ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
ปีศาจพันธุ์ดุ


'คนเก่า' เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากคลอง บางแวก

สมัยหนุ่มฉกรรจ์อุปนิสัยผมค่อนข้างห้าว ชอบเที่ยว ตะลอนๆ ไปทั่ว ตัวคนเดียวไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใดๆ ขนาดเพื่อนรุ่นใหญ่กว่าเกือบสิบปีคือ 'พี่ล้วน' แกมี ลูกมีเมียอยู่แล้วยังเที่ยวจีบสาวบางอื่นๆ เป็นว่าเล่น มีบ้านเล็กบ้านน้อยหลายหลัง พวกรุ่นน้องล้วนแต่ยอมซูฮกไป ตามๆ กัน

อยู่บางบอนยังอุตส่าห์ไปมีเมียน้อยถึงแม่กลองโน่นแน่ะคุณ!

ที่นั่นแหละครับ ผมโดนปีศาจพันธุ์ดุหลอกหลอนเอาปิ่มว่าจะล้มประดาตายซะให้ได้ เพราะความที่อุตริไปเที่ยวกับพี่ล้วนน่ะซี

เอาเรื่องปลาปีศาจก่อนละกัน!

พี่ล้วนฐานะดีมีทั้งเรือทั้งรถครบครัน บางทีก็ขน เพื่อนฝูงกับรุ่นน้องไปเที่ยวกัน เหล้ายาเพียบ แต่บางที ถึงฤดูน้ำใหม่หลากมา ฝูงปลาคึ่กๆ ทั้งปลาดุก ปลาช่อน ปลาสวายสารพัด ใครอยากลงเรือไปจับปลาไกลๆ หน่อยตามแหล่งที่มาตกคลั่กชุกชุม พี่ล้วนก็คิดค่าน้ำมันคนละ 20 บาทเอง

คืนนั้นพวกเราเกือบสิบคนนัดแนะกันลงเรือ ไปจับปลา เพราะได้ข่าวว่าถัดจากบางบอนขึ้นไปมีปลาชุมน่าดู ว่ากันว่าเอาข้องไปแค่ไหนก็ได้ปลา เต็มข้องแน่ๆ ใครจะไม่นึกสนุกล่ะครับ

มีดาบติดตัวคนละเล่มเอาไว้ฟันปลาตัวโตๆ ที่ผมนึกกระหยิ่มว่าเดี๋ยวได้ปลาอื้อซ่าแน่ๆ

เรือแล่นไปตามคลองบางแวกคดเคี้ยว ร่มครึ้มอยู่ใต้แสงดาวกระจ่างฟ้า ราวชั่วโมงเศษมาถึงจุดหมาย พวกประมงน้ำจืดทยอยจากเรือที่เกยฝั่ง ท่ามกลางพงอ้อกอหญ้ารกทึบ สายลมพัดโชยมาเย็นชื่น ยิ่งได้สุราดวดดื่มเข้าไปก็ยิ่งคึกคักกันใหญ่

พวกเราแยกย้ายกันไปหาเหยื่อตามชายน้ำที่มีดงกก รกทึบ กับแอ่งเว้าๆ แหว่งๆ ตามกอหญ้า แสงไฟฉายวูบวาบที่นั่นที่นี่ ส่วนผมใช้ตะเกียงแก๊สส่องปลา...แสงมันใสปิ๊งอย่าบอกใครเชียว

นั่นไง...เหยื่อตัวแรกปรากฏอยู่ในแสงไฟใกล้พงหญ้าพอดี!

ผมค่อยๆ ย่องเข้าไปหา จู่ๆ สายลมก็พัดซ่าอยู่บนยอดไม้เล่นเอาผมหันขวับ...สรรพสิ่งเงียบเชียบน่าใจหาย มองไปไกลๆ ก็เห็นแต่ท้องทุ่งเวิ้งว้างอยู่ใต้แสงดาว ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเรากำลังจะล่าเหยื่อตัวแรกอยู่นี่นา...

หันกลับไปมองให้แน่ใจ...โอ้โฮ! ไอ้ช่อนตัวเป้งยังลอยอยู่กับที่เหมือนจะรอคมมีดที่เงื้อสูง แล้วฟันโครมลงไปทันที เสียงฉัวะ! ดังชัดหูซะไม่มีละ

ทันใดนั้นไอ้ช่อนตัวยาวใหญ่เกือบเท่าข้อศอกก็ดีดตัวผึงมาลอยอยู่ในอากาศ ท่ามกลางการแหงนหน้า อ้าปากค้างของผม...ก่อนจะหล่นตุ๊บลงมาบนพื้นดิน ดิ้นรนเถือกไถไปมา แต่ไม่ยักมีร่องรอยว่าโดนคมมีดแต่ประการใด

ไม่เป็นไรวะ ลองอีกที!

ผมเลียปากมันเขี้ยว ฟันปลาบนบกมันง่ายกว่าในน้ำเป็นไหนๆ เหยื่อตัวเป้งเกล็ดดำเป็นมันวาวจนนึกถึงปลาช่อน แม่ลาเมืองสิงห์บุรี เขาว่าน้ำที่นั่นมีแร่ธาตุพิเศษที่ทำให้ปลาช่อนตัวใหญ่ เกล็ดดำเนื้อแน่นหนึบ หวานอร่อยสุดๆ

ไม่ต้องคิดอะไรมาก ผมเงื้อดาบฟันโครมลงไปโดยไม่ต้องกะเก็งให้เสียเวลา

'โอ๊ย!...' เสียงมีดกระทบตัวปลาจนกระเด้ง ขึ้นมา พร้อมกับเสียงแหกปากร้องเหมือนเสียงคนยังไงยังงั้น เล่นเอาผมสะดุ้งโหยง...ปลาอะไรร้องเป็นเสียงคน?

ทั้งโกรธทั้งกลัวจนทำให้ผมฟันตูมลงไปอีกครั้ง สุดแรงพ่อแก้วแม่แก้วก็แล้วกัน

'โอ๊ย! เจ็บโว้ย...' เสียงร้องโหยหวนทำให้หงายหลังตึง ลงไปนั่งกางขาตัวแข็งทื่อราวถูกสาป มีดหลุดจากมือ เบิกตาโพลงดูไอ้ช่อนดิ้นรน กระเสือกกระสนเข้าไปใน ซุ้มไม้ที่สูงเกือบถึงอก...หายลับไปกับแสงไฟเยือกเย็น!

สายลมเย็นยะเยือกพัดกรูเกรียวเข้ามา ฟังเผินๆ เหมือนเสียงใครกำลังทอดถอนใจยาวด้วยความเหน็ดเหนื่อยเต็มประดา

เอาละ! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วนี่นา พยุงตัวลุกขึ้นมาพร้อมกับสะกดอกสะกดใจไม่ให้เสียขวัญ เพราะเคยได้ยินพวกผู้ใหญ่เขาสอนว่า ถ้าตกใจวิ่งหนีละก็พวกภูตผีมันจะได้ใจ เข้าสิงสู่เล่นงานเอาย่ำแย่ถึงขนาดเป็นตายเท่ากัน

แข็งใจส่องไฟหาไอ้ช่อนเจ้ากรรมตัวนั้น แต่ก็ไม่เจอะเจอแม้แต่เงา...ให้ตายเถอะ! มันหายไปไหนกันล่ะ? ต่อหน้าต่อตาผมแท้ๆ

ในที่สุดก็ต้องยอมแพ้ กลับไปที่เรือพี่ล้วน อย่างอ่อนอกอ่อนใจ เหงื่อชุ่มแผ่นหลัง...ปรากฏ ว่าพรรคพวกที่ไปด้วยกันก็ไม่ได้ปลาเลยแม้แต่ ตัวเดียว มีทั้งไม่เห็นบ้าง หรือเห็นก็ฟันไม่ถูกบ้าง ...มารู้ทีหลังว่าที่นั่นเคยเป็นป่าช้าเก่าน่ะซีครับ! บรื๋ออออ....


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด



Create Date : 01 สิงหาคม 2555
Last Update : 1 สิงหาคม 2555 8:50:57 น. 0 comments
Counter : 2046 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.