57 clinic filler story - episode 8 : คุณหมอคะ เราสามารถทาไฮยาลูโรนิคแอซิด แทนการฉีดฟิลเลอร์ได้ไหมคะ?
สวัสดีค่ะ กลับมาพบกับหมอเบนซ์จาก 57 clinic กันอีกครั้งนะคะ

Smiley

หลังจากที่เราเคยคุยกันเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์มาหลายเคสแล้ว... และตัวฟิลเลอร์ที่เราใช้ฉีดกันโดยทั่วไปก็มีส่วนประกอบของ HA(hyaluronic acid/ไฮยาลูโรนิคแอซิด)เป็นหลัก   ผู้อ่านบางท่านก็มีความรู้เกี่ยวกับHAมาพอสมควรแล้ว แต่บางท่านก็ยังไม่รู้จักมากนัก
ในวันนี้เราจะมาคุยกันเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานโดยทั่วไปของHA... ทำไมมันถึงดีต่อผิวหนังของคนเรา และทำไมการฉีดถึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับผิวของเรา



ไฮยาลูโรนิคแอซิดเป็นชนิดของสารเติมเต็มที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบนั้น... ไม่ใช่เฉพาะแค่ในส่วนของการฉีดสารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์เท่านั้นนะคะ แต่ในทางเวชสำอางและกลุ่มอาหารเสริมก็มีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายด้วยเช่นเดียวกัน

ความนิยมในการใช้ HAนี้มีที่มาจากการที่มันเป็นส่วนประกอบตามธรรมชาติของผิวหนังคนเรานี่เอง โดยที่สารHAนี้จะอยู่ตามช่องว่างระหว่างเซลล์ผิวหนังแต่ละเซลล์ มีหน้าที่ช่วยเก็บกักน้ำให้กับเซลล์ผิว จึงทำให้ผิวมีความเรียบเนียน ชุ่มชื่นและเปล่งปลั่งสดใสค่ะ นักวิทยาศาสตร์บางส่วนเลยตั้งชื่อเล่นให้กับHAว่า 'Nature's spongy'(ฟองน้ำตามธรรมชาติ) หรือ 'Moisture magnet'(ตัวอุ้มน้ำ) เนื่องจากมีการศึกษาพบว่า มันสามารถอุ้มน้ำได้ถึง 1,000 เท่าเลยทีเดียว

โดยทั่วไปแล้วผิวของเด็กหรือคนที่ยังอายุน้อยจะดูเต่งตึงและเรียบเนียน เนื่องจากในคนวัยนี้จะยังมีปริมาณความเข้มข้นของHAที่สูงอยู่  



แต่พอคนเรามีอายุที่มากขึ้น ร่างกายจะผลิตHAได้น้อยลงเรื่อยๆ และยังพบว่าที่อายุประมาณ 40 ปี ร่างกายจะสามารถผลิตHAได้เพียง 50%เท่านั้นค่ะ 

Smiley

ดังนั้นจะเห็นว่าในคนที่อายุเพิ่มมากขึ้น ผิวหนังจะเสียน้ำตามธรรมชาติไปมาก ทำให้ผิวแห้งและบางลง อีกทั้งการใช้ชีวิตอยู่ในห้องแอร์เป็นประจำก็เป็นสิ่งกระตุ้นให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้นอีกด้วยนั่นเองค่ะ

มาถึงตอนนี้ หลายท่านคงอยากรู้แล้ว ว่าเราจะสามารถเสริมสร้างHAนี้ได้อย่างไร ในปัจจุบันมีวิธีเสริมHAให้ผิวหนังคนเราอยู่ 3 วิธี ได้แก่

1. การรับประทานอาหารเสริมที่มี HA : ในปัจจุบันมีอาหารเสริมHA ที่ขายตามท้องตลาดหลายยี่ห้อ มีการบอกถึงสรรพคุณที่ดีต่อผิวหลายๆอย่าง วิธีนี้เป็นอะไรที่ทำได้ง่าย เพียงทานเข้าไปเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาตามหลักการด้วยว่าHAในรูปที่รับประทานเข้าไปนั้นมักถูกย่อยสลายด้วยน้ำย่อยในกระเพาะอาหารเป็นส่วนใหญ่ก่อนที่จะดูดซึมเข้าไปที่ผิวหนัง



2. เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ HA : หลายคนอาจคิดว่าวิธีนี้ดีเพราะใช้ได้ง่าย แค่ทาที่ผิว และไม่เจ็บด้วย โดยเฉพาะในยี่ห้อที่ดังๆแพงๆ... แต่อย่างไรก็ตาม คำจำกัดความของเครื่องสำอางตามกฎของFDA(อย.) และโดยทั่วไปแล้ว หมายถึง "สิ่งที่ใช้ทาลงบนผิว เพื่อการทำความสะอาด การแต่งหน้า หรือเพื่อการบำรุง โดยไม่ได้มีผลเปลี่ยนแปลงต่อโครงสร้าง/หน้าที่ของผิวหนัง" แต่ถ้าพวกครีมโลชั่นใดก็ตามที่มีผลต่อโครงสร้าง/หน้าที่ของผิว ถือว่าไม่ใช่เครื่องสำอาง แต่เป็นยาหรือเวชสำอางนั่นเอง ดังนั้นแล้วเนี่ย พวกเครื่องสำอางแพงๆที่มี HA จะไม่สามารถซึมเข้าไปเสริมสร้างHAในผิวได้ แต่อาจจะช่วยในเรื่องของการปกป้องผิวจากมลภาวะหรือปัจจัยภายนอกได้



3. การฉีดHAเข้าไปในผิวหนัง : การฉีดเข้าไปที่ผิวหนังโดยตรงนี้ ในปัจจุบันยังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเสริมสร้างHAให้ผิวหนัง โดยส่วนใหญ่แล้วมักใช้เทคนิคการฉีดแบบเมโสเธอราพี(mesotherapy) คือการใช้เข็มเล็กๆฉีดเข้าไปที่ผิวหนังทั่วๆใบหน้า แต่มีข้อเสียคือค่อนข้างเจ็บและมีรอยแดงจากเข็มหลายจุด... แต่ก็ยังมีอีกวิธีที่เจ็บน้อยกว่าและใช้จุดแทงเข็มเพื่อฉีดHAน้อยกว่าเมโส จึงทิ้งรอยแดงจากเข็มไว้น้อยกว่าเช่นกันค่ะ...


(ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นแบบนี้นะคะ >.<)

ในวันนี้เราได้คุยกันถึงการฉีด HA เพื่อเสริมสร้างและปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื่นอ่อนกว่าวัย ไม่ใช่เพื่อการเติมเต็มร่องลึกหรือปรับโครงหน้าอย่างบทความที่ผ่านๆมา อาจกล่าวได้ว่าการฉีด HA ถือเป็น skin booster ซึ่งประเมินผลได้จากความพึงพอใจของคนไข้เอง มากกว่าการประเมินจากภาพความเปลี่ยนแปลงก่อน-หลังเหมือนการฉีดฟิลเลอร์โดยทั่วไปค่ะ แต่ที่คนไข้มักรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนคือ ผิวที่ชุ่มชื่นและดูเปล่งปลั่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังการฉีดHA



ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ

Smiley







Create Date : 06 มีนาคม 2559
Last Update : 6 มีนาคม 2559 20:36:18 น.
Counter : 1525 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 2970483
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Expert of facial antiaging
Stories about filler, botulinum toxin and face
All Blog