ดร.โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์ Tokyo University of Foreign Studies พวกเดียวกันทางสายเลือด คนต่างชาติจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่าคนญี่ปุ่นเป็นชนชาติที่เข้าใจยาก ไม่รู้จะคบยังไงให้สนิท ผมเห็นด้วยว่าคนญี่ปุ่นมีลักษณะหลายอย่างที่เข้าใจยากสำหรับคนต่างวัฒนธรรม แต่ตัวเองคงเลยจุดนั้นไปแล้ว ไม่ใช่เพราะเก่ง แต่คงเพราะอยู่ญี่ปุ่นนาน หรือเพราะจับจุดอะไรบางอย่างได้ หรือไม่ก็คงเพราะ เลิกพยายามทำความเข้าใจ แต่ทำใจยอมรับ เสียมากกว่า จุดที่ผมบอกว่าจับได้และหาวิธีการคลี่คลายต่อมานั้นจะเรียกว่าง่ายก็ง่าย หรือจะมองว่ายากก็ใช่ และในที่นี้จะนำบางแง่มุมมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับคนไทยที่มีโอกาสใกล้ชิดหรือร่วมงานกับคนญี่ปุ่น ลักษณะอย่างหนึ่งของสังคมญี่ปุ่นคือ ตั้งแต่โบราณกาล มีการผสมผสานทางเชื้อชาติน้อย หรือถ้ามองแบบสุดโต่งคือเป็นสังคมที่ปิดสำหรับคนต่างชาติ คนญี่ปุ่นอยู่บนเกาะที่ไม่มีพรมแดนติดกับต่างประเทศ มีคนต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องไม่มาก และเคยปิดประเทศสองร้อยกว่าปีในสมัยเอะโดะ (江戸;Edo; พ.ศ. 2143 2411) ในทางมานุษยวิทยา ญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นสังคมที่มีความเป็นเนื้อเดียวกันสูง ผู้คนยึดมั่นการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอย่างเหนียวแน่น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดวัฒนธรรมกลุ่ม สายเลือดถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดในวัฒนธรรมกลุ่ม คนญี่ปุ่นเชื่อว่าคนที่เลือดเหมือนกันจะมีอะไรๆ คล้ายกันและเป็นพวกเดียวกัน ถ้ามองเชิงประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นยึดถือสายเลือดเชิงชนชั้นด้วย เช่น สายเลือดจักรพรรดิ พ่อค้า ชาวนา ช่าง ซามุไร หรือแม้แต่สายเลือดผู้ดี สิ่งเหล่านี้เชื่อกันมาช้านาน พอวิทยาการก้าวหน้าและโลกเปลี่ยนแปลง แม้แนวคิดแบบนั้นจางหายไป แต่ก็ยังทิ้งร่องรอยไว้ให้เห็น กลายเป็นความเชื่อเรื่องกลุ่มเลือดเชิงการแพทย์ คนญี่ปุ่นปัจจุบันเชื่อเรื่องคุณลักษณะตามกรุ๊ปเลือด ผมเคยถูกคนญี่ปุ่นถามหลายครั้งตั้งแต่มาญี่ปุ่นในช่วงแรกๆ ว่า เลือดกรุ๊ปอะไร? อยู่เมืองไทย ถ้าไม่นับตอนทำบัตรประชาชน แทบไม่เคยมีคนถาม แม้แต่ครอบครัวตัวเองก็อาจจะยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าผมเลือดกรุ๊ปอะไร ในเมืองไทยเมื่อสมัยก่อน การตรวจกรุ๊ปเลือดก็ไม่แพร่หลายเท่าปัจจุบัน พอไปอยู่ญี่ปุ่น เจอคำถามเรื่องนี้บ่อยมาก บ่อยมากๆ จนตกใจ จึงต้องเชื่ออีกครั้งหลังจากเลิกเชื่อไปแล้วว่าแนวคิดเรื่องสายเลือดยังคงมีอยู่ในสังคมญี่ปุ่น ผมเลือดกรุ๊ป B ยังดีที่ตอบได้ ไม่งั้นคนญี่ปุ่นคงรู้สึกผิดหวังระคนแปลกใจว่าทำไมคนไทยไม่รู้กรุ๊ปเลือดตัวเอง เหมือนกันเลย เหมือนกันเลย ปฏิกิริยาตอบรับที่มีคำว่า เหมือน นั้นส่อความเป็นมิตรอย่างที่สุด คนญี่ปุ่นที่ถามผมเรื่องกรุ๊ปเลือดคนแรกคือครอบครัวอุปถัมภ์ ด้วยความบังเอิญที่สมาชิกทั้งสี่มีเลือดกรุ๊ป B พอมีผมซึ่งเป็นคนที่ห้าแปลกหน้าเข้าไปแล้วบอกว่าตัวเองก็ B เหมือนกัน คนทั้งบ้านจึงรู้สึกว่ามีคน แบบเดียวกัน เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชีวิต แต่ผมไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งกับเรื่องนี้ นอกจากรู้สึกว่าหน้าตาไม่น่าจะเกี่ยวกับกรุ๊ปเลือด มิฉะนั้นโลกนี้คงมีหน้าแค่สี่ห้าแบบ ญี่ปุ่นมีคนเลือดกรุ๊ป A มากที่สุดคือร้อยละ 39, รองลงมาคือ กรุ๊ป O ร้อยละ 30, กรุ๊ป B ร้อยละ 21, และกรุ๊ป AB ร้อยละ 10 คนญี่ปุ่นเชื่อว่าคนที่มีเลือดกรุ๊ปเดียวกันจะมีนิสัยใจคอคล้ายกัน เมื่อนิสัยคล้ายกันย่อมเข้ากันได้ง่าย สำหรับผม ถือว่าโชคดีที่กรุ๊ปเลือดตรงกับของทุกคนในครอบครัวอุปถัมภ์ เป็นข้อได้เปรียบโดยบังเอิญสำหรับการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคนญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า สมัยนี้คนญี่ปุ่นเลือกคบคนด้วยการตั้งหน้าตั้งตาสืบหากรุ๊ปเลือดไปเสียหมด เพียงแต่เชื่อว่าถ้าเหมือนกันย่อมทำให้เข้าใจและเรียนรู้ฝ่ายตรงข้ามได้เร็ว และถ้าจะให้ดี ใครที่อยากมีเรื่องคุยกับคนญี่ปุ่น การทราบกรุ๊ปเลือดของตัวเองไว้ย่อมเป็นประโยชน์ เพราะเมื่อเวลาผ่านไปและคุ้นเคยกันมากขึ้น ก็มักจะมีบทสนทนาเรื่องกรุ๊ปเลือดออกมา พวกเดียวกันทำเหมือนกัน คนญี่ปุ่นแบ่งแยกความเป็นพวกเดียวกันกับความเป็นคนละพวกค่อนข้างชัดเจน และปรากฏออกมาทางภาษาตลอดจนการปฏิบัติต่อผู้อื่นที่ถูกถือว่าเป็นคนละพวกด้วย แนวคิดเช่นนี้สืบทอดกันมาช้านาน มีคำทางวัฒนธรรมที่ใช้อธิบายเป็นเอกเทศ คือ อุชิ (内;uchi) หรือ (คน) ใน กับ โซะโตะ (外;soto) หรือ (คน) นอก ใครที่เป็นคนต่างชาติ คนญี่ปุ่นมักจัดว่าอยู่ในข่ายนี้ และจะได้รับการปฏิบัติในฐานะคนนอกกลุ่ม แต่การเปลี่ยนสถานะจากคนนอกกลุ่มเป็นคนในกลุ่มก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่กว่าจะทำได้ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน เมื่อแบ่งกลุ่มขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น คนใน ของระดับใหญ่สุดซึ่งก็คือญี่ปุ่นทั้งประเทศ หรือ คนใน ของระดับย่อยลงไปอย่างสมาชิกในครอบครัว ชมรมเดียวกัน บริษัทเดียวกัน คนญี่ปุ่นจะยึดมั่นความกลมกลืน ภายในกลุ่มเป็นส่วนใหญ่ การทำอะไรไม่เข้าพวกมักถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่น่ายอมรับ คิดว่าเมื่อเป็นพวกเดียวกัน ว่าไงควรว่าตามกันเพื่อไม่ให้เกิดความแปลกแยก เช่น การใช้ของแบบเดียวกัน การไม่แสดงความเห็นคัดง้าง การไม่ทำตัวฉีกออกไปจากสิ่งที่ทุกคนคาด ความไม่อยากเป็นแกะดำที่ต่างจากฝูงแบบนี้ถึงกับมีเรื่องล้อเลียนว่า [1] หากเมื่อเรือใหญ่หรูหรากำลังจะจมสู่ก้นทะเล แล้วกัปตันจะบอกให้ทุกคนกระโดดลงทะเล คำพูดที่กัปตันต้องสรรหามากระตุ้นคนชาติต่างๆ ที่อยู่บนเรือคือ สำหรับคนอเมริกัน - โดดลงไป คุณจะกลายเป็นฮีโร่ คนอังกฤษ - โดดลงไป คุณคือสุภาพบุรุษนะ คนเยอรมัน - โดดลงไปซะ เพราะนี่เป็นกฎของเรือ คนญี่ปุ่น - โดดลงไปเดี๋ยวนี้! ทุกคนกำลังโดดนะ! การคบกับคนญี่ปุ่นให้สนิท หมายถึงการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มหรือเป็น คนใน และปฏิบัติตามมาตรฐานอันที่เป็นยอมรับของกลุ่ม ซึ่งแม้แต่คนญี่ปุ่นเอง บางครั้งก็ยังรู้สึกว่ายาก สำหรับคนต่างชาติซึ่งมีความเป็นคนนอกโดยกำเนิดแล้วนั้น จึงอาจต้องใช้พยายามมากหน่อยกว่าจะทะลวงกำแพงเข้าไปได้
|