Group Blog
 
All blogs
 
Truth or Die บทที่ 15

Truth or Die บทที่ 15

ประตูห้องของเกรซเปิดอยู่

"เกรซ?" แพรีเรียกเบาๆ พร้อมกับเปิดประตูให้กว้างขึ้น

เกรซนั่งอยู่ที่โต๊ะของเธอใกล้กับหน้าต่าง...คางของเธอวางอยู่บนมือ...เธอมองไปยังความมืดด้านนอก มีเพียงเเสงจากโคมไฟอันเล็กที่ตั้งบนหัวเตียงให้ความสว่างภายในห้อง

"เกรซ?" แพรีเรียกอีกครั้ง

เกรซไม่ได้ตอบ เธอยังคงมองไปในความมืด

แพรีกลืนน้ำลายลงคอแล้วพูดว่า "เกรซ!"

เกรซร้อง...เธอลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนเก้าอี้ล้มลงไปกองกับพื้น เธอยกมือขึ้นกำหมัดเหมือนเตรียมพร้อมจะจู่โจมผู้บุกรุก

แพรียกมือขึ้นตามสัญชาตญาณ "เดี๋ยวก่อน! โธ่! ฉันเอง ฉันแพรี"

"แพรี" เกรซลดหมัดลง เธอมองไปยังหมัดที่ขาวซีดของเธอ เธอกางมือของออกและงอมันไปมา

จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมองแพรี

"ถึงเวลาแล้วใช่ไหม?" เธอถาม

แต่เเทนที่จะตอบ แพรีกลับถามว่า "เกรซ...เธอกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่?"

"ไม่มีอะไรนี่" เกรซตอบ เธอทำหน้าย่น "ฉันมีการบ้านเยอะ..."

"ไม่ใช่การบ้านหรอกใช่ไหมเกรซ? มันต้องเป็นเรื่องอื่นแน่ๆ...เรื่องบางอย่างเกี่ยวกับเกมนี่ใช่ไหม?"

เกรซสั่นศีรษะ

"เป็นเรื่องที่เธอเขียนใส่กล่องความจริงใช่ไหม? ใช่ไหมล่ะ? นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเธอยังเล่นต่อไปเรื่อยๆ ใช่ไหม?"

เกรซยังคงสั่นศีรษะโดยไม่ตอบอะไรเหมือนเดิม

"เธอรู้ว่าแครอลรู้ใช่ไหม?"

แล้วเกรซก็มองที่นาฬิกาของเธอ

"ได้เวลาที่เราจะต้องไปแล้วนะ" เธอพูด "ถึงเวลาที่เราจะต้องเล่นเกมจริงหรือกล้ากันอีกรอบแล้ว"
****************************************************************

หญิงสาวห้าคนเดินเงียบๆ ในความมืดข้ามไปอีกฝั่งของมหาวิทยาลัย มีลมยามเย็นที่แรงผิดปรกติพัดผ่าน เหนือทางเดินนั้น...กิ่งของต้นไม้กระทบกันเพราะลมนั่น

เหมือนกับนิ้วมือ แพรีคิด ไม่สิ...เหมือนกับกระดูกนิ้วมือ

ลมพัดกรรโชกแรงจนกิ่งไม้ร่วงหล่นลงมาก่อนที่พวกเธอเเละแพรีจะกระโดดหลบ

"โอ้!"

"ไม่มีอะไร" เกรซพูด "ทางนี้ใช่ไหม?" เธอชี้

ลิลพยักหน้าและเธอก็เป็นคนนำทาง

พวกเธอผ่านส่วนที่เก่าแก่ของมหาวิทยาลัย...ที่ที่ครูผู้หญิงประจำวิทยาลัยเคยอยู่ พวกเธอเดินผ่านประตูที่อยู่ขนาบกับกำแพงหินเตี้ยๆ ที่แสดงว่านี่เป็นสุดเขตของมหาวิทยาลัย พอประตูเปิดออกจะเห็นสนามกว้าง ทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้า--ตั้งแต่ทางเดินจนถึงเนินเขาที่อยู่ข้างกำแพงหินเป็นป่าและทุ่งนา--เป็นที่ที่ถูกทิ้งร้างซึ่งจริงๆ แล้วเคยมีวิทยาลัยสตรีแบบดั้งเดิมตั้งอยู่

แสงสุดท้ายเป็นแสงสว่างที่มาจากการเปิดกำแพงหิน เงามืดบางๆ ของต้นหญ้าและใบไม้ที่ทอดยาว รวมไปถึงต้นไม้และหิน ก่อนทั้งหมดจะถูกครอบคลุมด้วยความมืด

ลิลล้วงมือลงไปในกระเป๋าของเธอ หยิบไฟฉายออกมาแล้วกดสวิตช์

"เธอเคยมาที่นี่มาก่อนหรือลิล?" แพรีถามอย่างยากเย็น

"ไม่หรอก ฉันแค่เคยมาวิ่งที่เนินเตี้ยๆ ตรงนี้กับทีมฟุตบอล ฉันเลยรู้ว่ามีที่แบบนี้อยู่ แต่สิ่งที่พวกเราทุกคนจะต้องทำก็คือขึ้นไปบนยอดเขาจนถึงทางแยกแล้วเราก็เดินไปทางขวาซึ่งจะนำเราไปสู่จุดชมวิว ส่วนทางซ้ายจะนำเราไปสู่เขาอีกด้าน"

ลิลเป็นคนจัดฉากขึ้นมารึเปล่า? จะใช่ลิลที่เป็นคนทำรึเปล่านะ?

แต่จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ? พวกเธอทั้งห้าคนเห็นด้วยกันหมดว่าควรจะมาพบกันที่ห้องของแครอลก่อน พวกเธอแต่ละคนเขียนจุดหมายปลายทางใส่กระดาษและเอามันใส่ชาม เกรซเป็นคนหยิบกระดาษขึ้นมาเเล้วอ่านดังๆ

จุดชมวิว

"เห็นด้วยไหม?" แครอลถาม เธอดึงกระดาษมาจากมือของเกรซและมองไปที่มัน เธอส่งมันผ่านไปรอบวงและแต่ละคนก็เห็นคำสามคำเขียนอยู่บนกระดาษ

ไม่มีใครรู้ว่าจะจับฉลากได้จุดหมายใด ไม่มีใครรู้ว่าเราจะไปที่ไหนจนกว่าจะถึงเวลานั้น แล้วพวกเธอทั้งหมดก็ออกจากห้องไปด้วยกัน

ไม่มีทางที่ใครจะสามารถจัดฉากเกมครั้งนี้ได้

แครอลหันลำเเสงไฟฉายไปทางขวา แม้ว่าทางเดินจะเรียบแต่มันเป็นทางที่ลาดชัน

"ระวังหน่อยนะ" เธอหันมาสั่งข้ามไหล่และเริ่มเดินขึ้นไป

หญิงสาวทั้งสี่เดินเรียงเดี่ยวขึ้นไปเเละขึ้นไป หลบเลี่ยงก้อนหินก้อนใหญ่ ตะกายต้นไม้ ยิ่งพวกเธอขึ้นไปสูงเท่าไร ลมก็ยิ่งเเรงมากขึ้นเท่านั้น ลมพัดผ่านช่องว่างระหว่างหุบเขา ทำให้เกิดเสียงกรีดร้องไปทั่วบริเวณ

ตอนนี้เราเล่นเกมอะไรกันอยู่นะ? แพรีคิค แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร พวกเธอยังคงเดินไปเรื่อยๆ เหมือนกันเเกะที่หลงทาง

มันไม่มีประโยชน์ ทำไมเราจะต้องมาเล่นเกมรอบสุดท้ายที่นี่ด้วยนะ? มันอาจจะแค่เริ่มที่นี่ก็ได้ รอบสุดท้ายอาจจะไม่จบเพียงแค่นี้...รึเปล่า?

รึเปล่า?

รอบสุดท้าย...

แครอลหยุด เธอสาดแสงไปรอบที่โล่งเตียนด้านหนึ่ง ต้นไม้ขึ้นเรียงชิดติดกัน ที่อีกด้าน ดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนส่องแสง เเสงสว่างจากมหาวิทยาลัยและเมืองที่อยู่ข้างล่างเหมือนแสงที่สะท้อนจากบ่อน้ำที่ทั้งลึกและกว้าง

"นั่งลง นั่งลง" เเครอลพูด เธอผายมือไปยังที่ข้างๆ เธอราวกับว่าเธอเป็นเจ้าบ้านงานเลี้ยงที่ดี

พวกเธอแต่ละคนนั่งเป็นรูปวงกลม เผชิญหน้ากับแครอล โดยที่ด้านหลังของพวกเธอเป็นหินแบนๆ หยาบๆ ที่ยืนออกมาจากหน้าผาข้างล่าง

แครอลปลดเป้สะพายหลังที่เธอสวมลงและวางมันข้างหน้าของเธอ...กลางวงกลม เธอนั่งใกล้ๆ มัน เปิดและยกกล่องความจริงออกมา เธอวางมันลงข้างหน้าอย่างระมัดระวังจนเกือบจะเป็นพิธีการ

"เอาล่ะ เราเริ่มกันได้เเล้ว" เธอพูด "เราจะเริ่มเกมรอบสุดท้าย เกมจริงหรือกล้า"

บางอย่างที่เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น แพรีคิด เธอมองไปรอบๆ แต่ไม่มีใครพูดเลย

เเครอลพูดต่อพร้อมถือกุญแจไว้ในมือ "นี่เป็นกุญแจของกล่อง กุญเเจที่จะนำไปสู่ความลับข้างใน กุญแจความจริง เธอจะได้กระดาษของเธอกลับไปหลังจากที่เราเล่นรอบสุดท้ายแล้ว"

เเครอลโน้มตัวไปข้างหน้าแล้ววางกุญเเจไว้บนกล่อง เป็นอีกครั้งที่เเครอลเอื้อมมือลงในกระเป๋าเป้ เธอหยิบแจกันออกมาวางบนพื้นถัดจากกล่อง จากนั้นเธอก็หยิบสมุดโน้ต เปิดและวางมันบนเข่าข้างหนึ่ง ส่วนอีกมือถือไฟฉาย เขียนคำท้าของเธอ เธอฉีกกระดาษออก พับและหย่อนมันลงในแจกัน แครอลหยิบสมุดโน้ตและปากกาใส่กลับเป้ เธอส่องไฟไปรอบวง

"ใครจะเป็นคนจับ?" เธอถาม

"ใครจะเป็นคนจับคำท้าอันเเรก? มัลลอรี? เกรซ? แพรี? ลิล?"

"ฉัน" ลิลตอบ "เอามาให้ฉัน"

เมื่อเเครอลส่องไฟไปที่เเจกัน ลิลก็เอื้อมมือหยิบกระดาษไปแผ่นนึง แครอลวางแจกันไว้ที่ริมโต๊ะหินเรียบๆ ราวกับว่ามันเป็นของสำคัญที่ใช้ในพิธี เธอคลี่มันออก

เธอจ้องมันเป็นเวลานาน...นานมาก มีลมหอบใหญ่พัดเหนือเธอพร้อมเสียงร้องอันน่าขนลุก

"อ่านสิ" เเครอลสั่ง

ในที่สุดลิลก็เงยหน้าขึ้น

"ความจริง" เธอพูดเสียงเเหบเเห้ง "มันเขียนว่า 'ฉันขอท้าให้เธอพูดความจริง'"

"เเต่ความจริงอะไรล่ะลิล?" แครอลถาม เสียงของเธอฟังดูไม่จริงจัง แต่ใบหน้าที่ดูหนักอึ้งและเยือกเย็นปรากฎในเงาของเเสงไฟ เธอฉายแสงส่องหน้าลิลตรงๆ

ลิลจ้องตอบแสงไฟที่ส่องมา รูม่านตาของเธอหรี่เล็ก เธอเปิดปากแล้วก็ปิดมันอีก

"ฉัน..." เธอเริ่ม

"ลิล?" เกรซพูด เธอเอื้อมมือออกไป ปลายนิ้วแตะหลังมือของลิล...มือที่กำกระดาษแผ่นนั้น

ลิลเงยหน้าขึ้น "ความจริง...นี่เป็นความจริงที่ฉันรู้"

"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...ประมาณสิบปีที่แล้ว ตอนฉันอายุแปดขวบ ฉันได้ไปเข้าค่ายพักแรม ฉันตื่นเต้นมาก ฉันจำได้ดี ฉันจัดกระเป๋าล่วงหน้าก่อนวันเดินทางตั้งหนึ่งอาทิตย์ ฉันจัดของทุกอย่างในรายการที่พวกเขาส่งมาให้พวกนักเรียนที่มาเข้าค่าย ฉันเขียนชื่อของฉันบนป้ายชื่อและเอาป้ายชื่อติดที่เสื้อผ้ากับรองเท้าและสมบัติของฉันทั้งหมด ฉันจะเป็นผู้ร่วมค่ายที่ไม่มีที่ติ

"มันสนุก สนุกมากกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก ฉันมีเพื่อน ฉันได้ขี่ม้า ปีนเขาและทำงานประดิษฐ์ ฉันเล่นฟุตบอลครั้งแรกที่นั่น

ลิลหยุดพูดเเล้วยิ้มแห้งๆ จากนั้นก็พูดต่อไปว่า "ฉันยังได้เรียนว่ายน้ำด้วย ฉันพยายามมากและได้อยู่ในกลุ่มผู้นำ กลุ่มผู้นำจะได้ว่ายน้ำที่จุดที่ลึกที่สุดของทะเลสาบในค่ายที่เราพัก เราได้กระโดดน้ำที่หอดำน้ำด้วย และยังมีบทเรียนเกี่ยวกับเรือเเคนูอีก และแน่นอน...พวกเราคิดว่าพวกเราเป็นกลุ่มที่เจ๋งที่สุดในค่าย

"เเต่ก็มีเด็กที่ไม่ค่อยเก่งด้วย เธอเป็นคนงุ่มง่ามเงอะงะ เธอกลัวความมืด และเธอก็เป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กที่อยากจะเข้ากลุ่มกับพวกเรา เด็กคนอื่นแกล้งเธอแรงมาก เเต่งตัวเป็นผีหลอกเธอ ขังเธอไว้ในห้อง เล่นสนุกกับเตียงของเธอ เอาเกลือใส่ในอาหารเช้าของเธอ

แพรีนั่งตัวเเข็ง ใครบางคน...เธอไม่แน่ใจว่าใคร เธอนั่งนิ่งพูดไม่ออก

ลิลไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเลย เธอยังพูดต่อไป

"เด็กหญิงเซ่อซ่าคนนั้นมักจะหัวเราะและพยายามต่อไป ในที่สุดเธอก็ผ่านการทดสอบว่ายน้ำของกลุ่มผู้นำ เธอมีความสุขมาก เธอคิดว่านั่นจะทำให้เธอเข้ากลุ่มของเราได้ เเต่ก็ไม่ได้ โอ...พวกเราไม่ยอมให้เธอเข้ากลุ่ม เรายอมให้เธอวนเวียนอยู่ใกล้ๆ เท่านั้น แต่เธอก็ทำได้ไม่ค่อยดี เธอว่ายน้ำได้ เเต่เธอไม่ชอบมัน เธอไม่ชอบให้ตัวเปียกและกลัวการกระโดดน้ำ

"มันเป็นปิดเทอมที่ยาวนานมาก ฉันได้เข้าร่วมกับเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ และเราก็เริ่มตั้งสมาคมความลับ ไม่มีเหตุผลที่จะตั้งมันขึ้นมา มันเป็นเเค่สมาคมความลับที่มีการจับมือโง่ๆ กับรหัสลับโง่ๆ

"แน่นอนว่าเด็กหญิงคนนั้นรู้เรื่อง เธอคอยตามพวกเราเพราะเธออยากจะเป็นสมาชิก สุดท้ายฉันก็บอกเธอว่าเรามีการรับสมาชิกใหม่ที่ยากและร้ายกาจมาก ฉันบอกว่ามันคืออะไร และถ้าเธอผ่าน เราจะให้เธอร่วมกลุ่มด้วย

"พวกเราพยายามคิดวิธีรับสมาชิกใหม่ที่เธอจะไม่ทำ อะไรก็ได้ที่เธอจะไม่กล้าทำ เเต่เราก็คิดไม่ได้ เราผลักดันเธอต่อไป...บอกเธอว่าเราจะให้เธอรู้ แน่นอนว่าตอนนี้คนอื่นๆ ก็รู้เรื่องเเล้ว มันจะต้องเป็นเกมอะไรสักเกม

"แล้วหนึ่งในพวกเราก็คิดเรื่องรับสมาชิกใหม่ได้...ให้กระโดดน้ำที่หอสูง...ตอนเที่ยงคืน พวกเราคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ตลกที่สุด ไม่มีใครทำเรื่องบ้าๆ อย่างนั้นได้หรอก พวกเราทุกคนไม่กล้าทำมัน แต่เราก็พูดเรื่องนี้กันเเละตัดสินใจไม่บอกเรื่องนี้กับเธอ เราพยายามคิดวิธีอื่น แต่มีเด็กคนหนึ่งเข้ามาในเคบิน...เธอไม่ได้เป็นสมาชิกของเรา แต่เธอไม่เห็นว่าที่พวกเราคุยจะน่าสนใจตรงไหน พวกเราเลยไม่สนใจเธอ...แต่เราคิดผิด

"หลายคืนถัดไป เด็กหญิงคนนั้นบอกเพื่อนร่วมค่ายว่าเธอได้รับคำท้า แล้วเธอก็ออกไปทำมันคืนนั้น เธอไม่บอกพวกเขาว่ามันเป็นอะไร

ลิลหยุด เธอหายใจลึกแล้วเธอก็พูดต่อ

"เช้าวันถัดมา พวกเราพบเธอที่ทะเลสาบ เธอขึ้นไปบนหอกระโดดน้ำ แล้วดูเหมือนว่าเธอเสียการทรงตัว ศีรษะของเธอกระแทก แล้วเธอก็หล่นลงสู่ผืนน้ำเบื้องล่าง

"พวกเขาโทษฉัน ทุกคนได้ยินฉันกำลังพูดกับเธอเรื่องการรับสมาชิกใหม่ ทุกคนคิดว่าฉันเป็นสาเหตุการตายของเธอ

"เเต่ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้เป็น ตอนเเรกฉันคิดว่ามันต้องเป็นหนึ่งในพวกเรา แล้วพวกเราก็คุยกัน...สมาชิกสโมสรความลับสามคนกับฉัน และพวกเราก็คิดได้ว่าใครเป็นคนทำ...คนที่บอกเด็กหญิงคนนั้นเรื่องกระโดดหอ คนที่ส่งเธอไปตาย...และทิ้งให้ฉันรับผิดคนเดียว"

"ไม่ม่ม่ม่ม่ม่!" มัลลอรีกระโดดขึ้นมายืนและกรีดร้องโหยหวน

"ไม่ม่ม่ม่ม่ม่!"

ก่อนที่แพรีจะทันได้คิดอะไร...ก่อนที่เธอจะรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น เธอรู้สึกถึงมือที่มีพลังเหนือมนุษย์ขยับเข้าใกล้คอเธอ...มัลลอรีลากเธอขึ้นมา เธอพยายามดิ้นรนให้เป็นอิสระ แต่มือของมัลลอรีเหมือนกับคีมเหล็ก เธอรู้สึกว่าเท้าของเธอครูดกับก้อนหิน ก้อนกรวดใต้พื้นรองเท้าไนกี้ของเธอกระดอนออกไป ไหล่ข้างนึงของเธอกระแทกกับรั้วเเคบๆ ที่อยู่ถัดจากหน้าผา เธอลงไปนั่งคุกเข่า

"อย่าขยับนะ" มัลลอรีกระซิบข้างหูของเธอและกระชับตัวเธอไว้แน่น

แพรีหอบหายใจ "ม...มัลลอรี?"

แต่มัลลอรีไม่ฟังที่แพรีพูดเลย เเพรี่ได้ยินเสียงของมัลลอรีที่อยู่เหนือร่างของเธอ...ไม่ใช่เสียงเงียบๆ เบาๆ ของเด็กหญิงขี้อาย แต่เป็นเสียงโกรธกริ้วของฆาตกร

"มันเป็นเรื่องล้อเล่น เรื่องล้อเล่นเท่านั้น! มันไม่ใช่ความผิดของฉัน มันเป็นความผิดของพวกเธอ ความผิดของพวกเธอทั้งหมด"

ด้วยสติอันน้อยนิด แพรีพยายามมองว่าเกิดอะไรขึ้น พยายามฟังคำพูดที่พรั่งพรูออกมาเหนือเธอ และคำพูดของหญิงสาวสามคนที่ยืนห่างจากมัลลอรี

"มันจะเป็นความผิดของพวกเราได้ยังไงล่ะมัลลอรี?"

มัลลอรีเลื่อนตัวช้าๆ แพรีพูดไม่ออกเพราะนิ้วมือของอีกฝ่ายกดอยู่ที่ลำคอของเธอ

"เธอ" มัลลอรีกระซิบ "ชื่อของเธอไม่ใช่เเครอล เธอชื่อเเครอลีน เธอน่ะแย่ที่สุด เธอชอบดูถูกคนอื่นเสมอ ชอบคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น เธอไม่ได้เเกล้งเจนนิเฟอร์แต่เธอให้คนอื่นแกล้วแทน ฉันอยากให้เธอถูกตำหนิ..."

"เจนนิเฟอร์ตายแล้วนะมัลลอรี" เสียงของลิลดังขึ้น...เกรี้ยวกราดพอๆ กับมัลลอรี

"เธอเป็นคนทำ แต่ฉันเป็นคนเดียวที่ถูกตำหนิ คนอื่นมองฉัน พวกเขาชี้มาที่ฉันแล้วกระซิบกระซาบ มันเป็นเรื่องฉาวโฉ่น่าอับอาย พ่อแม่ฉันต้องย้ายไปอยู่เมืองอื่น ฉันเติบโตขึ้นและถูกปฏิบัติเหมือนอาชญากรสำหรับสิ่งที่ฉันไม่ได้ก่อ นั่นเป็นสิ่งที่ฉันสมควรจะได้รับเหรอ?"

"เธอก็เลวพอๆ กันนั่นแหละ ยายบ้า ยายนักวิ่ง เธอเคยพยายามสอนใครสักคนว่ายน้ำ เตะฟุตบอล หรือสอนอะไรก็ตามที่เธอทำได้ดีไหมล่ะ? ไม่เลย! เธอมัวเเต่หลงชื่นชมกับไอ้ตำแหน่งแชมป์ที่เธอได้จนไม่มีเวลาจะมาสนใจคนอื่นๆ จิลเลียน นั่นเป็นชื่อเธอเมื่อสมัยก่อนใช่ไหมล่ะ?"

"และเธอ ซาราห์ เกรซ ฉันจะลืมเธอได้ยังไง? เธอเป็นคนอ่อนโยนกับสัตว์ที่ค่ายเหมือนที่เธอดีกับทุกคนที่เคบินของเธอหรือกับเด็กคนอื่นๆ"

"ฉันขี้อาย!" เกรซร้องอย่างเจ็บปวด "ฉันคิดถึงบ้าน! ฉันไม่เคยต้องจากบ้านมาก่อนเลย!"

"ฉันก็ไม่เคยเหมือนกัน! อะไรทำให้เธอพิเศษกว่าคนอื่นล่ะ?...หยุดอยู่ตรงนั้นนะ!" มัลลอรีหันมาทางลิล ลิลที่ก้าวมาข้างหน้าเล็กน้อย มือของมัลลอรีรัดแน่นรอบคอของเเพรี่อีกครั้ง

"ถ้าเธอขยับเข้ามาอีกเพียงนิ้วเดียว ฉันจะโยนยายนี่ลงไปแน่ ฉันสาบาน"

เกรซพูดว่า "มัลลอรี มัลลอรีฟังฉันนะ เธอไม่ได้ตั้งใจทำให้เจนนิเฟอร์ตาย เรารู้ เเต่เธอไม่ควรให้ลิลแบกรับความผิดคนเดียว เธอควรพูดความจริง"

"ความจริงรึ?" มัลลอรีหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

"ความจริงรึ? เธอเเละเกมโง่ๆ ของเธอ เธอคิดว่าเธอจะหลอกให้ฉันพูดความจริงได้รึ? หรือทำให้ฉันกลัว? ฉันไม่กลัวง่ายๆ หรอก...เเต่เธอกลัว...ฉันรู้ว่าเธอเป็นใคร ฉันจำได้ทีละคน เธอก่อนซาราห์ เกรซ ตอนเเรกฉันคิดว่ามีแค่เธอคนเดียว

"เเต่ฉันก็คิดได้...พวกเธออยู่ด้วยกันทุกคน พวกเธอทุกคน แม้เเต่เธอ" นิ้วมือของมัลลอรีกดย้ำบนคอของแพรี

"ไ...ไม่" เเพรี่พยายามจะพูด

"ไม่นะ!" แครอลร้อง "ปล่อยเธอไปมัลลอรี แพรีไม่ได้มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ ปล่อยเธอ เธอเป็นผู้บริสุทธิ์เหมือนเจนนิเฟอร์ อย่าเอาแพรีไปรวมด้วยเลย"

"ผู้บริสุทธิ์" เสียงของมัลลอรีเบาลงราวกับกำลังชั่งใจ "น่าสนใจดีนี่ น่าสนใจมาก พวกเธอทุกคนชอบคำนี้รึ งั้นเธอก็บริสุทธิ์ แพรี ผู้เล่นเกมที่บริสุทธิ์ นั่นเป็นความจริงใช่ไหม? ใช่ไหม?

มัลลอรียืนต้านรั้วไว้ แพรีได้ยินเสียงป่าหวีดร้องเบาๆ ใกล้หูของเธอ

"บอกความจริงมาแพรี เธอรู้ว่าเกมนี้ผิดปรกติใช่ไหม? เธอรู้ว่ามีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล ฉันพยายามเตือนเธอ พยายามให้เธอหยุดพวกเขา ฉันรู้ว่าเธอไม่อยากเล่น"

"เเต่เธอก็ยังเล่นต่อไปใช่ไหม? เธอปล่อยให้พวกเขาเล่นต่อไป เล่นกับฉัน ยั่วฉัน

"นั่นใช่ไหมที่ทำให้เธอบริสุทธิ์? แกะน้อยที่บริสุทธิ์? แพรีที่น่าสงสารรรรรร"

ป่าร้องโหยหวนอีกครั้ง เสียงดังลั่นเปรียะๆ

มีเสียงหนึ่งดังมาจากความมืด...เสียงใหม่ตะโกนว่า

"ไม่นะ! หยุด!" แล้วร่างหนึ่งก็วิ่งออกมา

แต่สายไปเสียแล้ว สายเกินกว่าจะช่วยเธอได้

ตัวเธอเองเท่านั้นที่จะช่วยตัวเองได้

ร่างนั้นพุ่งมาเต็มกำลัง แพรีเอื้อมมือไปยังแจกันที่เเครอลวางทิ้งไว้ที่ขอบหิน เธอหยิบมันขึ้นมาและฟาดมันสุดแรง เธอรู้สึกว่ามันกระทบกับกระดูก รู้สึกว่านิ้วมือของมัลลอรีคลายหลวม

เธอสะบัดตัวไปข้างหน้า นิ้วมือเลื่อนหลุดจากการเกาะกุมและความเจ็บปวดที่ลำคอเมื่อรั้วกั้นหักออกไปทั้งหมด

แพรีได้ยินเสียงมัลลอรีกรีดร้อง เธอพยายามไคว่คว้าในความมืด และนิ้วมือของเธออยู่ก็ใกล้กับร่างของแพรี

เธอรู้สึกว่าร่างทั้งร่างของเธอถูกกระตุกลงไปข้างล่าง เธอครูดกับหินหน้าผาคมๆ เมื่อมัลลอรีค่อยๆ ร่วงหล่น

เเขนของมัลลอรีเลื่อนผ่านมือของเธอ และมือของเเพรี่ก็จับข้อมือของมัลลอรีไว้

น้ำหนักของมัลลอรีเกือบจะฉีกแขนแพรีออกจากร่าง

ชั่วเวลานิดเดียวแต่เหมือนกับยาวนานไม่สิ้นสุด เธอและมัลลอรีอยู่ที่นี่...แขวนตัวอยู่กับความตายที่กำลังโอบอุ้มพวกเธอ มัลลอรีกระซิบว่า

"อย่าปล่อยนะ ได้โปรดอย่าปล่อยฉันเลย"

"จริงหรือเปล่า?" แพรีหอบ "ที่พวกเขาพูดมาทั้งหมด จริงหรือเปล่า?"

ไม่มีคำตอบจากความมืดเบื้องล่าง

เสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลังของพวกเธอ แครอลคุกเข่าลงข้างเธอแล้วส่องไฟลงมาที่หน้าผา

มัลลอรีเงยหน้าขึ้น หน้าของเธอเป็นหน้ากากสีขาวและสีดำ...สีดำของแก้วตาที่เบิกกว้าง สีดำที่อยู่รอบปากที่กำลังหอบหายใจ ผิวแก้มที่ขาวซีดเพราะความกลัว เลือดสีเข้มไหลซึมออกมาจากมุมปากข้างหนึ่งเพราะถูกแจกันฟาด

"จริงหรือเปล่า?" แพรีพูดเสียงเเหบห้าว

"จริง" มัลลอรีร้อง "จริง พวกเธอมันระยำ! มันเป็นความจริง ฉันบอกเจนนิเฟอร์ว่ามันเป็นการรับสมาชิกใหม่เข้ากลุ่ม ฉันบอกให้เธอปีนขึ้นไปข้างบน ฉันมอง ฉันได้ยินเสียงเธอตกลงมา...

"อย่าให้ฉันตกนะ ได้โปรดอย่าปล่อยฉันเลย..."

มืออื่นๆ ยื่นมาทางแพรี แขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของลิล แขนผอมๆ ของเกรซ และมือของไบรอัน...มือเเข็งเเรงของไบรอัน เเพรี่รู้สึกถึงมือหลายมือที่โอบอุ้มเธอกับมัลลอรี

พวกเขาดึงเธอขึ้นจากหน้าผา...จากความตาย แล้วแพรีก็ค่อยๆ ขึ้นมานั่งคุกเข่า เธอถูมือทั้งสองข้างที่รอยช้ำและคอที่ปวดระบมของเธอ เธอหันศีรษะมาช้าๆ เเละหยุดมองหน้าเเครอล

"เกมจบแล้ว" แพรีพูด

จบบทที่ 15



Create Date : 04 มิถุนายน 2555
Last Update : 4 มิถุนายน 2555 15:30:27 น. 0 comments
Counter : 572 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิถุนายน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]





บล็อกนี้เริ่มต้นจากการเก็บรวบรวมนิยายของมิถุนาให้เป็นหลักแหล่ง และต่อมาได้เพิ่มความชอบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง การท่องเกี่ยว การกิน และเรื่องจิปาถะอื่นๆ ค่ะ ว่างๆ ก็แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ

มิถุนา (busaba401แอตhotmail.com)

แวะทักทาย/ฝากคำถามได้ที่ cbox นะคะ แล้วจะมาตอบให้ทุกคนค่า








Fanpage นิยายของมิถุนา
(เฉพาะนิยายนะคะ ไม่ได้อัพเรื่องเครื่องสำอางค่ะ)
มิถุนา Mithuna นิยาย

โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ



E-book ของมิถุนา
คืนปรารถนา
มิถุนายน
www.mebmarket.com
ทั้งหมดเริ่มต้นจากความเข้าใจผิด...อชิระคิดว่ามิลินท์หักหลังเขา เขาจึงใช้ความรักที่เธอมีให้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น มิลินท์จาก...
ร้ายนัก(ไม่)รักเสียดีไหม
มิถุนายน
www.mebmarket.com
เมื่อยอดคุณป๊า ที่ถือคติที่ว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” พยายามจับคู่ลูกๆ ที่เหลือให้ครบ อดีตคู่กัดสมัยละอ่อนเลยได้โคจรมาพบกันอีกครั้งในฐานะเจ้าบ่าวและเจ้าสาว...
New Comments
Friends' blogs
[Add มิถุนายน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.