ความรู้คือ วัคซีนของชีวิต เพลินอ่านนิยายดี
Group Blog
 
All Blogs
 
นักการเมืองกับนักฟุตบอล

เขียนโดย แก้วมณี

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ทุกประเทศในโลกชื่นชอบและตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ชมการแข่งขันของเหล่าผู้เล่นในสนามสี่เหลี่ยมสีเขียวสดใส มันเป็นกีฬาที่ต้องเล่นเป็นทีม นักกีฬาต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียวในการควบคุมลูกบอลด้วยเท้าเพื่อยิงเข้าประตูของอีกฝ่าย การวางแผนของผู้ฝึกสอน การควบคุมลูกทีมของหัวหน้าให้เล่นตามแผนหรือแก้ไขสถานการณ์ขณะเล่น ล้วนเป็นปัจจัยที่นำทีมสู่ชัยชนะด้วย คนดูตื่นเต้นกับการเล่นของแต่ละทีมซึ่งแสดงแผนการเล่นและความพร้อมเพรียงเพื่อแย่งชิงชัยชนะตามกติกา ผู้ที่ทำฝ่าฝืนจักถูกลงโทษทันทีอันเป็นการสร้างความยุติธรรมในการแข่งขัน ท้ายที่สุดไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะ เหล่านักกีฬาต่างยอมรับผลที่เกิดขึ้นและแสดงความยินดีต่อผู้ชนะอย่างผู้มีน้ำใจที่รู้จักแพ้ รู้จักชนะ อันเป็นประเพณีที่ยึดถือและกระทำต่อกันมายาวนาน
พรรคการเมืองเปรียบเสมือนทีมฟุตบอลโดยมีนักการเมืองเป็นลูกทีม หัวหน้าพรรคการเมืองคือ หัวหน้าทีม สนามเลือกตั้งจึงเป็นสนามแข่งขันสำหรับพรรคการเมือง รางวัลของผู้ชนะ คือ ตำแหน่งผู้นำบ้านเมืองซึ่งมีอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศ โดยมีรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเป็นกติกาควบคุมทั้งสองฝ่าย คณะกรรมการเลือกตั้งทำหน้าที่ตัดสินและดูแลมิให้ฝ่ายใดทำละเมิดกติกา เป้าหมายของการเลือกตั้งคือ คะแนนเสียงของประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ดังนั้น พรรคการเมืองต้องมีการวางแผนเพื่อดึงดูดคะแนนเหล่านั้นด้วยการเสนอนโยบายบริหารบ้านเมือง การแก้ไขปัญหาของชาวบ้าน ผลประโยชน์ที่เจ้าของเสียงจะได้รับจากการทำงานของพรรค เสนอตัวแทนของพรรคเพื่อทำงานในสภาหรือรัฐบาล เราจักสังเกตเห็นว่าการวางแผนเยี่ยมและการควบคุมลูกทีมอย่างดี ย่อมมีโอกาสชนะมากในสนามเลือกตั้ง
ความแตกต่างเดียวระหว่างการแข่งขันฟุตบอลกับการเลือกตั้งคือ บุคคลภายนอกไม่มีสิทธิ์ยืนในสนามฟุตบอล แต่สนามเลือกตั้งอาจมีคนนอกเข้าไปพัวพันได้เพื่อช่วงชิงชัยชนะให้แก่ฝ่ายที่ตนสนับสนุนด้วยสารพัดวิธี จึงเป็นหน้าที่หลักและความหนักใจของผู้ควบคุมการเลือกตั้งที่ต้องมีความรู้เท่าทันพฤติกรรมซึ่งจงใจทำผิดกฎหมายของนักการเมืองหรือพรรคการเมืองหรือทีมงานซึ่งมีจิตฝักใฝ่พรรค ฝ่ายที่ต้องการชัยชนะโดยไม่คำนึงถึงกติกายอมลงทุนทุกวิธีเพื่อให้ได้คะแนนเสียงเป็นของฝ่ายตนหรือทำลายฝ่ายตรงข้ามโดยใช้เล่ห์เพทุบายนานาประการ เช่น ซื้อเสียง บังคับข่มขู่ ขัดขวางมิให้มีการลงคะแนน ใส่ร้ายป้ายสี ทำลายการเลือกตั้งด้วยการไม่ยอมส่งสมาชิกลงเลือกตั้งเมื่อตระหนักใจว่าต้องเป็นคนแพ้ เป็นต้น นอกจากนั้นยังพยายามใช้ข้อกฎหมายที่คิดว่าเอื้อประโยชน์ทางอ้อมในการแย่งตำแหน่งเป้าหมายโดยไม่ต้องเสียเวลาหาเสียง การฉวยโอกาสหรือใช้กลุ่มคนเป็นเครื่องมือส่งเสริมการเข้าสู่ตำแหน่ง การกำจัดกรรมการตัดสินเมื่อคิดว่าถ้าพรรคพวกของตนควบคุมการเลือกตั้งจะมีชัยชนะง่ายขึ้น พฤติกรรมเหล่านี้ส่อแสดงถึงความไม่มีน้ำใจนักกีฬา ไม่เคารพต่อสนามเลือกตั้ง ต่อกติกา ต่อเจ้าของคะแนน และทำลายเกียรติของตนเอง แม้พวกเขาจะได้ชัยชนะด้วยวิธีสกปรกเหล่านี้ มันจะเป็นเกียรติยศที่เปื้อนมลทินและน่ารังเกียจในสายตาของผู้ชมอย่างแน่นอน
ในสนามฟุตบอลนั้นเมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง ฝ่ายแพ้จะแสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อฝ่ายชนะอันเป็นภาพงดงามของเหล่านักกีฬา ส่วนสนามเลือกตั้งของไทยเรามักเห็นภาพคำกล่าวโทษ คำเสียดสี ให้ร้ายป้ายสี ยุแยง ร้องเรียนขัดขวางทุกวิถีทางจากกลุ่มผู้แพ้ มันบ่งบอกว่าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ของตนไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากเหตุใดก็ตาม อันแสดงให้เห็นว่านักการเมืองขาดน้ำใจนักกีฬาอย่างมาก หากมองไปที่ประเทศทางตะวันตกหรือเพื่อนบ้านใกล้เคียง เราจะเห็นการต่อสู้อย่างเต็มที่จากทั้งสองฝ่ายและยอมรับผลการเลือกตั้งของประชาชนโดยไม่ก่นด่า ตำหนิ เสียดสี ตัดพ้อ จากผู้แพ้เลย พวกเขาแสดงความยินดีต่อผู้ชนะอย่างเปิดเผย ส่วนผู้ชนะกล่าวคำขอบคุณแก่คู่แข่งของตนต่อสาธารณชน มันเป็นภาพของความมีน้ำใจนักกีฬาที่รู้จักแพ้ รู้จักชนะ และพร้อมจะปรับปรุงตัวเองเพื่อเข้าสู่สนามแข่งอีกครั้ง มิใช่คิดหาวิธีล้มล้างหรือหาทางแย่งตำแหน่งของเขาด้วยวิธีอื่นโดยไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ของตน
อีกภาพหนึ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นในการแข่งขันของนักกีฬาหรือนักการเมือง คือ การไม่ยอมลงสนามแข่งขันทั้งที่อยากได้ตำแหน่งแชมป์ เมื่อพิจารณาแล้วว่ามีโอกาสแพ้สูงมาก หากเป็นการแข่งขันกีฬาเมื่อคู่แข่งฝ่ายใดไม่ยอมเข้าสนามไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ย่อมถูกปรับแพ้ทันที โดยเฉพาะสาเหตุจากความกลัวแพ้บนเวที จักถูกผู้ชมประณามอย่างหนักว่ามิใช่นักกีฬาที่แท้จริง ขณะที่นักการเมืองกลัวไม่ชนะ จึงไม่เข้าสนามเลือกตั้งและพยายามอ้างว่าเป็นเสรีภาพ ทั้งที่ตนมีหน้าที่ทางการเมืองในการสนับสนุนประชาธิปไตยหรือเผยแพร่แนวคิดการปกครองนี้ รวมทั้งการเสนอตัวให้ประชาชนเลือกไปทำงานในสภา แต่พวกเขาอยากได้ชัยชนะโดยไม่ต้องแข่งขันด้วยการยุยงให้ชาวบ้านสนับสนุนตนเข้าสู่ตำแหน่งโดยอาศัยความไม่รู้กฎหมาย นักการเมืองประเภทนี้ยังลอยหน้าอยู่ในสังคมได้เพราะผู้มีอำนาจไม่กล้าตัดสินชี้ชัดด้วยกฎหมายว่านักการเมืองควรรับผิดชอบต่อการจงใจละทิ้งหน้าที่ในการเลือกตั้งทั้งที่เป็นพรรคการเมืองซึ่งตั้งขึ้นเพื่อการเลือกตั้งอันเป็นปัจจัยหนึ่งของการปกครองระบอบประชาธิปไตยและได้รับเงินสนับสนุนพรรคจากภาษีของประชาชนไปแล้ว โดยปฏิเสธการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งต่อประชาชนเพราะหวั่นเกรงความพ่ายแพ้และอยากได้ตำแหน่งโดยไม่ต้องอาศัยการเลือกจากประชาชน อีกทั้งยังเสนอข้อกฎหมายที่บิดเบือนต่อประชาชนเพื่อหวังได้ตำแหน่ง แล้วยังคิดแผนขับไล่กรรมการตัดสินด้วยสารพัดวิธีเพราะเกรงว่าพวกเขาจะมองเห็นเจตนาหรือพฤติกรรมต่างๆที่อาจผิดต่อกติกาบ้านเมือง แล้วลงโทษฝ่ายตน หากได้พวกของตนไปทำงานนี้ ย่อมสร้างความสบายใจแก่ฝ่ายตนและมีโอกาสในชัยชนะเพิ่มขึ้นถ้าต้องลงสนามแข่งอีกครั้ง พฤติกรรมของนักการเมืองประเภทนี้สมควรได้รับคำประณามและไม่ยอมรับในสังคมจากประชาชนเนื่องเพราะไม่มีจิตสำนึกของความเป็นนักกีฬาที่ต้องรู้จักแพ้ รู้จักชนะ รู้จักอภัย แต่เน้นการช่วงชิงสิ่งที่ต้องการโดยไม่คำนึงถึงกติกาของการแข่งขัน
การวางแผนการเล่นเพื่อเอาชนะในสนามแข่งขันของนักกีฬาหรือนักการเมือง ต้องอยู่บนพื้นฐานของกติกาในเกม ความยุติธรรม จิตใจเยี่ยงนักกีฬา ความสามารถและพละกำลังแท้จริงของตน เราจะภูมิใจกับชัยชนะและเสียงโห่ร้องยินดีของผู้ชมทั้งสนาม นับว่าเป็นเกียรติยศที่แท้จริงของทีม ผู้เล่น และผู้ฝึกสอนซึ่งคว้าถ้วยรางวัลมาได้ หากชัยชนะนั้นมาจากการเล่นผิดกติกา ทำลายอีกฝ่าย เสียงจากผู้ชมจะเป็นคำตำหนิและด่าประณาม มันจะเป็นความน่าละอายอย่างมาก นักการเมืองที่ครองตำแหน่งผู้ชนะด้วยการใช้เล่ห์เพทุบายจะเป็นแชมป์เปื้อนมลทิน ไม่น่านับถือ และมีคำพูดกับสายตาดูแคลนจากผู้ชมอยู่รอบกาย มากกว่าเสียงชื่นชมในความสามารถของเขา โดยเฉพาะของที่ได้มาโดยมิชอบมักไม่เคยอยู่กับเรายาวนานเนื่องเพราะมันมิได้มาจากความสามารถแท้จริง เยี่ยงเดียวกับนักกีฬาที่ซื้อชัยชนะ สักวันเมื่อต้องพบผู้ท้าชิงที่แข็งแกร่งจริง ย่อมต้องสูญเสียตำแหน่งอย่างง่ายดาย สิ่งหนึ่งที่ประทับในหัวใจของผู้ชนะจอมปลอม คือ จิตสำนึกของผู้แพ้ที่อยู่กับตัวเราจนลมหายใจสุดท้าย

******************************


Create Date : 06 สิงหาคม 2549
Last Update : 6 สิงหาคม 2549 1:18:56 น. 0 comments
Counter : 457 Pageviews.

arbel
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add arbel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.