ความรู้คือ วัคซีนของชีวิต เพลินอ่านนิยายดี
Group Blog
 
All Blogs
 
มืออาชีพกับในนาม

เขียนโดย แก้วมณี

ทหาร คือ รั้วของชาติเป็นแนวคิดที่บ่งบอกหน้าที่หลักของผู้มีตำแหน่งทหารตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประชาชนยังสั่งสอนหน้าที่ของทหารแก่ลูกหลานสืบทอดกันมาด้วย ประเทศไทยมีความมั่นคงและแข็งแรงได้ส่วนหนึ่งมาจากความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวของทหาร หลายปีที่ผ่านมาหลายประเทศพัฒนากองทัพให้เข้มแข็งเพื่อใช้ปกป้องประเทศด้วยการเสริมกำลังอาวุธ พัฒนากำลังพลเพื่อรับกับสงครามสมัยใหม่ที่ใช้ปัญญาเป็นอาวุธหลัก เราจึงเห็นยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย ล้ำยุคออกมาทุกปี โดยเน้นการใช้กำลังพลน้อย แต่ทรงประสิทธิภาพสูง หลายประเทศจึงลดกำลังพลลงให้เหมาะกับยุทโธปกรณ์ แล้วเน้นพัฒนาบุคลากรให้เก่งฉกาจ ฉลาดหลักแหลมขึ้น ดังที่เกิดขึ้นในประเทศมหาอำนาจทั้งหลาย เช่น อเมริกา รัสเซีย จีน เป็นต้น วัฏจักรความเปลี่ยนแปลงของกองทัพในโลกไปสู่ความทันสมัยดังกล่าวแผ่ขยายมาถึงไทยด้วย จึงมีแผนพัฒนากองทัพไทยให้ลดขนาด แต่เพิ่มประสิทธิภาพของคนและอาวุธขึ้น อันส่งผลทางตรงและทางอ้อมต่อบุคลากรที่ประจำการอยู่
แผนลดขนาดกองทัพไทยลงส่งผลต่อนายทหารชั้นสูงระดับนายพลมากมายที่ไม่มีภาระหน้าที่ใดๆทางทหารเหมือนเช่นในอดีต ข่าวหนึ่งที่น่าสนใจ คือ กองทัพไทยมีนายทหารระดับนายพลทั้งพลเอก พลโท พลตรี มากที่สุดในโลก จึงสังเกตเห็นว่า หลายปีหลังมานี้ทหารระดับพลเอกมีอายุน้อยลง ผิดแผกจากในอดีตที่กว่าจะเลื่อนขั้นเป็นพลเอกต้องเคยสร้างผลงานในสนามรบตามอาชีพของตนมามากสนาม กำจัดอริราชศัตรูจำนวนมาก มีผลงานด้านการวางแผนรบที่เยี่ยมยอดและช่วยลดปัญหาของชาติลงอย่างเห็นได้ชัด จึงมีการเลื่อนยศ เลื่อนขั้นเป็นพิเศษ แต่ปัจจุบันนี้การเลื่อนระดับชั้นทำทุกปีๆละขั้น ไม่มีความผิดก็เลื่อนปีละขั้นไม่นานก็ติดยศพลเอก โดยไม่คำนึงถึงผลงานด้านวิชาชีพทหารของเขา แค่เลือกคบนายใหญ่ให้ถูกทิศทาง ก็มีทางเลื่อนยศสูงขึ้นได้ มันดูแตกต่างจากวิชาชีพทหารในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกาหรือจีน หลายคนที่เก่งกาจเป็นที่เลื่องลือนามในฐานะทหารกล้า อาจมียศแค่จ่าหรือนายพันเท่านั้น แต่นายพลไทยที่เดินขวักไขว่ทั่วบ้านเมืองหากถามถึงผลงานด้านการทหาร จะไม่สามารถบอกได้เต็มปากเลยว่าทำความดีความชอบสิ่งใดในวิชาชีพทหาร อันแตกต่างจากนายทหารในอดีตหลายท่านซึ่งเป็นที่นับถือของประชาชนว่าเคยผ่านสนามรบเขาค้อ ปราบแดนใต้ ในฐานะผู้บังคับการ สร้างวีรกรรมหลายอย่าง มิใช่เป็นแค่พลทหารรับใช้หรือด้านหนึ่งด้านใดที่ไม่เคยผ่านสนามรบเยี่ยงผู้มีวิชาชีพทหารมาก่อน ชื่อนายพลทหารที่ติดปากประชาชนด้วยผลงานเกี่ยวกับวิชาชีพทหารในอดีตและยังเป็นที่จดจำถึงทุกวันนี้ เช่น พลเอกหาญ ลีนานนท์ (สมรภูมิภาคใต้) พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก (สมรภูมิชายแดนลาว) เป็นต้น หากลองคิดทบทวนถึงผู้บัญชาการทหารยุคหลัง จักนึกถึงผลงานของพวกท่านที่น่าจดจำไม่ได้เลย แม้แต่ผู้นำบ้านเมืองยุคนี้ทั้งนายกรัฐมนตรีหรือประธานคมช.ซึ่งมาจากผู้บัญชาการทหารเช่นกัน สิ่งที่เรารู้จักพวกเขามิใช่จากวิชาชีพทหาร แต่เป็นการใช้กำลังพลและอาวุธทำลายกฎหมายสูงสุดของชาติแล้วขึ้นสู่อำนาจบริหารประเทศที่เรียกกันติดปากว่า ปฏิวัติ ซึ่งพวกทหารนิยมกระทำกันมาแต่อดีตดังเช่นที่คนยังจดจำเสมอ คือ จอมพลป. พิบูลย์สงคราม จอมพลสฤษฎ์ ธนะรัตน์ จอมพลถนอม จอมพลประพาส ยุคปัจจุบันเรามิได้จดจำนายทหารจากวิชาชีพของเขา แต่มาจากพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมายของชาติและใช้อาวุธบีบคั้นประชาชนให้ยอมรับการกระทำของพวกเขา มันจึงสร้างความคลางแคลงใจว่ายุคนี้ทหารวิชาชีพแท้จริงยังมีอยู่ในสังคมไทยหรือไม่ ทำไมทหารกลุ่มหนึ่งจึงกระสันอยากเป็นนักการเมืองแต่ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้อง กลับเลือกใช้กำลังข่มขู่บังคับเพื่อให้ตนได้อำนาจสูงสุดในประเทศด้วยสารพัดข้ออ้างที่จริงบ้าง เท็จบ้าง อันเป็นการฉวยโอกาสเมื่อเกิดความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นแล้วสร้างภาพวีรบุรุษแก่พวกตน
ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2540 ซึ่งประเทศไทยเกิดวิกฤตการณ์ด้านเศรษฐกิจอย่างหนัก เงินคงคลังน้อยมากส่งผลต่อเสถียรภาพของประเทศ สถิติคนตกงานสูงลิ่ว ความหวาดกลัวฤทธิ์เดชของทหารที่ปฏิวัติเมื่ออดีตยังคงอยู่ในหัวใจของคนไทย แต่เวลานั้นผู้นำทางทหารหลายท่านล้วนเป็นทหารมืออาชีพที่ไม่เข้าไปก้าวก่ายการบริหารบ้านเมืองหรือใช้เป็นข้ออ้างเพื่อปฏิวัติยึดอำนาจมาเป็นของตนเหมือนรุ่นพี่ แต่กลับอยู่ในกรมกองและให้ความร่วมมือแก่รัฐบาลด้านการลดค่าใช้จ่ายเพื่อประคองบ้านเมืองไว้เยี่ยงเดียวกับหน่วยราชการอื่น จนกระทั่งชาติผ่านพ้นสถานการณ์ล่อแหลมที่อาจเป็นประเทศล้มละลายให้ต้องอับอายทั้งสากลโลก คนไทยในเวลานั้นต่างยกย่องและสบายใจที่ทหารไม่ฉวยโอกาสซ้ำเติมประเทศและประชาชนเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีตด้วยการยอมรับวิชาชีพอันทรงเกียรติของตนและไม่ก้าวก่ายสู่งานของนักการเมือง รู้บทบาทที่ถูกต้อง ผู้นำทางทหารสูงสุดหลายท่านยังครองความนับถือในหัวใจของคนไทยจนบัดนี้
การปฏิวัติด้วยกองทัพทหารในบัญชาการของผู้นำทางทหารเมื่อเดือนกันยายน ปี 2549 ด้วยข้ออ้างสารพัดที่มีประชาชนติดพ่วงไปด้วย เริ่มต้นเป็นความหวังเจิดจ้า แต่เวลาที่ผ่านมาจักเห็นวิธีทำงานของผู้นำที่มาจากทหารและวิสัยทัศน์ด้านการบริหารประเทศที่มักมีวาระซ่อนเร้นเพื่อสอดแทรกอำนาจทหารไปยังหน่วยงานรัฐที่ไม่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพทหารเลยโดยเสนอแนะหรือออกนโยบายที่เอื้อต่อการขยับขยายกำลังพลระดับสูงตั้งแต่นายพลเอกลงมาซึ่งตอนนี้มีล้นกองทัพอันไม่เป็นผลดีต่อการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยตามระบบสากล ผู้นำบ้านเมืองและการปฏิวัติจึงพยายามระบายเหล่านายพลไปประจำทำงานที่มิใช่วิชาชีพทหารและรับเงินเดือนจากหน่วยงานเหล่านั้นซึ่งสูงกว่าโดยพวกเขามีสิทธิเลือกใส่ชื่อของเขาตามหน่วยงานได้มากตามใจปรารถนา
นโยบายและแนวคิดที่นำเสนอจากปากของผู้นำคมช.หรือนายทหารใกล้ชิดเกี่ยวกับอนาคตของนายทหารระดับสูงของกองทัพมีออกมาเป็นระยะ ตัวอย่างเช่น การเสนอตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดฝ่ายความมั่นคงในจังหวัดทั้งหมดของไทยโดยเจาะจงให้เป็นนายทหารเท่านั้น ทั้งที่หลายจังหวัดมีความมั่นคงทางสังคมสูง แต่แต่งตั้งไว้เพื่อประดับและช่วยแบกรับภาระแทนกองทัพทั้งที่รู้ดีว่างานความมั่นคงนั้นมีหน่วยงานเฉพาะกิจ เช่น กอรมน. ศอบต. เป็นต้น รับผิดชอบอยู่แล้ว มันจึงเป็นความซ้ำซ้อนแบบตั้งใจเพราะปัญหาของกองทัพเองโดยไม่คำนึงว่าบุคลากรด้านบริหารบ้านเมืองกับการป้องกันประเทศแบบทหารมีความแตกต่างอย่างมาก มันเป็นการยัดเยียดบุคลากรที่ไม่ใช่นักบริหารรัฐกิจและใช้คนไม่เหมาะสมกับงานอันถือเป็นการสูญเปล่าของบ้านเมืองที่ลงทุนฝึกฝนและสั่งสอนให้ทหารแต่ละคนมีความเก่งกล้าสามารถในวิชาชีพทหารซึ่งใช้เวลาหลายปีกว่าจะชำนาญเฉพาะทาง แต่กลับนำทหารไปนั่งโต๊ะใช้ปากกาเซ็นเอกสาร แทนที่จะใช้ทักษะด้านอาวุธกำจัดศัตรูเพื่อความร่มเย็นของบ้านเมือง หรือส่งทหารไปเป็นพระเอกหนัง แทนที่จะนำทัพออกปราบโจรภาคใต้ที่เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์หรือข้าราชการไปหลายร้อยคนในหนึ่งปี คนไทยจำนวนมากได้ยินแนวคิดของเหล่าผู้นำทหารหรือบ้านเมืองก็เริ่มมั่นใจว่าความหวังที่เคยฝากไว้นั้นริบหรี่ลง กลุ่มผู้นำคิดได้แคบเพียงนี้ อนาคตของทหารไทยที่ถูกต้องและสง่างามคงหวังได้ยากยิ่ง
การตั้งกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจใหม่หลังการปฏิวัติทันทีโดยอ้างสารพัดเหตุ มิใช่มาจากการหมดวาระหรือไร้ความสามารถตามหลักสากล จากนั้นคณะปฏิวัติหรือคณะคมช.ตั้งนายทหารสารพัดยศเข้านั่งในบอร์ดเหล่านั้นคนละหลายบอร์ดราวกับคนเหล่านั้นเก่งกาจสามารถสารพัดประโยชน์ คือ เป็นนายทหารและนักบริหารที่หาญเก่งที่สุดในเมืองไทยและแบ่งแยกร่างกับการทำงานได้มากกว่าคนไทยทั่วไป นายทหารปรากฏนามในทุกหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หนึ่งชื่อในหลายหน่วยงานมีให้เห็นชินตา ตามระเบียบราชการแล้วนายทหารเหล่านั้นมีสิทธิเลือกรับเงินเดือนทหารหรือกรรมการบอร์ดได้โดยเฉพาะเงินบอร์ดนั้นจะไม่จำกัดจำนวนหน่วยงานด้วย ดังนั้น นายทหารจึงพอใจเลือกเงินเดือนบอร์ดเป็นหลักเพราะไม่มีระเบียบจำกัดการรับเงิน บางครั้งยังมีเงินนอกระบบเข้ามาด้วย พอเข้าสู่บอร์ดแล้วจะมีการสั่งจ่ายงบชื่อพิลึกหรืองบดูงานที่ควรให้ผู้เชี่ยวชาญไปหาความรู้ประกอบคำชี้แนะแก่บอร์ด แต่กลับเสนอตัวเองพร้อมครอบครัวครบทุกคนด้วยข้ออ้างว่าไปดูงาน เฉกเช่นเดียวกับการย้ายตำแหน่งของราชการที่ใช้ข้ออ้างเดียวกันตั้งแต่โบราณว่า ย้ายเพื่อความเหมาะสม
การเรียกคืนผลประโยชน์ที่ทหารเคยได้รับจากค่าเช่าสนามบินดอนเมืองแล้วต้องถูกเลิกไปเพราะสนามบินใหม่ถือกำเนิดขึ้นหลังสี่สิบปีผ่านไปแล้ว จักเห็นกระบวนการทำลายความน่าเชื่อถือของสนามบินใหม่ซึ่งถือว่าเป็นสนามบินใหญ่ที่สุดในโลกขณะนี้จากนายทหารของคมช.ที่เดินหน้ากันออกสื่อมวลชนทุกวันสลับกันทีละคนเพื่อทำลายบอร์ดของสนามบินใหม่ กดดันบอร์ดหรือทีมงานให้ออกเพื่อตั้งคนของตนเข้าทำงาน ทั้งที่สนามบินเปิดได้ไม่ถึงสามเดือนเท่านั้น จากนั้นจะเสนอให้ย้ายสนามบินกลับไปใช้ดอนเมืองอีกครั้งด้วยข้ออ้างว่ามีความเสียหายมากในสนามบินใหม่ ส่วนข่าวปริมาณความเสียหายแท้จริงที่คิดเป็นเปอร์เซนต์เพียงไม่ถึงห้าเปอร์เซนต์และแก้ไขได้ด้วยเวลาไม่นานนัก กลับถูกสำทับมิให้นำเสนอข่าวมุมนี้หรือแม้แต่การสอบถามจากฝ่ายผู้ก่อสร้างที่อยู่ในระยะประกันเลย ช่วงที่อยู่ในระหว่างการตัดสินใจของรัฐบาลตามระเบียบนั้น นายทหารหลายคนที่เป็นใหญ่ในคมช.เดินหน้าพูดย้ำความเสียหายใหญ่และเล็กทั้งที่กำลังตรวจสอบหรือซ่อมแซมแล้วต่อเนื่อง แม้แต่ท่อน้ำส้วมแตกยังนำทีมข่าวไปชมอีกด้วย เมื่อรัฐบาลมีมติให้ย้ายสนามบินบางส่วนกลับดอนเมือง นายทหารเหล่านั้นก็เงียบเสียงลงเพราะได้ทุกสิ่งสมปรารถนาเนื่องจากรัฐบาลต้องสั่งจ่ายเงินงบประมาณไปซ่อมแซมดอนเมืองใหม่เพราะความเก่าคร่ำ แทนที่จะบริหารสนามบินใหม่ตามงบที่มีอยู่แล้วด้วยการแก้ไขปัญหาทุกอย่างเยี่ยงเดียวกับหลายประเทศกระทำกัน กลับใช้ความคิดตื้นเขินเหมือนเด็กเล่นขายของด้วยการสั่งย้ายสนามบินง่ายๆ ไม่คำนึงถึงชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือของประเทศหรือผู้บริหารบ้านเมืองว่าต่างชาติจะมองว่าด้อยประสบการณ์เพียงใดต่อปัญหาง่ายๆเช่นนี้ นอกจากได้ค่าเช่าจำนวนสูงกลับมาแล้ว ผลประโยชน์ที่เคยหายไปจากการย้ายดอนเมืองก็กลับคืนมาอีก เช่น มาเฟียดอนเมือง คิวรถแท็กซี่ ค่าหัวคิวร้านค้า และสารพัดรายได้ แล้วยังเพิ่มด้วยสนามบินใหม่ซึ่งยัดเยียดทหารเข้าบริหารเฉกเช่นเดียวกับที่ดอนเมือง จึงถือเป็นโชคสองชั้นที่ตั้งใจให้เกิดแก่พวกพ้องของตนอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากการยึดอำนาจอันขัดต่อกฎหมายสูงสุดของประเทศในเวลานั้นแล้ว ผู้นำคนใหม่กับคณะคมช.มุ่งเน้นการยึดคืนทุกสิ่งที่เป็นของผู้นำคนก่อนหรือผู้เกี่ยวข้อง แม้แต่การเปลี่ยนชื่อสถานที่ ชื่อโครงการ ยกเลิกงานที่ทำค้างไว้โดยไม่คำนึงว่าผู้ใดจะเสียหายหรือเป็นโทษต่อสังคมเพียงใด แต่ไม่มีการริเริ่มสร้างสรรค์งานใหม่ โดยเน้นให้ประชาชนใช้ชีวิตพอเพียงและพอใจต่อสิ่งที่รัฐบาลทำในวันนี้เท่านั้น อย่าคิดหวังสิ่งใดอีก แต่ละวันนายทหารผลัดเปลี่ยนกันอยู่หน้าจอแจ้งว่าจะยึดสัมปทานของผู้เกี่ยวข้องกับรัฐบาลเดิมหรือที่มีหุ้นของบริษัทต่างชาติหรือคนต่างชาติจนสร้างความหวาดกลัวแก่นักลงทุนทั้งเก่าและใหม่ว่าต้องการขับไล่พวกเขาออกจากตลาดการลงทุนไทย กล่าวประณามผู้นำรัฐบาลเก่าทั้งจริงหรือเท็จแล้วแต่กรณี ปล่อยทิ้งปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ให้ลุกลามไม่หยุดหย่อน คนบริสุทธิ์ตายเพิ่มขึ้นทุกวัน รวมทั้งนายทหาร นายตำรวจ ซึ่งทำงานด้วยความเหนื่อยยาก แต่คณะคมช.และรัฐบาลกลับมุ่งความสนใจไปที่การยึดทรัพย์หรือสัมปทานรัฐ ทำให้อดคิดถึงอดีตของผู้นำท่านหนึ่งซึ่งพอขึ้นครองอำนาจได้ก็สั่งยึดโรงกลั่นน้ำมันซึ่งเอกชนได้รับสัมปทานด้วยสารพัดเหตุผลที่คิดได้แต่แฝงความไม่พอใจส่วนตนไว้ ทำให้คนงานต้องถูกลดเงินเดือน โบนัส เพราะกลายสภาพเป็นกิจการของรัฐที่บริหารอย่างขาดทุน จนถึงวันนี้ก็ไม่สามารถปรับปรุงตัวเองให้ทันสมัยเทียบเท่ากับโรงกลั่นหลายชาติเพราะขาดเงินทุน ทั้งนี้เกิดจากแนวคิดง่ายของนายทหารที่ไม่ชำนาญการบริหาร แต่เก่งฉกาจในด้านการรบซึ่งทหารไทยไม่เคยน้อยหน้าชาติใดในโลกอย่างแน่นอน มันแสดงว่าระบบความคิดเรื่องการยึดทรัพย์ของบุคคลที่ตนไม่ชอบหรือถือเป็นศัตรู การยึดสัมปทานรัฐ การยึดวิทยุโทรทัศน์ เกิดขึ้นมานานหลายสิบปีแล้ว ทหารยุคนี้ก็ยังนำมาใช้อย่างแข็งขัน ไม่เปลี่ยนแปลงตามโลกสากล
สถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้นั้นคณะคมช.อ้างเสมอว่าเป็นความรับผิดชอบของทหารตามกฎอัยการศึก แต่ความตายในจังหวัดเหล่านั้นไม่เคยลดลงเลย แค่ปิดข่าวไว้เท่านั้น ข้าราชการพลเรือนและทหารสูญเสียไปมากมาย หลายครั้งจับผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาตามหมายจับได้ พอชาวบ้านรวมตัวกันประท้วงช่วยเหลือพวกนั้น คำสั่งจากหน่วยเหนือก็ให้ปล่อยตัวทันที จึงสร้างความได้ใจและทำซ้ำซากจนกลายเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นไปแล้วว่าคนไทยมุสลิมทำผิดโดยไม่ถูกจับ คนไทยพุทธอย่าทำผิด มีสิทธิ์ติดคุกหรือประหารชีวิตได้ ตอนนี้สร้างความเหลื่อมล้ำระหว่างคนในพื้นที่ไปแล้วด้วยการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ความยุติธรรมหรือกฎหมายใช้ในพื้นที่นั้นไม่ได้เลย เมื่อทหารเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในพื้นที่ แต่คมช.กลับให้ความสนใจการยึดสัมปทานดาวเทียม สถานีโทรทัศน์ ทรัพย์สินของผู้นำคนเก่า ทุกครั้งที่พูดคุยกับนักข่าวจะย้ำเรื่องยึดคืนสมบัติของชาติที่คาดว่าอยู่ในมือต่างชาติ แทนที่จะแจ้งความคืบหน้าในการสงบไฟใต้ว่าจะใช้วิธีใด นอกจากสมานฉันท์ที่ใช้กับคนบางกลุ่มได้ แต่พวกหัวแข็งต้องใช้วิธีรุนแรงและรุกไล่หนักให้พ้นแผ่นดิน มันทำให้คนไทยมองเห็นวิสัยทัศน์ที่คมช.ชอบทำงานง่ายๆ คือ การยึดทรัพย์เป็นเรื่องง่ายกว่าทำลายกลุ่มโจร โดยเฉพาะแนวคิดตั้งกองกำลังมุสลิมขึ้นในพื้นที่ด้วยข้ออ้างว่าเพื่อทำงานสบายใจระหว่างทหารกับคนในพื้นที่ในเวลาเสี่ยงและไม่สามารถแยกแยะคนดีคนชั่วได้ อันน่าจะเป็นการส่งเสริมให้แนวคิดแยกแผ่นดินเป็นของตนเองเร็วและง่ายขึ้นโดยการสนับสนุนของนายทหารชั้นสูงและอาวุธของคนไทยเอง นอกจากนั้นยังกล่าวโทษความรุนแรงต่างๆที่เพิ่มขึ้นหลังการปฏิวัติแก่ผู้นำรัฐบาลเก่าว่าหนุนอยู่เบื้องหลังซึ่งดูไร้น้ำหนักหรือเมื่อฝ่ายโจรพอใจที่กลุ่มคมช.ซึ่งเรืองอำนาจในเวลานี้เป็นคนไทยมุสลิมซึ่งถือเป็นพี่น้องของพวกเขาด้วยว่าน่าจะช่วยเหลือพวกเขาให้สมปรารถนาเร็วขึ้น อันที่จริงแล้วภาคใต้ต้องการนายทหารที่เก่งกาจด้านการทหารอย่างแท้จริง มีความซื่อสัตย์ มิใช่นายทหารที่อยากเป็นนักบริหารบ้านเมือง หากมีนายทหารที่เป็นมืออาชีพอย่างแท้จริงดังเช่นแม่ทัพภาคใต้หลายคนในอดีตซึ่งเลื่องชื่อให้โจรเกรงกลัว เชื่อได้ว่าภาคใต้ต้องสงบเร็ววันแน่ โชคไม่ดีที่ผู้นำทางทหารสนใจเรื่องอื่นมากกว่าวิชาชีพของตน ภาคใต้จึงต้องพบความมืดหม่นอีกนาน
เวลาพิสูจน์ความสามารถของคนด้วยการเปิดโอกาสให้แสดงออกต่อคนอื่น บางคนใช้เวลานั้นแสดงความสามารถแท้จริงให้โลกประจักษ์และยอมรับ บางคนแค่ใช้มันเพื่อเปลี่ยนแปลงฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัวใหม่ด้วยข้ออ้างว่าทำเพื่อชาติ ทั้งที่เห็นความเสียหายเกิดแก่ชาติเต็มตา แต่ยังเน้นว่าเขาเป็นวีรบุรุษทำเพื่อชาติ ทั้งที่วีรบุรุษต้องเคารพกฎหมายและคนอื่นยกย่องตนเอง มิใช่ประกาศให้คำนี้เป็นสมบัติของเขา ทหารต้องใช้เวลาหลายปีในการบ่มเพาะความรู้ ความเชี่ยวชาญพิเศษ รวมทั้งสร้างความภักดีสูงสุดในการเสียสละเพื่อชาติ แต่นายทหารหลายคนปล่อยให้สัญชาตญาณมนุษย์ยามที่มีอาวุธในมือจะรู้สึกว่ามีอำนาจและต้องได้ทุกสิ่งด้วยการบังคับ เท่ากับปล่อยอารมณ์ครอบงำโดยสมบูรณ์ อันแตกต่างจากนายทหารอาชีพที่ถืออาวุธเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ มิใช่บังคับให้ได้สิ่งที่ต้องการจากทุกคนไม่เลือกหน้า หากทหารต้องการเป็นนักบริหารบ้านเมืองด้วย ก็ควรปรับปรุงหลักสูตรที่เรียนกันอยู่ให้หลากหลายขึ้น ต่อไปคนไทยจะได้เห็นนายทหารมือบริหารบ้านเมืองกับนายทหารมืออาชีพ การก่อกบฎด้วยการขนอาวุธนับแสนชิ้นหรือพลทหารนับหมื่นคนออกมายืนโชว์กลางถนนคงน้อยลงหรือหายสูญไป เพราะทหารมีทางเลือกสนองความปรารถนาพื้นฐานเยี่ยงมนุษย์ปุถุชนได้แล้ว แทนที่จะถูกบังคับให้เสียสละชีวิตเพื่อชาติในสนามรบอย่างเดียว คนที่อยากเป็นทหาร แต่ไม่ต้องการอยู่ในสนามรบและชอบเครื่องแบบทหาร ก็มีทางเลือกเพิ่มขึ้น นายทหารที่เป็นหัวหน้ากบฎซึ่งถูกเขียนรำลึกในประวัติศาสตร์ไทยในทางเสื่อมเสียศักดิ์ศรีความเป็นทหารจะหายไป สำหรับเวลานี้เรายังไม่มีการแยกแยะทหารอาชีพกับทหารในนามอย่างชัดเจน ทหารทั้งหลายควรยอมรับบทบาทแท้จริงและเป็นที่เคารพของประชาชนเป็นที่ตั้งก่อน คือ เป็นรั้วของชาติในการป้องกันหรือกำจัดอริราชศัตรูของชาติด้วยทักษะชั้นเลิศและอาวุธเป็นหลัก มิใช่นำอาวุธออกมาลิดรอนสิทธิพื้นฐานของชาวบ้าน สนองความต้องการอำนาจของตนเอง ก้าวก่ายเข้าสู่อำนาจทางการเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือตรากฎหมายเพื่อให้ทหารมีอำนาจครอบงำทุกส่วนของราชการหรือชีวิตคนไทย ทหารต้องอยู่ในบังคับบัญชาของรัฐบาลซึ่งถือเป็นตัวแทนของประชาชน มิใช่หน่วยงานอิสระ มิได้อยู่ในฐานะเจ้านายของประชาชน หน้าที่ความรับผิดชอบแท้จริงของทหารเป็นที่รู้กันดีในหมู่ประชาชนและเคารพนับถือทหารโดยรวมอยู่แล้ว หากทำผิดหน้าที่และแสดงวิสัยทัศน์ที่คับแคบจักทำลายความรู้สึกเหล่านั้นลง ต้องไม่ลืมว่าทหารหรือมนุษย์ทั่วไปล้วนไม่เก่งกาจทุกศาสตร์ของโลก แต่จงทำงานกับสิ่งที่ตนชำนาญ จักสร้างประโยชน์สุขแก่ปวงประชาได้ อย่าถามว่าประชาชนต้องการสิ่งใดจากทหาร แต่ทหารต้องกระทำหน้าที่ของตนอย่างเข้มแข็งและถูกต้องก่อน อาวุธมีขีดจำกัด ทหารถูกจำกัดจำนวนได้ แต่ประชาชนมีเต็มประเทศ ถ้าพวกเขาไม่พอใจหน้าที่ผิดปกติของทหาร คงมองเห็นผู้แพ้ได้ไม่ยาก

***************************


Create Date : 13 มีนาคม 2550
Last Update : 13 มีนาคม 2550 14:08:53 น. 0 comments
Counter : 470 Pageviews.

arbel
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add arbel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.