บทที่ 10
โรเบิร์ต ฮอว์ธอร์นมองเอกสารสองฉบับที่วางอยู่ตรงหน้าพร้อมกับยกแว่นขยายขึ้นมาส่องเปรียบเทียบดูความแตกต่างซึ่งแม้ว่าจะใช้แว่นขยายแล้วก็ยังไม่สามารถระบุความแตกต่างของลายเซ็นในเอกสารทั้งสองฉบับว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร
ดูไม่ออกเลยใช่ไหมล่ะว่าอันไหนของจริงอันไหนของปลอม
โรเบิร์ตเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ตรงด้านตรงข้ามของโต๊ะทำงานของเขาแล้วก็ถอนหายใจ ก็จริงอยู่ แต่ว่าที่ให้นายมาวันนี้ไม่ใช่เพราะเรื่องการปลอมลายเซ็นในเอกสารหรอกนะไมค์ ฉันคิดว่าพวกเจนนิ่งส์คงไม่ได้คิดตื้นๆ ถึงขนาดจ้างคนมาปลอมลายเซ็นโฮเวิร์ดในพินัยกรรมที่ทำขึ้นมาเองหรอก
ถ้าไม่ใช่เรื่องปลอมลายเซ็น ก็แสดงว่าเป็นวิธีอื่น... หรือนายรู้ว่าพวกเจนนิ่งส์ปลอมพินัยกรรมด้วยวิธีไหน
นายจำมาร์ค คอตเทอร์เรลได้ไหม
ไมเคิล คอร์เนลลีเบิกตากว้างขึ้นกับสิ่งที่โรเบิร์ตพูดออกมา คอตเทอร์เรล? อย่าบอกนะว่าหมอนั่นเป็นทนายให้กับพวกเจนนิ่งส์
ช่วยไม่ได้นะที่จะต้องบอกว่าใช่ มาร์คกับพวกเจนนิ่งส์ เหมาะกันดีไหม
ยิ่งกว่าคลีโอพัตรากับมาร์ค แอนโธนี่ เลยด้วยซ้ำ ไมเคิลแค่นเสียงก่อนที่จะถอนหายใจ แต่ถึงแม้ว่ามันจะฟังดูเหมือนแย่ แต่จริงๆ มันก็ดีตรงที่ว่านายพอจะเดาได้ว่าจะต้องเริ่มสืบจากตรงไหน ใช่ไหมล่ะ
โรเบิร์ตหัวเราะพลางโคลงศีรษะ มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดหรอก ถึงแม้ว่าใครจะรู้กันอยู่บ้างว่ามาร์คน่ะถนัดในเล่นนอกกติกาเพื่อให้ฝ่ายตัวเองได้เปรียบ แต่ก็ยังไม่เคยมีใครพิสูจน์ได้จริงจังสักทีว่าหมอนั่นใช้วิธีไหนบ้าง
ที่นายอยากให้ฉันมาหาก็เพราะเรื่องนี้สินะ
ช่วยไม่ได้นี่นะ ถ้าหากอยากได้ความจริงมันก็ต้องใช้คนที่เก่งพอที่จะไว้ใจได้ และหนึ่งในมือดีของกองพิสูจน์หลักฐานของสก๊อตแลนด์ยาร์ดอย่างนายไม่คิดจะช่วยเหลือเพื่อนฝูงกันบ้างหรือไง นึกถึงตอนที่เรายังเรียนที่มหาวิทยาลัยสิ...
พอเลยบ๊อบ ถ้านายพูดถึงเรื่องที่ฉันท้องเสียจนไปสอบไม่ไหวอีกฉันจะกลับ ไมค์ว่าพลางทำหน้าบึ้งใส่เขา แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องหาเบาะแสมาให้ได้ก่อนอยู่ดี
เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจะรีบหาเบาะแสมาให้ได้เร็วที่สุด
ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้ ไมเคิลกล่าวสรุปพลางลุกขึ้นยืน เช่นเดียวกันกับโรเบิร์ตที่ยืนขึ้นพร้อมกับยื่นมือมาเช็คแฮนด์
ขอบใจมากนะไมค์
ฉันช่วยเพราะเห็นแก่โฮเวิร์ดหรอก... ถ้าอย่างนั้นฉันกลับเลยก็แล้วกัน มีความคืบหน้าอะไรก็โทรมา
โรเบิร์ตยิ้มพลางบีบไหล่ของไมเคิล ฝากด้วยนะไมค์
ไมเคิลพยักหน้าให้กับเขาก่อนที่จะเดินออกไป ส่วนโรเบิร์ตนั้นก็เดินกลับมานั่งลงตรงโต๊ะทำงานของตัวเองอีกครั้งพร้อมกับมองตัวอย่างเอกสารที่ไมเคิลนำมาให้ดูแล้วถอนหายใจ แม้ว่าจะได้ไมเคิลมาช่วยแต่การที่จะหาเบาะแสว่าพวกเจนนิ่งส์ปลอมพินัยกรรมของโฮเวิร์ดได้อย่างไรนั้นก็ไม่ใช่งานง่ายสำหรับเขาเช่นกัน
และอีกเรื่องที่เขายังกังวลใจก็คือความปลอดภัยของชาร์ล็อต เพราะถ้าหากว่าพวกเจนนิ่งส์รู้ว่าเธอมีพินัยกรรมฉบับจริงเก็บไว้กับตัวก็อาจจะเกิดอันตรายขึ้นกับเธอก็ได้ แล้วไหนจะเรื่องที่เธอพยายามจะช่วยเขาสืบหาเบาะแสด้วยการยอมเปิดโอกาสให้ริชาร์ดเข้ามาจีบซึ่งถึงว่าเป็นการกระทำที่ค่อนข้างเสี่ยงอยู่ไม่น้อย
เสียงโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะทำงานดังขึ้นดึงให้โรเบิร์ตหลุดจากห้วงความคิด เขายกหูโทรศัพท์ขึ้นมาและตอบกลับไป
ว่ายังไงแมรี่
คุณโคลเทรนมาแล้วค่ะ
ให้เข้ามาได้เลย... แล้วผมขอกาแฟร้อนกับขนมด้วยนะ
ได้ค่ะคุณฮอว์ธอร์น
แล้วโรเบิร์ตก็วางหูโทรศัพท์ลงกับแป้นพร้อมกับยกมุมปากยิ้มอย่างอ่อนล้า
นี่ก็อีกคนที่จะต้องเป็นห่วงละนะ
*******************************
อากับชาร์ล็อตมีข้อตกลงอะไรกันเอาไว้แน่ครับ แจ็คเอ่ยปากถามคนตรงหน้าหลังจากที่เลขาฯ ของโรเบิร์ตนำเครื่องดื่มและของทานเล่นมาให้
ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ
โรเบิร์ตเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยในขณะที่ถามเขากลับคล้ายกับไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เขาถามทำให้แจ็คกัดฟันแล้วก็พ่นลมหายใจออกมาช้าๆ พร้อมกับสั่งให้ตัวเองใจเย็นให้มากกว่านี้เพราะการจะคาดคั้นเอาความจริงกับโรเบิร์ตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
เพิ่งรู้สึกเกลียดคนที่มีอาชีพทนายก็วันนี้นี่แหละ
ถ้าหากว่าชาร์ล็อตมีเอกสารสำคัญของพ่อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องพินัยกรรมจริงทำไมอาไม่บอกให้ผมรู้ว่ามันคืออะไร และการที่อาให้เธอมาอยู่ในบ้านของอาทั้งที่อาก็รู้อยู่ว่าเธอเป็นชู้ของพ่อผมยิ่งทำให้ผมสงสัยว่าสาเหตุที่แท้จริงที่เธอมาอยู่ที่นี่เป็นเพราะอะไรกันแน่
แจ็คจ้องมองโรเบิร์ตเพื่อรอฟังว่าอีกฝ่ายจะตอบคำถามเขาว่าเช่นไร
พ่อของนายมีปัญหากับเฮเลนมานานเรื่องส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ของนักเขียนกับสำนักพิมพ์มาได้ระยะหนึ่งแล้ว และในระหว่างที่ยังหาข้อสรุปเรื่องค่าลิขสิทธิ์ไม่ได้ โฮเวิร์ดก็รู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องที่พวกเฮเลนอ้างว่าจะเอาลายเซ็นไปใช้สำหรับหนังสือวิเคราะห์ลายเซ็นแต่ไม่เคยได้ยินวี่แววว่าสำนักพิมพ์จะทำหนังสือแนวที่ว่าเลย โฮเวิร์ดเลยตัดสินใจที่จะทำพินัยกรรมเอาไว้เผื่อว่าถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นพวกเจนนิ่งส์จะไม่ฉวยโอกาสนี้ทำเอกสารปลอมเพื่อเอาเปรียบพวกนาย แต่ก็ไม่คิดว่าจะกล้าถึงขนาดทำพินัยกรรมปลอมขึ้นมา
นี่หมายความว่าอาปิดบังเรื่องที่พ่อทำพินัยกรรมเอาไว้ไม่ให้ผมกับแม่รู้ นี่อาอย่าบอกผมนะว่าเอกสารที่พ่อฝากไว้ที่ชาร์ล็อตคือ...
โรเบิร์ตลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่กรอบรูปซึ่งอยู่ด้านหลัง และแจ็คก็พบว่ามันถูกแขวนเอาไว้เพื่อซ่อนตู้เซฟ โรเบิร์ตหันหลังให้กับเขาพร้อมกับกดรหัสใส่แผงควบคุมก่อนที่จะเปิดออกและหยิบซองเอกสารที่อยู่ข้างในออกมาวางตรงหน้าแจ็ค
ชายหนุ่มหยิบซองเอกสารขึ้นมาจะเปิดดูแต่ก็พบกับตราผนึกตรงปากซองซึ่งเป็นลายเซ็นของพ่อและโรเบิร์ต เขาถอนหายใจก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะ เขาเงยหน้าขึ้นมองโรเบิร์ตที่พยักหน้าก่อนจะเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานและหยิบซองเอกสารอีกซองมาวางและพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้เขาเปิดดู
แจ็คหยิบซองเอกสารอีกซองขึ้นมาเปิดดูแล้วก็พบว่ามันเป็นสำเนาของพินัยกรรมที่โรเบิร์ตกล่าวถึง เขาอ่านแต่ละบรรทัดอย่างตั้งใจ เนื้อหาในพินัยกรรมนั้นระบุเอาไว้ว่าทรัพย์สินทั้งหมดของโฮเวิร์ดได้แบ่งให้เขากับแม่อย่างเหมาะสม และเงินบัญชีในธนาคารส่วนหนึ่งก็ถูกบริจาคให้กับการกุศล ซึ่งก็ต่างกับพินัยกรรมฉบับที่เฮเลนกล่าวอ้างมาโดยสิ้นเชิง
โรเบิร์ตรอจนกระทั่งเขาอ่านจบและวางมันลงบนโต๊ะจึงได้กล่าว
พินัยกรรมถูกทำไว้สองฉบับ ฉบับหนึ่งอยู่ที่นี่ ส่วนอีกฉบับหนึ่งโฮเวิร์ดฝากเอาไว้ชาร์ล็อตที่อเมริกา... ถ้าเดาไม่ผิดก็คงเป็นวันที่ถูกถ่ายรูปได้และเป็นข่าวนั่นแหละ
ผมไม่เข้าใจ ทำไมพ่อถึงได้ฝากพินัยกรรมเอาไว้ที่ชาร์ล็อต ทั้งที่ในสำเนาที่อาเอาให้ผมอ่านไม่ได้ระบุว่าพ่อจะยกอะไรให้กับเธอเลย ชายหนุ่มกล่าวพลางยกมือลูบหน้าตัวเองแรงๆ ก่อนจะกล่าวต่อ อย่างน้อยผมก็คิดว่าพ่อไม่น่าจะเป็นคนแล้งน้ำใจแบบนั้น
เรื่องนั้นอาตอบไม่ได้หรอกนะว่าเพราะอะไร แต่เรื่องที่ว่าทำไมโฮเวิร์ดฝากพินัยกรรมไว้กับชาร์ล็อตน่ะ ก็คงเพราะรู้อยู่แล้วว่าพวกเฮเลนคงคิดเล่นไม่ซื่อเลยสั่งอาเอาไว้ว่าให้เก็บพินัยกรรมเอาไว้จนกว่าจะครบสองเดือนหลังจากที่ตายไป และก็เป็นไปอย่างที่คิดเพราะเฮเลนก็เอาพินัยกรรมปลอมมาอ้าง ส่วนการที่ชาร์ล็อตมาที่นี่ก็เพราะโฮเวิร์ดเคยบอกเธอเอาไว้ว่าถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นอาจะติดต่อเธอไปแต่ว่าอาไม่ได้ทำเพราะอยากจะรอดูท่าทีของพวกเจนนิ่งส์ให้ชัดเจนกว่านี้
เธอก็เลยมาที่นี่เอง... แจ็คต่อประโยคให้ก่อนจะถอนหายใจ แล้วทำไมพ่อถึงไม่เคยบอกว่าพ่อทำพินัยกรรมเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว การที่พ่อฝากพินัยกรรมไว้ที่อาผมก็ยังพอเข้าใจได้ แต่กับชาร์ล็อตนี่สิ... ทำไมพ่อถึงได้ไว้วางใจเธอถึงขนาดนั้น
ที่ไม่บอกให้นายกับแม่รู้ก็เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยและดูเหมือนโฮเวิร์ดจะไว้ใจชาร์ล็อตมากพอที่จะให้เธอเก็บของสำคัญอย่างพินัยกรรมเอาไว้ และจากที่เห็นอาก็ว่าโฮเวิร์ดไม่ได้คิดผิดนะ
ก็คงรักกันมากจริงๆ สินะ เขาว่าพลางแค่นหัวเราะเสียงหยัน
แจ็ค... นี่นายยังคิดว่าชาร์ล็อตมีอะไรกับโฮเวิร์ดจริงๆ น่ะเหรอ?
มันก็ชัดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับว่าอะไรเป็นอะไร หรืออามองไม่ออก
ไม่รู้สิ อามองกับนายมองอาจจะเห็นไม่เหมือนกันก็ได้ โรเบิร์ตกล่าวพร้อมกับยิ้มให้กับเขาอย่างรู้ทัน แต่อาคงไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับชาร์ล็อตหรอก นายวางใจเถอะ
แจ็ครู้สึกชาขึ้นมาทั้งหน้าเมื่อถูกดักคอเช่นนี้ อาครับ ผมไม่ได้คิดว่าอาจะ...
อารู้ แต่อยากบอกให้เข้าใจว่าสิ่งที่อากับชาร์ล็อตกำลังทำอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่เพื่อตัวเองแต่เพื่อครอบครัวของนายต่างหาก
ชายหนุ่มก้มหน้าหลบสายตาของคนสูงวัยกว่าด้วยความละอายที่นึกคลางแคลงในใจตัวของโรเบิร์ต
ผมไม่ได้ตั้งใจจะคิดว่าอาจะมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับชาร์ล็อต แต่เพราะ... ช่างเถอะครับ ผมผิดเองที่ด่วนสรุปทุกอย่างเร็วเกินไป
โรเบิร์ตส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มก่อนจะลุกขึ้นมาบีบไหล่ของชายหนุ่มเบาๆ ไม่เป็นไรหรอกแจ็ค อารู้ว่านายเครียด แต่อาอยากให้นายทำตัวดีๆ กับชาร์ล็อตให้มากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เธอมาที่นี่ด้วยเจตนาที่ดีและในตอนนี้คนที่อาเป็นห่วงมากกว่านายก็คือเธอ...
ทำไมเหรอครับ แจ็คถามพลางขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ หากการสนทนาของพวกเขาก็ถูกขัดขึ้นด้วยเสียงเคาะประตูพร้อมกับแมรี่ที่เดินเข้ามาในห้อง
ขอโทษนะคะ พอดีคุณอีแวนส์มารอพบเรื่องรีวิวสัญญา ไม่ทราบว่าจะให้รอหรือว่าจะให้ดิฉันเลื่อนนัดไปก่อนคะ?
ไม่ต้องเลื่อนหรอกแมรี่ ผมเสร็จธุระกับแจ็คพอดี แล้วโรเบิร์ตก็หันมาพยักหน้ากับแจ็ค ฝากสวัสดีชาร์ล็อตกับโอลิเวียด้วยนะ
แม้ว่าจะยังไม่ค่อยเข้าใจใจสิ่งที่โรเบิร์ตพูดมากนักแต่แจ็คก็พยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นแล้วสวมกอดกับอีกฝ่าย ดูแลตัวเองด้วยนะครับ
โรเบิร์ตพยักหน้าก่อนจะตบแก้มชายหนุ่มเบาๆ ลองมองอะไรในแง่บวกดูบ้างจะได้ไม่รู้สึกเสียดายทีหลัง
****************************
หลังจากที่ได้ปะทะคารมกับแพทริคเมื่อวานนี้จนทำให้จิตใจของเธอต้องขุ่นมัวมาตั้งแต่เมื่อวาน ชาร์ล็อตจึงตัดสินใจที่จะกำจัดมันทิ้งไปด้วยการวิ่งออกกำลังกาย เธอผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดออกกำลังกายแบบแนบเนื้อพร้อมกับแจ็คเก็ตกันลมและรองเท้าผ้าใบที่เธอมักพกติดกระเป๋าเดินทางมาด้วย นอกเหนือจากต้องการขจัดความเครียดแล้วคนที่ประกอบอาชีพนางแบบเช่นเธอจำเป็นต้องรักษารูปร่างให้พร้อมสำหรับการทำงานอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นการออกกำลังกายและเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จึงจำเป็นสำหรับนางแบบในยุคใหม่ที่นิยมรูปร่างแบบสุขภาพดีมากกว่าผอมแห้งไร้ชีวิตชีวาเหมือนอย่างเมื่อก่อน
เธอยืนยืดกล้ามเนื้อและอบอุ่นร่างกายจนพอใจ หลังจากนั้นเธอจึงคว้ากระบอกน้ำใส่ตรงสายคาดเอวพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มาเชื่อมต่อกับหูฟังไร้สายที่คล้องอยู่ตรงหัวไหล่ของเธอเพื่อเปิดโปรแกรมเล่นเพลงที่อยู่ในโทรศัพท์แล้วเดินไปที่ประตูรั้ว เธอเริ่มออกวิ่งเลียบไปตามถนน เมื่อรู้สึกว่าขาของเธอเริ่มเข้าจังหวะกับลมหายใจของเธอได้แล้วเธอก็เร่งความเร็วในการก้าวฝีเท้าขึ้นจนรู้สึกได้ถึงความหนาแน่นของมวลอากาศที่เธอวิ่งฝ่าอยู่
ชาร์ล็อตกัดริมฝีปากตัวองเมื่อนึกถึงสิ่งที่แพทริคบอกเธอทางโทรศัพท์ เธอรู้ว่าการที่เธออยู่ที่นี่ต้องทำให้แพทริคไม่พอใจและการที่พาตัวเองมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องพินัยกรรมของพวกโคลเทรนคงเป็นสิ่งสุดท้ายในโลกที่เขาอยากจะได้ยิน แต่มันก็ช่วยไม่ได้เพราะนับตั้งแต่วันที่โฮเวิร์ดนำพินัยกรรมมาฝากไว้กับเธอซึ่งนั่นก็หมายความว่าไม่มีทางที่เธอจะไม่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้อยู่แล้ว เธอหัวเราะกับความเจ้าเล่ห์โฮเวิร์ดที่วางแผนไว้ล่วงหน้าราวกับรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ แต่สิ่งที่โฮเวิร์ดคงคาดไม่ถึงก็น่าจะเป็นเรื่องระหว่างเธอกับแจ็ค
รอยยิ้มที่ระบายอยู่บนใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขา ชาร์ล็อตคิดว่าตัวเธอเองน่าจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้นับตั้งแต่วินาทีที่เธอรู้ว่าแจ็คคือใคร แต่พอเอาเข้าจริงๆ แล้วดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสวนทางกับความตั้งใจของเธอไปเสียหมด ทั้งเรื่องการที่โรเบิร์ตชักชวนให้เธอมาพักอยู่บ้านหลังติดกับเขา หรือการที่เขาอาสามาเป็นผู้อบรมทางศีลธรรมให้กับเธอด้วยพฤติกรรมที่เขาคิดว่าเธอกำลังจะไปมีสัมพันธ์สวาทกับลูกพี่ลูกน้องของเขา
เธอไม่รู้ว่าจะจัดการความรู้สึกของตัวเองเช่นไร ทั้งที่ความตั้งใจของเธอคืออยากจะผลักไสเขาให้ห่างจากเธอด้วยการที่ปล่อยให้เข้าใจว่าเธอเป็นชู้กับพ่อของเขา แต่ทุกครั้งที่ถูกแจ็คมองด้วยสายตารังเกียจและกล่าวหานั้นมันก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก เธออยากเกลียดเขาเผื่อว่ามันอาจทำให้เธอทำใจรับมือกับถ้อยคำที่ช่างทำร้ายจิตใจได้ง่ายขึ้นแต่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขานั้นห่างไกลจากคำว่าเกลียดไปมากโข
หญิงสาวกัดริมฝีปากตัวเองแล้วเร่งฝีเท้าขึ้นไปอีกราวกับอยากจะหนีความวุ่นวายในชีวิตที่เธอถูกลากให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เธอวิ่งจนกระทั่งได้ยินเสียงเตือนจากเครื่องวัดระยะทางเนื่องจากหัวใจของเธอทำงานหนักมากเกินไปและรู้สึกแสบร้อนไปทั่วปอดจากอากาศที่ถูกแผดเผาไปอย่างรวดเร็วกับความเร็วในการวิ่งเทียบเท่ากับนักกรีฑา เธอผ่อนฝีเท้าลงจนกลายเป็นเดินแล้วหยิบเอากระบอกน้ำที่ห้อยอยู่ตรงสายคาดเอวขึ้นมาจิบพร้อมกับอดเสื้อแจ็กเก็ตที่สวมอยู่มาพันไว้รอบเอวให้ร่างกายท่อนบนที่สวมแค่เสื้อกล้ามรัดรูปสำหรับออกกำลังกายได้รับลมเย็นในช่วงเย็นก็ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดมากเหมือนอย่างเมื่อครู่
หลังจากที่ลมหายใจกลับมาเป็นจังหวะปกติแล้วเธอก็แค่นเสียงใส่ตัวเองด้วยความหงุดหงิดกับความคิดที่ยังวนเวียนอยู่ในหัว เธอไม่สนใจว่าแพทริคจะว่าอะไรกับการที่เธอมาอยู่ที่อังกฤษ เธอมีชีวิตเป็นของเธอเองนับตั้งแต่วันที่เธออายุครบสิบแปดและแยกตัวออกมาใช้ชีวิตเพียงลำพัง และตลอดเวลาที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้เธอก็ไม่เคยปล่อยให้ใครเข้ามาพัวพันกับชีวิตเธอมากจนเกินไป ถึงจะมีเพื่อนร่วมวงการนางแบบอยู่บ้างก็จริงแต่เพราะความสันโดษของเธอเองก็ทำให้ไม่ได้สนิทสนมมากจนถึงเข้าถึงเบื้องลึกของชีวิตเธอที่ไม่เคยยกมาเล่าให้ใครฟัง เพราะสิ่งที่เธอพบเจอมาตลอดทั้งชีวิตนั้นคือการถูกทำร้ายทางใจจากคนที่เธอรักทำให้เธอไม่คิดจะไว้ใจใครหรือเปิดใจรับใครให้ก้าวล้ำเข้ามาหลังกำแพงที่สร้างเอาไว้เพื่อปกป้องหัวใจที่เต็มไปด้วยบาดแผลจนคิดว่าไม่น่าจะมีใครฝ่าทลายกำแพงเข้ามาทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวได้
จนกระทั่งได้พบกับแจ็ค...
เธอหลับตาพลางพ่นลมหายใจยาวเหยียด สายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเขาที่มองมาที่เธอเมื่อวานในขณะที่เขายืนฟังเธอถกเถียงกับแพทริคอย่างดุเดือดทางโทรศัพท์นั้นทำให้เธอเอ็ดตัวเองในใจไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบกับความไม่รอบคอบของตัวเอง นี่ยังดีว่าเธอไม่ได้พูดอะไรกับแพทริคมากนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นแจ็คต้องรู้แน่ว่าเธอไม่ใช่ชู้รักของโฮเวิร์ดอย่างที่เขาเข้าใจ ทุกอย่างที่เป็นในเวลานี้คงจะยุ่งยากขึ้นไปอีก เพราะเธอไม่คิดว่าจะใจแข็งพอที่จะปิดกั้นไม่ให้เขาเข้าถึงความรู้สึกที่แท้จริงที่เธอเก็บซ่อนไว้ลึกสุดข้างในหัวใจ
*******************************
เมื่อการออกกำลังกายไม่ได้ช่วยให้ความคิดหรืออารมณ์ของเธอปลอดโปร่งอย่างที่คิด ชาร์ล็อตจึงตัดสินใจวิ่งกลับบ้านทั้งที่อารมณ์ยังคงขุ่นมัวอยู่ไม่หาย และพอมาถึงบ้านเธอต้องก็ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อพบกับแจ็คยืนกอดอกอยู่หน้าประตูบ้านพักของเธอ หญิงสาวชะลอฝีเท้าให้ช้าลงจนกลายเป็นเดิน เมื่อสังเกตท่าทางและสีหน้าของแจ็คนั้นเดาได้ไม่ยากว่าเขายืนรอเธอมาสักพักแล้ว
คุณมีธุระอะไร
ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ
เรื่องอะไรเหรอคะ เธอเลิกคิ้วกับคำตอบของเขาและก่อนที่จะได้ทันตั้งตัว เขาก็คว้าแขนของเธอแล้วเปิดประตูบ้านลากเธอเข้าไปข้างในบ้านโดยไม่นำพากับการดิ้นขืนหรือเสียงประท้วงของเธอ
นี่คุณ! จะทำอะไรน่ะ ปล่อยฉันนะ!!
เธอได้ยินเขาแค่นเสียงลอดไรฟันออกมาด้วยความหงุดหงิดก่อนจะหันมาตวัดเสียงใส่เธอ ช่วยเดินตามมาเงียบๆ จะได้ไหม เดี๋ยวคนก็เข้าใจผิดหมดหรอก
ก็ปล่อยฉันสิ มีอะไรก็คุยกันข้างนอกก็ได้ นี่เล่นจู่ๆ ก็ลากเข้ามาในบ้านแบบนี้จะไม่ให้ฉันโวยวายได้ยังไง เอ๊ะ! นี่บอกให้ปล่อยไง ไม่อย่างนั้นฉันจะตะโกนเรียกโอลิเวีย
โอลิเวียกลับไปแล้ว
เธอชะงักแล้วก็ออกแรงกระชากแขนให้หลุดจากมือของเขาด้วยสัญชาตญาณการระวังภัยของตัวเอง การอยู่ในที่รโหฐานเพียงลำพังกับแจ็คไม่ใช่ความคิดที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่เธอสวมชุดออกกำลังกายอย่างเสื้อกล้ามเอวลอยรัดรูปและกางเกงออกกำลังกายขาสั้นเข้ารูปเช่นเดียวกัน
เมื่ออกแรงดึงแล้วไม่ได้ผล เธอจึงใช้มืออีกข้างที่ว่างทั้งทุบและข่วนเขาเพื่อทำให้ตัวเองเป็นอิสระจากมือที่จับต้นแขนของเธอเอาไว้แน่นราวกับคีมเหล็ก
หยุดดิ้นซะทีได้มั้ย เขาเอ็ดก่อนจะคว้าแขนอีกข้างของเธอเอาไว้และเธอถึงได้รู้ตัวว่าถูกเขาพาเข้ามาอยู่ในห้องทำงานของโรเบิร์ต
แจ็คปล่อยเมื่อพาเธอมายืนอยู่ตรงกลางห้อง แล้วเธอก็เบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเขาเดินกลับไปปิดประตูและกดล็อค
นี่คุณคิดจะทำอะไรกับฉัน เธอถามพลางถอยกรูดไปจนติดกับชั้นหนังสือ มือควานไปเจอกับกรอบรูปที่วางอยู่ใกล้มือได้แล้วก็ยกขึ้นพร้อมกับขู่ อย่าเข้ามาใกล้นะ!
แจ็คเอียงคอมองเธอก่อนที่มุมปากของเขาจะยกขึ้นคล้ายยิ้ม และเขาก็เดินผ่านหน้าเธอไปยังโต๊ะทำงานของโรเบิร์ตและนั่งลงที่เก้าอี้ทำงานด้วยความคุ้นเคยราวกับเป็นเจ้าของ
คุณคิดว่าผมจะลากคุณเข้ามาปล้ำในห้องนี้เหรอ?
เธอกระพริบตาเพื่อไล่ความตระหนกออกไปเมื่อดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้คุกคามเธออย่างที่คิด แต่เธอก็ยังไม่คลายความระมัดระวังโดยเฉพาะกรอบรูปที่อยู่ในมือของเธอซึ่งพร้อมจะบินไปกระทบศีรษะเขาได้ทุกเมื่อถ้าหากว่าเขาคิดจะทำอะไรไม่ชอบมาพากลกับเธอ
แจ็คมองเธอด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยหากดวงตาของเขาที่เป็นประกายระยิบนั้นทำให้เธอรู้ว่าเขากำลังกลั้นหัวเราะกับท่าทางของเธออยู่ก่อนที่เขาจะเบนสายตาไปที่เก้าอี้ที่อยู่ด้านตรงข้ามของโต๊ะทำงาน
นั่งก่อนสิ
ชาร์ล็อตมีท่าทางลังเลเพราะไม่รู้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไรกับเธอ แต่เธอก็ยอมนั่งลงแต่โดยดี
ตกลงว่าคุณมีอะไรจะคุยกับฉัน
ทำไมพ่อถึงฝากพินัยกรรมเอาไว้ที่คุณ
เธอนิ่งงันด้วยไม่ทันตั้งตัวว่าเขาจะถามเธอเรื่องนี้ และแจ็ครู้ได้อย่างไรว่าเอกสารที่โรเบิร์ตบอกกับเขานั้นคือพินัยกรรม เพราะเธอไม่เคยพูดหรือบอกให้เขาหรือใครๆ เคยได้รู้เลย
เมื่อวานที่ผมได้ยินคุณพูดโทรศัพท์ผมก็เลยสงสัย เพราดูเหมือนว่าคุณกับอาบ๊อบกำลังปิดบังอะไรบางอย่างไม่ให้ผมรู้อยู่ ผมเลยเข้าไปคุยกับอาบ๊อบว่าคุณกับอาบ๊อบกำลังคิดทำอะไรอยู่กันแน่
นี่คุณคิดว่าฉันกับคุณฮอว์ธอร์นกำลังรวมหัวกันหลอกคุณอยู่เหรอ เธอถามพร้อมกับรู้สึกฉุนที่เขาช่างมองเธอในแง่ร้ายเสียเหลือเกิน
มันก็ชวนให้คิดเป็นแบบนั้นอยู่ไหมล่ะ ในเมื่อจู่ๆ อาบ๊อบก็ชวนให้คุณที่เพิ่งจะรู้จักกันมาพักอยู่ที่บ้านของตัวเอง แถมยังทำตัวมีลับลมคมในทั้งที่เรื่องพวกนี้มันเกี่ยวข้องกับผมโดยตรงแท้ๆ แต่พอคุยกันแล้วผมถึงได้รู้ว่าเพราะพ่อฝากพินัยกรรมไว้ที่คุณ อาบ๊อบถึงเชิญให้คุณมาพักที่นี่ ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมพ่อถึงต้องฝากพินัยกรรมไว้ที่คุณด้วย
ชาร์ล็อตนั่งเงียบไม่ยอมตอบคำถามของเขา เธอไม่รู้ว่าเขาแกล้งทำเป็นรู้หรือเปล่าว่าเอกสารที่อยู่กับเธอนั้นคืออะไร แจ็คมองเธออย่างอดทนก่อนจะถอนหายใจ
ตอนแรกผมคิดว่าการที่อาบ๊อบให้คุณมาพักที่บ้านหลังนี้ด้วยเหตุผลอื่น แต่ผมรู้แล้วว่าผมเข้าใจผิดและผมก็อคติกับคุณมากเกินไป
ก็ไม่แปลกอะไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจ เธอตอบเพียงแค่นั้นแล้วก็ลุกขึ้นยืน พ่อของคุณฝากพินัยกรรมไว้ที่ฉันเพราะกลัวว่าญาติของคุณอาจเข้ามาขโมยเอกสารที่บ้านคุณเมื่อไหร่ก็ได้แล้วก็เพื่อความปลอดภัยของคุณกับแม่ของคุณด้วย
แล้วทำไมต้องเป็นคุณ ตอนแรกผมยังไม่รู้ว่ามันคือพินัยกรรมผมก็ยังไม่คิดอะไรมาก แต่นี่มันคือพินัยกรรม ทำไมพ่อถึงได้ไว้ใจคุณมากขนาดนั้น ทั้งที่... เขาพ่นลมหายใจพร้อมกับสบถออกมาเบาๆ ด้วยความหงุดหงิดก่อนจะกล่าวต่อ
เพราะถ้าหากว่าคุณเก็บไว้เพราะคิดว่าพ่อจะให้อะไรกับคุณก็คงไม่ใช่ เพราะอาบ๊อบเอาสำเนาพินัยกรรมให้ผมอ่านแล้วและไม่มีชื่อของคุณในนั้นเลย
ฉันว่าฉันพูดชัดแล้วนะว่าฉันไม่ได้ต้องการทรัพย์สมบัติหรือสิ่งของใดๆ จากคุณหรือพ่อของคุณ ที่พ่อของคุณฝากของสิ่งนี้ไว้กับฉันก็เพราะเหตุผลอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ และฉันก็รับฝากเอาไว้เพราะพ่อของคุณมีบุญคุณคอยช่วยเหลือฉันมานาน
แจ็คขมวดคิ้วพร้อมกับมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสนเขายกมือขึ้นบีบสันจมูกของตัวเองก่อนที่จะถอนหายใจ
ถ้าอย่างนั้นช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่าผมเข้าใจคุณผิดเรื่องคุณกับพ่อหรือเปล่า
ชาร์ล็อตเม้มริมฝีปากแน่นกับคำถามของเขาพลางนึกไตร่ตรอง เธอรู้ว่าสักวันหนึ่งเขาก็จะรู้ว่าความจริงไม่ใช่เป็นอย่างที่เธอปล่อยให้เขาเข้าใจ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะปะติดปะต่อเรื่องได้เร็วถึงขนาดนี้
ฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพ่อของคุณอย่างที่คุณเข้าใจ ท่านเป็นเหมือนอาจารย์ เป็นญาติผู้ใหญ่ที่คอยดูแลและให้คำปรึกษา ให้โอกาสในการไล่ตามความฝันเป็นนักเขียนและเมื่อวันหนึ่งที่ท่านเอ่ยปากขอความช่วยเหลือเพราะคิดว่าทุกอย่างไม่ปลอดภัยสำหรับท่านอีกต่อไปฉันจึงไม่สามารถปฏิเสธท่านได้
หมายความว่าคุณไม่ได้เป็นชู้รักกับพ่ออย่างที่เป็นข่าว
เธอพยักหน้า ฉันรักและเคารพท่านเหมือนท่านเป็นญาติผู้ใหญ่ของฉัน
คุณพระช่วย... แจ็คทิ้งตัวลงกับพนักเก้าอี้พลางหลับตาแล้วสถบออกมาเบาๆ อีกรอบก่อนที่จะลืมตาขึ้นมองเธอด้วยความรู้สึกผิดที่ปรากฏชัดในดวงตาของเขา ผมไม่น่ามีอคติและด่วนสรุปคุณแบบนี้เลย แล้วไหนที่ผมยังพูดจาดูถูกคุณอีก...
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจว่าคุณรู้สึกยังไง เธอกล่าวพลางยักไหล่คล้ายกับไม่รู้สึกใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ถ้าหากว่าคุณรู้อยู่แล้วว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นมายังไง แล้วทำไมคุณถึงยังไปออกเดทกับริชาร์ดอยู่อีกล่ะ?
เขากล่าวพร้อมกับความรู้สึกที่แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัวเธอในดวงตาของเขา ชาร์ล็อตบีบมือเข้าหากันแน่นเพื่อระงับความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นพร้อมกับย้ำเตือนตัวเองว่าเขาไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะมาบอกว่าให้เธอทำหรือไม่ทำอะไร
ฉันจะทำอะไรมันเป็นเรื่องของฉัน หมดเรื่องจะคุยแล้วใช่ไหมคะ ฉันขอตัวก่อน แล้วเธอก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ประตู แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อมือใหญ่ของเขาทาบทับกับมือของเธอที่กำลังจะผลักบานประตูเปิดออก
ฟ้า ฟังผมก่อน
หญิงสาวรู้สึกเหมือนลมหายใจของตัวเองติดขัดขึ้นมากะทันหันจากน้ำเสียงทุ้มต่ำที่เรียกชื่อของเธอ ชาร์ล็อตพยายามสะกดจิตตัวเองว่าเธอจะต้องไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทว่าก็ดูเหมือนจะเปล่าประโยชน์เมื่อแขนอีกข้างสอดเข้ามาตวัดเอวและดึงร่างของเธอให้ถอยไปจนหลังของเธอชิดกับแผงอกกว้างของเขา มือข้างที่เขาทาบทับกับมือของเธอเอาไว้นั้นสอดประสานปลายนิ้วกับเธอแล้วจับให้มันมาทาบทับกับมืออีกข้างที่โอบเอวของเธอเอาไว้ก่อนที่เขาจะกล่าวต่อ
ที่ผมทำตัวไม่ดีกับคุณแบบนั้นเพราะผมหึงคุณ ผมทั้งหึงและอิจฉาพ่อ และยิ่งคิดว่าพ่อกับคุณมีความสัมพันธ์กันผมก็โกรธจนไม่คิดฟังอะไร ผมด่วนสรุปไปกับสิ่งที่เห็นและไม่เคยเปิดโอกาสให้คุณอธิบาย
เสียงกระซิบที่ข้างหูและลมหายใจร้อนๆ เป่ารดตรงต้นคอทำให้ชาร์ล็อตเม้มริมฝีปากแน่นและขืนตัวออกห่างจากความอบอุ่นที่เธอโหยหาจากเบื้องลึกของจิตใจ เธอหันกลับมามองเขาก่อนที่จะส่ายหน้า
คุณไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกค่ะ เพราะฉันตั้งใจที่จะให้คุณคิดแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะฉันไม่อยากให้คุณมาชอบฉัน
ทำไม? แจ็คขมวดคิ้วและมองเธออย่างไม่เข้าใจ เธอก้มหน้าลงเพื่อปล่อยให้ความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นหายไป ก่อนที่จะเงยหน้าสบตากับเขาด้วยสายตาที่เย็นชา
ฉันตั้งใจมาที่นี่เพื่อตอบแทนบุญคุณของดอกเตอร์โฮเวิร์ดเท่านั้น และเมื่อเสร็จเรื่องแล้วฉันก็จะกลับไปใช้ชีวิตตามทางของฉัน
แล้วเรื่องของเราล่ะ?
มันไม่มีเรื่องของเรามาตั้งแต่ต้นแล้ว คุณลืมมันไปเถอะ
ดวงตาของแจ็ควาววับด้วยโทสะขึ้นมาอีกครั้ง เขาคว้าต้นแขนทั้งสองข้างของเธอแล้วดึงเข้ามาชิดจนเธอต้องยกมือขึ้นยันหน้าอกเขาเอาไว้เพื่อรักษาระยะห่างไม่ให้ใกล้กันมากจนเกินไป
คุณมีปัญหาอะไรกับผมกันแน่ชาร์ล็อต ทำไมถึงปฏิเสธสิ่งที่เรามีต่อกันทั้งที่ก็เห็นอยู่ว่านี่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดไปแค่ข้างเดียว หรือว่าเพราะคุณเบื่อผมเลยไปหาของเล่นใหม่อย่างริชาร์ด
นี่จะต้องบอกกี่ครั้งว่าเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ! เธอตวาดใส่เขาเพื่อกลบเกลื่อนความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นเมื่อรู้สึกถึงไอร้อนจากร่างกายของเขาที่แล่นผ่านฝ่ามือของเธอที่แตะอยู่ตรงหน้าอกเขาเพื่อเว้นระยะห่างจากเขาแม้ว่ามันจะเปล่าประโยชน์ก็ตาม
ทำไมจะไม่เกี่ยวก็ในเมื่อคุณก็รู้อยู่ว่าผมคิดยังไงกับคุณ แล้วเขาก็ยกมือขึ้นประคองใบหน้าของเธอเอาไว้ไม่ให้หันหนีไปได้ และด้วยความกลัวว่าเขาจะเห็นความรู้สึกแท้จริงภายในที่เก็บซ่อนเอาไว้เธอจึงหลับตาลง
ปล่อยฉันนะแจ็ค
ถ้าอย่างนั้นคุณก็ลืมตาแล้วบอกผมสิว่าคุณไม่ได้คิดแบบเดียวกัน
ฉันบอกแล้วไงว่าคุณคิดไปเองคนเดียว แล้วอีกอย่างหนึ่งทำไมฉันต้องทำตามที่คุณบอกด้วย เธอตอบโดยที่ยังไม่ลืมตา
แต่คุณไม่ยอมลืมตา แสดงว่ากลัวผมรู้ว่าคุณกำลังโกหกล่ะสิ
เอ๊ะ! นี่คุณพูดไม่รู้เรื่อง... ชาร์ล็อตเอ่ยพร้อมกับลืมตา หากทว่าก็รู้ในทันทีว่าเธอตกหลุมพรางเขาเข้าเต็มเปาเพราะประโยคต่อมาที่เธอจะพูดถูกหยุดเอาไว้ด้วยริมฝีปากของเขาที่แนบประทับจูบลงมา
******************************
ชาร์ล็อตนิ่งค้างไปชั่วครู่ด้วยความตกใจ และในวินาทีต่อมาแจ็คก็ตวัดแขนโอบกอดพร้อมกับรั้งร่างของเธอให้เข้ามาชิดก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะแตะย้ำลงมาที่เดิม ฝ่ามือที่กดอยู่ตรงบั้นเอวของเธอนั้นร้อนจนเธอคิดว่ามันแผดเผาประทับตราบนผิวกายสร้างความรู้สึกวาบหวามจนทำให้เธอต้องเผยอริมฝีปากถอนหายใจซึ่งเปิดโอกาสให้เขาได้สอดปลายลิ้นเข้าไปทักทายภายในที่ทำให้ชาร์ล็อตลืมไปจนหมดสิ้นว่าก่อนหน้านี้เธอกำลังจะพูดปฏิเสธเขาว่าเช่นไร เพราะสิ่งที่เธอรู้สึกได้ในตอนนี้มีเพียงแค่ริมฝีปากของเขาที่บดเคล้ากับริมฝีปากของเธอและวงแขนที่กอดรัดเธอแน่นจนแทบจะจมหายไปกับแผงอกกว้างของเขาแล้วเท่านั้น
แจ็คครางเสียงต่ำในลำคอเมื่อชาร์ล็อตขยับริมฝีปากตอบรับจูบของเขา ชายหนุ่มช้อนท้ายทอยของเธอให้เงยหน้าขึ้นเพื่อให้เขาจูบเธอได้ถนัดขึ้น แขนทั้งสองข้างของเธอที่แตะอยู่ตรงหน้าอกเขาถูกเลื่อนขึ้นไปโอบรอบลำคอก่อนที่แจ็คจะดันเธอไปจนแผ่นหลังเธอชิดกับประตูไม้ เขาถอนริมฝีปากออกและแตะประทับสัมผัสร้อนจัดตรงแอ่งชีพจรของเธอจนเธอต้องส่งเสียงครางออกมาอย่างช่วยไม่ได้และเขาก็ตอบแทนเธอด้วยการขบเม้มผิวเนื้อกายหอมกรุ่นของเธอเบาๆ พร้อมกับกระซิบเสียงพร่าต่ำ
คุณยังอยากจะปฏิเสธว่าคุณไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมอีกไหม
คำถามของแจ็คดึงสติของเธอกลับมาและก็อาศัยโอกาสที่เขาไม่ทันตั้งตัวผลักเขาออกห่าง พอแจ็คจะเดินกลับเข้าไปหาเธอก็รีบยกมือห้ามพร้อมกับกล่าวเสียงหนักจนทำให้เขาชะงัก
หยุด อย่าเข้ามาใกล้ฉันอีก
ฟ้า แจ็คเรียกชื่อเธอในขณะที่มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
คุณไม่มีสิทธิ์มาบังคับให้ฉันตอบคำถามของคุณ ที่ฉันยอมเล่าความจริงเรื่องของฉันกับพ่อของคุณก็เพราะฉันไม่อยากให้คุณมองพ่อของคุณหรือคนที่คุณรักในแง่ร้าย เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามบังคับให้มันราบเรียบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขณะที่ร่างกายยังคงสั่นเทิ้มด้วยแรงปรารถนาที่แล่นไปทั่วร่างก่อนที่จะหันหลังให้กับเขาและเปิดประตูออกไปโดยไม่รอให้เขาได้โต้แย้งอะไรอีก
ถ้าออกไปแล้วก็ล็อคประตูให้ฉันด้วย และฉันไม่ชอบที่คุณถือวิสาสะเข้ามาในที่พักของฉันโดยพละการ หวังว่าครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะทำนะ เพราะไม่อย่างนั้นฉันจะย้ายไปอยู่ที่อื่นแม้ว่าคุณฮอว์ธอร์นจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม
แม้ว่าจะรีบก้าวเท้ามุ่งหน้าตรงไปที่ห้องพักของตัวเอง แต่ชาร์ล็อตก็ยังได้ยินเสียงสบถของเขาดังมาจากในห้องทำงานของโฮเวิร์ด เธอปิดประตูห้องพักและซบศีรษะกับเนื้อไม้เย็นเฉียบของบานประตูห้อง ร่างกายยังสั่นเทิ้มจากความหวั่นไหวจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ หญิงสาวหลับตาพลางถอนหายใจให้กับตัวเอง เรื่องที่ต้องหักห้ามใจตัวเองก็ว่ายากแล้ว แต่ดูเหมือนว่าการผลักไสให้แจ็คไปไกลห่างจากเธอนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก
มันคงจะดีกว่านี้ ถ้าหากเขาเป็นใครคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกชายของโฮเวิร์ด เธอแค่นหัวเราะกับความคิดของตัวเองที่รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะในความจริงแล้วเขาเป็นผู้ชายคนที่เธอไม่อาจจะปล่อยให้หัวใจรักเขาได้แม้ว่านั่นจะเป็นการฝืนความต้องการของตัวเองมากแค่ไหนก็ตาม
****************************
เสียงตอกตะปูดังก้องในส่วนที่เป็นไซต์งานต่อเติมบ้านของแจ็คซึ่งดังประสานเสียงกับเลื่อยไฟฟ้าและสว่านที่พวกช่างกำลังทำงานกันอย่างแข็งขัน ในขณะที่ชายหนุ่มเจ้าของบ้านนั้นกำลังใช้กระดาษทรายขัดโต๊ะไม้แบบทำเองที่เขาเพิ่งประกอบเสร็จอย่างขะมักเขม้นในขณะที่ความคิดของเขานั้นยังคงวนเวียนอยู่กับชาร์ล็อตมาตลอด
นับตั้งแต่วันนั้น เธอพยายามหลบหน้าเขาด้วยการเอาแต่ขลุกอยู่แต่ในบ้านหรือไม่ก็ขับรถออกไปไหนมาไหนตลอดทั้งวันเหมือนอย่างเคย
จนถึงตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกผิดที่ปล่อยให้ความหึงหวงมาทำให้เขากลายเป็นคนไร้เหตุผลจนคิดไปว่าเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพ่อของเขาและเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดเธอถึงอยากให้เขาเข้าใจผิดไปเช่นนั้น การที่เธอตัดรอนและพยายามทำตัวเหินห่างกับเขาเพราะเธอไม่ได้คิดไปในทางเดียวกันก็ฟังดูไม่สมเหตุสมผล เพราะถ้าหากเธอบอกว่าเธอไม่มีใจให้กับเขาอย่างที่พูด แล้วทำไมเธอถึงตัวอ่อนจนแทบละลายในตอนที่เขาจูบเธอกันเล่า
ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากตัวเองโดยไม่รู้ตัวเมื่อรสชาติหวานละมุนของริมฝีปากอิ่มตึงของเธอที่เขาได้สัมผัสอย่างแนบชิดวันก่อนยังเด่นชัดในความรู้สึก น่าแปลกเพราะเขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน ความรู้สึกที่อยากจะครอบครองตีตราจองและประกาศให้โลกทั้งโลกรู้ว่าเธอคือผู้หญิงของเขาเพื่อที่ใครจะได้ไม่ต้องมายุ่งหรือวุ่นวายกับเธออีก
แต่ที่ทำได้ก็เพียงแค่คิดเท่านั้นแหละนะ ผู้หญิงอะไรหัวรั้นชะมัดยาด แถมยังปากแข็งเป็นที่หนึ่งอีกต่างหาก...
แจ็คถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะละมือจากงานที่ทำอยู่แล้วก็เงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกริ่งประตูดัง เขาเดินออกไปที่ประตูแล้วก็พบว่าเป็นรถยนต์ของริชาร์ด เขาจึงกดรีโมทประตูรั้วให้เปิดออกเพื่อให้ผู้มาเยือนแล่นรถเข้ามา
มีอะไรหรือเปล่าริชชี่
ริชาร์ดที่เพิ่งลงจากรถพยักหน้าทักทายเขาพลางหันไปมองรอบๆ งานต่อเติมเดินหน้าไปได้เยอะเลยนี่ เร็วเหมือนกันนะ
ก็ยังแค่เฉพาะโครงสร้างน่ะ เรื่องการตกแต่งภายในยังมีงานที่จะต้องทำอีกเยอะ... ว่าแต่ตกลงนายมีธุระอะไรถึงต้องมาที่นี่
ฉันไม่ได้มีธุระกับนายหรอก แล้วริชาร์ดก็พยักเพยิดไปยังบ้านของโรเบิร์ต มีกับคนที่บ้านหลังโน้นต่างหาก
แจ็ครู้สึกว่าสันกรามของเขาเกร็งเขม็งขึ้นมากะทันหันเมื่อริชาร์ดพูดถึงชาร์ล็อต ก่อนที่จะถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
นี่นายยังจีบคุณคลาร์กอยู่อีกเหรอ
ก็เธอไม่ได้ปฏิเสธ ฉันก็ยังต้องมีหวังน่ะสิ
แล้วนายไม่ได้อ่านข่าวเรื่องของเธอกับพ่อฉันเหรอ เขาแกล้งลองหยั่งเชิงดูเผื่อว่าริชาร์ดอาจจะเข้าใจอะไรผิดเหมือนอย่างที่เขาเป็นก็ได้
ริชาร์ดหัวเราะก่อนจะโคลงศีรษะใส่เขาราวกับว่าเขากำลังพูดอะไรตลกๆ ให้ฟัง
นายเชื่อเหรอว่าผู้หญิงสวยๆ อย่างชาร์ล็อตจะอยากเป็นชู้กับผู้ชายแก่คราวพ่ออย่างน้าโฮเวิร์ด ถึงแม้ว่าน้าโฮเวิร์ดจะเป็นนักเขียนชื่อดังมากแค่ไหนแต่ว่าก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะดึงดูดสาวสวยๆ มาหลงรักได้หรอกนะ นายเองก็น่าจะรู้ดี
แจ็คคิดตามแล้วก็ถอนหายใจ มันก็จริง
อย่าคิดมากไปเลยน่า แล้วริชาร์ดก็ตบบ่าของเขาเบาๆ ก่อนจะมองนาฬิกา ฉันนัดชาร์ล็อตไว้ตอนหกโมงครึ่ง... งานบัลเล่ต์การกุศลน่ะ ตอนแรกฉันคิดว่าจะโดนปฏิเสธเสียแล้วแต่สุดท้ายเธอก็ตอบตกลงจนได้ ไม่รู้ว่าฉันโชคดีหรือว่าเธอใจอ่อนกับฉันก็ไม่รู้สินะ
ก็อาจเป็นทั้งสองอย่างก็ได้ ใครจะรู้ แจ็คว่าก่อนจะเหยียดริมฝีปากยิ้มทั้งที่ในใจอยากจะแล่นเข้าไปถามชาร์ล็อตให้รู้เรื่องว่าเธอกำลังคิดจะเล่นเกมอะไรกันแน่
จะว่าไปแล้วนายอยู่บ้านหลังติดกับเธอแบบนี้มีโอกาสได้คุยกันบ้างไหม ริชาร์ดเอ่ยถามพลางมองหน้าเขาอย่างจับสังเกต
ไม่นี่ ฉันเองก็ยุ่งอยู่กับเรื่องต่อเติมบ้าน ไม่มีเวลาไปสนใจคนอื่นหรอก
จริงเหรอ? อีกฝ่ายหรี่ตามองแจ็คอย่างไม่อยากเชื่อ
ทำไมล่ะ นายระแวงว่าฉันจะแย่งจีบเธอหรือไง
ก็ไม่ได้จะว่าแบบนั้น ช่างมันเถอะ... แล้วพินัยกรรมล่ะคุณฮอว์ธอร์นว่ายังไงบ้าง
ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบอยู่ แต่เห็นว่าเจอปัญหาเรื่องที่ว่าทนายของฝั่งนายน่ะส่งเอกสารให้มาตรวจสอบไม่ครบก็เลยทำให้อะไรๆ มันช้าไปกว่าเดิม นายรู้เรื่องนี้หรือเปล่าล่ะ?
คำถามของแจ็คทำให้รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของริชาร์ดเลือนหายไปในทันที
ฉันไม่รู้เรื่องนี้เลย เพราะอย่างนี้นี่เองฉันถึงไม่ได้ยินเรื่องความคืบหน้าอะไรเลยจากทางทนายของฉัน
ทางฉันเองก็ไม่ใช่ว่าจะมีเวลาเหลือมาก ถ้าหากทนายของนายไม่ให้ความร่วมมือเต็มที่อย่างที่นายบอก มันก็ช่วยไม่ได้นะที่ฉันจะคิดว่ามันมีอะไรน่าสงสัยในเรื่องนี้จริงๆ
ไม่เอาน่าแจ็ค พวกเราเป็นญาติกันนะ นายอย่ามองฉันกับแม่ในแง่ร้ายขนาดนั้นเลย
ฉันเองก็ไม่อยากจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน ยังไงนายก็บอกให้ทนายของนายช่วยให้ความร่วมมือกับอาบ๊อบหน่อยก็แล้วกัน
ริชาร์ดยกมือขึ้นลูบปลายคางของตนอย่างใช้ความคิดในขณะที่มองหน้าแจ็คก่อนที่จะยิ้มหากทว่าแววตาของญาติเขานั้นดูท่าจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่เขามาออกคำสั่งเช่นนี้
ฉันจะบอกให้เขารู้เอง นายไม่ต้องคิดมากไปหรอกนะ แล้วริชาร์ดก็ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ คุยกันจนเพลิน ดูเหมือนว่าจะได้เวลาไปรับชาร์ล็อตแล้วล่ะ งั้นฉันไม่กวนนายแล้วนะ
แจ็คหันไปมองบ้านหลังข้างๆ แล้วก็หันกลับมาหาริชาร์ด นายรู้หรือเปล่าว่าเธออยู่ที่นี่แค่ชั่วคราว
ริชาร์ดหัวเราะกับคำถามของเขาพร้อมกับพยักหน้า รู้สิ แต่ว่าถ้าไม่ลองคว้าโอกาสดูก็น่าเสียดาย
แล้วริชาร์ดก็บีบไหล่แจ็คเบาๆ อีกครั้งก่อนที่จะเดินกลับไปที่รถและโบกมือให้กับแจ็คอีกครั้งก่อนจะถอยรถออกจากบ้านของแจ็คไป
พอรถของริชาร์ดออกไปแล้ว แจ็คก็รีบเดินกลับเข้าไปในบ้าน เขาเดินไปบอกคนงานว่าให้หยุดงานไว้แค่นี้และกลับบ้านไปได้ ส่วนตัวเขานั้นเดินไปที่ห้องทำงานและหยิบซองจดหมายที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเปิดดูแล้วก็ยกมุมปากยิ้มเพราะเขาเองก็ได้รับบัตรเชิญไปงานนี้เช่นกัน ตอนแรกเขาคิดว่าจะไม่ไปงานนี้แล้วเพราะเขาไม่ได้ถูกโรคกับงานสังคมสักเท่าไรนัก แต่เพราะริชาร์ดจะพาชาร์ล็อตไปงานนี้เขาเลยเปลี่ยนความคิด
ชาร์ล็อตคงคิดผิดถ้าหากเธอคิดว่าเขาจะยอมทำตามที่เธอพูดง่ายๆ เพราะเขาจะไม่ยอมถอยจนกว่าจะได้รู้เหตุผลว่าเพราะอะไร
โปรดติดตามตอนต่อไป
รักคนอ่านค่ะ