ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
28 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
นักวิจัยเชื่อเด็กที่‘เสกสรรค์ปั้นเท็จ’ใช้สมองเป็น-เอาตัวรอดเก่งตอนโต

นักวิจัยเชื่อเด็กที่‘เสกสรรค์ปั้นเท็จ’ใช้สมองเป็น-เอาตัวรอดเก่งตอนโต

นักวิจัยเชื่อเด็กที่โกหกเป็นตั้งแต่เล็ก มีแนวโน้มสูงที่จะประสบความสำเร็จเมื่อโตขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวจะส่งเสริมพัฒนาการทางความคิดและการสื่อสาร ตลอดจนถึงทักษะในการแก้ปัญหา

การศึกษาจากเด็ก 1,200 คน อายุระหว่าง 2-16 ปี พบว่าศิลปะในการโป้ปดเป็นขั้นตอนสำคัญของพัฒนาการทางความคิดในระยะเริ่มต้น และโดยธรรมชาติแล้วเด็กฉลาดจะมีคำโกหกที่ซับซ้อนและฟังดูดีมากกว่า

นักวิจัยจากอินสติติวท์ ออฟ ไชด์ สตัดดี้ ใน โทรอนโต แคนาดา เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า ‘การทำงานแบบผู้บริหาร’ ที่มีการเก็บงำความจริงไว้ในสมองเพื่อสร้างเรื่องโกหกให้ดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น และพฤติกรรมนี้อาจช่วยพัฒนาทักษะในการสื่อสารเมื่อเด็กโตขึ้น รวมถึงเพิ่มพูนความสามารถในการแก้ปัญหา

อย่างไรก็ดี นักวิจัยปลอบพ่อแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะถึงอย่างไรก็สามารถจับเท็จเจ้าตัวน้อยได้อย่างง่ายดายจากดวงตา ตัวอย่างเช่นถ้าลูกขอขนมพ่อและพ่อถามว่า ‘แม่ว่าอย่างไร?’ แล้วลูกตอบว่าแม่บอกว่า ‘กินได้’ และมองไปทางขวา หมายความว่าเขากำลังมองภาพการโกหกที่สมองสร้างขึ้น แต่ถ้ามองทางซ้าย หมายความว่าเขากำลังนึกถึงเหตุการณ์จริงจึงเล่าความจริง

นักวิจัยยังบอกด้วยว่า ไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงการพูดปดในวัยเด็กกับการหลอกลวงหรือฉ้อฉลในวัยผู้ใหญ่

การศึกษาพบว่า ขณะอายุ 2 ขวบ เด็ก 20% จะโกหก สัดส่วนดังกล่าวเพิ่มเป็น 50% เมื่ออายุ 3 ขวบ และเกือบ 90% ในอีกหนึ่งปีต่อมา แนวโน้มนี้ดำเนินต่อมาจนเด็กอายุ 12 ขวบ ที่ไม่พบเด็กที่ไม่เคยโกหกเลย

อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุ 16 ปี ความนิยมในการโกหกลดลงเหลือ 70% เนื่องจากเด็กโตตระหนักว่าการพูดเท็จอาจไม่ทำให้เกิดผลดีแต่อย่างใด

ในการศึกษา นักวิจัยนำเด็กเล็กไปไว้ในห้องที่มีตุ๊กตาบาร์นีย์สีม่วงอยู่ด้านหลัง ก่อนออกจากห้อง นักวิจัยกำชับไม่ให้เด็กหันไปมองตุ๊กตา

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เด็กส่วนใหญ่แอบดูตุ๊กตาตอนที่นักวิจัยไม่อยู่ แต่เมื่อถูกถามจะปฏิเสธว่าไม่ได้ดู ซึ่งอาจบ่งชี้พฤติกรรมปกติในการที่เด็กไม่อยากมีปัญหา

ขั้นตอนต่อไปบ่งชี้ถึง ‘การทำงานแบบผู้บริหาร’ โดยนักวิจัยขอให้เด็กทายว่าของเล่นที่อยู่ด้านหลังเป็นตุ๊กตาอะไร ซึ่งปรากฏว่าส่วนใหญ่ตอบว่าบาร์นีย์

เด็กหญิงคนหนึ่งอธิบายเหตุผลที่รู้คำตอบของโจทก์ข้อนี้ว่าเป็นเพราะ ‘พระเจ้าเข้ามาในห้องและกระซิบบอกหนู’ เด็กหญิงอีกคนขอคลำตุ๊กตาที่ซ่อนไว้ใต้ผ้าห่ม ‘รู้สึกว่าจะเป็นสีม่วง เพราะฉะนั้นต้องเป็นบาร์นีย์แน่นอน’

ส่วนเด็กโตต้องทดสอบข้อเขียน โดยได้รับคำสั่งว่าห้ามแอบดูคำตอบที่ด้านหลังกระดาษข้อสอบ

เด็กที่แอบดูคำตอบสามารถตอบได้ว่าคนที่ค้นพบตูนีเซียคือ พรีซิเดียส แอกเคอแมน และเมื่อถูกถามว่ารู้ได้อย่างไร เด็กเหล่านี้จะตอบว่าที่โรงเรียนสอนมา


*** แต่คงเอาเปรียบคนอื่นๆ แย่เลยเนาะ


ที่มา
ผู้จัดการออนไลน์


Create Date : 28 พฤษภาคม 2553
Last Update : 14 มกราคม 2554 17:25:51 น. 0 comments
Counter : 892 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.