วันนี้ขณะที่กำลังทำงานอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงดนตรีรื่นเริงของชุมชนใกล้โรงงานดังแว่วตามลำโพง แถวๆ ที่ทำงานของเราแม้จะเป็นเขตอุตสาหกรรมแต่ก็อยู่ใกล้กับชุมชนมากทีเดียว ใกล้ขนาดข้ามถนนสองเลนไปก็เป็นหมู่บ้านแล้ว ขออู้งานโดยการพักสายตาจากหน้าจอคอมมองออกไปนอนหน้าต่างเห็นเด็กนักเรียนเดินเรียงแถวกันเพื่อกลับบ้าน
เย็นวันนี้พวกเขาคงมีภารกิจลอยกระทงกันกับครอบครัวหรือไม่ก็กับเพื่อนๆ สินะเราแอบอมยิ้มอยู่ในใจ ตัวเราเองก็เหมือนกัน ก็มีนัดกับลูกๆ ไว้ว่าจะพาพวกเขาไปลอยกระทง....
เด็กๆคงเฝ้ารอด้วยใจสนุกสนาน
นึกถึงตัวเองตอนที่ยังเป็นเด็กแม้ความทรงจำในวันลอยกระทงมีไม่มาก แต่ก็พอจำได้ว่า...ไม่ค่อยได้ไปลอยกระทงกับพ่อแม่สักเท่าไหร่แต่พ่อแม่ก็ไม่ยอมให้ลูกพลาดความสนุกของเทศกาล
ในช่วงแรกของความทรงจำเห็นภาพสามคนพี่น้องเอาหัวชนกันนั่งรอบกะละมังสังกะสีใบใหญ่ที่แม่ใส่น้ำจนเต็มแล้วซื้อกระทงใบเล็กๆ สำหรับเด็กน้อยให้คนละหนึ่งใบเพื่อให้พวกเราสามพี่น้องลอยกระทงในกะละมัง
เป็นเพราะบ้านอยู่ห่างจากลำน้ำค่ะแล้วแม่ก็ไม่สามารถพาลูกสามคนตุเลงกันไปลอยกระทงที่ริมแม่น้ำ พ่อก็ทำงานไกลกลับบ้านมาก็คงดึกเกินที่จะพากันไปลอยกระทง แต่จะลอยในกะละมังหรือลอยในแม่น้ำ
สมัยนั้นจำได้ว่า... ขอแค่ได้วางกระทงลงไปมองดูไฟเปลวเทียนกับธูปในกระทงกลีบสีสวยก็มีความสุขที่สุดแล้ว
ต่อมาครอบครัวของเราย้ายบ้านกัน บ้านใหม่ของเราใกล้แม่น้ำเจ้าพระยามากทีเดียวเดินไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงท่าน้ำแล้ว ดังนั้นสามพี่น้องจึงได้ลอยกระทงบนแม่น้ำจริงๆสักที
แต่...เมื่อถึงวันลอยกระทง ภาพในหัวที่คิดไว้ว่าจะนั่งยองๆปล่อยกระทงลงไปแล้ววักน้ำไล่ให้กระทงของเราลอยไปตามน้ำนั้นผิดถนัดกับของจริงเพราะท่าน้ำใกล้บ้านเป็นท่าที่ถูกปรับยกพื้นสูงด้วยปูนซีเมนต์จึงทำให้เรายืนอยู่สูงกว่าระดับน้ำมาก เวลาจะลอยกระทงก็ต้องเรียกเด็กรับจ้างลอยมารับกระทงไป ไม่ได้ลอยด้วยมือตัวเอง
หรือบางปีเราอยากลอยด้วยมือตัวเอง ก็ใช้วิธีปล่อยกระทงจากท่าสูงๆ นั่นแหละค่ะ ปีไหนโชคดีกระทงตกลงไปในท่าที่สวยงาม แต่เทียนดับ ปีไหนโชคไม่ได้ ลมไม่เป็นใจพัดกระทงคว่ำหน้ากับผิวเลยก็มี
แต่ทั้งนี้...มันก็สนุกในความรู้สึกของวัยเยาว์
เขียนไปเขียนมาโจทย์ตะพาบครั้งนี้เลยเป็นบันทึกความทรงจำในอดีตเก็บไว้เป็นตัวอักษรก่อนที่ความเลอะเลือนของสังขารจะฉวยไปความรู้สึกของบรรยากาศงานลอยกระทง มันมากกว่าแค่ได้ลอยกระทง