ความรู้คือ วัคซีนของชีวิต เพลินอ่านนิยายดี
Group Blog
 
All Blogs
 
รักชาติสารพัดแบบ

เขียนโดย แก้วมณี

ภาวะเศรษฐกิจล้มเหลวและหนี้สินล้นพ้นตัวของประเทศไทยในปีพ.ศ. 2540 อันเกิดจากการบริหารการเงินที่ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลในอดีต ทำให้คนไทยต้องประสบความลำบากยากแค้นและอับอายยิ่งกับการที่ประเทศเจ้าหนี้ทั้งหลายบีบบังคับการใช้ชีวิตและการทำงานในประเทศไทยให้เป็นไปตามคำสั่งของเขา รวมทั้งข้อมูลภายในของประเทศหลายอย่างตกอยู่ในมือของต่างชาติ ศักดิ์ศรีของคนไทยสั่นคลอนอย่างมาก อัตราการว่างงานสูงขึ้น ธุรกิจเอกชนชะลอการเติบโตและปิดตัวมาก เมื่อมีการเลือกตั้งใหญ่เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ในปีพ.ศ. 2544 ซึ่งนายกรัฐมนตรีในยุคนั้น คือ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นำเสนอนโยบายปลดหนี้สินและพันธกรณีกับต่างชาติโดยเร็วที่สุดด้วยการจัดลำดับการใช้เงินรายได้ของประเทศเพื่อชำระหนี้สินต่างชาติก่อนอันส่งผลต่อการดำเนินงานภายในประเทศอย่างเป็นอิสระจากกองทุนไอ เอ็ม เอฟและเจ้าหนี้อื่นๆ เรียกคืนศักดิ์ศรีของประเทศกลับคืนมาได้ด้วยความร่วมมือของคนไทยและทีมงานเศรษฐกิจของรัฐบาล การวางแผนการค้าระหว่างประเทศอย่างเป็นระบบเยี่ยงเดียวกับประเทศที่เจริญแล้วทั้งการเกษตรและอุตสาหกรรม ทำให้เพิ่มรายได้ของประเทศอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเงินคงคลังที่เกือบว่างเปล่าเมื่อปีพ.ศ. 2540 มียอดตัวเลขสะสมสูงมาก งบประมาณประจำปีของประเทศอยู่ในภาวะเกินดุล รัฐบาลสามารถนำเงินรายได้ของประเทศไปจัดงานเฉลิมฉลองต่างๆอย่างอลังการละลานตาจนเป็นที่เชิดหน้าชูตาของคนไทยและคนต่างชาติชื่นชมอย่างมาก
การขยายตัวทางเศรษฐกิจของชาติตั้งแต่ปีพ.ศ. 2544 เกิดจากการกระตุ้นด้วยภาครัฐแล้วยังมีการขยายตลาดการค้าหลากหลายขึ้นเพื่อส่งผลผลิตการเกษตรและอุตสาหกรรมของไทยไปทั่วโลก ระบบการเงินและการพัฒนาความสามารถของธนาคารชาติให้เข้มแข็งและทันสมัยตามหลักสากลล้วนเพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาทำลายการเงินของชาติดังที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ภาวะการว่างงานลดลงเป็นสัดส่วนที่ดีกับกิจการที่เปิดใหม่หรือขยายตัว คนไทยส่วนใหญ่มีรายได้ดี ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นโดยเฉพาะรัฐบาลในสมัยนั้นเน้นมาตรฐานชีวิตด้านปัจจัยสี่ คือ อาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ด้วยการบริการให้คนไทยต้องมีของทั้งสี่ชนิดให้ครบมากที่สุด การสร้างปัจจัยสี่ให้ประชาชนทั้งประเทศได้รับอย่างพอเพียงนั้นต้องใช้งบประมาณมหาศาล แหล่งรายได้ต้องมีเพิ่มขึ้น จึงมีการวางแผนงานเพื่อพัฒนาโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศแบบระยะยาว ปรับเปลี่ยนระบบราชการให้รวดเร็วและทันสมัยเพื่อต้อนรับการลงทุนขนาดใหญ่ที่ใช้สร้างงานแก่คนไทยที่มีฝีมือและความรู้ทัดเทียมกัน เพิ่มโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้มีมากเพียงพอ ปรับศักยภาพของแต่ละภาคเพื่อรองรับการเพิ่มผลผลิตด้านเกษตรและอุตสาหกรรม ทั้งหมดนี้ต้องเกิดขึ้นเพื่อหาเงินรายได้เข้าประเทศแล้วแบ่งไปอยู่ในมือของประชาชนในรูปของสวัสดิการที่เกี่ยวโยงกับปัจจัยสี่ของมนุษย์ที่พึงมีในชีวิต การปรับเปลี่ยนแนวคิดของคนไทยเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในโลกสากลย่อมส่งผลกระทบต่อคนอีกกลุ่มให้เสียประโยชน์อันพึงมีพึงได้ต่อเนื่องมานาน จึงเกิดการต่อต้านและขัดแย้งกันจนกลายเป็นความแค้นพยาบาทที่ต้องล้มล้างกันให้ได้เพื่อรักษาฐานอำนาจหรือผลประโยชน์ของตนไว้ สิ่งที่คนไทยไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในภาวะเศรษฐกิจที่ดีจึงมีให้เห็นอย่างน่าอนาถใจ คือ ทหารปฏิวัติล้มล้างรัฐธรรมนูญ ประชาธิปไตย และรัฐบาลของคนไทย ลิดรอนสิทธิเสรีภาพด้วยคำอ้างว่า “รักชาติ ปราบคอรัปชั่น” ภาวะเศรษฐกิจสั่นคลอนเกิดขึ้นอีกครั้งเนื่องเพราะชาติตะวันตกต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหารทุกรูปแบบที่มิได้เกิดจากระบอบประชาธิปไตยหรือรัฐธรรมนูญมอบอำนาจไว้ การเจรจาค้าขายหยุดชะงัก ใบสั่งสินค้าจากลูกค้าชาติตะวันตกงดและหันไปเลือกซื้อจากประเทศที่การเมืองมั่นคงอย่างจีนและเวียดนามเพราะไม่ต้องการเสี่ยงกับความไม่แน่นอนของรัฐบาลภายใต้การปฏิวัติหรือกฎอัยการศึกซึ่งอำนาจแท้จริงอยู่ในมือของคนเดียวและทำตามอำเภอใจได้ คนไทยจึงต้องพบความลำบากอีกครั้งจากคำอ้าง “รักชาติ ปราบคอรัปชั่น”
หลังจากอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการและกฎอัยการศึกมาหลายเดือน ถ้าคนไทยคิดทบทวนประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการปฏิวัติรัฐประหารในประเทศนี้จักเห็นสิ่งหนึ่งเหมือนกัน คือ คำอ้างประกอบการปฏิวัติทุกครั้ง คือ ต้องการปราบคอรัปชั่น รักชาติ รัฐบาลเดิมเป็นพวกเลวทรามต่ำช้า คณะปฏิวัติคือผู้กล้าหาญและเป็นคนดีหนึ่งเดียวในโลก แต่กาลเวลาบอกแก่คนไทยว่า มันเป็นเพียงเปลี่ยนคนคอรัปชั่นเท่านั้น คนไทยได้รับแค่ความลำบากยากแค้นในการใช้ชีวิตท่ามกลางความหวาดกลัวกฎอัยการศึก การข่มเหงของผู้มีอาวุธ ทีมบริหารประเทศที่ไร้ความสามารถ เศรษฐกิจฝืดเคือง ประเทศไม่เป็นที่ยอมรับในเวทีโลกเพราะผู้บริหารมาจากกระบอกปืนและเป็นเผด็จการอันส่งผลต่อศักดิ์ศรีของประเทศให้ตกต่ำ แม้ต่อมาจะเปลี่ยนรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้ง ผู้มาใหม่ก็ต้องลำบากในการกู้ภาพพจน์ที่ถูกทำลายลงย่อยยับ คนไทยต้องไม่ลืมว่าการปฏิวัติทุกครั้งผู้กระทำมิใช่คนโง่ ไร้ความรู้ แต่รู้แน่แก่ใจว่าจะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้านและศักดิ์ศรีของประเทศตกต่ำเพราะขาดการยอมรับจากผู้คนในโลกการติดต่อค้าขายหยุดชะงัก รายได้ของประเทศตกต่ำ เงินงบประมาณที่จะใช้สอยบำรุงความสุขของประชาชนถดถอยหรือขาดหายไปอย่างมาก พวกเขาก็จะทำเพื่อแลกกับอำนาจสูงสุดที่ไม่ต้องเสียเวลาหรือเสี่ยงในการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย โดยคิดว่ากอบโกยให้มากที่สุดในวันนี้ จากนั้นก็เป็นภาระของผู้นำคนต่อไป มันคือความรักชาติในแบบฉบับของคณะปฏิวัติ
ทุกครั้งที่มีการปฏิวัติตามประวัติศาสตร์แล้วจะต้องมีการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนหรือกลุ่มคนที่ถูกล้มล้างไปเสมอ มันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว แม้แต่รัฐบาลชั่วคราวเคยประกาศว่าเลิกกฎอัยการศึกแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องทำตามคำสั่งของผู้แต่งตั้งตนด้วยการถ่วงเวลาและการไม่เอ่ยถึงมันกฎอัยการศึกก็ยังคงใช้ต่อเนื่อง โดยไม่สนใจว่าส่งผลต่อการความหวั่นกลัวของนักลงทุนต่างชาติที่เข้าใจลึกซึ้งต่อความรุนแรงและร้ายกาจของกฎอัยการศึก อันแตกต่างจากคนไทยที่เคยชินกับกฎอัยการศึกเพราะพบเจอเรื่องนี้มาตลอดชีวิตเป็นระยะอย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลงได้ ตามหลักสิทธิเสรีภาพของคนไทยนั้นไม่ว่าจะเป็นคนระดับใดในสังคมย่อมได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกัน แต่รัฐบาลปัจจุบันและคมช.พยายามปิดบังสายตาของคนไทยมิให้รับรู้ข่าวสารทุกด้านที่อาจส่งผลต่อความเชื่อเกี่ยวกับการปฏิวัติที่พยายามสร้างภาพว่าเป็นการกระทำที่มีคุณค่า น่ายกย่อง ต่างชาติยอมรับการกระทำที่งดงามนี้ และใส่ภาพความชั่วร้ายสารพัดให้แก่รัฐบาลเดิม ทั้งที่ปัจจุบันนี้คนไทยมีความรู้สูงขึ้นกว่าในอดีต แต่ไม่อาจเห็นข่าวสารรอบด้านเพราะคมช.ต้องการควบคุมความเชื่อของคนไทยไว้เหมือนที่คณะปฏิวัติในอดีตชอบกระทำกันทั้งที่โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก การติดต่อสื่อสารสั้นและรวดเร็ว หากพวกเขายอมรับการหมุนของโลกตามความเป็นจริงและเชื่อว่าการกระทำของตนเป็นเรื่องถูกต้องและรักชาติอย่างแท้จริง ก็ควรใช้โลกสื่อสารให้เป็นประโยชน์แก่ตนด้วยการให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริงตอบโต้อีกฝ่ายเป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่ง ไม่ควรปิดกั้นหรือลิดรอนสิทธิเสรีภาพของคนไทย แม้จะเป็นอดีตผู้นำของไทยก็ตาม เราต้องต่อสู้กันด้วยข้อเท็จจริงอย่างลูกผู้ชายและมีความเป็นธรรม มิใช่ปิดข้อมูล ปิดตาชาวบ้าน แต่สุดท้ายชาวบ้านก็ขวนขวายรับฟังข้อมูลทั้งสองด้านด้วยตัวเอง ภาพพจน์ที่พยายามสร้างมาหลายเดือนกลายเป็นความคลางแคลงใจของประชาชนไปว่าสักวันอาจต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับอดีตผู้นำของไทยก็ได้ นั่นคือ คนไทยจะถูกลิดรอนเสรีภาพในการพูด ฟัง หรือมอง ข่าวสารหรือความเห็นแตกต่างไม่ได้ นอกจากเป็นความเห็นหรือภาพที่นำเสนอจากคณะผู้นำประเทศที่มาจากการปฏิวัติเท่านั้น แล้วจะแตกต่างจากการมีชีวิตในระบอบคอมมิวนิสต์ที่เคยหวาดกลัวในอดีตอย่างไร วิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยถดถอยลงจนทุกคนต้องอยู่อย่างหวาดระแวงกัน ไม่กล้าพูด ไม่กล้ามอง ไม่กล้าฟัง และพูดชมคณะผู้นำประเทศเพื่อเอาตัวรอดไปวันๆ มันคงเป็นชีวิตที่น่าอนาถใจซึ่งเคยเกิดขึ้นกับคนไทยในอดีตหลายสิบปีมาแล้ว คนยุคนี้กำลังสัมผัสชีวิตของบรรพชนของเราอีกครั้งอย่างไม่คาดฝันเมื่อผีคณะปฏิวัติคืนชีพขึ้นมาหลอกหลอนคนไทยรุ่นใหม่เพื่อพิสูจน์ให้โลกเห็นชัดตาว่า อาวุธปืนมีอำนาจเหนือคอมพิวเตอร์หรือรถไฟฟ้าหรือเครื่องบินความเร็วสูงตลอดกาล การปฏิวัติไม่มีวันหมดไปจากเมืองไทยได้ตราบเท่าที่ยังมีทหารถือปืนที่อยากเป็นผู้นำบริหารประเทศไทยด้วย
อดีตผู้นำประเทศไทยคือข้อเท็จจริงที่ต้องยอมรับกันว่าเขามาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถูกล้มล้างรัฐบาลด้วยการปฏิวัติของกลุ่มทหารจำนวนหนึ่ง และเป็นคนไทยที่มีสิทธิเสรีภาพเยี่ยงเดียวกับคนไทยในประเทศไทยซึ่งกำลังอยู่ภายใต้กฎอัยการศึกและระบอบเผด็จการ คนไทยมีสิทธิออกความเห็นในเรื่องต่างๆต่อสาธารณชนไทยหรือต่างชาติได้อย่างใด อดีตผู้นำคนนั้นก็ใช้สิทธินั้นได้ หากเขาพูดความเท็จ รัฐบาลภายใต้ระบอบเผด็จการต้องชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกต้องผ่านช่องทางสื่อสารอย่างรวดเร็วเพื่อให้ประชาชนหรือต่างชาติตัดสินว่าจะเชื่อถือฝ่ายใด มิใช่การตัดสัญญาณสื่อสารหรือมีคำสั่งห้ามการเผยแพร่ข่าวของอีกฝ่ายเด็ดขาด มันกลับสร้างภาพความกลัวเกรงข้อเท็จจริงที่ประชาชนจะรับรู้จากมุมมองของอีกฝ่าย การเรียกร้องหรือบังคับให้คนไทยคนหนึ่งมิให้พูดต่อสาธารณชนไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือความเท็จหรือความเห็นส่วนตัวโดยอ้างว่าถ้ารักชาติ ต้องไม่พูด ถือเป็นการลิดรอนเสรีภาพของเขา มันจะสร้างความหวาดระแวงใจแก่คนไทยว่า ข่าวสารที่เห็นตามสื่อต่างๆคือความจริงมากน้อยเพียงใด หรือเป็นการตกแต่งข้อมูลจากภาครัฐเพื่อเสริมภาพพจน์และความมั่นคงของตนเท่านั้น นอกจากนั้น การที่ประเทศต่างๆยังให้เกียรติต่ออดีตผู้นำประเทศของไทยไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ถือเป็นเรื่องที่ดีและให้เกียรติต่อประเทศไทยด้วย แต่คณะบริหารประเทศกลับแสดงความไม่พอใจโดยไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีของประเทศมาก่อนความเกลียดชังหรือความระแวงใจว่าเขาจะกลับมาแย่งอำนาจของตน หากคิดอีกด้านหนึ่งถ้าเราไม่ต้อนรับประธานาธิบดีคลินตันอย่างสมเกียรติแห่งอดีตผู้นำสหรัฐ ท่านบุชและชาวอเมริกันจะไม่พอใจและตอบโต้ประเทศไทยอย่างแน่นอนเพราะเราไม่เคารพหรือให้เกียรติประเทศของเขาเลย อดีตผู้นำสหรัฐเปรียบเสมือนตัวแทนของประเทศเช่นกัน เหตุใดรัฐบาลปัจจุบันจึงไม่ให้เกียรติต่ออดีตผู้นำของไทยซึ่งถือเป็นภาพพจน์ของประเทศและคนไทยเช่นกัน แม้ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวกับคำว่าอดีตผู้นำจะเป็นการตอกย้ำที่มาของรัฐบาลปัจจุบันว่า พวกเขาก่อกำเนิดจากกระบอกปืนและอดีตผู้นำถูกล้มล้างไปเพราะกลุ่มทหารที่เคยส่งเสริมค้ำชูและปืนกระบอกนั้นหันมาทำลายล้างเขาในท้ายที่สุด แต่มันเป็นข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ การยอมรับต้นกำเนิดของตนถือเป็นความกล้าหาญอย่างหนึ่ง มิใช่พยายามลืมชาติกำเนิดของตน
ความสมานฉันท์ ความรักชาติ เป็นคำเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้คนไทยกระทำด้วยกัน แต่การแสดงออกของทีมปฏิวัติหรือรัฐบาลภายใต้เผด็จการกลับเป็นการจองล้างจองผลาญกลุ่มรัฐบาลเดิมอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ข่าวท่อน้ำส้วมแตกในสนามบินใหม่ก็โยนให้เป็นการคอรัปชั่นของรัฐบาลเก่า ทั้งที่คนไทยทั้งประเทศอมยิ้มกับข่าวใหญ่ของรัฐบาลชิ้นนี้ หลายคนล้วนทราบดีว่าการสร้างบ้านใหม่เมื่อเริ่มใช้งาน หลายอย่างอาจบกพร่องกันได้ทั้งใหญ่และเล็ก สนามบินใหญ่ทั่วโลกก็เกิดปัญหาเหล่านี้ได้ พวกเขาคิดแก้ไขปัญหากันไปจนกระทั่งขจัดมันได้ในท้ายที่สุด แต่ผู้บริหารคนไทยกลับโยนความบกพร่องทั้งหลายที่เกิดขึ้นให้รัฐบาลชุดเดิม มันจึงกลายเป็นภาพสังเวชใจที่คนไทยมองเห็นเท่านั้น การสร้างสรรค์งานใหม่ๆยังไม่มีปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรมโดยอ้างแค่ว่า ให้รักชาติ ปราบคอรัปชั่น แล้วพูดโยนความผิดทั้งหลายในประเทศไปให้ผู้บริหารประเทศชุดเดิมตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา วิธีแก้ปัญหาด้านการเงินของประเทศก็สร้างความเสียหายหลายแสนล้านบาทซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ยากจะปฏิเสธกันได้ มันบ่งบอกการไร้ประสิทธิภาพการทำงานและไม่มีผู้ใดออกมารับผิดชอบกับความเสียหายของประเทศเลยขณะที่เรียกร้องให้รัฐบาลชุดเดิมรับผิดชอบสารพัดงานในอดีตมากมาย การปิดกั้นข่าวสารสู่สายตาประชาชนแล้วคัดเลือกเสนอเฉพาะที่สร้างภาพพจน์ของรัฐบาลปัจจุบันกับคมช. การสร้างภาพพจน์ว่าทหารคือคนดีที่สุดในโลกที่เข้าไปแก้ไขคอรัปชั่นในองค์กรต่างๆของประเทศโดยไม่คำนึงถึงจุดประสงค์หรือที่มาความรู้ของทหารว่าประเทศต้องการให้ทหารทำงานใดกันแน่ ทหารคือรั้วของชาติยังมีความสำคัญสูงสุดหรือจะเป็นนักบริหารปกครองประเทศที่ยิ่งใหญ่ การนำทหารหลากยศไปสอดแทรกตามองค์กรต่างๆเพื่อรับเงินรายได้สูงๆหรือผลประโยชน์แอบแฝงด้วยการแก้ไขกฎหมายเอื้อต่อการรับรายได้หลายทางถูกมองว่าเป็นการให้ผลตอบแทนที่ร่วมทำงานปฏิวัติจนสำเร็จซึ่งเป็นการทำลายศรัทธาที่อยากให้มีในจิตใจของประชาชน เมื่อกาลเวลาผ่านไปจะกลายเป็นความระแวงใจต่อคนในองค์กรและสร้างความแตกแยกในที่สุดดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์มาแล้ว สุดท้ายทหารเหล่านั้นจะถูกกำจัดออกจากองค์กรเมื่อผู้นำหมดบารมีเนื่องเพราะสัจธรรมคือ ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า เวลาคือผู้กำจัดถาวร
การเรียกร้องให้ฝ่ายใดรักชาติ ทำเพื่อชาติ น่าจะลองก้มมองดูตัวเองก่อน ยอมรับความคงอยู่ร่วมกันของประเทศไทยกับหลายประเทศทั่วโลก หาจุดยืนที่เหมาะสม จากนั้นจึงเริ่มต้นที่การเคารพ ให้เกียรติ ผู้อื่น แม้แต่ผู้พ่ายแพ้ก็ตาม ผู้ชนะที่รู้จักให้เกียรติแก่ผู้แพ้ ถือเป็นผู้ชนะที่สง่างาม การจ้องล้างผลาญผู้แพ้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมหรือใช้อำนาจเกินงามของผู้ชนะ จักต้องพบคำประณามหยามเหยียดอย่างไร้ศักดิ์ศรีว่า มิใช่นักกีฬาที่ดี ไร้ความสง่างามหรือน่านับถือ หากคนในประเทศยังไม่นับถือ แล้วจะเรียกร้องความนับถือจากคนทั่วโลกได้อย่างไร หากเรามีต้นกำเนิดไม่งดงาม แต่ปฏิบัติตนด้วยกิจวัตรที่ดี เป็นผู้ชนะที่สง่างาม มีน้ำใจ คนอื่นย่อมนับถือเราได้โดยไม่สนใจชาติกำเนิด เมื่อต้องการความสมานฉันท์หรือความรักชาติจากผู้ใด ผู้นำต้องแสดงออกอย่างจริงใจก่อน มิใช่ร้องขอรับประโยชน์จากผู้อื่นฝ่ายเดียว การแสดงตนเป็นผู้นำที่มีจิตใจกว้างขวาง รู้จักอภัย มีเมตตา ยึดทางสมานฉันท์อย่างแท้จริง ย่อมสร้างเสริมบารมีแก่ตน หากอีกฝ่ายยังระรานต่อเนื่อง จักกลายสภาพเป็นคนน่ารังเกียจไปเอง ในทางกลับกันถ้าผู้นำเป็นคนกลับกลอก เชื่อถือคำพูดไม่ได้ กอปรกับที่มาของอำนาจไม่ดี อีกฝ่ายที่พ่ายแพ้จะถูกสังคมยกย่องและนับถือเมื่อเขาใช้สิทธิเสรีภาพในขอบเขตของคนไทย ดังนั้น การจำกัดสิทธิเสรีภาพของคนไทยไม่ว่าจะมีชาติกำเนิดใด ตำแหน่งใด ล้วนต้องกระทำอย่างระมัดระวังเพราะสร้างและทำลายภาพพจน์ของผู้ใช้อำนาจได้ คงต้องยอมรับกันว่าไม่อาจเปลี่ยนหรือลบล้างประวัติศาสตร์ด้านการทำงานของอดีตผู้นำซึ่งเคยทำประโยชน์แก่ประเทศไทยไว้มาก การโยนหรือยัดเยียดสารพัดความผิดให้ฝ่ายนั้นไม่ก่อผลดีต่อรัฐบาลปัจจุบันหรือคมช.เลย จึงน่าจะเน้นในการเปิดเผยข้อเท็จจริงและสร้างสรรค์งานใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อชาติเป็นหลัก แม้แต่การรักษาคำพูดต่อประชาชนว่า จะเลิกกฎอัยการศึก ยังทำไม่ได้ ชาวบ้านทั้งประเทศจะมีความหวังต่อการบริหารประเทศของรัฐบาลภายใต้ระบอบเผด็จการได้มากแค่ไหน คนไทยคงต้องหนาวเยือกในใจระหว่างมองการทำงานของบุคคลเหล่านั้น
เวลาให้คำตอบแก่คนไทยได้แล้วว่า การปฏิวัติคือความรักหรือการทำลายชาติ การบริหารประเทศภายใต้รัฐบาลแต่งตั้งมีเวลาพิสูจน์ฝีมือแก้ปัญหาภาคใต้ และอื่นๆมาระยะหนึ่งแล้ว คนไทยได้เห็นความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากทีมบริหารการเงินของรัฐทำลายตลาดทุนเสียหายในวันเดียวจนทั่วโลกมองอย่างขบขันกับความรู้และวิสัยทัศน์ของนักบริหารการเงินของไทย การไม่สร้างสรรค์งานใหม่เพื่อความผาสุกของชาวบ้านโดยรวม แต่เลือกติดตามล่าหาผลงานในอดีตของรัฐบาลเดิมเพื่อแก้แค้นหรือทำลายล้างโดยมุ่งหวังจะมิให้อีกฝ่ายทำงานการเมืองได้อีกครั้งอันน่าจะมาจากความแค้นส่วนตัวที่เกิดจากอัตตาของตน มันบ่งบอกวิสัยทัศน์ของคณะผู้นำประเทศท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจที่สร้างขึ้นเอง แต่คนไทยต้องรับเคราะห์กรรมใช้ชีวิตและการทำงานด้วยความลำบากมากขึ้น ต่อมาญี่ปุ่นประกาศผลการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในเอเชียและเปอร์เซนต์ของความน่าลงทุนในประเทศเหล่านั้น ประเทศไทยซึ่งเคยติดอันดับต้นว่าน่าลงทุนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพราะอุปนิสัยของคนไทยและนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล บัดนี้ กลับกลายเป็นประเทศที่ไม่น่าลงทุนมากที่สุด และคู่แข่งของเราก็มิใช่จีนหรือเวียดนามหรือมาเลเซียอีกแล้ว แต่เป็นลาวกับเขมร มันบอกเตือนให้คนไทยรู้ว่าประเทศไทยมีฐานะตกต่ำลงอย่างน่าใจหายเพราะผลของการปฏิวัติ ทำลายประชาธิปไตย ทำให้การเจริญเติบโตของชาติหยุดชะงัก เนื่องเพราะปัจจัยเดียวที่แตกต่างกันและเปลี่ยนแปลงไปในปีพ.ศ.2549 คือ การล้มล้างรัฐบาลจากการเลือกตั้ง หลายประเทศทั่วโลกคว่ำบาตรการติดต่อค้าขายและสัมพันธไมตรีปกติถูกลดระดับลง ทีมบริหารการเงินและการลงทุนในรัฐบาลปฏิวัติมีอคติต่อนักลงทุนต่างชาติอย่างชัดเจน ความไม่มั่นคงในนโยบายบริหารประเทศซึ่งมีผู้นำมากกว่าสองคนอันผิดหลักปกครองสากลและความไม่ไว้วางใจต่อคณะบริหารโดยรวม ความอ่อนแอในการดูแลปัญหาภาคใต้ซึ่งมีท่าทีดุเดือดเพิ่มขึ้น ล้วนเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการปฏิวัติและเริ่มส่งผลต่อความลำบากในการดำเนินชีวิตของประชาชนในต้นปีพ.ศ. 2550 แล้ว คนไทยต้องทำจิตใจให้สงบและตั้งมั่นในความไม่ประมาทในการประคองธุรกิจ ตำแหน่งงาน เพื่อรักษารายได้ให้ผ่านพ้นช่วงเวลาทุกข์ยากนี้ต่อไปอย่างไม่รู้เวลาสิ้นสุด ขอให้ถือเป็นหน้าที่ของคนไทยที่มีต่อครอบครัวของตน อย่างน้อยก็สร้างกำลังใจได้มาก อย่าคิดว่าจะทำเพื่อชาติ เพราะคนที่ประกาศตนว่ารักชาติยิ่งชีพ ต้องมีแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น คือ คณะบริหารประเทศจากการแต่งตั้ง มิใช่การเลือกตั้งจากประชาชนทั้งประเทศซึ่งต้องการให้ผู้บริหารทำงานเพื่อความผาสุกของคนไทยแทนที่จะเป็นความสุขสบายของคนกลุ่มเดียวกัน

*****************


Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2550 14:26:33 น. 0 comments
Counter : 480 Pageviews.

arbel
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add arbel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.