32Then you will know the truth, and the truth will set you free." 32 你 們 必 曉 得 真 理 , 真 理 必 叫 你 們 得 以 自 由 。

ที่เราเชื่อนั้น

ยอห์นฺ 4:42
"เขาเหล่านั้นพูดกับหญิงนั้นว่าตั้งแต่นี้ไปที่เราเชื่อนั้น
มิใช่เพราะคำของเจ้าแต่เพราะเราได้ยินเอง

และเรารู้ว่าท่านองค์นี้แหละเป็นพระผู้ช่วยโลกให้รอดที่แท้จริง"..

....


มีคนมากมายรู้จักชายที่ชื่อ เยซู บุตรนางมารีย์ ชายผุ้ถูกตรึงตายที่ไม้กางเขน และว่ากันว่า ฟื้นคืนชีพขึ้นมาในวันที่สาม และว่ากันว่า ชายผู้นี้คือองค์พระผู้เป็นเจ้า

และเป้นเรื่องยังคงถกเถียงกันไม่จบ ว่าจริงหรือ ที่ชายคนนี้ คืนชีพขึ้นมา และเป็นพระเจ้าพระผู้สราง

ข้อมูลข้างต้นนั้น เชื่อว่าเราทั้งหลายต้องเคยได้ยินมาแล้วไม่รู้ว่ากี่รอบ และส่วนใหญ่เห้นว่า เป็นเรื่องไกลตัว ไม่ก็ไร้สาระ

...

และก็เป็นที่น่าสงสัยปนสังเวชของคนที่ไม่เชื่อเรื่องนี้ ต่อบรรดาคนที่เรียกว่าคริสเตียน ซึ่งหมายถึงคนที่เลือกจะติดตามชายที่ชื่อเยซู ซึ่งพวกคริสเตียนเชื่อเอาว่า ชายคนนี้คือองค์พระผู้เป็นเจ้า และยังทรงพระชนม์อยู่ ณ เวลานี้


...

ข้อพระคัมภีร์ ที่ได้ยกมาไว้ข้างต้นนั้น เป้นเหตการณ์ตอนที่ พระเยซูคริสต์ เสด้จไปสะมาเรีย ซึ่งเป็นแคว้นที่ไม่ถูกกับ ชาวยิว ซึ่งเป้น สัญชาติของพระเยซู

พระเยซูได้เข้าไปคุยกับหญิงโสเภณี ที่คนทั่วไปรังเกียจคนหนึ่ง ขณะที่เธอมาตักน้ำกลางวันแสกๆ ซึ่งเธอเลือกมาเวลานี้เพราะว่าคนทั่วไปรังเกียจเธอ


พระเยซูคริสต์ได้ตรัสกับเธอหลายอย่าง ซึ่งแสดงถึงความเป็นพระเจ้าของพระองค์เอง

หญิงนั้น ตื่นเต้น และได้วิ่งเข้าเมือง เที่ยวไปประกาศกับใครต่อใครว่าเธอได้พบคนผู้หนึ่ง ซึ่งน่าจะเป้นพระคริสต์ ที่ผู้คนรอคอยมานาน

ชาวสะมาเรียตื่นเต้น และได้มาพบพระองค์เพื่อดูให้เห็นกับตา และทั้งได้ทูลเชิญให้พระองค์ประทับกับพวกเขาสองวัน


ในยอห์น ไม่ได้บอกไว้ว่า เกิดอะไรขึ้นในสองวันนั้น

แต่บันทึกผลของสองวันนั้นว่า

และคนอื่นเป้นจำนวนมากได้วางใจ เพราะพระดำรัสของพระองค์-ยอห์น4/41-


และ บันทึกต่อว่า

ยอห์นฺ 4:42
"เขาเหล่านั้นพูดกับหญิงนั้นว่าตั้งแต่นี้ไป

*ที่เราเชื่อนั้น*

มิใช่เพราะคำของเจ้าแต่เพราะเราได้ยินเอง

----




สิ่งนี้ คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับผุ้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์

เราคริสเตียน ก้คงบอกใครต่อใครที่สงสัยในการเลือกจะเป้นคริสเตียนของเราได้แค่ว่า


"ที่ข้าพเจ้าเชื่อนั้น มิใช่เพราะคำของใคร หรือเรื่องราวใดที่ข้าพเจ้าเคยได้ยินมาเกี่ยวกับองค์พระเยซูคริสต์

แต่ที่ข้าพเจ้าเชื่อ

เพราะข้าพเจ้า มีคำพยานของข้าพเจ้าเอง ที่ข้าพเจ้าได้มีประสบการณ์กับองค์พระเยซูคริสต์เป็นการส่วนตัว"


....

ในฐานะที่เป้นคริสเตียน
อย่าให้ความเชื่อของเราเป้นแค่เชื่อตามๆใคร หรือเชื่อเพราะคำพยานของใคร

เพราะเรามีประสบการณ์กับพระองค์ได้ "ทุกคน"

เราไม่จำเป้นต้องเชื่อว่าพระองค์เป้นพระเจ้า เพียงเพราะว่าเราเชื่อ คำพูด ของใคร

เราเชื่อ ด้วยคำพยานของเราเอง เป้นการส่วนตัว

เมื่อเราประกาศ ไม่เพียงเราจะมีคำพยานของผุ้เชื่อคนอื่น
แต่เรามีคำพยานของเราเองด้วย

ว่าความเป้นพระผู้ไถ่และเป้นพระเจ้าพระผู้สร้างขององค์พระเยซูคริสต์นั้น

ได้กระทำอะไรกับชีวิตของเราบ้าง

...

ขอบพระคุณพระเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า
อาเมน




 

Create Date : 16 มีนาคม 2550   
Last Update : 16 มีนาคม 2550 8:08:48 น.   
Counter : 282 Pageviews.  

Jesus take the wheel....

Jesus take the wheel....


เมื่อวานนี้นั่งดูเทปเอมทีวีมิวสิคอวอร์ด
ตอนเปิดรายการ มีนักร้องสาวหน้าตาน่ารักท่านหนึ่งนั่งร้องเพลง

แม้ว่าผมภาษาอังกษจะไม่ค่อยกระดิกก็ตามที แต่ ในเนื้อร้องก้มีคำนึงซึ่งผมคุ้นเคยอย่างดีแน่ๆ


Jesus

นั่งฟังอยู่อย่างตั้งใจ ว่าผมหูฝาดรึเปล่า
โอเค ไม่ฝาด
เธอร้องว่า Jesus ชัดถ้อยชัดคำ


พอจบเพลงเมดเลยืสมเพลง

ผู้แปลก็แปลให้ฟังว่าเธอร้องเพลงอะไปบ้าง
Jesus take the wheel.... เต้มๆ


.....



carrie underwood นักร้องสาวคนนี้ได้รางวัลอะไรไปบ้างผมจำไม่ได้ แต่ที่จำได้คือ
ตอนเธอได้รางวัลและต้องขึ้นมากล่าวอะไรสักเล็กน้อยหน้าเวที


คำแรกๆที่เธอพูดคือ


"Thanks Jesus Christ"

ผมไม่ทราบว่าในฮอลวันประกาศเอมทีวีมิวสิคอวอด มีคนที่เป้นคริสเตียนกี่นั่งอยู่ตรงนั้น
แต่ที่แน่ๆ มีคนนึงขอบคุณพระเยซุคริสต์ตรงหน้าเวที...ตอนรับรางวัล



มีอีกคนนึง อันนี้สาวใหย่ขึ้นมาหน่อย ผมจำชื่อไม่ชัดเลยเสิชหาไม่ได้
ประมาน แมรี่ เจ ไบล อะไรซักอย่าง
เธอก็ขอบคุณพระเจ้าเหมือนกัน แม้จะไม่เอ่ยถึงคำว่าพระเยซุคริสต์ก้ตาม





....

ทั้งหมดที่ว่ามา




ก้แค่รู้สึกว่า






"พวกเธอกล้าดีนะ"




ขอพระเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์อวยพระพรครับ
อาเมน


-------------

//www.carrieunderwoodofficial.com/

เปิดลำโพงไว้ มี Jesus take the wheel....ให้ฟังด้วย










 

Create Date : 13 มกราคม 2550   
Last Update : 13 มกราคม 2550 4:58:09 น.   
Counter : 1080 Pageviews.  

"เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง????"





ในการนั่งคุยกับน้องๆคริสเตียน ครั้งนึง ตอนนั้นเรานั่งเรียนรู้เรื่อง "สัจจะกับเหตผลจอมปลอม" เคยลองให้เด็กๆยกคำขวัญหรือคติพจนืที่น่าภาคภูมิใจขึ้นมา
มีน้องคนนึงยกอันนี้ขึ้นมา
"เริมต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง"

สีหน้าน้องเค้าดูดี ตอนพูดมันออกมา ด้วยความภาคภูมิใจ แต่แล้วพี่เลี้ยงใจร้ายอย่างผมก้ทำให้เค้าสลดลง เมื่อบอกว่า
มันเข้าข่ายเหตผลจอมปลอม และไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับชีวิตนะครับ และควรเขี่ยมันทิ้งออกจากสารบบความคิดได้แล้ว

ทำไมล่ะ??

.....
ก็เพราะการเริ่มต้นที่ดี กับการได้ชัยชนะตอนจบ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลยน่ะสิ และชัยชนะครึ่งๆกลางๆจะเอาไปทำอะไรได้เหรอ?

คุณอาจจะเริ่มต้นได้ดีกับแฟนคุณ แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะไปกันรอด จริงไหม?
ในขณะที่ บางทีคุณอาจจะเคยเริ่มต้นได้แย่มากๆกับใครบางคน แทบจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา แต่ก็กลับแฮ้ปปี้เอนดิ้งกันได้ หรือไม่จริง

ฉะนั้น การเริ้มต้นที่ดี กับบั้นปลยที่ดี ถึงต่อให้มันจะเคยปรากฏขึ้น มันก็เป็นแค่ ทฤษฏีของความน่าจะเป็นการจับคู่กันของตอนต้นกับตอนจบ ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลยด้านเหตผลและตรรกกะ





....
มีเรื่องราวของท่านผู้หนึ่ง ที่ปรากฏในไบเบิ้ล ที่น่าจะให้เราในฐานะคริสเตียนได้ดูไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้เราระมัดระวังในเรื่องนี้ เขาคือ
"ซาโลมอน"

ซาโลมอนได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์ที่มีสติปัญญาสูงมากๆ
และเริ่มต้นชีวิตการเป็นกษัตริย์ของอิสราเอลได้สวยมากๆ
ทุกอย่างดูดี เพอเฟค อลังการงานสราง พระเจ้าอวยพรมากมาย
ผู้คนยกย่องสรรเสริญ

ครั้งนึง เมื่องานสรางพระนิเวศสำเร็จขึ้น
ประชาชน บรรดานักดนตรี และบรรดาปุโรหิตได้ร่วมกันอยู่ต่อพระนิเวศนั้น
และซาโลมอน ได้กางมือออก อธิษฐานทูลต่อพระเจ้าในการมอบถวายพระวิหาร

คำอธิษฐานค่อนข้างยาว ขอให้เปิด 2 พงศาวดาร บทที่6 อ่านประกอบ

ขอที่น่าสนใจคือตอนท้ายของ 2 พงศาวดาร6/16
....ตามซึ่งพระองค์ทรงสัญญาว่า..
ถ้าเพียงลูกหลานทั้งหลายของเจ้าจะระมัดระวังในทางดำเนินของเขา ที่จะดำเนินไปต่อหน้าเรา
อย่างที่เจ้าได้ดำเนินต่อหน้าเรานั้น
เจ้าจะไม่ขาดชายผู้หนึ่งต่อหน้าเราที่จะนั่งบนบัลลังก์อิสราเอล


คำอธิษฐานของซาโลมอนยาวไปจนจบบทที่6

และขึ้นบทที่7 ด้วยความว่า
เมื่อซาโลมอนทรงจบคำอธิษฐานของพระองค์แล้ว
ไฟได้ลงมาจากฟ้าสวรค์ไหม้เครื่องเผาบูชาและเครื่องสัตวบูชาเสีย
และพระสิริของพระเจ้าก็เต็มพระนิเวศ

ปุโรหิตเข้าไปในพระนิวศของพระเจ้าไม่ได้

เพราะว่าพระสิริของพระเจ้าเต็มพระนิเวศของพระเจ้า...



***
ถ้านึกภาพตาม เราจะเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับซาโลมอนนั้น ยิ่งใหญ่มากๆ
และ

"เป็นการเริ่มต้นที่ดี" มากๆ



ลองสมุตว่าเราเป็นประชาชนคนนึงซึ่งยืนอยู่ตรงนั้น ในวันนั้น

ถ้าถามคำถามว่า พระราชาซาโลมอน จะมีบั้นปลายอย่างไร

เราจะตอบว่าอะไรบ้าง?

...........


ขอให้ดู1 พงศ์กษัตริย์ บทที่11 ประกอบ
บทนี้ได้บันทึกถึง ความเสื่อมถอยของซาโลมอน
ความเสื่อมถอยนั้น สาหัสถึงขั้น กราบไหว้รูปเคารพเลยทีเดียว


ถ้าเราลองเปรียบเทียบ 2 พงศาวดารบทที่6 กับ 1 พงศ์กษัตริย์บทที่11
เราจะเห็นควมแตกต่างและความเสื่อมถอยชนิด
หน้ามือเป็นหลังมือ


.............



ชีวิตของซาโลมอน เป็นเตวอย่างที่ดี ที่เราจะเรียนรู้ว่า
แม้ทุกวันนี้ หรือในการเริ่มต้นชึวิตคริสเตียนของเราจะดูดี
แม้จะเต็มด้วยการอัศจรรย์ การอวยพร เต็มด้วยหมายสำคัญ

แต่นั่นมิได้หมายความว่า เราเป็นคนพิเศษ กว่าคนอื่น

แม้เราจะเริ่มด้วยดี แม้วันนี้ท หรือวันวานของเราจะโอเค เข้มแข็งในทางของพระเจ้าเป็นอย่างดี เป็นพระพรแก่คนมากมาย

"แต่"
นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะสามารถรักษา ความเสมอต้นเสมอปลายได้
..ขออย่าลำพอง...


อย่าได้ยึดติดกับภาพเก่าๆของเราในอดีต ที่ดูดี หรือเต็มด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า หืทอประสบการณ์มากมาย ที่เหนือธรรมชาติ

สิ่งเหล่านั้นไม่ได้เป็นเครื่องการันตีได้เลยว่า

เราจะมีบั้นปลายที่ดีอย่างตอนเริ่มต้น

....

อย่างที่บันทึกไว้ว่า
มารเหมือนสิงห์ร้าย เที่ยววนเวียนอยู่
คอยจ้องจะหาเหยื่อที่มัจะกัดกินได้

...
การติดสนิทบนเส้นทางของพระเจ้า
คือการติดสนิท วันต่อวัน หรือดีกว่านั้นคือ ทุกลวหายใจจนตายจากโลกนี้

มิใช่การติดสนิทในตอนเริ่มต้น แล้วจะเกิดระบบอัตโนมมัตป้องกันเราไปนตาย

เรากำลังอยู่ในสมรภูมิรบ มิใช่ในที่ตากอากาศที่ไม่มีอันตราย

วันไหนเราลืมใส่ชุดรบ ชุดเกราะ ธนูของฝ่ายตรงข้ามที่แค่ยิงมามั่วๆ ก็จะเจาะร่างของเราได้



"ขอพระองค์ทรงรักษาความประสงค์ และความคิดในใจของประชากรของพระองค์ ให้เป็นเช่นนี้เสมอไป
และขอทรงตั้งจิตใจของเขาทั้งหลาย ให้มั่นคงในพระองค์"
...1พงศาวดาร 29/18
นี่เป็นคำอธิษฐานของดาวิด ซึ่งห่วงใยอิสราเอล..และได้ทูลต่อพระเจ้า


แต่น่าเสียดาย ที่พระเจ้าไม่ทรงที่จะ บังคับ จิตใจใคร
และอิสราเอลก็หลงไปจากทางของพระองคครั้งแล้วครั้งเล่า และก็พบกับหายนะมากมาย

เช่นกัน


พระเจ้าก็ไม่บังคับจิตใจเราที่เรียกว่าคริสเตียน


พระองค์แค่ทรงเตือน และทรงสอน

อยู่ที่ว่าเราจะฟังพระองค์รึเปล่าเท่นั้นเอง...
..และวันที่เราลำพองว่าเราเข้มแข็งแล้วนั่นล่ะ ..
...จะเป็นเวลาที่เราจะพลาด
+





ขอพระเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์คุ้มครอง
อาเมน




 

Create Date : 13 มกราคม 2550   
Last Update : 13 มกราคม 2550 4:56:34 น.   
Counter : 547 Pageviews.  

เป็นคริสเตียนจะต้อง...

เป็นคริสเตียนจะต้อง...
นี่นะคะนักเรียน
ถ้านักเรียนไปเจอพวกคริสเตียนที่ไหนนะคะ


"ฟันธงเลยค่ะ"

หมายหัวตราหน้าไว้เลยนะคะ
ว่าพวกเนี้ยย เนี่ย จาต้องยังงี้ค่ะ...

v
v

v
v

ตกวิชาวิทยาศาสตร์

ตกประวัติศาสตร์


ตกคณิตศาสตร์

ตกชีววิทยา

ตกฟิสิกส์
ตกเคมี

ตกธรณีวิทยา

...ต้อง...

ไม่รู้จักกฏแห่งกรรม

ไม่รู้จักปฏิจจสมุปบาท


...ต้อง...

ใจดำ

ใจจืด

ไร้เมตตา

ชอบฆ่าสัตว์

ชอบเกทับ


....ต้อง...

เชื่อคนง่าย


ใจอ่อนแอ

ไม่รู้จักคิด

คิดเองไม่เป็น...





เหรอ....ฮะ....


อ่อ..


ที่
สำ
มะ
คัน

ต้อง

โง่ด้วยนะตะเอง....


เหวอ...


..

และผมก้เป็นคริสเตียน




 

Create Date : 31 ธันวาคม 2549   
Last Update : 31 ธันวาคม 2549 6:46:09 น.   
Counter : 355 Pageviews.  

"ลำดับความสำคัญ"

"ลำดับความสำคัญ"



ลูกา10/38-42

เมื่อพระองค์กับเหล่าสาวกกำลังเดินทางไปพระองค์จึงทรงเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อมารธาต้อนรับพระองค์ไว้ในเรือนของเธอ..

มารธามีน้องสาวชื่อมารีย์และมารีย์ก็นั่งใกล้พระบาทพระเยซูฟังถ้อยคำของพระองค์ด้วย..

"แต่มารธายุ่งในการปรนนิบัติมากจึงมาทูลพระองค์ว่า
พระองค์เจ้าข้าพระองค์ไม่สนพระทัยหรือซึ่งน้องสาวของข้าพระองค์ปล่อยให้ข้าพระองค์ทำการปรนนิบัติแต่คนเดียวขอพระองค์สั่งเขาให้มาช่วยข้าพระองค์"..

แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบเธอว่า
"มารธามารธาเอ๋ยเธอกระวนกระวายและร้อนใจด้วยหลายสิ่งนัก..

สิ่งซึ่งต้องการนั้นมีแต่สิ่งเดียวมารีย์ได้เลือกเอาส่วนดีนั้นใครจะชิงเอาไปจากเธอไม่ได้.. "

.....

มัทธิว 6:33
แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อนแล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้..


กิจการ 5:38-39
.......เพราะว่าถ้าความคิดหรือกิจการนี้มาจากมนุษย์ก็จะล้มละลายไปเอง.. แต่ถ้ามาจากพระเจ้าท่านทั้งหลายจะทำลายเสียก็ไม่ได้เกลือกว่าท่านกลับจะเป็นผู้สู้รบกับพระเจ้า..



...........


เวลานี้หรือบางครั้งเราอาจจะกำลังสาละวนอยู่กับเรื่องราวมากมาย งานการเรียน ความรัก และเรื่องสารพัด

ถ้าฉันไม่นู่นนี่ ฉันต้องไม่นี่นั่นแน่ๆ
ถ้าฉันไม่รีบนี่นั่น ฉันคงไม่ได้นู่นนี่แน่ๆ



พระเจ้าไม่ได้ประสงคืให้เราเป็นคนสาละวนเหมือนหนูติดจั่น
พระเจ้าทรงสอนให้เรารู้จักที่จะแยกแยะว่า อะไรสำคัญกว่าอะไร
อะไรควรต้องทำก่อน อะไรควรปล่อยไว้


แต่แน่นอนว่า ลำดับความสำคัญในสายพระเนตรของพระองคื
ไม่ได้เหมือนอย่างที่มนุษย์คิดกัน

คงเป้นเรื่องเสียเปล่าและไม่ได้อะไรขึ้นมากับเวลาหรือสิ่งที่ทุ่มเทลงไป หากนั่นไม่ใช่น้ำพระทัย
คงเป้นพระพรและการอัสจรรยืมากมาย หากเราจะแค่รู้ว่าพระองค์ประสงคืให้เราทำอะไรก่อน....



......




มัทธิว 13:45-46

อีกประการหนึ่ง
แผ่นดินสวรรค์เปรียบเหมือนพ่อค้าที่ไปหาไข่มุกอย่างดี..

และเมื่อได้พบไข่มุกเม็ดหนึ่งมีค่ามากก็ไปขายสิ่งสารพัดซึ่งเขามีอยู่ไปซื้อไข่มุกนั้น..



...
เรารู้หรือยังว่าอะไรกันแน่ที่มีค่าและสำคัญที่สุดจริงๆสำหรับชีวิตเรา

ถ้าเรารู้
เรายอมขายอะไรบ้างเพื่อแลกกับการได้สิ่งนั้นมา


...

เรารู้หรือยังว่า
"อะไรสำคัญที่สุด"



ขอพระเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์อวยพระพรเราครับ
อาเมน




 

Create Date : 31 ธันวาคม 2549   
Last Update : 31 ธันวาคม 2549 6:42:52 น.   
Counter : 317 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  

เดียวดาย9อักษร
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add เดียวดาย9อักษร's blog to your web]