57 clinic filler story - episode 3 : ร่องน้ำตา
สวัสดีค่ะ คุณหมอขนมจาก 57คลินิกนะคะ
เมื่อมีร่องน้ำตาลึก พวกเขาเหล่านั้นก็มักจะได้ยินการทักทายที่ว่า ดูแก่จัง ดูเหมือนโทรมอดนอน ทำไมหน้าดูไม่มีความสุข มีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่า มีตาเหมือนแพนด้าเลย หรือกระทั่งที่แย่ที่สุดคือ หน้าดูเหมือนซอมบี้เลย
( Me? 
)
หากเป็นผู้ป่วยที่มีเปลือกตาล่างค่อนข้างบวมอยู่แล้ว สำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้เราจะแนะนำให้ไปทำศัลยกรรมแก้ไขปัญหาเปลือกตาล่างจะดีกว่า แต่อาศัยเวลาร่วมกว่า 2 สัปดาห์ในการพักฟื้น สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ได้มีปัญหาที่ขอบหนังตาล่างเยอะมากนัก ฟิลเลอร์เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีมากในการรักษา สามารถทำได้ทุกเวลา ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อย หรือสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเลย
(รูปภาพซ้าย - ประโยชน์จากการฉีดฟิลเลอร์จะมากกว่าการผ่าตัด มีความปลอดภัยและสดวกสบายกว่า, รูปกลาง - การเติมฟิลเลอร์สามารถช่วยให้ดูดีขึ้นได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่ได้เต็มที่นัก ส่วนในแง่ของความปลอดภัยและความสะดวกสบายน่าจะได้ประโยชน์มากกว่าการผ่าตัด, รูปภาพขวา - แนะนำให้ผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัด)
อย่างไรก็ตาม ร่องน้ำตาเป็นหนึ่งในตำแหน่งที่ยากที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์ก็ว่าได้ เพราะสามารถเกิดรอยเขียวช้ำได้ง่ายอันเนื่องมาจากมีเส้นเลือดวิ่งเข้ามาเลี้ยงบริเวณรอบดวงตาค่อนข้างมาก หรือเกิดลักษณะผิวขรุขระเป็นก้อนๆได้เพราะผิวบริเวณใต้ตาจะบางกว่าผิวบริเวณอื่น สำหรับการเติมฟิลเลอร์ในตำแหน่งร่องน้ำตาหรือใต้ตานี้ หมอจะแนะนำอย่างยิ่งให้คนไข้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่มีชื่อเสียงมานาน เช่น Restylane หรือ Juvederm เพราะหมอจะสามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้แม่นยำกว่าการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีราคาถูกแต่มีประวัติมาไม่นาน ภายหลังไม่กี่วันหลังเข้ารับการรักษาโดยการฉีดฟิลเลอร์ มีโอกาสที่บริเวณดังกล่าวจะบวมขึ้น ทำลายแนวร่องน้ำตาที่สร้างขึ้นมา และทำให้หมอที่ทำการรักษาเกิดความไม่แน่ใจแล้วตัดสินใจฉีดยาสลายฟิลเลอร์ดังกล่าว เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เราจะไม่เติมฟิลเลอร์ให้แก่ผู้ป่วยจนเต็มนัก หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักมานาน แต่ยังไงก็ตามผลลัพธ์ที่ได้จากการเติมฟิลเลอร์แม้ในปริมาณที่ไม่ได้มากก็จะช่วยให้ผู้ป่วยได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจมากกว่าตอนที่ยังไม่ได้เข้ารับการรักษา
สิ่งหนึ่งที่ดีมากของการฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำตา คือ ฟิลเลอร์ที่เข้าไปอยู่บริเวณนี้จะคงอยู่นานกว่าฟิลเลอร์บริเวณอื่น โดยทั่วไปก็มากกว่า 1 ปี หรือในบางคนอยู่ได้ถึง 3 ปีก็มี เหตุผลก็คือบริเวณนี้ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเยอะเหมือนกับตำแหน่งอื่น เช่น ร่องแก้ม ที่มีการกระทบเนื่องมาจากการขยับของกล้ามเนื้อรอบปากทุกครั้งที่ยิ้ม พูด รับประทานอาหาร ร้องเพลง หาว หัวเราะ เป็นต้น
เคสในวันนี้ เป็นผู้หญิงอายุประมาณ 30 ปี ใบหน้าของเธอโดยรวมดูอ่อนกว่าวัยของเธอเอง ยกเว้นแต่ตรงตำแหน่งร่องน้ำตา
(เส้นเหลือง คือแนวแสดงร่องน้ำตา และเป็นตำแหน่งที่หมอจะทำการฉีดเติมฟิลเลอร์)
(ข้างขวาได้ทำการเติมฟิลเลอร์แล้ว ในขณะที่ด้านซ้ายยังไม่ได้เติม
ซึ่งทำให้เราเห็นความแตกต่างของทั้งสองข้างได้อย่างชัดเจน
คุณจะเห็นได้ว่ามีรอยเข็มเล็กๆ อยู่ที่ตำแหน่งร่องน้ำตาข้างขวา)
(ภายหลังการเติมฟิลเลอร์ทั้งสองข้าง ร่องน้ำตาถูกเติมเต็ม โดยทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่ถึง 10นาที รอยเข็มและเนื้อเยื่อที่บวมเพียงเล็กน้อยนี้สามารถหายไปได้ภายในเวลาไม่กี่วัน)
สิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือ ถ้าหากผู้ป่วยมีแก้มหน้าที่ตอบค่อนข้างมากด้วย อาจจำเป็นที่จะต้องเติมฟิลเลอร์ที่แก้มด้านหน้าก่อน เพื่อให้แก้มนี้รองรับพอดีกับร่องน้ำตาที่เติม ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามยิ่งขึ้น
(จากภาพเราจำเป็นต้องเติมแก้มบริเวณเส้นวาดสีเหลืองก่อนที่จะรักษาโดยการเติมฟิลเลอร์ที่ร่องน้ำตาบริเวณเส้นสีแดง)
สำหรับเคสผู้ป่วยที่นำมาให้ดูในวันนี้ ผู้ป่วยมีแก้มยื่นออกมาสวยงามอยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงทำการเติมฟิลเลอร์ปริมาณ 1 ml ที่ตำแหน่งร่องน้ำตาทั้งสองข้างเท่านั้น
ขอบคุณสำหรับการติดตามบทความของเราค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร : 02-714-9292/ 096-919-2957
)
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed 
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
