"มาตรฐานใคร?" "มาตรฐานใคร?" .... โรม 10:2-4 ข้าพเจ้าเป็นพยานให้เขา ว่าเขามีความกระตือรือร้นที่จะปรนนิบัติพระเจ้าแต่หาได้เป็นตามปัญญาไม่.. เพราะว่า เขาไม่รู้จักความชอบธรรมที่พระเจ้าประทานให้ แต่อุตส่าห์ตั้งความชอบธรรมของตนขึ้น เขาจึงไม่ได้ยอมอยู่ในความชอบธรรมของพระเจ้า.. เพราะว่าพระคริสต์ทรงเป็นจุดจบของธรรมบัญญัติเพื่อให้ทุกคนที่มีความเชื่อได้รับความชอบธรรม.. โรม 10:6-7 แต่ความชอบธรรมที่มีความเชื่อเป็นมูลฐานว่าอย่างนี้ว่าอย่านึกในใจของตัวว่าใครจะขึ้นไปบนสวรรค์(คือจะเชิญพระคริสต์ลงมา).. หรือ(คือจะเชิญพระคริสต์ขึ้นมาจากความตาย).. *** ชีวิตคริสตชน... เส้นทางแห่งการตัดสินใจเดินตามมรรคาแห่งองค์พระเยซุคริต์ องค์พระผู้เป็นเจ้า การบังเกิดใหม่ โดยองค์พระวิญญาณบริสุทธ์ของพระผู้เป็นเจ้า ...เรียนรู้ใหม่..... --- หากเราพิจารณาดู เราจะพบว่า หลายๆอย่าง ทั้งแนวคิด ทั้งสิ่งที่เราเคยรู้ ทั้งประวัติศาสตร์ ทั้งความเชื่อ ทั้งนิสัยเดิม ทั้งหมดทั้งสิ้น ..เมื่อเรา "กลับใจใหม่" และได้รับความรอดผ่านองคืพระวิญญาณบริสุทธ์ซึ่งทรงประทานโดยพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า ....มวลความรู้ทั้งสิ้นที่เราเคยมี ..ไม่มีอะไรมีค่าเหลือเลย... ..ทุกอย่างใช้อะไรไม่ได้อย่างที่เคยใช้ได้ในทางโลก เมื่อเราเลือกจะแบกกางเขนเดินตามองค์พระเยซูคริสต์ ผู้ที่ "กลับใจใหม่" จริงๆ ล้วนแต่เคยมีประสบการร์นี้ คือ สมองถูกฟอแมท ใหม่.... อาจนึกภาพไม่ออก... ขอให้นึกถึงเรื่องเมตริกภาคแรก ซึ่งอุปมาเรื่องนี้ไว้ได้ดี .. ฉากที่ว่าคือตอนที่นีโอตื่นขึ้นในโลกของความจริง.... ร่างกายของนีโอ ซึ่งนีโอเคยเชื่อเอาว่ามันแข็งแรง ..กลับกลายเป็นร่างกายที่อ่อนเปลี้ยน กล้ามเนื้อฝ่อ... "ต้องค่อยๆถูกสร้างใหม่" มอเฟียสได้พูดไว้คำนึง ตอนที่ช่วยกันกับอีกคนสร้างกล้ามเนื้อให้นีโอซึ่งมีสภาพกล้ามเนื้อฝ่อ.. "คุณไม่เคยใช้มัน..." นีโอต้องเรียนรู้ชีวิตในโลกแห่งความเป็นเสียใหม่ เพาะเขาเลือกจะตื่นขึ้นมา... นีโอทำตัวเป็นนักเรียนที่ดี ....อดทนต้อการอินพุท ศิลปการต่อสู้กว่าสิบชั่วโมงรวด... ทำตัวเป็นนักเรียนที่ดี ..ของพี่เลี้ยงที่ชื่อมอเฟียส... ซึ่งสอนสิ่งต่างๆผ่านการประลองยุทธ์ของทั้งสอง ตอนที่ทั้งสองคนประลองยุทธ์กันในเมตริก.. มอเฟียส ได้จี้ไปที่แนวคิดเก่าๆอย่านึงของนีโอ.. มอเฟียสชนะนีโอในยกแรก...จากนั้นถามนีโอว่า "คิดว่าทำไมคุณถึงแพ้.." "คุณเร็วเกินไป..."นีโอตอบอย่างท้อแท้... มอเฟียสยิ้มอย่างเอ็นดู จากนั้นว่า "คุณคิดว่า การที่ผมเคลื่อนไหวเร็วกว่าคุณในโลกเมตริกนี้ ..มันเกี่ยวอะไรมั้ยกับว่ากล้ามเนื้อผมเหนือกว่าคุณ..." ...ประโยคนี้ ได้จี้แทงเข้าที่ปมความคิดเก่าๆเดิมๆอย่างฝังหัวของนีโอ... แล้วนีโอก็ "Get" มอเฟียสทิ้งท้ายไว้ว่า " i try to free your mind"..." ***** "มาตรฐานใคร?" จากพระธรรมโรมข้างต้น ....เขาไม่รู้จักความชอบธรรมที่พระเจ้าประทานให้ แต่อุตส่าห์ตั้งความชอบธรรมของตนขึ้น....โรม10/3 ตั้งความชอบธรรม? บ่อยครั้งที่เรา เมื่อพยามจะเข้าใจในอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับพระเจ้า ..และเมื่อจนปัญญาที่จะหาคำตอบที่เราพอใจด้วยการค้นคว้า.... เราก็มักจะ "อุตส่าห์" ตั้งแนวคิดของเราขึ้นมาเอง เกี่ยวกับพระเจ้า ..และตู่เอาว่านั่นล่ะ มาจากพระเจ้า... หรือน่าจะใช่ล่ะมั้ง..อะไรประมานนี้... -- *** ในความเป็นจริงแล้ว พระเจ้าเองมีพระประสงค์จะเปิดเผยพระองค์เองอยู่แล้วต่อมนุษย์ แต่ฝ่ายที่หลบหน้าบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับรู้ กลับเป็นมนุษย์เอง เมื่อครั้งแรกที่อาดัมกับเอวาทำบาป ...พวกเขารีบซ่อนตัวทันที ที่พระเจ้าเสด็จมา ....ด้วย"ข้ออ้าง"ที่ว่า... "ข้าพระองค์เปลือยกายอยู่" พระเจ้าตรัสว่า "ใครเล่าบอกว่าเจ้าเปลือยกาย..." ....เขาไม่รู้จักความชอบธรรมที่พระเจ้าประทานให้ แต่อุตส่าห์ตั้งความชอบธรรมของตนขึ้น....โรม10/3 .... เราจะเริ่มเห้นว่า แท้จริงแล้ว การที่เราไม่รู้จักพระเจ้าได้อย่างที่เราปรารถนาจะรู้นั้น ...เป็นผลจากตัวเอง ไม่ใช่จากพระเจ้า ..."ความบาป" สิ่งนี้เป็นกำแพงขัดขวางให้เราไม่ยอมฟังการเปิดเผยจากพระองค์ ไม่ว่าพระองค์จะพยามเปิดเผยพระองค์สิ่งต่างๆไมกมายรอบตัวเรา แต่เราจะไม่ยอมรับรู้เพราะเรา "อาย" เพราะเรา "เปลือยกายอยู่.." เราอาย เราเปลือยกายอยู่ เราไม่กล้าโผล่หน้าไปต้อนรับพระองค์ ผุ้ทรงปรารถนาจะพบเราเสมอมา ....ตัวข้าพเจ้าเอง ก็เคยมีสภาพอย่างที่กล่าวไว้นี้ สภาพอย่างอาดัมและเอวา ที่หลบหน้าพระเจ้า.... เราคริสตชน ควรจะต้องจำให้ได้ว่า พระประสงค์แท้ๆของพระองค์คืออะไร .... พระเยซูคริสตื ทำไมต้องมาตายที่ไม้กางเขน... เพื่อใคร เพื่ออะไร เพื่อรับใครกลับบ้าน... ..... มาร อาจจะพยามบอกเราว่า "แกสกปรก แกเปลือยกาย แกน่าเกลียด ...แกอย่าไปพบพระเจ้าเลย .แกซ่อนตัวเถอะ" ขอให้จำไว้ว่า พระเจ้าตรัสว่า "ใครเล่าบอกว่าเจ้าเปลือยกาย..." ขอให้จำไว้ว่า พระเยซุคริสต์ทรงเป็นผู้ใด และพระองค์ลงมาเป็นมุษยืและตายที่ไม้กางเขนเพื่อใคร... .... ถ้าเอกภพนี้จะมีมาตรฐานซักอันนึง.... ก็ขออย่าให้เป็นเราเลย ที่จะ อุตส่าห์ ตั้งมาตรฐานอะไรของเราขึ้นมา ในทางของพระเจ้า ...ไม่ใช่หน้าที่ของเรา ... ถ้ามจะมีมาตรฐาน ก็ขอให้เป็นมาตรฐานของพระเจ้า "การที่เรารู้สึกว่าเราเปลือยกายอยู่" สิ่งนี้ไม่ใช่มาตรฐานของพรเจ้า เพราะพระเจ้าตรัสว่า "ใครเล่าบอกว่าเจ้าเปลือยกาย" ....เขาไม่รู้จักความชอบธรรมที่พระเจ้าประทานให้ แต่อุตส่าห์ตั้งความชอบธรรมของตนขึ้น....โรม10/3 *** มีเรื่องเล่าตลกๆเรื่องนึง ซึ่งไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ แต่ก็ให้ข้อคิดแก่คริสตชนได้ดี มาตินลูเธอ..... ครั้งนึง มาตินลูเธอฝันไป.... ซาตานได้มา และเอาหลักฐานมากมาย ซึ่งเกี่ยวกับความผิดของมาตินลูเธอที่กระทำไว้ และเป็นความผิดที่จะทำให้เค้าตกนรก... มาเป้นเอกสาร เป็นตั้งๆ ซาตานให้มาตินลูเธอดู มาตินลูเธอก้เอามาดู แล้วก็ถามซาตานว่า.. อืมๆ ยังมีอีกมั้ย.. เอามาอีกสิ.. ซาตานก็บ้าจี้ ขนมาใหญ่เลย ...สารพัดหลีกฐานความบาปชั่วของมาตินลูเธอ... ที่สุดมาตินถามว่า "หมดยัง" ซาตานบอกว่า "อืม แค่นี้แหล่ะ" พร้อมแสยะยิ้ม มาตินบอกว่า "โอเค ...งั้นแกช่วยเขียนไว้ในหลักฐานบาปชั่วของฉันทุกๆอันเลยนะว่า .... ..พระโลหิตของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า ชำระหมดแล้ว..." **** ถ้าเราจะไม่รู้จักพระเจ้ามากอย่างที่เราอยากจะรู้ ก็ขออย่าให้เรา อุตส่าตั้งความชอบธรรมอะไรของเราขึ้นมาเลย.. อย่าตั้งพระลักษณะของพรเจ้าขึ้นมาเพื่อซัพพอร์ทอะไรที่เราต้องการ "กลับใจ" "ยอมจำนน" "สารภาพบาป" "แล้วฟัง" "แล้วรอ...." "พอแล้ว..." ถ้าเราจะรู้จักพระองค์ พระองค์เองจะเป้นผู้ให้เรารู้จักพระองค์ ไม่การที่เราพยามจะรู้จักพระองค์หรือเข้าใจพระองคืด้วย อุตส่าหืตจั้งแนวคิดหรือควมชอบธรรมหรืออะไรของเราขึ้นมา เพื่อตอบตัวเราเองว่าพระเจ้าคืออะไร มีพระลัการะอย่างไร ไม่รู้ก็คือไม่รู้.. ใช่ก็ว่าใช่ ไม่ก็ว่าไม่ มากกว่านั้นก็มาจากความชั่ว.... *** ขอพระเจ้าคุ้มครองและอวยพระพรเรา ขอพระเกียรติพระสิริ เป็นของพระองค์แต่ผู้เดียวสืบๆไป ขอบคุณพระเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์ อาเมน Create Date : 25 ตุลาคม 2549 Last Update : 25 ตุลาคม 2549 7:49:12 น. 0 comments Counter : 349 Pageviews.   Share Tweet ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet