บทที่ 11
ชาร์ล็อตยืนโพสท่าให้กับกล้องของนักข่าวที่มาทำข่าวในงานบัลเล่ต์การกุศลที่ริชาร์ดชวนเธอมาออกงานด้วยใบหน้าที่แตะแต้มด้วยรอยยิ้มบางๆ เพราะเป็นที่ฮือฮากันอยู่ไม่น้อยเมื่อจู่ๆ ทายาทของฟีนิกซ์พับลิชชิ่งจะควงนางแบบสาวสวยอย่างเธอมาออกงานอย่างเปิดเผยเช่นนี้ แต่เธอก็ไม่สนใจอะไรเพราะข่าวลือพวกนี้มาเร็วก็ไปเร็วเช่นกัน ริชาร์ดยิ้มพลางหยุดให้สัมภาษณ์สั้นๆ กับนักข่าวที่เดินเข้ามาถามก่อนที่จะหันมายิ้มให้กับเธอเมื่อถูกถามว่าเขาและเธอกำลังคบหากันอยู่หรือไม่
เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่เรื่องการจะพัฒนาไปเป็นอย่างอื่นได้ไหมก็คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แล้วริชาร์ดก็คลี่ริมฝีปากยิ้มให้กับนักข่าวพร้อมกับกล่าวขอบคุณก่อนที่จะพาเธอเดินเข้าไปในโถงรับรองแขก
ออกจะเร็วไปหน่อยนะคะที่จะพูดอะไรกับนักข่าวอย่างนั้น
ริชาร์ดชะงักรอยยิ้มของเขาเมื่อเห็นสายตาของเธอ ทำไมล่ะครับ
ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นนางแบบและต้องเจอนักข่าวบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะชอบให้ชื่อตัวเองอยู่ในข่าวซุบซิบหรอกนะคะ เธอกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังจนทำให้สีหน้าของริชาร์ดเจื่อนไปเล็กน้อย
ผมขอโทษ ผมไม่ทันคิดถึงเรื่องนี้ แล้วเขาก็จับมือเธอขึ้นมาบีบเบาๆ ยกโทษให้ผมนะครับ
ชาร์ล็อตพยายามบังคับตัวเองไม่ให้กลอกตาใส่ริชาร์ดแต่ก็ไม่คิดจะพูดอะไรออกมาอีกและพอดีกับที่มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินตรงเข้ามาหาเขาและเธอ ความสนใจของริชาร์ดก็เปลี่ยนจากเธอไปเป็นผู้ที่เดินเข้ามาทักทาย เขาแนะนำเธอให้กับคนทั้งสองที่เธอเพิ่งทราบว่าเป็นหนึ่งในคณะกรรมการจัดงานในคืนนี้ หลังจากที่ทักทายและพูดคุยกันเล็กน้อยแล้ว ริชาร์ดก็พาเธอไปทักทายและพูดคุยกับพวกคนในวงสังคมชั้นสูงอีกหลายคนจนเธอแทบจะรู้จักทุกคนในห้องโถงนี้แล้ว
****************************
หลังจากที่ต้องยืนอยู่ข้างริชาร์ดและแลกเปลี่ยนบทสนทนากับพวกผู้คนที่เธอไม่รู้จักจนรู้สึกเบื่อและกำลังหาทางที่จะขอตัวกับริชาร์ดไปหามุมสงบให้กับตัวเองจนกว่าจะเริ่มงาน สายตาของเธอก็ไปสะดุดกับร่างสูงใหญ่ที่ดูยังไงก็ไม่คุ้นตาเมื่ออยู่ในชุดทักซิโด้ที่กำลังเดินเข้ามาในห้องรับรอง
เขามาที่นี่ได้ยังไง
เขากวาดตามองไปรอบๆ ห้องคล้ายกับจะมองหาอะไรอยู่ แล้วเธอก็ต้องเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นเมื่อสายตาของเขากวาดมาจนเห็นเธอกับริชาร์ด เพียงแค่เห็นเขาเธอก็รู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นพล่านไปทั้งร่างจนต้องกัดกระพุ้งแก้มตัวเองแรงๆ และพยายามรักษาสีหน้าให้เป็นปกติแม้ว่าสิ่งที่รู้สึกนั้นจะตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
แจ็คเดินตรงมาทางพวกเธออย่างไม่ลังเล และนั่นก็ทำให้ชาร์ล็อตสังเกตได้ว่านอกจากเสื้อผ้าที่แตกต่างไปจากที่เคยเห็นนั้น หนวดเคราที่ปกติปล่อยให้มันขึ้นรกครึ้มนั้นก็ถูกโกนเปิดเผยให้เห็นแนวกรามคมสันและทรงผมที่ถูกจัดแต่งทรงเป็นอย่างดีทำให้เขาดูหล่อเหลาอย่างร้ายกาจ
ไม่นึกว่านายจะมางานนี้ด้วย
พอดีเพิ่งเจอบัตรเชิญมางานนี้น่ะ ถ้าไม่มาคงเสียมารยาทน่าดู แจ็คตอบพร้อมกับเช็คแฮนด์และสวมกอดกับริชาร์ด ก่อนที่จะผละออกห่างแล้วหันมาทางเธอ
สวัสดีครับคุณคลาร์ก ต้องขอโทษด้วยที่อยู่บ้านติดกันแท้ๆ แต่ไม่มีโอกาสได้พบกันเลย
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้ เธอตอบเขาสั้นๆ พร้อมกับยื่นมือไปเช็คแฮนด์กับเขาและพยายามไม่สนใจกับรอยยิ้มที่แฝงความนัยของเขาและภาวนาว่าขออย่าให้ริชาร์ดสังเกตเห็นอะไรที่ผิดปกติเลย
แล้วนี่นายมางานนี้คนเดียวเหรอ ริชาร์ดเอ่ยถามต่อ
ฉันว่าคงไม่มีใครบ้ารับนัดแบบกะทันหันจากฉันหรอก แจ็คกล่าวพลางยักไหล่
ถึงไม่ได้พาใครมาด้วย แต่จะหาคู่ควงจากในงานคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนายเท่าไหร่หรอกมั้ง ริชาร์ดพูดกระเซ้า
คนอย่างฉันน่ะเหรอจะมีใครมาสนใจ แจ็คพูดพลางโคลงศีรษะให้กับตัวเองหากทว่าสายตาของเขากลับจ้องมาที่เธอในขณะที่พูดประโยคต่อมา หรือต่อให้ฉันสนใจใครก็ดูเหมือนว่าเจ้าหล่อนจะไม่คิดแบบเดียวฉันน่ะสิ
ชาร์ล็อตรู้สึกเหมือนภายในท้องนั้นเบาโหวงในขณะที่แจ็คจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาในแบบนักล่าที่กำลังไล่ต้อนเหยื่อให้จนมุม เธอรีบยกแก้วแชมเปญที่อยู่ในมือขึ้นดื่มเพื่อไม่ให้ใครสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเธอเปลี่ยนไป หัวใจถูกกระตุ้นให้เร่งจังหวะขึ้นเมื่อภาพเหตุการณ์ในวันนั้นก็แล่นเข้ามาให้ห้วงความคิด และดูเหมือนว่าแจ็คจะรู้ว่าเธอกำลังคิดถึงอะไรอยู่เพราะริมฝีปากของเขายกมุมยิ้มขึ้นเล็กน้อย
อย่าทำให้เสียเรื่องจะได้ไหม อีตาบ้า!
เธอเอ็ดเขาในใจพลางหันไปมองริชาร์ดที่ยังคงสีหน้าที่แตะแต้มไปด้วยรอยยิ้มหากทว่าเธอก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกไม่พอใจที่ปรากฏอยู่ในแววตาของริชาร์ด
ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้ แต่นายคงเหงาได้ไม่นานหรอกเพราะการแสดงก็ใกล้จะเริ่มแล้ว แล้วริชาร์ดก็เลื่อนมือมาโอบเอวของเธอไว้พร้อมกับดึงเข้ามาใกล้ก่อนจะก้มลงไปกระซิบใกล้ๆ ข้างหูของเธอ คุณอยากดื่มอะไรไหมครับ ตรงนั้นมีบาร์เครื่องดื่มอยู่เผื่อคุณจะสนใจ
ไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าคุณอยากดื่มอะไรก็หยิบมาเผื่อฉันเลยก็ได้ เธอตอบในขณะที่ดึงตัวออกห่างริชาร์ดอย่างสุภาพ และเพิ่งสังเกตได้ว่าแจ็คกับริชาร์ดกำลังมองกันเหมือนกับพยายามจะเล่นสงครามประสาทใส่กันเพื่อแย่งชิงเธอที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาทั้งสองคน
นี่เห็นฉันเป็นถ้วยรางวัลหรือยังไงกัน
เธอคิดพลางลอบถอนหายใจด้วยความระอาพลางกวาดสายตาไปมองรอบๆ เพื่อหาทางหนีไปสงบสติอารมณ์ของตัวเองเพียงลำพัง แต่แล้วกับชะงักค้างเมื่อเห็นใครบางคนที่อยู่ท่ามกลางหมู่คนวงสังคมชั้นสูงที่ยืนจับกลุ่มสนทนากันอยู่
ไม่อยากเชื่อว่าเธอจะได้พบกับหล่อนในสถานที่แห่งนี้ เพราะครั้งสุดท้ายที่ได้เจอหน้ากันก็สามปีก่อนเพราะบังเอิญได้พบกันระหว่างทำงานและหลังจากนั้นก็มีเพียงแค่โทรศัพท์ในโอกาสสำคัญต่างๆ เท่านั้น ซึ่งดูเหมือนว่าอีกฝ่ายเองสังเกตเห็นเธอเช่นกันเพราะสีหน้าของหล่อนดูประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะหันไปกล่าวขอตัวกับคู่สนทนาแล้วเดินตรงมาที่เธอ
แต่ไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไร หางตาของเธอก็เหลือบไปเห็นแจ็คที่คลี่ริมฝีปากยิ้มอย่างจริงใจก่อนที่จะเดินเข้าไปหาหล่อนก่อนเธอจะได้ขยับตัวเสียอีก
ดอกเตอร์สโตนส์ เขายื่นมือไปเช็คแฮนด์กับหล่อนและสวมกอดกันอย่างสนิทสนมก่อนจะกล่าวต่อ ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอคุณที่นี่นะครับ
พอดีฉันมีบรรยายที่ลอนดอน แล้วผู้จัดงานเขาเชิญให้มาร่วมงานนี้ด้วย หล่อนตอบแล้วจึงหันไปสวมกอดกับเธอ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้เจอลูกที่นี่ด้วย
สายตาของแจ็คและริชาร์ดมองพวกเธอด้วยความประหลาดใจ เธอโอบแขนกอดหล่อนแน่นๆ พร้อมกับเอียงหน้ารับจูบที่แก้มก่อนที่จะผละออกห่าง
ฟ้ามากับริชาร์ดน่ะค่ะ แล้วเธอจึงหันไปแนะนำผู้มาใหม่ให้กับริชาร์ด นี่ดอกเตอร์จิลเลียน สโตนส์ แม่ของฉันค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักครับ ริชาร์ดยื่นมือมาเช็คแฮนด์กับจิลเลียน ริชาร์ด เจนนิ่งส์ครับ
เช่นกันจ้ะ... ถ้าหากไม่ถือเป็นการรบกวนขอเวลาให้ฉันคุยกับชาร์ล็อตสักครู่จะได้ไหม
ไม่ต้องรอให้ถามซ้ำ ริชาร์ดและแจ็คก็พยักหน้าก่อนที่จะเดินไปอยู่อีกมุมหนึ่งเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวกับเธอและจิลเลียนได้สนทนากัน
จิลเลียนยิ้มก่อนที่จะยกมือขึ้นลูบแก้มเธอเบาๆ พร้อมกับเอ่ยถาม
ไม่ได้เจอกันตั้งนาน แม่คิดถึงลูกจัง... แล้วนี่ลูกมาที่อังกฤษตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
เดือนกว่าแล้วค่ะ พอดีทางสำนักพิมพ์เชิญให้มางานรำลึกถึงลุงโฮเวิร์ดฟ้าก็เลยตัดสินใจอยู่พักผ่อนต่อที่นี่
ถึงแม้ว่าจิลเลียนจะเอาแต่เดินทางไปทั่วโลกเพราะงานที่ทำและแทบไม่ค่อยได้ติดต่อเธอ แต่ชาร์ล็อตก็ยังรู้สึกดีกับจิลเลียนมากกว่าแพทริคเพราะถึงแม้ว่าตัวจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่นานๆ ครั้งหล่อนก็ยังเป็นฝ่ายโทรศัพท์มาถามไถ่สารทุกข์กับเธอบ้าง ในขณะที่แพทริคนั้นแทบจะไม่สนใจความเป็นอยู่ของเธอแม้แต่น้อย แต่ถึงเช่นนั้นการที่จิลเลียนทิ้งให้เธออยู่กับพ่อผู้ไม่เคยสนใจใยดีเธอแล้วออกไปไล่ตามความฝันของตัวเองโดยไม่คิดกลับมาหาเธอก็ยังเป็นบาดแผลลึกที่อยู่ในใจของเธอเช่นกัน ยังไม่นับความเจ็บปวดใจจากความจริงที่ได้ฟังจากปากของโฮเวิร์ดที่ต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดนั้นเกิดจากใคร รอยยิ้มที่แตะแต้มใบหน้าของเธอแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉยก่อนที่เธอจะกล่าวกับจิลเลียน
แม่คะ ฟ้ารู้ความจริงทั้งหมดแล้ว
รอยยิ้มที่แตะแต้มอยู่บนใบหน้าของจิลเลียนชะงักค้าง หล่อนหันไปมองรอบๆ ก่อนที่จะจับมือของชาร์ล็อตเอาไว้ก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เบาลงพอให้ได้ยินกันแค่สองคน
คุยที่นี่คงไม่สะดวก ขอเป็นวันพรุ่งนี้ได้ไหมแม่ว่างพอดี
แต่ฟ้าไม่ได้อยู่ในตัวเมืองลอนดอนนะคะ แม่จะมีเวลาพอให้ฟ้ามาเจอหรือเปล่าล่ะคะ
นี่ลูกพักอยู่ที่ไหนน่ะ แม่นึกว่าลูกจะพักที่โรงแรมในลอนดอนเสียอีก จิลเลียนถามพลางขมวดคิ้วและมองเธอด้วยความสงสัย
บ้านของคุณฮอว์ธอร์นน่ะค่ะ
เป็นอีกครั้งที่จิลเลียนชะงักไป ฮอว์ธอร์น... โรเบิร์ต ฮอว์ธอร์น น่ะเหรอ?
ค่ะ ฟ้ามีเรื่องที่จะต้องจัดการให้เรียบร้อยและต้องอยู่ที่นี่สักพัก คุณฮอว์ธอร์นก็เลยเสนอให้ฟ้าไปพักที่บ้านพักที่อยู่นอกเมือง เธอเลือกที่จะไม่อธิบายให้จิลเลียนรู้ว่าเรื่องที่เธอต้องจัดการนั้นคือเรื่องอะไรเพราะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่หล่อนจะต้องรู้
แล้วลูกไปรู้จักกับแจ็คได้ยังไง จิลเลียนดูมีท่าทางเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดหากทว่าเพียงครู่เดียวหล่อนก็ยิ้มก่อนที่จะบีบมือเธอเบาๆ เอาไว้คุยกันพรุ่งนี้ก็ได้ คู่เดทของลูกคงรออยู่... คบกันอยู่หรือเปล่า?
ฟ้าแค่มางานนี้เป็นเพื่อนเขาน่ะค่ะ แล้วฟ้าก็ยังไม่ได้ตัดสินใจคบหากับเขาถึงขั้นนั้น แล้วชาร์ล็อตก็ยิ้มให้กับจิลเลียนก่อนที่จะตัดบท ไว้พรุ่งนี้ฟ้าจะโทรหาแม่แต่เช้านะคะ
แม่จะรอนะ แล้วหล่อนก็ดึงเธอเข้ามากอดหลวมๆ พร้อมกับจูบแก้มเธออีกครั้งก่อนที่จะผละออกไปรวมกลุ่มกับพวกชายหญิงวัยกลางคนที่จับกลุ่มคุยกันอยู่
ชาร์ล็อตยังคงยืนอยู่ที่เดิมก่อนจะถอนหายใจน่าแปลกที่เธอทั้งรู้สึกโล่งใจและหนักใจไปในเวลาเดียวกัน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าจิลเลียนคงมีคำถามมากมายที่จะถามเธอเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเพราะอะไรเธอถึงได้รู้จักโรเบิร์ตและมาพักอาศัยอยู่บ้านของเขาเป็นแน่ และยังไม่รวมถึงเรื่องของริชาร์ดและแจ็คด้วย ดูจากที่เห็นแม่ของเธอกับแจ็ครู้จักและดูจะสนิทสนมกันอยู่ไม่น้อย คิดดูแล้วก็เหมือนเป็นเรื่องตลกร้ายจนแทบหัวเราะไม่ออก เพราะเขาคงไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อของเขาและแม่ของเธอว่าเคยเป็นอะไรกันมาก่อนแน่
********************************
ฝ่ามืออุ่นๆ ที่แตะลงบนไหล่ของเธอนั้นดึงให้ชาร์ล็อตหลุดจากห้วงภวังค์ความคิด เธอรีบปรับสีหน้าให้แตะแต้มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อหันกลับไป หากก็ต้องชะงักค้างเมื่อพบว่าคนที่เธอกำลังยิ้มให้นั้นไม่ใช่ริชาร์ดแต่เป็นแจ็ค
ริชาร์ดมีธุระด่วนที่จะต้องกลับไป เขาเลยฝากผมมาขอโทษคุณแล้วก็ขอให้ผมช่วยพาคุณกลับไปบ้านแทน
เธอขมวดคิ้วมุ่น ธุระด่วน... มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าคะ
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไร ผมเห็นเขาออกไปคุยโทรศัพท์อยู่พักหนึ่งแล้วก็เดินกลับเข้ามาบอกว่ามีธุระด่วนที่จะต้องรีบไปจัดการ ดูจากท่าทางแล้วเขาคงไม่อยากทิ้งคุณเอาไว้คนเดียวแบบนี้สักเท่าไหร่หรอก เขาอธิบายพลางยักไหล่กับประโยคหลังคล้ายกับไม่ค่อยอยากใส่ใจกับเรื่องของริชาร์ดนัก
ถ้าหากเป็นอย่างนั้นก็คงช่วยไม่ได้ คุณไม่ต้องลำบากไปส่งฉันที่บ้านก็ได้นะ ฉันดูแลตัวเองได้ แล้วเธอก็หันหลังและเดินผ่านเขาไป หากก็ต้องชะงักเมื่อมือของเขาคว้าที่ต้นแขนของเธอและดึงให้เธอหันกลับมา
ถึงแม้ว่าผมจะไม่ชอบที่ริชาร์ดจีบคุณด้วยการพามาเปิดตัวงานรวมเหล่าไฮโซแบบนี้ แต่ว่าผมเต็มใจที่จะอยู่ในงานนี้ถ้าหากมีคุณอยู่ด้วยนะ
แต่ฉันไม่ ปล่อยนะ! เธอเข่นเสียงใส่เขาพลางดึงแขนกลับแต่แจ็คเองก็ยังจับแขนเธอเอาไว้แน่นก่อนจะดึงเธอเข้ามาชิดและก้มลงไปกระซิบข้างหู
ถ้าคุณอยากโวยวายจนกลายเป็นคอลัมน์ซุบซิบในหนังสือพิมพ์ก็ตามใจ เพราะผมจะไม่ปล่อยให้คุณอยู่ในงานนี้หรือกลับบ้านคนเดียวโดยเด็ดขาด แล้วเขาก็ถอยออกพร้อมกับคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่เธอ แล้วแต่คุณนะ ผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว
แม้ว่าตอนนี้เธออยากจะกางเล็บข่วนใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังยิ้มให้เธออย่างถือดีนั้นมากเพียงใด แต่สิ่งที่ชาร์ล็อตทำได้ในเวลาก็เพียงแค่ถลึงตาใส่เขาพร้อมกับพ่นลมหายใจฮึดฮัดด้วยความเคืองขุ่น
ก็ได้ ทีนี้ปล่อยฉันได้รึยัง
แจ็คเลิกคิ้วข้างหนึ่งพลางหรี่ตามองเธอแล้วก็ปล่อยแขนของเธอแต่โดยดี และในขณะที่เธอกำลังจะฉวยโอกาสนั้นเดินหนี เขาก็ไวพอที่จะสอดแขนเข้าไปโอบหมับเข้าที่เอวของเธอแล้วก็กดมือตรึงตรงบั้นเอวของเธอแน่นราวกับทากาวติดเอาไว้
ผมไม่หลงกลคุณง่ายๆ หรอกนะฟ้า เขาพึมพำเสียงต่ำก่อนจะแตะริมฝีปากที่ขมับของเธอเบาๆ อย่างอดใจไม่อยู่
หญิงสาวนิ่งงันไปด้วยความตกใจก่อนที่จะกัดฟันแน่นด้วยความโมโหที่เสียรู้เขาจนได้และพยายามไม่สนใจความรู้สึกที่ยังหลงเหลืออยู่ตรงที่ริมฝีปากของเขาแตะเมื่อครู่และไอร้อนจากฝ่ามือของเขาแตะบั้นเอวของเธอที่ส่งกระแสความร้อนแล่นผ่านไปทั่วทั้งร่างพร้อมกับเงยหน้าพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
คุณปล่อยฉันเถอะค่ะ ถ้าใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดี แล้วเธอก็ยกมือขึ้นดันหน้าอกของเขาและเอนกายออกห่างเมื่อพบว่าเธอกับเขาดูเหมือนจะยืนเบียดชิดกันมาเกินไปแล้ว ฉันขอร้อง
แจ็คสบตากับเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพยักหน้าและถอยออกห่าง หากมือที่แตะตรงบั้นเอวของเธอนั้นก็เลื่อนมากุมมือของเธอเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะออกแรงดึงให้เธอเดินตามเขาไป
นี่คุณจะไปไหนน่ะ
ไปหาอะไรกิน ผมยังไม่ได้ทานมื้อเย็นเลย
แต่การแสดงจะเริ่มแล้วนะ เธอท้วง
หรือว่าคุณอยากไปนั่งแกร่วอยู่ในโรงละครดูบัลเล่ต์จนดึก?
แต่ว่ามันเสียมารยาทนะ
ผมเซ็นเช็คบริจาคให้กับงานนี้ไปแล้ว ไม่มีใครสนใจหรอกว่าคุณจะอยู่หรือคุณจะกลับ
ชาร์ล็อตกลอกตากับความเอาแต่ใจของเขาหากก็เดินตามแรงดึงเพราะรู้ว่าเถียงไปก็คงเปล่าประโยชน์ เขาพาเธอเดินออกทางอีกด้านหนึ่งของงานเพื่อเลี่ยงสายตาของคนและนักข่าวที่ยืนออกันอยู่ตรงทางเข้างาน
ผมรู้ว่าคุณไม่อยากเป็นที่สนใจของนักข่าวเท่าไหร่
ชาร์ล็อตหันไปมองแจ็คที่พูดโดยไม่หันมามองเธอแต่มือของเขาที่กุมมือของเธอเอาไว้นั้นบีบกระชับให้แน่นขึ้น เธอก้มหน้างุดเมื่อรู้สึกถึงความร้อนที่แล่นขึ้นมากระจุกตัวที่ใบหน้าจากความเอาใจใส่แบบทื่อๆ ของเขาแล้วเดินตามไปจนถึงที่รถเอสยูวีที่จอดอยู่ตรงลานจอดรถ
คุณจะพาฉันไปไหน เธอถามเขาหลังจากที่เข้ามาอยู่ในรถแล้ว
แจ็คหันมามองเธอก่อนที่จะสตาร์ทรถ ผมบอกแล้วไงว่าผมหิว
แล้วทำไมคุณถึงไม่ทานอะไรก่อนมางานนี้ล่ะคะ
ผมเพิ่งรู้ว่าริชาร์ดพาคุณมางานนี้ก็ตอนที่เขามารับคุณที่บ้าน กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวโกนหนวดเสร็จก็ช้ามากแล้ว คุณคิดว่าผมจะมีเวลาแวะหาอะไรทานหรือไง
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่ฉันมางานนี้กับริชาร์ดด้วย
เพราะผมรู้ว่าริชาร์ดกำลังจีบคุณ และผมไม่อยากให้เขามาจีบคุณ
แต่ว่านี่มันเป็นเรื่องของฉันนะ คุณไม่มีสิทธิ์จะมายุ่งด้วยเลยสักนิด
ทำไมจะไม่มีล่ะ ก็ในเมื่อหมอนั่นมายุ่งกับผู้หญิงผม
ชาร์ล็อตอ้าปากค้างกับคำตอบของเขา นี่คุณ...
อย่าโกหกผมว่าคุณชอบเขาน่าฟ้า ผมรู้ว่าคุณไม่ได้คิดอะไรกับหมอนั่นในแบบนั้น
แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าฉันคิดยังไงกับริชาร์ด
แจ็คปรายตามองเธอเมื่อรถจอดติดไฟแดง คุณเอาแต่ใส่หน้ากากยิ้มแย้มตลอดเวลาที่อยู่กับหมอนั่น แล้วตอนที่ผมบอกคุณว่าเขากลับไปแล้วน่ะคุณทำท่าโล่งใจ แล้วอย่างนี้ยังจะเถียงอยู่อีกหรือเปล่าว่าผมพูดผิด
เธอกัดริมฝีปากแน่นก่อนที่จะตวัดค้อนใส่เขาในขณะที่นึกค่อนเขาในใจด้วยความหมั่นไส้ที่ช่างสังเกตและรู้ทันเธอไปเสียหมดเหลือเกินและหันข้างไปมองวิวข้างทางแทนที่จะต่อปากต่อคำกับเขาอีก
**********************************
นี่คุณจะแวะที่ร้านนี้จริงๆ น่ะเหรอ
แจ็คหันมามองชาร์ล็อตที่แสดงสีหน้าประหลาดใจเมื่อเขาจอดรถที่หน้าร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ดูเหมือนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดทั่วไป
ร้านนี้เป็นร้านประจำของผม หรือว่าคุณไม่ชอบร้านอาหารถูกๆ แบบนี้? เขาย้อนถาม
ไม่ใช่ว่าฉันรังเกียจหรอกนะ แต่ที่ฉันถามก็เพราะว่าคุณจะให้ฉันลงไปร้านนั้นทั้งที่แต่ตัวแบบนี้น่ะเหรอ? เธอว่าพลางก้มลงมองเครื่องแต่งกายของตัวเอง
แจ็คมองไปตามมือของเธอแล้วเขาก็หัวเราะเมื่อนึกขึ้นได้ว่าสภาพการแต่งกายที่อยู่ในชุดราตรียาวของเธอและสูททักซิโด้ของเขานั้นมันไม่ได้เหมาะกับการมาที่ร้านนี้สักเท่าไร
จริงด้วยสิ ผมเองก็ลืมไปเสียสนิท เขากล่าวพร้อมกับเอี้ยวตัวไปหยิบเสื้อโค้ทตัวใหญ่ที่อยู่ตรงเบาะหลังยื่นให้กับเธอ เช่นกันกับตัวเขาที่กำลังปลดโบว์ไทออกตามด้วยกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวในสองเม็ดบนก่อนจะเปิดประตูรถแล้วเดินอ้อมไปทางด้านฝั่งที่เธอนั่งแล้วเปิดประตูให้ ชาร์ล็อตเลิกคิ้วให้กับเขาที่ยืนรอช่วยประคองเธอลงจากรถ
แจ็คเล่าให้ชาร์ล็อตฟังว่าเจ้าของร้านนี้เป็นชาวอเมริกันที่แต่งงานกับคนอังกฤษและตัดสินใจย้ายมาทำธุรกิจที่นี่ เพราะเช่นนั้นการตกแต่งร้านจึงให้ความรู้สึกถึงความเป็นอเมริกันมากจนเหมือนหลุดออกมาจากหนังในยุคซิกซ์ตี้ก็ไม่ปาน
นั่งรอได้ไม่นานนักพนักงานเสิร์ฟชายผิวสีร่างท้วมก็เดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับเมนูอหาร แจ็คกล่าวทักทายพนักงานเสิร์ฟด้วยความคุ้นเคย ก่อนที่จะสั่งชีสเบอร์เกอร์ มันทอด และเบียร์ให้กับตัวเองก่อนที่จะหันมาถามเธอ
คุณจะสั่งอะไรไหม
ชาร์ล็อตส่ายหน้า ฉันทานมาแล้วค่ะ
ริชาร์ดพาคุณไปทานมื้อค่ำก่อนที่จะมางานบัลเล่ต์อย่างนั้นล่ะสิ เขาว่าพลางแค่นเสียงขึ้นจมูก
ฉันทานมื้อเย็นที่โอลิเวียเตรียมไว้ให้ก่อนที่ฉันจะออกไป เธอตอบก่อนจะหันไปสั่งชาร้อนกับพนักงานเสิร์ฟที่จดรับออเดอร์จากเธอแล้วก็รีบเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์ ก่อนที่จะหันมาทำหน้าบึ้งใส่เขา
ขอร้องเถอะนะแจ็ค เลิกทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉันเสียทีเถอะ เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน
ผมจูบคุณไปสองครั้งแล้วคุณยังคิดว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันอีกเหรอ
เธออ้าปากค้างในขณะที่ใบหน้าของเธอนั้นแดงระเรื่อขึ้นมาแทบจะในทันที เราไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วเรื่องนั้นน่ะคุณทึกทักเอาเองทั้งนั้นแหละ
จริงเหรอ จากที่ผมรู้สึกไม่เห็นจะเป็นแบบนั้นเลยสักนิด
มันไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก เลิกคิดเข้าข้างตัวเองได้แล้ว
เขากลั้นยิ้มเพราะแม้ชาร์ล็อตจะปฏิเสธเขาเสียงแข็งอย่างนั้นแต่ใบหน้าที่แดงจัดของเธอนั้นทำให้เขารู้ได้โดยทันทีว่าเธอกำลังคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น และก่อนที่เขาจะแกล้งหยอกให้เธอรู้สึกเขินหนักไปกว่านี้พนักงานเสิร์ฟยกอาหารและเครื่องดื่มมาวางไว้ที่โต๊ะ เขาก็ต้องหัวเราะออกมาจนได้เมื่อเธอเบิกตาโพลงกับอาหารที่อยู่ตรงหน้าเขา
นี่คุณอย่าบอกนะว่าคุณจะกินหมด เธอถามพลางชี้ไปที่แฮมเบอร์เกอร์ชิ้นโตที่วางเด่นอยู่บนจานซึ่งล้อมรอบด้วยมันทอดที่ปริมาณไม่น้อยเช่นกัน
ไม่ต้องห่วงหรอก ผมกินหมดแน่ เขาตอบแล้วก็หยิบแฮมเบอร์เกอร์ขึ้นมาก่อนจะส่งเสียงครางในลำคอ ผมคงต้องเป็นลมตายแน่ถ้าหากยังยืนอยู่แล้วก็แทะเศษแซนด์วิชในงานนั้นต่ออีกสักชั่วโมง
พูดจาน่าเกลียด เธอทำหน้านิ่วกับคำบรรยายของเขา แล้วก็ไม่มีใครกะจะไปหาอะไรทานในงานแบบนั้นหรอก
งั้นก็คงเป็นความผิดของผมเองที่ไม่ค่อยได้ไปออกงานสังคมเหมือนอย่างคนพวกนั้น เขาว่าพลางนึกถึงความแตกต่างระหว่างครอบครัวของเขากับพวกเจนนิ่งส์ แจ็คไม่เคยรู้สึกว่าครอบครัวของเขาด้อยศักดิ์กว่าครอบครัวของเฮเลนเลยสักนิด กลับกันที่เขาและพ่อกับแม่ต่างก็พอใจกับชีวิตสมถะอย่างปุถุชนธรรมดาทั่วไป และเมื่อมีโอกาสได้ไปงานสังคมเช่นนี้สองสามครั้งเขาก็คิดว่าตัวเขาเองคงไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตอยู่ในแวดวงสังคมเช่นนี้จริงๆ
แล้วคุณชอบออกงานสังคมแบบนั้นเหรอถึงได้มากับริชาร์ด
ฉันเป็นนางแบบ มันจำเป็นที่ฉันจะต้องไปงานเลี้ยงหรืองานสังคมบ้างตามที่ต้นสังกัดจะส่งฉันไป แล้วต้องให้พูดอีกกี่ครั้งว่าเรื่องฉันกับริชาร์ดมันไม่เกี่ยวกับคุณ
แจ็คยักไหล่คล้ายกับไม่ใส่ใจในคำพูดของเธอแล้วเขาทานอาหารตรงหน้าโดยไม่พูดอะไรอีก ในขณะที่ชาร์ล็อตยกถ้วยชาขึ้นมาจิบเป็นระยะแล้วหันหน้าไปมองภาพของแสงไฟจากรถที่วิ่งผ่านไปบนถนนด้านนอกเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตากับเขา ความเงียบที่ปกคลุมทั้งคู่ทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนเพราะรู้ดีว่าเขาเป็นฝ่ายผิดที่พูดจาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอ
ฟังนะ ผมขอโทษที่ทำตัวจุ้นจ้านไม่เข้าเรื่อง แต่ผมไม่อยากให้คุณไปยุ่งเกี่ยวกับริชาร์ดมากนักเพราะผมกับครอบครัวของเขากำลังมีปัญหาที่จะต้องเคลียร์กันอยู่ คุณไม่คิดบ้างเหรอว่ามันอันตรายแค่ไหนถ้าเกิดพวกเขารู้ว่าพินัยกรรมตัวจริงน่ะอยู่ที่คุณ
ฉันก็บอกคุณไปแล้วว่าฉันดูแลตัวเองได้ ไม่จำเป็นจะต้องให้ใครมาเป็นห่วง
จะไม่ห่วงได้ยังไงในเมื่อผมน่ะแคร์คุณมากแค่ไหนไม่รู้เหรอ
ชาร์ล็อตหันกลับมามองเขาก่อนที่จะรีบกัดริมฝีปากแน่นพลางก้มหน้าลงมองถ้วยชาที่วางอยู่บนโต๊ะ
ขอบคุณในความเป็นห่วงนะคะ แต่ฉันยืนยันว่าฉันดูแลตัวเองได้
แจ็คพ่นลมหายใจออกมาอย่างยอมแพ้กับความดื้อรั้นของเธอแล้วจึงตัดสินใจเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเป็นเรื่องอื่นแทน
คุณรู้จักกับพ่อของผมได้ยังไงเหรอครับ
ทำไมคุณถึงถามฉันแบบนี้ล่ะคะ เธอถามพลางเงยหน้าขึ้นมามองเขาพร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
คุณบอกว่าพ่อของผมมีบุญคุณและคุณก็นับถือท่านเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ ผมก็เลยอยากรู้ว่าพ่อกับคุณรู้จักกันได้ยังไง
หญิงสาวเคาะปลายนิ้วกับถ้วยชาพร้อมกับเงียบไปครู่หนึ่งคล้ายกับกำลังชั่งใจว่าจะเล่าดีหรือไม่
ฉันพบกับพ่อของคุณครั้งแรกตอนที่เขาไปบรรยายเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์งานวรรณกรรมที่มหาวิทยาลัยของ พอรู้ว่าพ่อของคุณจะมาเป็นวิทยากรบรรยายในงานนั้นฉันก็ตัดสินใจลงทะเบียนเพื่อเข้าฟังบรรยายตลอดทั้งคอร์สนั้นเลย แล้วคงเพราะฉันกระตือรือร้นกว่าคนอื่นพ่อของคุณเลยสะดุดตาฉันก็เลยมีโอกาสได้พูดคุยกับพ่อของคุณนอกรอบ แล้วก็... เธอหยุดพูดไปครู่หนึ่งคล้ายกับลังเลแต่สุดท้ายก็พ่นลมหายใจยาวเหยียดพลางกล่าวต่อ
ปรากฏว่าพ่อของคุณรู้จักกับพ่อของฉัน พอรู้ว่าฉันเป็นลูกของคนรู้จักและรู้ว่าความฝันของฉันคือการเป็นนักเขียน พ่อของคุณก็เลยช่วยให้คำปรึกษากับฉันเกี่ยวกับเรื่องการเริ่มต้นเป็นนักเขียนมาโดยตลอดรวมถึงช่วยแนะนำสำนักพิมพ์ที่เหมาะกับผลงานของฉันด้วย และเพราะท่านคงจะก็เอ็นดูฉันเหมือนเป็นลูกเป็นหลาน ฉันก็เลยติดต่อกับพ่อของคุณอยู่เสมอ และไปเจอกับท่านทุกครั้งที่มีโอกาส
คงเป็นเพราะอย่างนี้พ่อก็เลยไว้ใจที่จะฝากพินัยกรรมฉบับจริงไว้ที่คุณ
ฉันเองก็แปลกใจเหมือนกันที่พ่อของคุณฝากของสิ่งนี้ไว้กับฉัน เพราะฉันเองก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับครอบครัวของคุณเลย แต่ก็คงเป็นเพราะท่านเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของคุณและแม่ของคุณมากกว่า
แล้วแม่ของคุณล่ะ ท่านรู้จักกับพ่อของผมหรือเปล่า
ดวงตาของเธอมีแววชะงักและปรากฏความรู้สึกบางอย่างออกมาเพียงชั่วครู่ก่อนที่เธอจะก้มหน้าเพื่อหลบสายตาของเขาพลางส่ายหน้า
แล้วแม่เคยบอกคุณหรือเปล่าล่ะคะว่าท่านรู้จักกับพ่อของคุณหรือเปล่า
เขาขมวดคิ้ว คุณหมายความว่ายังไง
ฉันกับแม่ไม่มีโอกาสได้เจอกันบ่อยนักหรอกค่ะ แล้วพนันได้เลยว่าเวลาที่คุณรู้จักกับแม่น่ะมากกว่าเวลาที่ฉันได้อยู่กับแม่เสียด้วยซ้ำ
น้ำเสียงที่เจือไปด้วยความขมขื่นในใจของชาร์ล็อตนั้นทำให้แจ็ครู้สึกได้ว่ามันต้องมีอะไรนอกเหนือจากที่เธอบอกแต่เขาจะไม่กดดันเอาคำตอบจากเธอทั้งหมดในคราวเดียว เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้และปล่อยให้หัวข้อสนทนานี้จบไปและสังเกตได้ว่าชาร์ล็อตเองก็ดูมีท่าทีที่ผ่อนคลายขึ้นเช่นกัน
ดูเหมือนว่าพ่อของผมจะมีความลับอีกหลายอย่างที่ผมยังไม่รู้ ไม่น่าเชื่อว่าท่านจะเก็บงำเรื่องพวกนี้โดยที่ไม่เคยบอกให้ผมรู้เลย
คนเราทุกคนต่างก็ต้องมีเรื่องที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ เพราะมันอาจทำร้ายความรู้สึกของคนที่เรารักได้ ไม่ว่าทางตรงหรือว่าทางอ้อม แต่กับบางเรื่อง บางทีการที่ได้รู้ความจริงเสียบ้างก็อาจจะทำให้เราเจ็บปวดน้อยกว่าที่เคยเป็น หรือไม่ก็ทำใจได้ง่ายขึ้น
แสดงว่ายังมีเรื่องอื่นเกี่ยวกับพ่อที่คุณไม่ยอมบอกให้ผมรู้
เธอยิ้มในขณะที่แววตาฉายแววเศร้าออกมาอย่างเบาบางหากไม่ยอมพูดอะไรอีก แจ็คโบกมือเรียกพนักเสิร์ฟให้มาเติมชาให้กับเธอก่อนที่เขาจะจัดการอาหารตรงหน้าต่อพร้อมกับชวนเธอคุยเกี่ยวกับเรื่องอื่นแทน
*****************************
บทสนทนาระหว่างเขาและเธอเปลี่ยนหัวข้อไปเรื่อยๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการทำงานของเขาและเธอ แจ็คเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับเรื่องเหตุผลที่เขาต่อเติมบ้านเพื่อสร้างสตูดิโอส่วนตัวเพราะเขาอยากใช้เวลากับแม่ของเขาให้มากกว่าที่เคยเป็น รวมถึงเรื่องการลาออกจากงานที่ทำกับนิตยสารสารคดีด้วย
แล้วคุณไม่เสียดายเหรอคะที่ต้องทิ้งงานที่คุณรักไป
เขาวางแก้วเบียร์ที่เพิ่งยกขึ้นดื่มพร้อมกับส่ายหน้า ไม่หรอก ผมมั่นใจว่าถ้ามีโอกาสอีกผมก็สามารถกลับไปทำมันได้ ถึงจะเสียดายแต่ครอบครัวก็สำคัญกว่าสำหรับผม
คุณตัดสินใจถูกแล้วล่ะค่ะ เธอกล่าวเพียงแค่นั้นแล้วก็เงียบไปพร้อมกับก้มหน้ามองถ้วยชาเธอประคองไว้ในมืออยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวต่อ บางทีฉันก็อิจฉาครอบครัวของคุณที่รักและห่วงใยกันขนาดนี้
คุณพูดเหมือนกับว่าครอบครัวของคุณไม่รักกันเลย... แล้วเขาก็สบถออกมาเบาๆ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าแม่ของเธอไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกับเธอ แถมยังใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังมาโดยตลอดที่เขาได้รู้จักหล่อนด้วย ขอโทษด้วย... ผมไม่ทันคิด
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันชินแล้ว เธอยิ้มให้กับเขาเหมือนกับไม่ใส่ใจ แต่สิ่งที่ปรากฏในสายตาของชาร์ล็อตนั้นเจือไปด้วยความเจ็บปวดเบาบางที่ทำให้เขารู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นยังคงเป็นแผลในใจของเธออยู่ แม่กับพ่อของฉันหย่ากันตั้งแต่ฉันยังเด็ก พอแยกทางกันแม่ก็เดินทางไปทั่วโลกเพื่อทำงานวิจัย ฉันเลยต้องอยู่กับพ่อที่เอาทุ่มเทชีวิตให้กับงานจนไม่เคยสนใจฉันเลย
แจ็คเริ่มเข้าใจเธอมาบ้างแล้วว่าเพราะเหตุใดเธอถึงบอกเขาว่าเธอไม่มีความเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนเมื่อตัวอย่างที่เธอเห็นและเติบโตมานั้นเป็นเช่นไร เขานึกภาพตามคำบอกเล่าคร่าวๆ ของเธอ เด็กผู้หญิงที่ต้องเติบโตมาโดยที่ครอบครัวแตกแยกและไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างที่ควรจะได้รับแล้วก็รู้สึกเหมือนหัวใจกำลังถูกบีบรัด เขาอยากลุกขึ้นไปแล้วดึงเธอเข้ามากอดแล้วกระซิบบอกให้เธอรู้ว่าเขาจะไม่เป็นแบบนั้น แต่ทว่าในความเป็นจริงเขาก็ทำได้เพียงพยายามไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมาเพราะไม่อยากให้เธอคิดไปว่าเขากำลังเวทนาเธออยู่
ชายหนุ่มวางแก้วเบียร์ที่เพิ่งดื่มหมดลงแล้วโบกมือเรียกบริกรเป็นสัญญาณบอกว่าคิดเงิน
หวังว่าคุณคงจะไม่ว่าอะไรนะถ้าหากว่าผมจะแวะที่หนึ่งก่อนที่เราจะกลับ
ที่ไหนเหรอคะ?
เดี๋ยวก็รู้ครับ
แล้วเขาก็ยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าที่นิ่งเฉยของเธอเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นมองเขาอย่างระแวงพร้อมกับคิ้วโก่งเรียวที่ขมวดมุ่น
ถ้าหากคุณไม่บอกแล้วฉันจะไว้ใจคุณได้ยังไงว่าคุณจะพาฉันกลับไปส่งที่บ้านอย่างปลอดภัย
ชายหนุ่มหัวเราะเมื่อเห็นชาร์ล็อตทำหน้างอและมองเขาด้วยความระแวง ไม่ไว้ใจผมเหรอ?
เธอเลิกคิ้วมองเขาก่อนจะส่ายหน้า ก็คุณมันไม่น่าไว้ใจจริงๆ นี่คะ
คุณช่างมองผมในแง่ร้ายจริง เขาแกล้งทำหน้าบึ้งก่อนที่จะเปิดประตูรถให้กับเธอ เชื่อผมเถอะครับว่าผมไม่ได้พาคุณไปสถานที่แปลกๆ อย่างที่คิดหรอก
ชาร์ล็อตหรี่ตามองเขาพลางส่ายหน้าแบบไม่เชื่อในคำพูดเขาเท่าไรนัก หากก็ยอมให้เขาช่วยประคองให้เธอขึ้นไปนั่งบนรถแต่โดยดีก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปด้านฝั่งคนขับและแล่นรถออกไป
แจ็คเหลือบมองชาร์ล็อตที่เอาแต่นั่งเงียบและหันหน้าไปมองข้างทางแล้วก็ลอบถอนหายใจ สีหน้าที่ทะเล้นขี้เล่นเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเมื่อเขากำลังคิดไตร่ตรองกับเรื่องทั้งหมดที่ได้รับรู้กับตัวเอง
ทุกอย่างที่เขาเคยเป็นดูเหมือนจะผิดเพี้ยนไปหมดเมื่อเจอชาร์ล็อต จากปกติที่เขาจะแก้ไขปัญหาและรับมือกับสิ่งต่างๆ ด้วยความสงบและเยือกเย็น แต่พอเป็นเรื่องเกี่ยวกับเธอแล้วเขาก็เหมือนความเป็นเหตุเป็นผลของเขาจะหายไปจนหมดสิ้น ทั้งที่เขาหึงเธอจนหน้ามืดและคิดไปว่าเธอเป็นมีความสัมพันธ์กับพ่อของเขา แจ็คยังนึกโกรธตัวเองไม่หายที่พูดจาทำร้ายจิตใจเธออย่างร้ายกาจแม้ว่าเธอจะไม่ได้พยายามอธิบายหรือแก้ไขความเข้าใจผิดนั้นก็ตาม
และในเวลานี้เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาจะพยายามทุกทางเพื่อแก้ไขสิ่งที่เขาทำลงไปให้มันถูกต้อง แม้ว่ามันจะยากพอๆ กับการที่จะต้องพลิกโลกทั้งใบก็ตาม
โปรดติดตามตอนต่อไป
รักคนอ่านค่ะ