" เกรซพูด "หลายคนชอบขับรถไปเที่ยวที่โน่น เธอก็รู้"

แพรีเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มออกมา "เธอรู้เหรอเกรซ?" เธอแหย่

ลิลส่งเสียงดัง "เกรซกับเคนน์...นั่งอยู่ใต้ต้นไม้...แล้วก็จูบกัน"

"อย่าทำเป็นเด็กๆ ไปหน่อยเลยน่าลิล" เกรซพูด แต่เธอไม่ยิ้ม

มัลลอรีก็ไม่ยิ้ม "ฉันไม่อยากไป" เธอพูด "ฉันไม่อยาก"

"งั้นเธอก็ไม่ต้องทำ" ลิลตอบโดยไม่สนใจ เธอยืนขึ้นและยกถาดเปล่าของเธอขึ้น

"ฉันอิ่มแล้ว อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกันที่หน้าหอนะมัลลอรี"

เธอก้าวยาวๆ ข้ามโรงอาหารไป มัลลอรีมองตามลิล จากนั้นก็หันกลับมาหาทุกคน

"เกรซ" เธอพูด

"มีอะไรเหรอ?"

"ทำไมต้องเป็นฉันด้วยนะ"

เกรซเงยหน้าขึ้น เธอขมวดคิ้ว "ฉันรึ? ทำไมเธอถึงถามฉันล่ะ? ฉันต้องไปบ้านศจ.แล้วก่ออาชญากรรมอย่างนึงเชียวนะ...แล้วเธอก็ถามฉัน? เสียใจด้วยมัลลอรี...ฉันช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอก"

เกรซหยิบขนมปังขึ้นมาและกัด เธอทำหน้าเฉยและวางมันลง

"มันกรอบดี" เธอพูด จากนั้นเธอก็พูดต่อไปว่า "ทำสิ่งที่ลิลบอกเถอะมัลลอรี ถ้าเธอไม่ทำ ก็บอกความจริงมา"

พอได้ยินดังนั้น มัลลอรีก็แทบจะกระโดดขึ้นมา

"เธอต้องการความจริงใช่ไหม? ฉันกลัว...เข้าใจไหม? เธอไม่เคยกลัวเลยหรือไง?"

การระเบิดคำพูดของมัลลอรีทำให้แพรีสั่น เธอเอื้อมมือไปวางทาบบนแขนเสื้อของมัลลอรีแล้วลูบเบาๆ เพื่อปลอบเธอ

แต่เกรซยังคงทำท่าทางเหมือนเดิม...หนักแน่นและไม่สะทกสะท้าน "แน่นอน...ฉันกลัว...พวกเราทุกคนกลัว มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์นะมัลลอรี อย่ากังวลไปเลย ความกลัวไม่ได้ฆ่าเธอสักหน่อย"

มัลลอรีจ้องหน้าเกรซ จากนั้นเธอก็สะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของแพรี

"ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะ" เธอพูด "ฉันจะไปพบเเครอลกับลิลเพื่อทำคำท้าของฉัน...โชคดีนะเกรซ" เธอหรี่ตาลง

"จำไว้นะ อย่ากลัวจนเกินไป...มันก็แค่ธรรมชาติของมนุษย์"

พอพูดจบ เธอก็หมุนตัวและเดินออกไปจากโรงอาหารอย่างเยือกเย็น

"ว้าว" แพรีร้องออกมาอย่างอิจฉา "ฉันไม่ยักจะรู้ว่ามัลลอรีก็มีความกล้าซ่อนอยู่"

"คนทุกคนไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นกันเสมอไปหรอกนะ" เกรซพูดพร้อมกับมองตามมัลลอรีไป

"มาเถอะ" เธอพูด "ถึงเวลาจบเกมจริงหรือกล้าอีกรอบแล้วล่ะ"

จบบทที่ 7





สวัสดีค่ะ

บทที่ 7 แอบยาวกว่าบทที่ผ่านๆ มา แถมจบแบบค้างคาให้คิดกันทีเดียว กำลังสนุกเลยนะคะ อย่าแปลกใจว่าทำไมสาวๆ ของเราจึงจริงจังกับเกมนี้เหลือเกิน ตามอ่านต่อไปแล้วปมจะคลี่คลายเองค่ะ

ถ้าให้เลือกทำ...เพื่อนๆ จะเลือกทำคำท้าของใครคะ ดูเหมือนว่าเขียนจดหมายถึงคนในคอลัมน์ส่วนตัวจะดูง่ายที่สุดในความคิดของมิถุนา

แล้วเจอกันบทหน้าค่ะ
มิถุนา
//mithuna.bloggang.com



Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2555 11:49:03 น. 0 comments
Counter : 1698 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิถุนายน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]





บล็อกนี้เริ่มต้นจากการเก็บรวบรวมนิยายของมิถุนาให้เป็นหลักแหล่ง และต่อมาได้เพิ่มความชอบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง การท่องเกี่ยว การกิน และเรื่องจิปาถะอื่นๆ ค่ะ ว่างๆ ก็แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ

มิถุนา (busaba401แอตhotmail.com)

แวะทักทาย/ฝากคำถามได้ที่ cbox นะคะ แล้วจะมาตอบให้ทุกคนค่า








Fanpage นิยายของมิถุนา
(เฉพาะนิยายนะคะ ไม่ได้อัพเรื่องเครื่องสำอางค่ะ)
มิถุนา Mithuna นิยาย

โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ



E-book ของมิถุนา
คืนปรารถนา
มิถุนายน
www.mebmarket.com
ทั้งหมดเริ่มต้นจากความเข้าใจผิด...อชิระคิดว่ามิลินท์หักหลังเขา เขาจึงใช้ความรักที่เธอมีให้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น มิลินท์จาก...
ร้ายนัก(ไม่)รักเสียดีไหม
มิถุนายน
www.mebmarket.com
เมื่อยอดคุณป๊า ที่ถือคติที่ว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” พยายามจับคู่ลูกๆ ที่เหลือให้ครบ อดีตคู่กัดสมัยละอ่อนเลยได้โคจรมาพบกันอีกครั้งในฐานะเจ้าบ่าวและเจ้าสาว...
New Comments
Friends' blogs
[Add มิถุนายน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.