32Then you will know the truth, and the truth will set you free." 32 你 們 必 曉 得 真 理 , 真 理 必 叫 你 們 得 以 自 由 。

"ความจำเป็น"ของพระเจ้า

บิดาของข้าพเจ้า สรางพระนิเวศสำหรับพระนามของพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของพระองค์ไม่ได้
เพราะการสงครามซึ่งศัตรูของพระองค์ ล้อมรอบพระองค์อยู่

จนกว่าพระเจ้าจะทรงปราบเขาเสียให้อยู่ใต้ฝ่าพระบาทของพระองค์
......1 พงศ์กษัตริย์ 5/3

------
บ่อยครั้งในการประกาศ หรือในการอธิบายเรื่องราวของพระเจ้าให้เด็กๆคริสเตียนฟัง

จะมีคำถามว่า ทำไม ทำไม ทำไม และทำไม เต็มไปหมด
ในหลายๆคำถามยอดฮิท อาจสามารถตอบได้ ด้วยคำคำนี้

ถึงแม้พระเจ้าเป็นพระผ้สร้าง ไม่มีอะไรเกินพระหัตถพระองค์
แต่
พระเจ้า ก็มี "ความจำเป็น" ของพระองค์เช่นกัน

พูดเช่นนี้เหมือนเป็นการจำกัดความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ปล่าวครับ ไม่ใช่อย่างนั้น

ยกตัวอย่างอย่างนี้ครับ
เคยดูหนังแอคชั่นมั้ยครับ
มันจะมีบางกรณี ที่พระเอกจำต้องพุดว่า
"ข้าไปคนเดียวดีกว่า ท่านไปช่วยก้จะเป็นภาระข้าปล่าวๆ"

นั่นกระมังที่เรียกว่า "ความจำเป็น" ของพระเจ้า

หรือบางกรณี
พระเอกไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายที่รุนแรงได้ในการกำจัดปิศาจ เพียงเพราะว่า แถวๆนั้นมีชาวบ้านตาดำๆยืนทำตัวเป็นไทยมุงอยู่....

นี่ก็คงพอจะเรียกได้ว่า "ความจำเป็น" ของพระเจ้า
---

เราควรที่จะกลับมาทำความเข้าใจก่อนว่า
แท้จริงแล้วพระเจ้ามี"ความจำเป็น"อะไรหรือ ที่จะต้องทำอะไรเพื่อเรา มีความจำเป็นอะไรที่ต้องแคร์ว่าเราอาจได้รับผลกระทบจากการทำลายพวกวิญญาณชั่วให้สิ้นซาก

มีความจำเป็นอะไรที่ต้องรักษาเราไว้ มีความจำเป็นอะไรที่ต้องให้โอกาสเรา ในการกลับใจใหม่

คำตอบคือ "ไม่มี"

แต่พระเจ้ากลับเห็นว่า
สวัสดิภาพฝ่ายวิญญาณของพวกเรา คือ "ความจำเป็น" ของพระองค์ ที่พระองค์ ไม่สามารถทำอะไรได้สะดวกนัก
พระองค์จำต้องยอมถูกด่าว่า ยอมฟังเราบ่นซ้ำๆซากๆ

ขอบคุณพระเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า พระเยซูคริสต์ที่รับโทษแทนเราไปหมดแล้วเรียบร้อยเมื่อสองพันกว่าปีก่อน
ถ้าไม่ใช่โดยพระองค์ แค่คำบ่นด่าทอพระเจ้าโดยไร้สติของพวกเรา ...พวกเราก็พินาศแล้ว....

-----
คำถามซ้ำๆซากของเด็กๆ เช่น ถ้าอย่างนั้นทำไมพระเจ้าไม่ปราบๆซาตานซะล่ะ หมดเรื่องไป
นั่นคือหนึ่งในความจำเป็น
การปราบซาตาน คือการ "เผาล้างบาง" แน่นอนมนุษย์ตาดำๆที่ไม่รู้เรื่องต้องโดนร่างแหไปด้วย เพราะส่วนนึงของมันก็แฝงอยู่ร่วมกับวิญญาณของนุษย์นั่นเอง

แต่มิได้หมายความว่า ความจำเป็นนี้ของพระเจ้า จะไม่มีจำกัดเวลา
เวลานั้นมาถึงแน่นอน

เวลาที่ชาวบ้านไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จะต้องลงในไฟนรกนิรันดิ์ ร่วมกับซาตาน

เด็กๆมักจะถามว่า เวลานั้นคือเมื่อไหร่
"ไม่ทราบครับ"

มนุษย์หน้าไหนก็ตามที่บอกเวลานั้นได้ ไอ้หมอนั่นก็ไม่ได้อยู่ในพระเจ้าแล้วครับ
เพราะพระเจ้าบอกแล้วว่า

เวลานั้นมาถึงจะไม่มีใครรู้ จะไม่มีใครเตรียมรับมือได้
เวลานั้นจะมาอย่างขโมย

คำถามยอดฮิตอีกอันของเด็กๆคือ
ทำไม พระเจ้ายิ่งใหญ่ขนาดนั้น ทำไมไม่ทำให้ทุกคนเชื่อๆในพระองค์ซะล่ะ ง่ายกว่าการประกาศโดยพวกคริสเตียอีก
มีคำตอบสองแนวทางที่น่าสนใจ คือ
1-พระองค์ทำไม่ได้ หรือ..
2-พระองค์ไม่ทำ

ทำความเข้าใจก่อนว่า พระเจ้า ลำเอียงไม่ได้เลย พระองค์ ตรง มากๆ สัตย์ซื่อมากๆ เที่ยงธรรมมากๆ
ยกตัวอย่างง่ายๆ
มนุษย์ที่ทำบาป ซึ่งพระองคืประสงค์จะอภัยโทษให้ แต่อภัยให้ไม่ได้ ถ้าไม่มีการชดใช้

คิดแบบมนุษย์ๆ ง่ายกว่าเยอะ แค่ลำเอียง อภัยโทษโดยไม่มีการชดใช้ ....จบ...

และนี่ก็คือ "ความจำเป็น" อีกอย่างนึงของพระเจ้า
พระองค์ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะพระองค์ เที่ยงธรรมมากๆ ผิดคือผิด ถูกคือถูก
แต่เพราะพระเจ้าไม่ใช่ระบบอัตโนมัติ

เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จึงได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์เพื่อผู้ที่เชื่อและวางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศและมีชีวิตนิรันดิ์

แค่การที่พระองคจะอภัยโทษให้ใครซักคน พระองค์กลับถึงต้องขนาด ลงมาในสภาพ พระเยซุคริสต์ ผู้เป็นทั้งมนุษย์และเป็นพระเจ้า เพื่อรับโทษที่ตัวเองเป็นผู้ลงโทษ แทนมนุษย์
....นี่ความจำเป็นอีกอย่างนึงของพระเจ้า....

กลับมาที่คำถามว่า ทำไมพระเจ้าไม่ทำให้มนุษย์เชื่อพระองคืซะก็หมดเรื่อง

มนุษย์มีวิญญาณส่วนนึงของพระเจ้า นี่ล่ะครับปัญหา
คร้งที่พระเจ้าสรางมนุษย์ขึ้นมา พระเจ้าได้ประทานส่วนนึงของพระองค์ให้กับมนุษย์ ซึ่งทำให้มนุษย์มีสภาพเป็นรองแค่พระเจ้า และเหนือกว่าเทพเจ้าทุกตัว แม้แต่ลูซเฟอ

เจตนาอิสระ ที่มีในมนุษย์ ซึ่งพระเจ้าประทานให้ตั้งแต่เริ่มต้น ...จำเป็นต้องมีสิ่งนี้ ไม่เช้นนั้นมนุษย์ จะ "รักไม่เป็น"

และสิ่งนี้เมื่อพระเจ้าให้แล้ว ก็คือให้
พระองค์ให้เกียรติสิ่งนี้ที่พระองค์ประทานให้มนุษย์
พระองค์จะไม่ก้าวก่าย
เหตเพราะว่าพระองคเที่ยงธรรมมากๆ

แทนที่พระองค์จะบุกเข้าไปในหัวใจของใครต่อใครก็ได้ซึ่งพระองค์ทรงสรางและเป็นเจ้าของเค้า
พระองค์กลับต้องถ่อมพระองค์เอง

เป็นแค่ คนเคาะประตู ที่"รอคอย" เจ้าของบ้านออกมาเปิดประตูต้อนรับ....

ควาจำเป็นที่เพียงเพราะว่า
พระองค์เที่ยงธรรม และไม่เที่ยงธรรมไม่ได้เพราะพระองค์คือความเที่ยงธรรม และพระองค์คือพระเจ้า
และพระเจ้าจะไม่เป็นพระเจ้าก็ไม่ได้

----
นี่เป็นเพียงส่วนนึงของความจำเป็นของพระองค์ ที่พระองค์จำเป็น เพราะเพียงเห็นแก่มนุษย์

เพราะว่าพระองค์เป็น ความรักด้วย
และพระองค์จะไม่เป็นพระองค์ก็ไม่ได้

-----

ไม่ใช่เรื่องอะไรที่เราจะมานั่งทำตัวเหมือนประชาชนที่ออกเสียงเลือกตั้งได้ ว่าต้องการผู้ปกครองผู้นี้หรือไม่

เราออกความเห็นได้ว่า เราจะไม่เอาพระเจ้า
แต่เราจะปฏิเสธความจริงเรื่องพระองค์ไม่ได้ เราจะบอกว่าไม่มีพระองคืไม่ได้ เพราะความจริงคือพระองค์ทรงดำรงอยู่

ต่อให้มีคนฉลาดๆออกมาสรางแนวคิดเพื่อหักล้างเรื่องของพะรองค์มากแค่ไหน ...แต่ความจริงก็คือความจริง

พระองค์เป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์
ไม่ว่าใครจะเชื่อหรืออยากยอมรับหรือไม่ก็ตาม

ไมว่าใครจะยอมรับ ความจำเป็นของพระองค์หรือไม่ก็ตาม
แต่สุดท้าย ก็ไม่มีใครหนีความจริงพ้น

เรามีสิทธิที่ยอมรับหรือไม่ยอมรับ
แต่เราไม่มีสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลง "ความจริง"
ไม่ว่าในสายตาเรามันจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม

---------
แต่ว่า....

พระเจ้าตรัสว่าเพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้าเป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพไม่ใช่เพื่อทุกขภาพเพื่อจะให้อนาคตและความหวังใจแก่เจ้า..

.......เยเรมีย์ 29:11

ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2549   
Last Update : 28 สิงหาคม 2549 9:38:30 น.   
Counter : 356 Pageviews.  

พระเจ้าที่ถูกสร้างโดยมนุษย์

เพราะว่า....เมื่อข้าพเจ้าเดินทางมา
สังเกตดูสิ่งที่ท่านนมัสการนั้น ข้าพเจ้าได้พบแท่นแท่นหนึ่ง
มีคำจารึกไว้ว่า แด่พระเจ้าที่ไม่รู้จัก
เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงมาประกาศและแสดงให้ท่านทั้งหลายทราบถึงพระเจ้าที่ท่านไม่รู้จักแต่ยังนมัสการอยู่..
......กิจการ 17:23

----

"พระเจ้าถูกสร้างขึ้นมา..."

นี่เป็นแนวคิดแนวคิดนึง ที่ฮิตมากๆ
จำได้เคยเรียนสมัยชั้นม.ต้น วิชาอะไรจำไม่ได้แล้ว

ในอดีตกาล ถ่ามท้ามมมมม..... (นึกภาพแบบไตเติ้ลสตาร์วอส์)

มนุษย์ยังโง่อยู่ มนุษย์ไม่เข้าใจฟ้าร้องฟ้าผ่า
มนุษย์ไม่เข้าใจไฟ มนุษย์ไม่เข้าใจน้ำ

มนุษย์ไม่เข้าใจดิน

เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ...อะไรยังไม่เข้าใจ ต้องระวังไว้ก่อน
หนักเข้าไปอีก...

ไม่ใช่แค่ระวัง ...ซูฮกมันเลยละกัน

กราบละคราบบบบ อย่าทำอะไรผมเลยน้า ยอมเป็นลูกน้องกะด้ายยยย

..และแล้ว ก้เกิดมี
เทพเจ้า แห่งฟ้าผ่า
เทพแห่งน้ำ แห่งลม แห่งดิน แห่งไฟ...

สารพัดจะถุกกราบไหว้ และอุปโลกขึ้นมา เป็น "พระเจ้า"

...กาลเวลาผ่านไป หลายพันปี
มนุษย์ฉลาดขึ้นบ้าง มนุษย์เริ่มรู้ว่า "ไฟ" เกิดขึ้นได้อย่างไร
เทพเจ้าแห่งไฟ ...เลยสูญพันธุ์

มนุษย์เริ่มรู้ว่าฟ้าผ่า เกิดจากอะไร ..เทพฟ้าผ่า เลยสูญพันธุ์

แต่

ก็เกิดเทพตัวใหม่ๆขึ้นมา
มีตัวที่เรียกว่า "เงิน"
มนุษยชาติหลายพันล้านคน กราบไหว้บูชามันให้เจ้านาย ตรากตรำทำงาน รับใช้มัน ..และเรีบกมันว่า "เงินคือพระเจ้า"

บางคนให้ความเห็นว่า ถ้ามีมันมากๆเข้า คุณจะสามารถทำตัวเป็น พระเจ้าได้เลย
----
ในบางองค์กร ผู้บริหารสอนพนักงานว่า
"ลูกค้าคือพระเจ้า"

เพาะลูกค้าคือคนที่จะประเคนเงินซึ่งก็คือพระเจ้าเหมือนกัน ให้คุณ
ดังนั้น

จงเห็นลูกค้าดั่งพระเจ้าของคุณ และลูกค้าก็จะยอม ให้เงินคุณ ..มากๆ

และเมื่อคุณมีเงินซึ่งคือพระเจ้ามากๆ จากลูกค้าซึ่งก็คือพระเจ้า ..ในที่สุด ..คุณก็จะกลายเป็นพระเจ้าได้

เป็น ก้อดฟาเธ่อร์.....

จะมีคนมากมายกราบไหว้คุณ คุณอยากได้อะไรทางวัตถุ แทบจะได้มาทั้งหมด เว้นแต่บางอย่างที่มันโอเว่อเกินไป

..และแล้ว โลกใบนี้ที่มนุษย์ฉล้าดฉลาดละ เลิกไหว้ไฟ ไหว้ดินละ
...ก็กลายเป็นพระเจ้ากันเกลื่อนเมือง อย่างสนุกสนาน

-----------
...แล้วนิยายอิงเรื่องจริงเรื่องนี้ก็จบลง......


........
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
พระคัมภีร์ที่ยกมาตอนต้นนั้น
จำได้คร่าวๆ ว่าเป็นตอนที่เปาโลไปถึงโรม และได้พบเจอรูปเคารพมากมาย ของบรรดาสารพัดเทพเจ้า ..มากขนาดที่ว่า ....มีกระทั่งแท่นบูชาว่างๆ ที่ไม่มีรูปปั้น ที่เขียนไว้ว่า “แด่พระเจ้าที่ไม่รู้จัก”

ชาวกรีกซึ่งได้ชื่อว่าฉลาดมากๆในด้านปรัชญา
ได้สร้างและอุปโลกเทพเจ้าขึ้นมามากมาย .. “จะด้วยอะไรไม่รู้” ..แต่พวกเค้า “กันเหนียว”
ถึงขนาดตั้งแท่นบางแท่นไว้ สำหรับ “พระเจ้าที่ไม่รู้จัก”

พระเจ้าพระผู้สร้าง เป็นพระเจ้าที่คนไม่ค่อยรู้จัก.....

บ่อยครั้ง เมื่อพูดถึงพระเจ้า เรามักจะเข้าใจในหลายๆมุมมอง ต่างคนต่างก็มีพระเจ้าของตัวเอง
หรือที่ผมเคยเรียกว่า “Custom god” สมัยที่ผมยังไม่เข้าใจ ว่าพระเจ้าพระผู้สร้าง คือผู้ใด
...ไม่น่าแปลกใจ ถ้าคนที่ไม่รู้จักพระเจ้า มักจะเผอเรอ ที่จะมองพระองคในทางไม่ดี ..หรือมองว่าพระองค์เป็นแค่สิ่งที่ถูกอุปโลกขึ้นมา อย่างในสมัย ที่มีการบูชาไฟด้วยความกลัว และไม่มีความเข้าใจ.....

------
เจ้ากลับตาลปัตรเสีย
จะถือว่าช่างปั้นเท่ากับดินเหนียวและสิ่งที่ถูกสร้างจะพูดเรื่องผู้สร้างมันว่า"เขาไม่ได้สร้างข้า"หรือสิ่งที่ถูกปั้นขึ้นจะพูดเรื่องผู้ปั้นมันว่า"เขาไม่มีความเข้าใจอะไรเลย"อย่างนี้หรือ..
.......อิสยาห์ 29:16
*************
เพราะว่าเมื่อข้าพเจ้าเดินทางมาสังเกตดูสิ่งที่ท่านนมัสการนั้นข้าพเจ้าได้พบแท่นแท่นหนึ่งมีคำจารึกไว้ว่าแด่พระเจ้าที่ไม่รู้จักเหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงมาประกาศและแสดงให้ท่านทั้งหลายทราบถึงพระเจ้าที่ท่านไม่รู้จักแต่ยังนมัสการอยู่..
พระเจ้าผู้ทรงสร้างโลกกับสิ่งทั้งปวงที่มีอยู่ในนั้นพระองค์ทรงเป็นเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกมิได้ทรงสถิตในปูชนียสถานซึ่งมือมนุษย์ได้กระทำไว้..
พระองค์มิจำต้องให้มือมนุษย์มาปรนนิบัติดังว่ามีความต้องการสิ่งหนึ่งสิ่งใดเพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานชีวิตและลมหายใจและสิ่งสารพัดแก่คนทั้งปวงต่างหาก..
กิจการ 17:23-25
***********
บ่อยครั้ง เราไม่เพียงบอกว่าพระเจ้าไม่ได้สร้างเรา ..แต่กลับบอกถึงขนาดว่า เราสร้างพระเจ้า.......
คำพูดนี้ ก้ไม่เชิงว่าจะไร้สติซะทีเดียว

เพียงแต่ “ยังไม่รู้” มากกว่า
เป็นเรื่องง่ายถ้าเราจะคิดว่า พระเจ้าถูกสร้างโดยมนุษย์ หรือจริงๆ ใช้คำว่า ถูกรังสรรค์เรื่องราวโดยมนุษย์น่าจะเหมาะกว่า (หรือที่มีคนพยามจะให้หลักฐานว่า ไบเบิ้ลเป็นเพียงนิยาย) ....เพราะถ้าใช้คำว่าสร้าง อาจหมายถึงการที่เค้าได้เห็นพระเจ้ากับตา แล้วบอกว่าสร้างโดยมนุษย์ ..ซึ่งมันก็ขัดแย้งมากๆ .....เพราะคนที่เห็นมากับตาสัมผัสมากับมือ คงไม่มีใครกล้าอ้างได้อีกว่า พระเจ้าถูกสร้างโดยมนุษย์ ...ดังนั้นคำว่าสร้างจึงไม่สมเหตสมผลนัก ใช้คำว่าแต่งขึ้นมา จะเหมาะกว่า
.........


ฉะนั้น มนุษยที่อ้างได้ว่า พระเจ้า เป็นเพียงเรื่องที่คิดกันขึ้นมาเอง ...
..ก็คือคนที่ไม่เคยเจอพระเจ้า

ฉะนั้น ...เช่นกัน ... เมื่อท่านเจอพระเจ้ากับตัวท่านเอง ....แนวคิดเช่นนั้นก็จะไร้สาระและกลายเป็นเรื่องตลกทันที

....ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ใครจะมองว่าพระเจ้าถูกปั้นแต่งขึ้นมา เพราะครั้งนึงผมก็เคยคิดอย่างนั้น
....ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ใครจะมองว่าคนที่เชื่อเรื่องพระเจ้า ..นั้นโง่
....และ คนที่เคยสัมผัสพระเจ้า ก็ไม่แปลกใจ ...ถ้าจะมีคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้า มองว่าเค้าโง่.....

สมเหตสมผลดีครับ....

*********

ถามว่าเทพเจ้าที่เกิดจากความกลัวและความเข้าใจ ในธรรมชาติ มีมั้ย... มีครับ
แต่น่าสนใจในแง่ที่ว่า ...อันที่จริงแล้ว ก็ไม่เคยมีใครมีประสบการณ์กับเทพเจ้าจำพวกนั้น ..เช่นกัน....

ถามว่าเป็นไปได้มั้ย ที่พระเจ้าพระผู้สร้างจะเป็นแค่นิยายอีกเรื่องนึง ตามกระบวนการการกราบไหว้สิ่งที่เหนือความเข้าใจ ...ก็เป็นไปได้ครับ
“แต่”
พระเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์..มีคนมากมาย มีประสบการณ์ตรง กับพระองค์ ..อย่างตรงกันโดยไม่ได้นัดหมาย ...

ฉะนั้น การจะเอาพระเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์ ไปเหมารวมกับพระเจ้าในแบบอื่น อย่างการบูชาเทพเจ้าแห่งไฟ หรืออะไรเทือกๆนั้น .... ฟังดูไม่ค่อยสมเหตสมผลเท่าไหร่....

ขอพระเจ้าคุ้มครองครับ




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2549   
Last Update : 28 สิงหาคม 2549 9:38:05 น.   
Counter : 407 Pageviews.  

หัวใจเด็กๆกับความถ่อมใจ และเติบโตฝ่ายวิญญาณ

เคยดูหนังเรื่องนึง finding the neverland (ถ้าจำชื่อไม่ผิดนะ)

เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ที่แต่งนิทานเรื่อง ปีเตอร์แพน รับบทโดย จอนนี่เดป



หลักๆคิดว่าที่ได้จากเรื่องนี้คือ

ไม่ว่าจะอย่างไรเราก็ยังเป็นเด็กน้อยวันยังค่ำ ไม่ว่าเราจะพยามทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ยังไง จะพยามทำตัวยุ่งๆด้วยธุรกิจมากแค่ไหน จะมีหรือไม่มีภาระรับผิดชอบก็ตามที ไม่ว่างานอดิเรกของเราตอนอายุ30จะเป็นการแข่งมอเตอร์ไซ ชกมวย ตีกอล์ฟ ออกงานสังคมหรูๆ ช้อบปิ้งเพื่อโยนเงินลงถังทีละหมื่นๆ หรืออาจจะเป็นแค่นั่งเล่นตุ้กะตุ่นตุ้กตาก็ตาม ....ในความเป็นเด็กพวกเราทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่มีใครปิดซ่อนมันได้



ไม่ว่าสายตาอย่างมนุษย์จะมองว่าคนคนนั้นเป็นผู้นำประเทศหรือเป็นแค่ครูพละโรงเรียนอนุบาลก็ตามที ...ในความเป็นเด็กแล้วเหมือนกันทุกคน



...

ในหนังเรื่องนั้นจอนนี่เดปแสดงเป็นผู้สร้างปีเตอแพน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักโต มักชอบเล่นอะไรแบบเด็กๆ เขาไม่เสแสร้งแกล้งทำเป็นผู้ใหญ่ด้วยการพูดจายักคิ้วหลิ่วตา พูดพลางยิ้มวางมาดพลาง ..เค้าใสซื่อ และไม่มีพิษมีภัยเหมือนเด็กๆ

เคทวินซเลทแสดงเป็นแม่ม่ายลูกติด ซึ่งหัวใจเธอเป็นเด็กน้อยคนนึงเท่านั้นอย่างที่มนุษยทุกคนเป็น แต่เธอปฏิเสธเสมอมา เพราะด้วยภาระรับผิดชอบของเธอต่อลูกๆ เพราะอะไรหลายๆอย่าง ทำให้เธอต้องแสร้งเป็นผู้ใหญ่ปลอมๆซึ่งไม่มีจริง ที่เต็มไปด้วยความทุข ...จอนนี่เดปในเรื่องได้ปลดปล่อยหัวใจอันแท้จริงของเธอออกมาในช่วงก่อนวาระสุดท้ายของเธอ.... เธอได้กลับสู่ความจริง คือกลับเป็นเด็กๆที่ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำว่าโตกว่าลูกๆของเธออีกต่อไป

....ความจริงที่ว่าเราทุกคนเป็นเด็กวันยังค่ำ เกิดยันตาย...

-------



ครั้งนึงพระเยซูเรียกเด็กเล็กๆมาคนนึงเพื่อสอนบรรดาอัครทูตว่า

ถ้าท่านไม่ทำตัวเป็นเด็กเล็กๆ ท่านจะเข้าแผ่นดินสวรรค์ไม่ได้



พระเยซูตรัสบอกแก่คนทั้งหลายเสมอมาว่า

เรามาเพื่อปรนนิบัตรับใช้ มิได้มาเพื่อให้ผู้ไดรับใช้



ในอาหารมื้อสุดท้าย พระเยซูท่านน้อมกายลง ล้างเท้าให้เหล่าสาวก



ในเส้นทางสู่กางเขน พระเยซูถูกประณามหยามเหยีด ทั้งโบยตี ทุบ ฟาด ทั้งโดนถ่มน้ำลายใส่ สารพัดการหลู่เกียรติที่มนุษย์ยุคนั้นจะคิดออก พวกเขาได้กระทำต่อพระเยซูทั้งหมด ..และพระเยซูท่านยอมรับสิ่งเหล่านั้นไว้ทั้งหมด

และบนกางเขน พระองค์ร้องต่อพระบิดาว่า พระองค์เจ้าข้าโปรดอภัยให้พวกเขา พวกเขาไม่รู้



----



เด็กเล็กๆคืออะไร

เด็กเล็กๆสามารถมีความสุขไปวันๆได้ โดยไม่เคยทุขเพราะเกียรติ ไม่เคยทุขเพราะการพ่ายแพ้

เด็กเล็กยิ่งโตฝ่ายเนื้อหนัง ฝ่ายสมอง เค้าก็ยิ่งถดถอยฝ่าบวิญญาณ เมื่อบาปแรกเข้ามาในสมองเค้า เค้าได้กลายเป็นทาสของไอ้จอมโกหกทันที



ยิ่งโตขึ้นๆ บาปก็มากขึ้น ความละอายต่อหัวใจบริสุทธิ์ก็มากขึ้น มากจนในที่สุดต้องหลบหนี

เหมือนเมื่อครั้งที่อดัมและเอวาวิ่งหลบพระเจ้า เพราะสำนึกว่าตนเปลือยกายอยู่

ใครเล่าบอกว่าพวกเค้าเปลือยกายอยู่ ...ไม่มีเลย

ใจพวกเค้าเป็นทุขโดยไม่มีเหตุ ....เพราะเชื้อบาปแห่งการไม่เชื่อฟัง

--



มนุษย์เมื่อกลายเป็นทาสมาร ก็พยามดิ้นรนหาสิ่งต่างๆมาปกปิดหัวใจของตัวเองให้มิดชิด มิดชิดแม้แต่กับการรับรู้ของตนเอง เพื่อที่พวกเค้าจะสามารมีความกล้าพอ จะเดินออกไปที่ถนนเพื่อดำเนินชีวิตต่อไปได้

น่าเศร้า.... ที่หนึ่งในนั้นที่พวกเค้าเลือกมาไว้เพื่อปกปิดคือ....

ความหยิ่งผยอง ถือตน มั่นใจในตนเอง ศักดิ์ศรี การยกตนข่มผู้อื่น การพยามเป็นที่ยอมรับ การเป็นผู้ชนะ การเป็นผู้ได้รับการปรนนิบัติ การเป็นผู้มากด้วยทรัพย์ การเป็นผู้มากด้วยความสุขที่สรรหาเอาจากสิ่งโสโครก



....ในที่สุดมนุษย์นั้นก็กราบซาตานเป็นพ่อโดยไม่รู้ตัว ลืมพระเจ้าผู้สร้างพวกเค้าไว้ข้างหลังที่พวกเค้าจะไม่หันมามองอีกเลย ....เพราะโดยเนื้อแท้นั้น จิตส่วนลึกพวกเค้ายอมรับโดยสดุดี ว่าพวกเค้าโสโครกเกินไปที่จะแม้แต่คิดถึงพระเจ้าผู้บริสุทธิ์...



แล้วมนุษย์นั้นก็กลายเป็นผู้ใหญ่ทางโลก แต่กลายเป็นผู้พัฒนาการถดถอยฝ่ายวิญญาณ จนแทบจะตายลงฝ่ายวิญญาณ



การ “กลับใจใหม่”

คือหนทางเดียวที่จะนำเรากลับมา สู่พระเจ้าบริสุทธิ์

คือหนทางเดียวที่เราจะตายลงฝ่ายโลก และเริ่มเติบโตขึ้นอีกครั้งฝ่ายวิญญาณ

คือหนทางเดียวที่เราจะกล้าและพร้อมจะให้โลกเห็นว่าเราเป็นเพียงเด็กน้อยที่อ่อนแอคนนึง เพื่อกลับสู่ความจริงว่า เราเป็นเด็กน้อย ที่ต้องการดูแลเสมอ ในสายตาพระเจ้าพระผู้สร้าง



มีมนุษย์มากมายที่ไม่ยอมกลับใจ ไม่ว่าจะด้วยเหตผลอันได หรืออาจจะเพราะเขายังถือไว้ซึ่งสิ่งสารพัดของผีมารซาตาน ทั้งสิ่งโสโครกลามก ทั้งสิ่งอันชั่วร้าย ทั้งสิ่งอันเป็นรูปเคารพที่ใจเค้ายังฝักใฝ่ และมองไม่เห็นเสียทีว่าสิ่งเหล่านั้น คือเครื่องมือที่ซาตานสร้างไว้ เพื่อบงการพวกเค้าอย่างลับๆ

มีข้อความในพระคัมภีร์มากมาย ที่ดลใจให้คริสเตียน ทำลาย สิ่งเหล่านี้ให้สิ้น เพื่อตัดสัมพันธ์กับซาตานโดยสมบูรณ์



--

เด็กน้อยไม่คลั่งดารา เด็กน้อยไม่หลงไปกับสิ่งลามก

เด็กน้อยไม่หลงไปกับเหรียญแห่งเกียรติ เด็กน้อยมีความสุขไปวันๆ เด็กน้อยไม่จำเป็นต้องเอาชนะ

เด็กน้อยไม่ต้องวางมาด เด็กน้อยพูดจาซื่อไม่มีเล่ห์เหลี่ยม

เด็กน้อยไม่หลงไปกับศักดิ์ศรีปลอมๆที่ซาตานมันล่อพวกผู้ใหญ่ฝ่ายเนื้อหนัง

เด็กน้อยไม่ต้องแสวงหาการยอมรับที่ไหนเพื่อเติมเต็มในหัวใจ เพราะเด็กน้อยก็รู้ ก็เห็นอยู่ว่า “พ่อ” รักเค้าแค่ไหน



--



ผู้ใหญ่เวลามีอะไรมักจะขอพึ่งตัวเองก่อน วางมาด วางฉลาดจะไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร หรือถ้าขอก็จะทำเป็นสั่งว่า จงช่วยข้าพเจ้าหน่อย



เด็กน้อยเวลามีปัญหา ก็มักจะพูดว่า พ่อจ๋าๆๆๆ ช่วยด้วยยยย

....ในการขอความช่วย สัญญาณนั้นแบบไหนจะส่งไปได้แรงกว่ากัน...



เสียงไหนจะมีความน่าจะเข้าไปช่วยอย่างเร่งด่วนกว่ากัน หากแม้นว่าความวกฤตินั้นเท่ากัน

เสียงจากผู้ใหญ่นั้นเต็มไปด้วยความถือดี ว่าตนนั้นแน่ ฟังดูแล้วเขาก็พึ่งตัวเองได้ (ทั้งที่จริงๆเค้าก็จนปัญญาแล้ว)

เสียงจากเด็กน้อยต่างหาก ที่ฟังแล้วแปลบเข้าในใจ อยากจะเข้าไปช่วยเหลือ เพราะเค้าร้องออกมาด้วยจริงใจไม่มีเสแสร้ง ไม่มีการวางมาดถือตน



....



ถ่อมใจมากๆนะครับ

ให้เหมือนเด็กเล็กๆคนนึงที่ร้องขอพ่อว่าให้ช่วยหนูด้วย อย่าวางมาด อย่าถือตน อย่าวางจิตตนเสมอพระเจ้า จงยอมล้มลงเถิด อย่าฝืนยืนด้วยขาที่ไม่มีแรงนั้นอีกเลย หมอบคลานอย่างผู้ไร้ศักดิ์ศรี ก้มลงกราบต่อเบื้องพระบาทพระคริสต์เจ้า ..แล้ววอนต่อท่านด้วยน้ำตาแห่งการกลับใจว่า

“ช่วยลูกด้วย....”




 

Create Date : 26 สิงหาคม 2549   
Last Update : 26 สิงหาคม 2549 10:06:54 น.   
Counter : 731 Pageviews.  

วันที่หายไป

20 ก.ค. 48

อาทิตย์ก่อนผมอยู่เชียงใหม่ พร้อมด้วยหนังสือในมือกว่าสิบเล่มที่ขอยืมมาจากอาจารย์ และส่วนนึงอาจารย์ให้ยืมมา

หลานสาวตัวเล็กไม่สบายต้องไปนอนโรงพยาบาลเกือบอาทิตย์ และผมก็ต้องไปเฝ้า เรื่องก็เริ่มจากตรงนั้น.....



เพราะความวุ่นวายหลายๆอย่างในอาทิตย์นั้น ส่งผลให้หลายๆอย่างไม่เป็นชิ้นเป็นอัน หลายครั้งก็เสียเปล่าและซ้ำซ้อน จนในที่สุดระบบวันที่ในสมองของผมก็เสียหาย....

ตารางเวลาล่วงหน้าที่ต้องทำคือ วันอาทิตย์ที่จะถึงนั้นผมต้องไปพูดคุยกับพี่น้องที่โบสถ์ในกรุงเทพ

กะว่าเดินทางคืนวันเสาร์ ก็จะถึงเช้าวันอาทิตย์พอดี



ตารางเวลาล่วงหน้าถูกวางไว้ และการดำรงอยู่ที่เชียงใหม่เพื่อวันนั้นก็ถูกวางแผน

ผมวางวันศุกร์ไว้วันนึงที่มั่นใจว่าวันนั้นผมจะว่างมากพอที่จะเคลียเรื่องในเชียงใหม่ให้เรียบร้อย อย่างนึงที่ตั้งใจว่าจะต้องจัดการให้เสร็จในวันศุกร์คือ อ่านหนังสือนั้นให้จบ เพื่อจะได้เอาไปคืน



แล้ววันพฤหัสก็มาถึง

เพียงแต่ว่ามันไม่ใช่วันพฤหัส....



ผมพึ่งจะรู้ตัวในเย็นวันนั้น ว่าวันนั้นเป็นวันศุกร์....



วันหายไปวันนึง และเป็นวันที่วางไว้เพื่อเคลียด้วย



.............

บางทีวันที่เราคิดกันว่ามันยังมีอยู่มันอาจจะไม่มีก็ได้

การผลัดวัน และการวางใจว่าพรุ่งนี้ยังมีนั้น อันตรายไม่น้อย...



.............



ที่เชียงใหม่ได้มีโอกาสไปร่วมสามัคคีธรรมกับคริสเตียนที่โบสแห่งหนึ่ง มีถ้อยคำจากพี่ผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนยันสิ่งที่ผมคิดได้ในวันศุกร์ที่ผมคิดว่ามันเป็นวันพฤหัส



พี่ผู้ชายคนนี้เป็นนักธุรกิจ เค้าเล่าว่านานมากกว่าสิบปีแล้วที่เค้าจะจำไม่ได้ว่าเค้าฝันอะไร แต่เค้าจำได้ว่าเมื่อคืนของหลายๆวันที่ผ่านมาของชีวิต เค้าได้ฝัน

และการจำความฝันได้ครั้งแรกในรอบหลายสิบปี พี่เค้าฝันถึงพระเยซู



พระเยซูมาหา และพูดกับเค้าว่า

\"เรากำลังจะมาแล้วนะ ท่านกำลังทำอะไรอยู่\"





..............

เร่งทำเสียในวันนี้ อย่าวางใจว่าพรุ่งนี้ยังมี



\"วันนั้น\" อาจจะเป็นคืนนี้ที่เราพวกเราอาจจะเผลอหลับไปด้วยความไม่พร้อมและความประมาทก็ได้





ขอพระเป็นเจ้าโดยพระนามพระเยซูคริสต์อวยพระพรแก่พวกเราด้วยที่จะพร้อมสำหรับทุกอย่าง

อาเมน




 

Create Date : 26 สิงหาคม 2549   
Last Update : 26 สิงหาคม 2549 10:04:56 น.   
Counter : 375 Pageviews.  

access ....the secret password

เมื่อถึงวันนั้น จะมีคนเป็นอันมากร้องแก่เราว่า

พระองค์เจ้าข้า พระองคืเจ้าข้า ข้าพระองค์กล่าวพระวจนะ ในพระนามของพระองค์

และได้ขับผีออกในพระนามของพระองค์

และได้กระทำการมหัศจรรย์เป็นอันมาก ในพระนามของพระองค์มิใช่หรือ



เมื่อนั้น เราจะได้กล่าวแก่เขาว่า

เราไม่รู้จักเจ้าเลย เจ้าผู้กระทำความชั่ว

จงไปเสียให้พ้นหน้าเรา



...มัทธิว7/21-23



...........

denied...

denied....



...denied....



นึกถึงเวลาเล่นเกมที่ต้องเดาพาสเวิดอะไรสักอย่างนึงเพื่อเปิดล็อคอะไรบางอย่าง เพื่อดำเนินเรื่องต่อไป ถ้ามันไม่ใช่ก็เอาของในนั้นออกมาไม่ได้ ..ถ้าพาสเวิดเราถูกปฏิเสธ เราก็เข้าไปไม่ได้....



พูดคุยกันในฐานะที่เราท่านเป็นคริสตชน





จะเกิดอะไรขึ้นถ้า พาสเวิดไอดีของเราถุกปฏิเสธ และทำให้การสื่อสารระหว่างเรากับเบื้องบนไม่ชัดเจน

แน่ใจเหรอว่าพาสเวิดเราถูกปฏิเสธ ไม่ใช่เพราะเราเองที่กดรหัสพาสเวิดผิด!



พาสเวิดไม่ถูกต้อง?....

พาสเวิดในที่นี้ผมหมายถึงอะไร



.....

การรับใช้หรือคือพาสเวิด?



ข้าพระองค์กล่าวพระวจนะของพระองค์ ข้าพระองค์นำคนมากมายให้ได้รับความรอด ..ข้าพระองค์มีคุณความดี?

ข้าพระองค์ได้ขับผีในผู้ทุขทรมานออกเสียหลายตัว โดยอ้างพระนามของพระองค์ ...ข้าพระองค์มีคุณความดี?

ข้าพระองค์ได้กระทำการอัศจรรย์มากมาย ในพระนามของพระองค์ ....ข้าพระองค์มีความดี?



แล้วพระองค์จะกล่าวแก่เราว่า \"ไปเสียให้พ้น เจ้าผู้กระทำชั่ว\"



---



....แม้ข้าพเจ้าจะเผยพระวจนะได้

และเข้าใจความล้ำลึกทั้งปวง

และมีความรู้ทั้งสิ้น และมีความเชื่อมากยิ่งที่สุดพอจะยกภูเขาไปได้

แต่ไม่มีความรัก

ข้าพเจ้าก็ไม่มีอะไรเลย

....แม้ข้าพเจ้าจะสละของสารพัด

หรือยอมให้เอาตัวข้าพเจ้าไปเผาไฟเสีย

แต่ไม่มีความรัก

จะหาเป็นประโยชน์แก่ข้าพเจ้าไม่



......1 โครินธ์ 13/2-3



เปาโลได้บอกใบ้ว่า ...พาสเวิดคือ....\"ความรัก\"....



พาสเวิดไอดีของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน แม้ว่าความรักจะเหมือนกัน คือความรักอย่างพระเจ้า เพราะพระเจ้าคือความรัก

ความรัก ก็อธิบายคุณสมบัติของพระเจ้า

พระเจ้าเป็นผู้สัตย์ซื่อเที่ยงธรรม



เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในความรักโดยไม่มีความสัตย์ซื่อ



สัตย์ซื่อ

เมื่อรักก็ต้องสัตย์ซื่อ

ถามตัวเราเอง ถามตัวผม ถามตัวท่าน วันนี้เราโกหกอะไรพระเจ้าหรือเปล่า

ถ้ามี... พาสเวิดไอดีเราก็ถุกเปลี่ยนไปแล้วเรียบร้อย ....เราล็อคอินไม่ได้ด้วยพาสเวิดเดิม....



ใครเปลี่ยนพาสเวิด พระเจ้าเปลี่ยนหรือ....

ปล่าว...

เราเองที่เปลี่ยน

ถ้าเราเองที่เป็นผู้เปลี่นพาสเวิด ..เราก็ต้องรู้สิ ว่าพาสเวิดใหม่คืออะไร....

แล้วพระเจ้ารู้มั้ย ว่าพาสเวิดได้เปลี่ยนไป ....รู้สิ...

แล้วพระเจ้ารู้มั้ยว่าเรารู้ ...รู้สิ....



แต่บ่อยครั้งที่เราก็ยังดื้อด้านจะกดพาสเวิดเดิม ทั้งๆที่ลึกๆก็รู้อยู่ว่าเราเปลี่ยนพาสเวิดไปแล้ว

...ทำไมเราถึงไม่กดพาสเวิดใหม่?.....



ถ้าพาสเวิดคือความรัก

เมื่อมีความไม่สัตย์ซื่อ มันก็ไม่ใช่ความรัก และไม่ใช่พาสเวิดที่ถูกต้อง....



เป็นเรื่องระหว่างเราที่พยามจะล็อคอินเข้าไป และพระเจ้าผู้รอคอยให้เราล็อคอินเข้าไปหาท่านด้วยความสัตย์ซื่อ ด้วยพาสเวิดที่ถูกต้อง ที่เราก็รู้แก่ใจ...



สัตย์ซื่อ ย่อมสารภาพทุกอย่าง ไม่ปิดบัง และยอมรับความจริง ไม่ใช่พยามสร้างความจริง

พระเจ้าก็เห็นแล้วว่าเราได้เปลี่ยนพาสเวิด และพระเจ้าก็เฝ้าดูอยู่ว่า เราจะกดพาสเวิดผิดรึไม่ทั้งที่เราเองก็เป็นคนเปลี่ยนมันเอง

พระเจ้าไม่ได้ให้โอกาสในการกดแค่ครั้งเดียว



พาสเวิดที่คลิ้กกันพอดีเป้ะ ก้อยู่ตรงหน้านั่นล่ะ

เราก็รู้ ไม่ใช่ไม่รู้

แต่อย่าลืมว่า พาสเวิดคือ \"ความรัก\"

จะเป็นความรักได้อย่างไร ถ้ามีความไม่สัตย์ซื่อปนอยู่



ขอพระเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า โปรดให้ข้าพระองค์ผู้อ่อนแอทั้งหลาย มีความกล้าหาญ ที่จะฉีกหัวใจและความคิดของข้าพระองค์ออกเป็นธุลี เพื่อกองลงตรงหน้าพระบาทของพระองค์



อาเมน




 

Create Date : 26 สิงหาคม 2549   
Last Update : 26 สิงหาคม 2549 10:03:23 น.   
Counter : 319 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  

เดียวดาย9อักษร
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add เดียวดาย9อักษร's blog to your web]