|
|
คิดก่อนตกงาน
เขียนโดย ลูกแก้ว
ราคาน้ำมันทั่วโลกสูงขึ้นส่งผลให้ทุกประเทศต้องประสบปัญหาหนักในการดูแลเศรษฐกิจของตนอย่างมาก แม้แต่ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาก็ต้องมีนโยบายพยุงตัวเอง ประเทศไทยจึงไม่อาจหลีกพ้นได้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดความปั่นป่วนในสังคมอันเนื่องจากมาจากการประท้วงของคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีความไม่พอใจส่วนตัวหรือเสียประโยชน์จากการทำงานของรัฐบาลอันส่งผลต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจโดยรวมอย่างมาก การลงทุนใหม่หรือเพิ่มเติมหยุดชะงักหรือเปลี่ยนแผนไปลงทุนในประเทศที่มีความมั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจมากกว่าไทย เช่น จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม พม่า เป็นต้น
ความสั่นคลอนของรัฐบาลที่มีมานานหลายเดือนจากผลงานของกลุ่มผู้ประท้วงและสื่อมวลชนที่ไม่พอใจรัฐบาลทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีส่วนในความรุ่งเรืองของเศรษฐกิจไทยเพียงเพื่อต้องการล้มล้างรัฐบาลโดยใช้ชีวิตของคนไทยกลุ่มใหญ่เป็นเดิมพัน บัดนี้ รัฐบาลต้องกลายเป็นเพียงผู้รักษาการและมีอำนาจจำกัดสมดังใจหมายของอีกฝ่ายแล้ว มันเริ่มส่งผลร้ายต่อคนไทยและครอบครัวซึ่งอาจเป็นหนึ่งในผู้ประท้วงหรือไม่ก็ได้ให้ต้องรับเคราะห์กรรมด้วย อันเป็นผลสืบเนื่องจากภาวะการลงทุนหยุดชะงักและเศรษฐกิจชะลอตัว กอปรกับปัญหาราคาน้ำมันซ้ำเติมอีก
หลายคนอาจมองภาพไม่ชัดว่าเหตุใดภาวะการลงทุนหยุดชะงักจักกระทบต่อชีวิตของคนไทยได้ ก่อนอื่นเราต้องยอมรับว่าประเทศไทยอยู่ร่วมกับหลายประเทศบนแผนที่โลก มิใช่อยู่โดดเดี่ยว เศรษฐกิจของโลกเคลื่อนไหวได้ด้วยการลงทุนแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างกัน ขณะที่ภายในประเทศไทยต้องมีการค้าขายแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกัน หากวัฏจักรถูกขัดจังหวะไม่ว่าระยะสั้นหรือยาวย่อมกระทบถึงธุรกิจทุกชนิดซึ่งมีความเกี่ยวพันกันไม่มากก็น้อย มันส่งผลให้แต่ละองค์กรต้องพยายามประคองตัวให้เติบโตต่อเนื่องอันเปรียบเสมือนการหยุดลมหายใจของคนไม่ได้ นั่นหมายถึงความตาย องค์กรจำต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตนอยู่รอดผ่านพ้นปัญหาที่ถาโถมด้วยสารพัดวิธี การควบคุมต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายการขนส่งหรือกำลังคนลง ทั้งหมดทำเพื่อเหตุผลเดียว คือ ความต้องการคงอยู่ต่อไปในโลกธุรกิจ
สิ่งแรกที่องค์กรมักทำเพื่อยืดอายุความอยู่รอดและเห็นผลชะงัดที่สุด นอกเหนือจากการงดลงทุนเพิ่มเติม คือ การปลดคน เนื่องจากค่าจ้างแรงงานเป็นเงินที่ต้องจ่ายทุกเดือน มันคือภาระต่อเนื่อง หากสามารถลดต้นทุนด้านนี้ได้มากเท่าใด จักทำให้องค์กรยืนหยัดได้นานแล้วนำเงินส่วนนี้ไปแก้ไขปัญหาอื่นได้ ปัจจุบันนี้เครื่องจักรหรือคอมพิวเตอร์เข้ามามีส่วนในการทำงานเพิ่มขึ้นจึงช่วยลดภาระการใช้คนลงมาก การปลดคนจึงทำต่อเนื่องมาตลอด แต่จักเร่งเร็วขึ้นเมื่อเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจซบเซา ดังเช่น ในอเมริกามีการปลดคนงานตามโรงงานใหญ่ๆมากหลังราคาน้ำมันสูง มาเลเซียประกาศปลดคนในสายการบินแห่งชาติ เป็นต้น
รัฐบาลไทยชุดนี้เป็นผู้รักษาการบริหารบ้านเมืองเพื่อรอการเลือกตั้งระยาวมากกว่าครึ่งปีและมีอำนาจจำกัดเพื่อนำไปใช้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจท่ามกลางภาวะน้ำมันราคาสูงและทุกประเทศทั่วโลกต่างระมัดระวังการลงทุนในต่างแดนและรอบคอบในการใช้เงินมากขึ้น ทำให้เมืองไทยต้องพบภาวะเศรษฐกิจผันผวนและเริ่มซบเซา องค์กรภาครัฐประสบปัญหาเรื่องเงินงบประมาณทำให้ไม่อาจพัฒนาหรือสร้างสรรค์งานใหม่ได้ ธุรกิจเอกชนซึ่งพึ่งพาการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐได้รับความเดือดร้อนไปด้วย มันจึงกลายเป็นลูกโซ่แห่งความหายนะที่ผู้ได้รับความเสียหายมากที่สุด คือ ลูกจ้างและครอบครัว การลดต้นทุนเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจมักเลือกปลดคนออกโดยอาจสร้างโครงการเกษียณก่อนเวลาพร้อมเงินก้อนใหญ่ หรือสารพัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดให้คนลาออก หากไม่ได้คนตามจำนวนที่กำหนดก็จะยอมจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายเพื่อไล่ออก ทุกวิธีต่างส่งผลกระทบต่อชีวิตลูกจ้างซึ่งมีภาระเลี้ยงดูครอบครัวหรือหนี้สินต่างๆ ดังนั้น หลายคนควรเตรียมรับมือกับภาวะความเสี่ยงของชีวิตลูกจ้างในสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ โดยเฉพาะพวกที่ไม่ใช่วิชาชีพที่ชาติขาดแคลน
ก่อนอื่นผู้ที่เป็นลูกจ้างต้องประเมินศักยภาพของตัวเองว่าจะเป็นคนที่บริษัทต้องปลดก่อนหรือไม่ ด้วยการดูว่าทำงานที่แผนกหาเงินเข้าบริษัทหรือแค่ทำธุรการทั่วไป ผลงานหรือผลประโยชน์ที่ทำให้บริษัทมีมากน้อยแค่ไหน อายุงานหรือเงินเดือนสูงเพียงใด ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการพิจารณาปลดคนออกจากบริษัทอย่างมาก ถ้าเขายังมีประโยชน์สูงคุ้มค่ากับเงินเดือน จึงเป็นคนสำคัญที่ต้องเก็บไว้ แผนกใดที่ใช้คอมพิวเตอร์หรือปรับกำลังคนให้เหมาะสมกับงานได้ เขาจะเป็นส่วนเกินของบริษัท
เพื่อให้นายจ้างหรือบริษัทเห็นคุณค่าของตนลูกจ้างจึงต้องพัฒนาความสามารถอย่างต่อเนื่อง ความซื่อสัตย์ ขยัน ฉลาดมีไหวพริบ ล้วนมีส่วนต่อการตัดสินใจของนายจ้างซึ่งต้องอาศัยเวลายาวนานเป็นการพิสูจน์ตัวเอง หากจะเป็นลูกจ้างก็ควรเป็นลูกจ้างที่มีคุณค่าต่อนายจ้าง จึงต้องทุ่มเทกับการทำงานเพื่อองค์กรเต็มที่และเต็มใจ หากเบื่อหน่ายหรือไม่สบายใจกับสถานที่ทำงานก็ควรลาออกไปเพื่อให้โอกาสแก่คนที่รอแสดงผลงาน อันที่จริงแล้วชีวิตลูกจ้างก็มีความเสี่ยง คือ สภาพการจ้างอาจสิ้นสุดเมื่อใดก็ได้โดยฝ่ายนายจ้างเลิกจ้าง ดังนั้น จึงต้องเตรียมตัวรับสถานการณ์เหล่านี้ด้วย
เมื่อชีวิตลูกจ้างมีความไม่แน่นอน แม้ว่าเราจะเก่งกาจเพียงใด แต่ก็อยู่ภายใต้ความพอใจของนายจ้าง จึงควรรู้จักเก็บออมเงินให้มากที่สุด ใช้ชีวิตพอเพียง ไม่ก่อหนี้สิน เพิ่มพูนความรู้ความชำนาญให้สูงขึ้น รวมทั้งภาษาต่างประเทศ เนื่องจากสังคมมีการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องและเชื่อมทั้งโลกเข้าหากัน ธุรกิจต่างต้องการความชำนาญเฉพาะทางมากขึ้น หากเรามีความรู้ลึกซึ้งในด้านหนึ่งด้านใด จักเป็นคุณสมบัติเด่นสะดุดตา ส่วนภาษาต่างประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย และอื่นๆ จะมีประโยชน์มากขึ้นเพราะไทยพยายามส่งเสริมและรับการลงทุนจากต่างชาติ บริษัทจึงต้องการบุคลากรที่เข้าใจภาษาเหล่านั้นอย่างถ่องแท้ หากท่านรู้จักมากกว่าหนึ่งภาษาจะทำให้ตัวเองเป็นคนน่าสนใจของนายจ้างยิ่งขึ้น พวกที่ปฏิเสธการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ก็ควรหาคอร์สอบรมเพิ่มความรู้ด้านนี้ให้มากและหลากหลายขึ้นเพราะองค์กรส่วนใหญ่ทั้งของรัฐและเอกชนในปัจจุบันล้วนใช้คอมพิวเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานแล้ว จึงกลายเป็นคุณสมบัติที่ต้องมีของลูกจ้าง ความรู้พิเศษเหล่านี้เปรียบเสมือนเครื่องประดับที่สร้างให้ลูกจ้างมีคุณภาพเด่นในสายตาของนายจ้างและช่วยหางานง่ายขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจไม่ดีที่นายจ้างต้องการลูกจ้างซึ่งคุ้มค่ากับเงินเดือนเท่านั้น
ส่วนลูกจ้างที่ถูกปลดออกจากบริษัทหรือองค์กรรัฐและยังมีศักยภาพในการทำงานต่อไป กอปรกับเบื่อหน่ายชีวิตลูกจ้างแล้ว ควรริเริ่มสร้างงานให้ตัวเองเพื่อก้าวไปสู่ความเป็นเจ้าของกิจการ ท่านจะเห็นประโยชน์ของเงินออมตลอดชีวิตลูกจ้างได้ชัดในช่วงนี้ คือ เป็นเงินทุนในการเปลี่ยนชีวิตไปสู่ทิศทางใหม่ กิจการที่จะทำนั้นควรอาศัยความสามารถหรือความชำนาญส่วนตัวเป็นหลัก มีความแตกต่างจากคนอื่น มีคู่แข่งน้อย จึงมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง ตัวอย่างเช่น รับจัดงานศพ ติดตั้งเตาเผาศพ งานที่มีความเกี่ยวพันกับปัจจัยสี่ของมนุษย์ งานด้านศิลปะหรือความคิดสร้างสรรค์ เป็นต้น งานที่สร้างสรรค์ด้วยปัญญาหรือความรู้ด้านศิลปะมักมีต้นทุนไม่มาก แต่ขายได้กำไรสูง แล้วยังอาจขยายตัวไปสู่ตลาดต่างประเทศด้วยระบบอินเตอร์เนตได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของผู้มีเงินทุนน้อย แล้วต้องศึกษาบทเรียนผิดพลาดจากผู้อื่นเพื่อมิให้เดินซ้ำรอยของเขาด้วย การเริ่มต้นจากจุดเล็กๆแล้วเดินย่างเท้าอย่างระวัง แม้ต้องพบความเจ็บปวด ก็จะไม่ใหญ่โตเกินไป การขยายตัวอย่างช้าๆ แม้ไม่เร็วทันใจ แต่มั่นคง มันเป็นสูตรความสำเร็จของธุรกิจมานานเป็นร้อยปีแล้ว ชีวิตลูกจ้างกับเจ้าของกิจการต่างมีความเสี่ยงแฝงอยู่ ทุกคนต้องมองสำรวจตัวเองก่อนว่าเหมาะสมกับบทบาทใด เพราะทุกสถานะต่างก็มีสุดยอดของบทบาทนั้นเช่นกัน
ปกติแล้วรัฐบาลต้องพยายามป้องกันและช่วยเหลือมิให้เศรษฐกิจตกต่ำ อันเป็นการแสดงศักยภาพการบริหารของตน แนวคิดนี้ส่งผลดีต่อความเป็นอยู่ของคนไทยโดยรวม เขาไม่ชอบให้เกิดภาวะคนตกงานมากขึ้น จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อลดปัญหาด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการลงทุนต่อเนื่อง หากมีสถิติคนตกงานเพิ่ม จักส่งผลต่อความปลอดภัยของสังคมเนื่องเพราะสัญชาตญาณความอยู่รอดของคน ย่อมต่อสู้แย่งชิงจากคนอื่นได้โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ดังนั้น คนไทยจึงควรมีส่วนช่วยเหลือชาติและตัวเองด้วยการยับยั้งคนบางกลุ่มซึ่งจ้องทำลายเศรษฐกิจของไทยเพื่อข่มขู่ล้มล้างรัฐบาล เพราะผลกระทบท้ายที่สุด คือ ความเป็นอยู่ของคนไทย ขณะที่คนพวกนั้นยังอยู่ดีกินดีมีเงินใช้เต็มมือทุกวัน รับเงินราชการกินตลอดชีวิต ส่วนคนที่เป็นเครื่องมือกลายเป็นคนตกงานที่ไม่อาจดูแลตัวเองและครอบครัวได้ การประท้วงเรียกร้องเป็นสิทธิเสรีภาพของคนไทย แต่ละคนต้องรู้จักใช้ให้ถูกกาลเทศะ มิฉะนั้น อาจเป็นการทำลายตัวเอง นอกจากนั้นมันจะกลายเป็นบาปติดตัวที่เป็นเครื่องมือทำลายความมั่นคงในชีวิตของคนอื่นด้วย เหล่าลูกจ้างน่าจะมองเห็นวิธีรักษาสถานภาพงานของตัวเองได้ด้วยการช่วยกันประคองให้ไทยมีเศรษฐกิจมั่นคงต่อเนื่องซึ่งจักส่งผลต่อสังคมที่สงบและชีวิตคนไทยมีความสุขอย่างไม่อัตคัด เราไม่ควรลืมความทุกข์ยากและอัปยศในปีพ.ศ.2540ที่ชาติมีหนี้สินมากล้นและความสุขที่ผ่านมาอันเกิดจากความมั่นคงของรัฐบาลและความร่วมใจอดทนฝ่าฟันวิกฤตของคนไทย แล้วคิดพิจารณาว่าควรทำอย่างไรให้ชาติมั่นคง
************************************
| Create Date : 09 มิถุนายน 2549 |
| Last Update : 9 มิถุนายน 2549 0:36:29 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 486 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [