ความรู้คือ วัคซีนของชีวิต เพลินอ่านนิยายดี
Group Blog
 
All Blogs
 
หลุมพรางของนักเลือกตั้ง

เขียนโดย ลูกแก้ว

การเลือกตั้งถือเป็นปัจจัยสำคัญในระบอบประชาธิปไตยซึ่งประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารประเทศด้วยการเลือกผู้แทนของตนเข้าไปสู่รัฐสภาเพื่อเลือกสรรผู้บริหารประเทศซึ่งมีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนและนำประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง โดยมีรัฐธรรมนูญกำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่ต่างๆไว้ ประเทศที่มีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยทั่วโลกจะให้ความสำคัญต่อการเลือกตั้งอย่างมาก ประเทศไทยจึงไม่อาจหลีกพ้นการเลือกตั้งไปได้ ปัจจัยสำคัญแห่งชัยชนะในสนามเลือกตั้งคือ การสร้างความเชื่อถือแก่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งหรือคนไทยให้เลือกพรรคหรือผู้สมัครของตนมากพอจะเป็นรัฐบาลซึ่งมีอำนาจปกครองบ้านเมือง ดังนั้น ทุกพรรคการเมืองต่างสรรหาข้อเสนอเลิศหรูให้คนไทยพิจารณามากมาย จึงเป็นหน้าที่ของผู้มีสิทธิ์ซึ่งต้องมีสติปัญญาและรู้เท่าทันกับคำโฆษณาเหล่านี้เพื่อใช้เลือกผู้แทนหรือรัฐบาลของประเทศไทย มิฉะนั้น คนไทยอาจมีคุณค่าแค่เพียงเครื่องมือชิงอำนาจของเหล่านักเลือกตั้งเท่านั้น
ช่วงเลือกตั้งเราจะได้ยินข้อเสนอหรือที่เรียกอย่างสวยหรูว่า นโยบายของพรรคการเมือง ซึ่งเปรียบเสมือนคุณภาพสินค้าตามตลาดที่พยายามเรียกความสนใจจากลูกค้า ด้วยการลด แลก แจก แถม เพื่อหลอกล่อให้เราควักเงินส่งให้พ่อค้าแม่ค้าหรือลงคะแนนเสียงแก่พรรคการเมือง บางคนก็มีความจริงใจต่อลูกค้า บ้างก็ตั้งใจหลอกให้หลงเชื่อ ดังนั้น ลูกค้าหรือผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจึงต้องตั้งสติ คิดพิจารณาคำโฆษณาบนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง มิใช่ความเพ้อฝัน เนื่องเพราะเงินหรือเสียงเลือกตั้งของเรามีค่ามาก ถ้าเลือกสินค้าหรือผู้แทนผิด เราต้องทนใช้ของเหล่านั้นหรือปล่อยให้ผู้แทนไร้คุณภาพกดขี่ข่มเหงให้เจ็บใจกว่าจะครบวาระการทำงานหรือสินค้าหมดสมรรถภาพ
การปกครองแบบประชาธิปไตยในประเทศไทยผ่านการเลือกตั้งมากว่า 60 ปีแล้ว จนกระทั่งปัจจุบันนี้นโยบายหลายอย่างที่พรรคการเมืองนำมาใช้โฆษณาให้คนไทยนั่งฝันซ้ำซากอยู่และมีให้เห็นตัวอย่างเช่น การลดค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าน้ำมัน ราคาสินค้า เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ตั้งกองทุนฟรีช่วยคนด้อยโอกาส เพิ่มบทบาทให้ผู้หญิง ส่งเสริมให้เด็กเรียนฟรี และอื่นๆ ล้วนถือเป็นนโยบายแบบประชานิยมซึ่งกระทำกันมานานเกือบร้อยปีเพราะเป็นเรื่องง่ายที่สุดในการจูงใจให้คนเลือกพรรคการเมืองที่ให้ตัวเลขสูงที่สุด โดยไม่คำนึงว่าจะทำได้จริงหรือไม่ เนื่องเพราะเมื่อผ่านพ้นการเลือกตั้งไปแล้ว เจ้าของเสียงเหล่านั้นจะกลายเป็นผู้อยู่ในอำนาจของนักเลือกตั้ง หากพิจารณาคำโฆษณาแล้วแยกแยะรายละเอียดอย่างมีเหตุผล เราจะเห็นว่าปัจจัยในการเพิ่มค่าแรงหรือลดราคาสาธารณูปโภคหลายอย่างไม่อยู่ในความควบคุมของรัฐบาล ดังเช่น เมืองไทยมิใช่ผู้ผลิตน้ำมัน จึงไม่อาจกำหนดราคาเองได้ บ่อน้ำมันหรือบ่อแก๊สของไทยถือว่าเล็กมากเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มโอเปค ค่าสัมปทานที่ไทยได้รับจึงมีสัดส่วนน้อย แต่มีความสำคัญต่อการทำงานของรัฐบาลในการดูแลเศรษฐกิจไทยมาก ส่วนการลดค่าธรรมเนียมนั้นมีอัตราน้อยมากเมื่อเทียบกับค่าสัมปทานที่ต้องจ่ายแก่รัฐ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่มีรัฐบาลใดกล้ายกเลิกสัมปทานแหล่งพลังงานเพื่อลดราคาให้คนไทยเลย มันบอกชัดถึงความสำคัญของค่าสัมปทานได้ หากเกิดความผันผวนของราคาน้ำมันทั่วโลก มักกระทบถึงราคาสินค้าและสาธารณูปโภคของไทยทุกครั้ง รัฐบาลทุกสมัยทำได้แค่ชะลอผลกระทบให้เกิดช้าลงเท่านั้น สุดท้ายคนไทยก็ต้องรับความจริงเรื่องราคาที่ต้องสูงขึ้นและปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตตนเองเข้ากับค่าครองชีพที่สูงตามไปด้วย ขณะที่นักเลือกตั้งทั้งในอดีตและปัจจุบันยังคงหยิบยกหัวข้อลดราคาน้ำมันหรือสาธารณูปโภคเป็นหลักในการหาเสียงเสมอ ไม่ว่าคนไทยจะมีความรู้มากขึ้นตามกาลเวลาเพียงใดก็ตาม พวกเขาทำราวกับว่าคนไทยยังเป็นเด็กเล็กใสบริสุทธิ์ที่ผู้ใหญ่จะใช้ขนมหลอกล่ออย่างไรก็ได้ ภาพที่เห็นชินตาเสมอคือ เมื่อพวกเขาได้รับเลือกตั้งตามที่ต้องการแล้ว จะสร้างภาพหลอกขึ้นด้วยการพยุงราคาหรือลดให้สักระยะ แล้วจะประกาศขึ้นใหม่อีกครั้งโดยอ้างสารพัดเหตุผลเพื่อสนับสนุนการกระทำของตน ทั้งที่ความจริงแล้วเราไม่เคยกำหนดราคาน้ำมันได้ตั้งแต่อดีตและก่อนการเลือกตั้งด้วย การโฆษณาว่าจะลดค่าครองชีพ ค่าน้ำมัน จะเกิดขึ้นจริงเมื่อเรากำหนดราคาต้นทุนต่างๆด้วยตัวเองได้ สภาพแวดล้อมในและต่างประเทศเอื้ออำนวยด้วย มิใช่อาศัยคารมของนักเลือกตั้งสร้างภาพสวรรค์บนดินให้คนไทยหลงใหล
ในอดีตเคยมีนักเลือกตั้งคนหนึ่งหาเสียงด้วยการบอกว่าถ้าเลือกเขาจะได้รถรางข้ามหรือเลียบคลองใหญ่แห่งหนึ่งเพื่อซื้อหัวใจของคนไทย และเขาก็ได้ตำแหน่งสมดังใจหวัง ไม่นานหลังจากนั้นมีการทวงถามรถรางขึ้น คำตอบของเขาส่อเจตนาหลอกลวงตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งว่า เขาสร้างรถรางไม่ได้เพราะมีสะพานข้ามคลองมากมายที่ขัดขวางโครงการนี้ หากเราตั้งสติคิดทบทวนภาพสถานที่นั้นอีกครั้ง จะพบว่าสะพานเหล่านั้นมีมานานและก่อนการเลือกตั้งด้วย นักเลือกตั้งคนนั้นมิใช่คนตาบอดหรือหูหนวกที่จะไม่เห็นหรือไม่ได้ยินเรื่องสะพานซึ่งบางสะพานมีอายุยาวนานกว่าวัยของเขาด้วย แต่ยังเสนอโครงการรถรางต่อคนไทยและหลายคนหลงเชื่อคำโฆษณานี้แล้วเทคะแนนเลือกเขา ในที่สุดเราก็ไม่มีรถรางอันเลิศหรูที่เขาวาดภาพไว้ให้ใช้บริการเลย วิธีการนำเสนอภาพวาดที่สวยงามนี้ถูกนำไปใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าของไทยด้วย หวังว่าคนไทยจะไม่ลืมบทเรียนเดิมของนักเลือกตั้งที่ทำลายเจตนาดีของเจ้าของเสียงไปอย่างไม่ละอายใจ
คำโฆษณาของบรรดานักเลือกตั้งทำให้คนไทยสามารถมองเห็นความคิด ความเข้าใจที่พวกเขามีต่อสังคมแบบมหภาคหรือจุลภาค มุมมองที่มีต่อคนไทยว่าเป็นแค่เหยื่อหรือให้เกียรติว่าเป็นคนมีคุณภาพ สิ่งที่คนไทยต้องเตือนใจตนไว้ยามอ่านหรือฟังนโยบายของนักเลือกตั้ง คือ ยอมรับก่อนว่าประเทศไทยมิได้อยู่โดดเดี่ยวบนโลกใบนี้ แต่ต้องมีสัมพันธภาพกับทุกชาติ ต้นทุนของสินค้าหลายอย่างที่คนไทยใช้ในชีวิตประจำวันไม่อยู่ในความควบคุมของเรา เช่น น้ำมัน ก๊าซ เหล็ก และอื่นๆ รัฐบาลบริหารบ้านเมืองได้เพราะเงินภาษีจากกรมสรรพากร กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต ค่าสัมปทานต่างๆ หลายสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ย่อมส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสิ่งของเหล่านั้นสูงขึ้น รัฐบาลช่วยเหลือประคองราคาเดิมไว้ชั่วขณะเท่านั้น ในที่สุดคนไทยก็ต้องยอมรับความจริงกับราคาใหม่ มิฉะนั้น จะเป็นการทำลายระบบการค้าขายในและต่างประเทศอันส่งผลถึงเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศไทย
การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของคำโฆษณาเป็นสิ่งที่คนไทยพึงต้องทำด้วย หลายครั้งที่นักเลือกตั้งจะบอกว่า ลดราคาหรือเสนอโครงการใหม่ แต่ไม่บอกวิธีการลดราคาลงหรือผลประโยชน์หรือความสูญเสียของคนไทยจากโครงการนั้น ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพิจารณาความเป็นไปได้ของข้อเสนอ มันจึงอาจเป็นแค่ภาพวาดที่เขาเขียนให้เราหลงใหลและปลื้มใจเท่านั้น ตัวอย่างเช่น การลดราคาน้ำมันหรือก๊าซซึ่งเราต้องซื้อจากนอกประเทศเกือบร้อยเปอร์เซนต์ แต่ไม่พูดถึงค่าสัมปทานซึ่งถือเป็นเงินก้อนใหญ่ที่เป็นต้นทุนของผู้ได้รับสัมปทาน พวกเขาจะบอกเพียงแค่ลดค่าธรรมเนียมซึ่งต้องมองให้ลึกจักทราบว่ามีส่วนในราคาน้ำมันน้อยมากเมื่อเทียบกับอัตราการนำเข้าของไทย ถ้าพูดให้ตรงประเด็นคือ เราซื้อมากกว่าใช้จากบ่อของตัวเองซึ่งมีน้อยอยู่แล้ว อีกอย่างหนึ่งรัฐบาลทุกชุดจะไม่ใช้ต้นทุนราคาน้ำมันจริงซึ่งซื้อมาจากประเทศกลุ่มโอเปค แต่กลับยึดราคาหน้าโรงกลั่นของสิงคโปร์ซึ่งสูงกว่าแทน ทั้งที่น้ำมันบางส่วนของเรากลั่นในประเทศ จึงไม่ใช่ต้นทุนแท้จริงของไทย แต่ใช้ราคาของสิงคโปร์ในการปรับราคาขายในประเทศมาตลอด เป็นต้น นอกจากนั้น ต้นทุนสาธารณูปโภคของไทยหลายอย่างเปลี่ยนแปลงจากในอดีตอย่างมาก เช่น การซื้อไฟจากประเทศเพื่อนบ้านมีแนวโน้มมากขึ้นกว่าการผลิตใช้เอง การซื้อน้ำดิบจากนอกประเทศเพิ่มขึ้น เป็นต้น ปัจจัยในการกำหนดราคาด้วยตัวเองทำได้ยากขึ้นเพราะเราขาดการพัฒนาหรือขยายการผลิตพลังงานในประเทศ หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป สักวันประเทศเจ้าของพลังงานอาจใช้มันข่มขู่ไทยเพื่อให้ได้ทุกสิ่งตามที่เขาต้องการอย่างง่ายดาย ตัวอย่างเช่น สิงคโปร์ซื้อน้ำจืดจากมาเลเซีย เมื่อเกิดความขัดแย้งกัน น้ำจืดจะเป็นอันดับแรกที่เจ้าของใช้แสดงพลังอำนาจเสมอ เป็นต้น ดังนั้น สัดส่วนการผลิตเองและซื้อจากนอกประเทศต้องควบคุมให้สมดุลที่สุดเพื่อความมั่นคงของชาติ เมื่อเลือกจะซื้อแหล่งพลังงานจากต่างประเทศมากขึ้น รัฐบาลไทยจึงต้องหารายได้เข้าประเทศด้วยการทำมาค้าขายให้ดีขึ้น แล้วนำรายได้เหล่านั้นไปจัดซื้อพลังงานให้คนไทย เรามองเห็นได้ว่า เหตุใดรัฐบาลจึงสนใจและส่งเสริมการค้าขายสินค้าไทยให้เพิ่มมากขึ้นทุกปี คำตอบคือ รัฐบาลทำเพื่อความสุขสบายของคนไทยตามหน้าที่ของเขา
แนวความคิดเรื่องการซื้อพลังงานอันเป็นต้นทุนสำคัญของสินค้าอุปโภคบริโภคโดยเลี่ยงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในประเทศของตนนั้นมีมานานแล้ว เราสังเกตได้ว่าสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีนจะกำหนดสัดส่วนการซื้อพลังงานจากนอกประเทศมากกว่าผลิตเองเพื่อรักษาทรัพยากรของตนไว้ใช้ยามจำเป็นและยามสงคราม จึงเห็นสถิติการค้าขายของประเทศเหล่านี้เพิ่มขึ้นทุกปีเพราะต้องนำเงินจำนวนมากไปซื้อพลังงานให้ประชากรของตน ประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ใช้แนวคิดเดียวกันนี้ในการสร้างอัตราเติบโตแก่ประเทศของตนให้สูงขึ้น จึงกลายเป็นคู่แข่งทางการค้ากับไทยมาตลอดด้วยจุดประสงค์เดียวกัน คือ การดูแลประชากรให้มีความสุข ปัจจุบันนี้การสร้างแหล่งพลังงานใหม่ในไทยไม่ว่าจะเป็นเขื่อนน้ำ บ่อน้ำมันหรือก๊าซ เหมืองแร่ โรงไฟฟ้า กลายเป็นเรื่องยาก อันเนื่องมาจากทรัพยากรลดน้อยลง ความเห็นแก่ตัวของชุมชน องค์กรต่างชาติที่เข้าแทรกแซงด้วยความไม่หวังดีหรือกลั่นแกล้งเพื่อหยุดยั้งความเจริญของบ้านเมือง คนไทยบางกลุ่มมีมุมมองคับแคบและต้องการย้อนเวลากลับไปอยู่กินแบบบรรพชน ขณะที่ความต้องการใช้พลังงานขยายตัวตามกาลเวลาและจำนวนประชากร จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องแสวงหาแหล่งพลังงานสนองความต้องการของคนไทยด้วยการซื้อพลังงานจากนอกประเทศ ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมากซื้อน้ำมันหรือปล่อยกู้ให้เพื่อนบ้านเพื่อแลกน้ำหรือไฟราคาย่อมเยา นี่จึงเป็นแรงกระตุ้นให้รัฐบาลทุกชุดต้องเพิ่มตลาดการค้าหรือรักษาตลาดเดิมให้ดีที่สุดเพื่อความอยู่รอดของบ้านเมือง คนไทยต้องยอมรับว่าเราไม่อาจย้อนเวลากลับไปใช้ตะเกียงหรือเทียนไขหรือหยุดยั้งการใช้ไฟฟ้าไว้ เราทำได้แค่ประคองสถิติการใช้ไฟฟ้าให้เติบโตช้าลง เราหยุดการหมุนของโลกไว้ด้วยมือของคนไทยไม่ได้ จึงต้องประคองตัวเองให้หมุนตามโลกไป
ช่วงการเลือกตั้งแต่ละพรรคการเมืองล้วนส่งคำโฆษณาหลากหลาย สวยหรู ชวนฝัน ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้อ่าน ได้ฟัง กันทุกวัน แต่หลายคำโฆษณาขาดการนำเสนอวิธีการหรือบอกอย่างผิวเผินหรือคลุมเครือ บ้างก็ดูไม่น่าเป็นจริงได้ นักเลือกตั้งใช้คารมหรือวาดภาพมากมายให้ลูกค้าของเขาฝันและเชื่อฟังซึ่งเป็นหน้าที่ของเขาเพื่อแลกกับคะแนนเสียงในการนำไปสู่ชัยชนะของแต่ละคนหรือพรรคการเมือง คนไทยผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งก็มีหน้าที่ในการกลั่นกรองและแยกแยะความเป็นไปได้ของนโยบายนั้นว่าเกิดได้จริงหรือมีประโยชน์จริงต่อบ้านเมืองอย่างไร ถ้าเป็นคำหลอกลวงที่ไม่น่าเชื่อถือหรือให้ข้อมูลบิดเบือน ก็ไม่ควรเลือกเขา เพราะเขากล้าหลอกผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ย่อมพิสูจน์เบื้องต้นแล้วว่าจะบริหารบ้านเมืองให้ดีและซื่อสัตย์ได้อย่างไร ดังนั้น คำโฆษณาประเภทลดราคา ค่าครองชีพ ค่าเล่าเรียนของเด็ก ส่งเสริมบทบาทผู้หญิง ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แจกเงินหรือบ้านฟรี ล้วนพูดกันมากว่า 60 ปีแห่งประชาธิปไตยของไทยแล้ว หากคนไทยยังหลงใหลกับคำพูดเหล่านี้ต่อไปโดยไม่คำนึงถึงความเป็นไปได้บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มิใช่มหาอำนาจทางการเงินหรือพลังงาน พรรคการเมืองคงไม่ยอมพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นแน่เพราะคนไทยชื่นชอบและสนับสนุนการเพ้อฝัน ดังนั้น ทุกการเลือกตั้งเรายังต้องเห็นคำโฆษณาประเภทนี้ดำรงอยู่และสืบทอดต่อไปด้วยฝีมือคนไทยที่ยินยอมเป็นทาสของความฝันที่นักเลือกตั้งปั้นแต่งเสนอในเวทีเลือกตั้งตลอดกาล คนไทยจึงควรปรับเปลี่ยนแนวคิดของตนใหม่เพื่อส่งคำเตือนถึงนักเลือกตั้งทั้งหลายให้รู้จักสร้างสรรค์สิ่งใหม่บนพื้นฐานความเป็นจริงและเป็นสากล รวมทั้งเปลี่ยนมุมมองต่อคนไทยว่ามิใช่กบในกะลาที่ให้หลอกลวงง่ายๆอีกแล้ว การเลือกตั้งจะเป็นคำเตือนที่มีค่าจากคนไทยถึงนักเลือกตั้งและส่งผลดีต่อการเมืองทุกระดับในประเทศไทยต่อไปข้างหน้า

***********************************


Create Date : 10 สิงหาคม 2549
Last Update : 10 สิงหาคม 2549 14:03:30 น. 0 comments
Counter : 468 Pageviews.

arbel
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add arbel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.