บันทึกคั่นเวลา - นั่งรถลงใต้ (2010) เมื่อช่วงปี 2010 ฉันได้เดินทางไปยังจังหวัดปัตตานีเป็นครั้งแรก เพื่อไปเยี่ยมพ่อ ตอนนั้นก็ไปแบบไม่รู้ข้อมูลอะไรสักอย่าง และในฐานะคนนอกพื้นที่ ต้องบอกเลยว่า มันก็มีหวั่น ๆ นะ ซึ่งก็เป็นธรรมดาสำหรับคนที่ได้ฟังข่าวผ่านสื่อเพียงไม่กี่ช่องทาง ว่าจะจินตนาการล่วงหน้าถึงสถานการณ์แถวนั้นไว้ยังไง ถึงการเดินทางไกลไปปัตตานี จะไม่มีอะไรให้น่าตกใจเกิดขึ้น แต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่ดูน่าตื่นเต้นเสมอ เวลาที่มีคนรู้ว่าฉันเคยไปที่นั่น (โดยเฉพาะในช่วงเวลานั้น ที่ยังมีการใช้ GT200 กันอยู่) เรื่องที่จำแม่นฝังหัวที่สุด กลับไม่ใช่ช่วงเวลาที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวหรอก แต่ดันเป็นเรื่องวุ่น ๆ ที่จุดตั้งหลักเริ่มต้นในสถานีขนส่งสายใต้ มากกว่าน่ะสิ ก็หลังจากที่ไปถึง ฉันก็เดินวนเป็นหนูติดจั่นเลย "มีรถที่วิ่งไปถึงปัตตานีอยู่แล้ว" ก่อนเดินทางไม่กี่วัน พ่อได้ยืนยันว่า มีรถวิ่งทุกวันจากสถานีขนส่งสายใต้ แต่เมื่อฉันไปถึงบริเวณช่องจำหน่ายตั๋ว ที่มีป้ายติดไว้ว่า กรุงเทพฯ - ปัตตานี พนักงานออกตั๋วที่นั่งประจำจุดนั้น บอกว่า ช่วงนี้ไม่มีรถไปถึงปัตตานี วิ่งไกลสุดก็แค่หาดใหญ่ "ไม่มีรถวิ่งไปปัตตานี" ฉันโทรกลับไปหาพ่ออีกครั้ง เพื่อบอกถึงเรื่องที่กำลังหาทางออกไม่ได้ ฉันเคยเดินทางไปเที่ยวภาคใต้ - ไกลสุดก็แค่ จ.ตรัง แต่นั่นก็เหมารถตู้ไปกับที่บ้าน หากไปไกลสุดในชีวิตกับการนั่งรถโดยสารก็คงจะแค่ กรุงเทพฯ - เชียงราย ซึ่งก็ไม่ได้แปลว่าฉันเคยไปคนเดียวแบบนี้ซะที่ไหนกันเล่า "ต้องมีสิ" เสียงจากปลายทางยืนยันมา ราวกับว่ามายืนอยู่ที่นี่ด้วยกัน นี่พ่อไปเอาข้อมูลมาจากไหนนิ? มัวเถียงกันไปมาผ่านทางโทรศัพท์แบบนี้ หารถกลับชลบุรีน่าจะง่ายกว่ามั้ง ฉันเลยวนกลับไปที่จุดจำหน่ายตั๋วโดยสารเจ้าเดิมอีกรอบ เพื่ออยากยืนยันอีกหน ถ้าไม่มีก็ไม่ไปแล้ว พนักงานก็บอกเหมือนเดิมว่าไม่มีรถวิ่งไปถึง ถ้าจะไปก็ต้องลงที่หาดใหญ่ แล้วค่อยหารถตู้ไปปัตตานีอีกที ฉันไม่อยากล้มเลิกความคิดที่จะไป เพราะกลัวเสียฟอร์ม ก็เลยตกลงตามนั้น... หลังได้ตั๋วมาแล้ว ก็โทรบอกพ่ออีกหนว่าจะขึ้นรถรอบสี่โมง แต่ไปลงที่หาดใหญ่ก่อน พอถึงปลายทางแล้วจะบอกอีกที รถทัวร์ที่ได้นั่งหนนี้เป็นรถสองชั้น จำไม่ได้แล้วว่า เป็นของบริษัทอะไร ฉันได้นั่งชั้นล่างเพราะไม่ได้จองล่วงหน้า และไปแบบกระชั้นชิดอีกต่างหาก ก็เลยได้ที่นั่งริมทางเดิน ในช่วงเวลานั้นโทรศัพท์ที่ใช้อยู่เล่นอะไรไม่ได้มาก ถ่ายรูปได้แต่ก็ไม่ชัด จะดีแค่โทรเข้า-ออก และ SMS แถมยังไถหน้าจออ่านโน่นนี่ไม่ได้เหมือนปัจจุบันนี้ สิ่งที่พอจะแก้เซ็งได้ คือหน้าจอโทรทัศน์ ที่เปิดเพลงของศิลปินทางใต้นี่แหละ ถึงฟังอะไรไม่ค่อยออก แต่ก็เพลิน ๆ ดี มี Karaoke ให้อ่านด้านล่างด้วยนะ (แค่ไม่ได้ร้องตาม) แต่ที่แน่ ๆ ฉันฟังภาษาใต้ไม่ออกสักคำ รวมถึงภาษามลายู < แก้ไขจากเดิมที่เขียนว่า ยาวี ถึงรถเที่ยวนี้จะออกเดินทางในช่วงเย็นและอีกหลายชั่วโมงถัดไป จะเป็นเวลากลางคืนที่คนบนรถต่างจะพากันไม่พูดคุยและเอนเบาะ เพื่องีบหลับกันหมด แม้จะไม่มีใครสนใจใคร แต่ฉันก็คิดว่ามนุษย์เราคงไม่สามารถอยู่อย่างเป็นสุขดีเท่าไหร่ เมื่อต้องพาตัวเองไปอยู่ต่างถิ่นต่างภาษาอย่างนี้... พอถึงช่วงเวลาสี่ทุ่มกว่า ๆ ถ้าจำไม่ผิด รถก็มาจอดพักที่ชุมพร ทุกคนต่างลงและตรงไปยังห้องอาหาร ที่เขาจัดเตรียมไว้ให้ ฉันเดินตามคนที่นั่งอยู่ในห้องโดยสารเดียวกันไป แล้วก็นั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกันกับพวกเขา ถึงจะไม่รู้สึกหิวแต่ก็อยากรู้ เรื่องอาหารการกินช่วงพักรถของฝั่งนี้บ้าง อาหารบนโต๊ะนั้นมีกับข้าวจำพวกแกง วางอยู่มากกว่าสองประเภท มีปลาทอดคลุกขมิ้นตัวโต แล้วก็อะไรอีกล่ะจำไม่ได้ (เยอะมาก) พร้อมข้าวอีกหนึ่งโถใหญ่ที่วางไว้ให้ตักกันเอง แต่ที่ขาดไม่ได้เลย คือถาดใหญ่สำหรับใส่ผักสดเพื่อกินแนมไปด้วย ข้าวมื้อดึกระหว่างพักรถในครั้งนี้ ถือว่าอลังการงานสร้าง กว่าที่เคยเจอ ดูหมือนว่าเราไปนั่งกินข้าวบ้านใครสักคน ที่จัดสำรับมาวางเลี้ยงจนเต็มโต๊ะไปหมด พอเมื่อต้องกลับมาขึ้นรถอีกหนเพื่อเดินทางต่อ หลังเดินทางต่อได้ไม่นาน ไฟบนรถเริ่มปิดลง ฉันมองไม่เห็นอะไรอีกนอกเสียจากถนนเลนกว้าง ผ่านทางหน้าต่างที่แทบไม่มีรถวิ่งกันกลางดึก เว้นแต่รถใหญ่ มีภาพลาง ๆ ของแนวต้นไม้ข้างทาง กับแสงไฟสลัว ๆ เท่านั้น...ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว ต่อจากนั้นฉันหลับยาวไปจนถึงที่หมายโน่นเลย ช่วงประมาณตีสี่ครึ่ง รถวิ่งมาถึงปลายทางที่หาดใหญ่ ฉันลงรถที่นี่พร้อมกับโทรหาพ่อเพื่อนัดว่าจะมารับที่จุดไหน ก่อนจะหารถตู้วิ่งไปปัตตานีอีกหนึ่งต่อ ในรถตู้เที่ยวนั้น มีผู้คนมากมายที่โดยสารร่วมมาเป็นจำนวนไม่น้อย เห็นบางคนก็หอบหิ้วของฝากกลับมาอย่างเช่น ไข่เค็ม แล้วก็อื่น ๆ ที่เขาใส่หีบห่อมา...ฉันบอกคนขับรถตู้ให้จอดตรงหน้าเทคนิคฯ ด้วย โชคยังดีที่มีแค่เทคนิคฯ เดียว ไม่งั้นคงอธิบายไม่ถูกอีก สำหรับถนนหนทางจาก หาดใหญ่-ปัตตานี ดูเรียบกริบและเนี๊ยบมาก จนอยากให้คนคุมการก่อสร้างมารื้อถนนแถวบ้าน เพื่อสร้างให้ได้แบบนี้ที คือวิ่งกันได้แบบนิ่ง ๆ ไม่มีหลุมบ่อให้ต้องสะเทือน จะมีสะดุดบ้างก็แค่ ตรงด่านตรวจที่มีกั้นแนวให้รถวิ่งซิกแซกในบางจุดนี่แหละ ฉันมาถึงที่หน้าเทคนิคฯ โดยใช้เวลาวิ่งรถไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ก็ยังไม่แน่ใจว่าช้าหรือไว แต่ก็ได้ยินพ่อบ่น ๆ ตอนออกมารับ ว่ารถตู้ที่นั่งมาเนี่ยวิ่งหรือเหาะ? ท่าทางจะเหยียบเป็นร้อย ......... ![]() จำได้ว่ามื้อเช้าของวันแรกที่มาถึงปัตตานี พ่อพาไปกินโรตีที่ร้านบังหนูด ตรงหน้า มอ. ปัตตานี (ไม่ได้ถ่ายรูปไว้) ส่วนในภาพนี้เป็นร้านท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ที่แวะมากินข้าวเที่ยงกัน ... ![]() หน้ามัสยิดกรือเซะ ![]() ขับรถมาเที่ยวกันที่ สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ![]() "Selamat Jalan" ข้ามมายังฝั่งมาเลเซียบ้าง (แต่จอดรถไว้ที่ไทย) ![]() รางรถไฟและแม่น้ำ ![]() เดิน ๆๆๆๆๆ กันเข้าไป ![]() มาโต๋เต๋กันที่ฝั่งมาเลเซีย ![]() แมวมาเลย์ ![]() ขากลับต้องโบกแท็กซี่กลับมา เดินไม่ไหวแล้วร้อนมาก มีผู้โดยสารชาวมาเลย์นั่งรถมาด้วยอีกสองคน เป็นป้ากับหลาน ป้าพูดไทยไม่ได้เลย แต่หลานสาวพูดไทยเก่งมาก น้องบอกว่าที่พูดได้เพราะมาเรียนปอเนาะที่ไทย ![]() กลับมาที่ปัตตานีต่อ วันถัดมาได้ไปเที่ยวหาดวาสุกรี ![]() ถนนหนทางโล่งดี ![]() เป็น "ทะเล" แบบ ทะเล จริง ๆ ![]() ไม่ได้เห็นชายหาดโล่ง ๆ แบบนี้มานานมากแล้ว (ชอบนะ) ![]() น้องแพะตรงชายหาด อิอิ ![]() แวะมาที่มัสยิดกลาง ![]() บริเวณด้านหน้ามัสยิดกลาง ![]() ป้ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทจัดทัวร์ ![]() ด่านตรวจที่จะได้เห็นกันบ่อย ๆ ระหว่างเดินทางในพื้นที่ ![]() บริเวณตลาด (จำพิกัดไม่ได้แล้วว่าเป็นที่ไหน) ![]() ทหารสองนายที่กำลังออกตรวจพื้นที่ ![]() ยามค่ำคืน
ดูเงียบสงบดีนะคะ
โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() นั่งรถไกลมาก ๆ...
เมื่อก่อนไปทำงานแถวนั้น ดูก็ไม่มีอะไร.. กลางคืนเงียบสงบ เดินไปริมน้ำ นั่งเล่น ไม่นาน ตร.ก็มาบอกว่า กลับไปใน ตลาดดีกว่านะครับ เขาสุภาพมาก ใจดีด้วย โดย: ไวน์กับสายน้ำ
![]() ![]() ไม่เคยไปครับ จะว่ายังไงดีผมรู้สึกว่ามันเงียบจนดูน่ากลัวเลยแหละ บรรยากาศมันไม่คึกคัก
การไปในที่ที่เราไม่คุ้น ไม่ว่าจะผู้คน ภาษา มันก่อให้เกิดความรู้สึกบางอย่างในจิตใจเราเหมือนกัน โดย: คุณต่อ (toor36
![]() ![]() น้องฟ้านั่งรถทัวร์ลงหาดใหญ่แล้วต้องต่อรถตู้ไปปัตตานี
จนได้พบคุณพ่อสมความตั้งใจนะคะ ข้าวมื้อดึกระหว่างพักรถปกติไม่เคยเห็นแบบเยอะๆเลยค่ะ ทัวร์จัดให้ดีจัง หาดวาสุกรีดูเป็นธรรมชาติมาก มีน้องแพะเดินเล่นด้วย หาบรรยากาศแบบนี้ไม่ง่ายนะคะตามเมืองท่องเที่ยวชายทะเลทั่วไป พี่ต๋าไม่ได้เดินทางไกลคนเดียวนานแล้ว น้องฟ้าเก่งมากค่ะ โดย: Sweet_pills
![]() ![]() คิดถึง
สมัยก่อนเกิดเหตุที่ทำให้จู่ๆ ก็กลายเป็นแบบสถานการณ์ปัจจุบัน พี่ไปสามปีติดเลย ชอบมาก ยังจำรสชาติข้าวยำแสนอร่อยของที่นั่นได้เลย เพิ่งรู้นะนี่ว่าไม่มีรถไปปัตตานีแล้ว ต้องใช้ต่อรถแบบนี้เอา แถมจุดแวะพักก็ไม่ใช่แค่ข้าวต้มแล้วแฮะ อาหารเต็มตระการอย่างนั้นเลยรึ? น่าสนใจจริง เอิ่มมมม หาดใหญ่ ปัตตานี ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง...ท่าทางรถตู้จะเหาะจริงๆ โควต้าเต็ม พรุ่งนี้พี่มาใหม่นะ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ![]() @tuk-tuk@korat - ไม่รู้ตอนนี้เป็นไงแล้ว ก็ยัง
อยากกลับไปอีกนะคะ @ไวน์กับสายน้ำ : อยากรู้ว่าสมัยนั้นเป็นยังไงเลย ค่ะ พูดถึงชาวบ้าน ...ตอนที่แวะไปบ้านของคนที่ พ่อรู้จัก(ชาวมุสลิม)นี่สนุกมาก เขาพูดไทยไม่ค่อย ได้แต่ก็ชวนคุยตลอด แต่ยังไม่หนำใจ แกไปปลุก ลูกคนเล็กมาจ้อด้วยอีก (น้องมานั่งคุยแบบงัวเงีย มาก เพราะเมื่อคืนกลับดึก ออกไปเที่ยวงานที่ไหน สักแห่ง เห็นว่ามีลิเกฮูลูด้วย -- ลุงเจ้าของบ้านบอก ว่านาน ๆ ครั้งจะมีงานรื่นเริง) พอจะลากลับก็วิ่งไปเด็ดมะม่วงจากต้นมาให้พวง ใหญ่เลย (เย็นนั้นก็จัดน้ำปลาหวานดิค้าบบบ) @toor36 : อือ...ไม่อยากสรุปความเหมือนกัน เราอยู่ไม่กี่วันและไปครั้งแรก ส่วนพ่ออยู่มานาน หลายปี เห็นอะไรมาเยอะ....พอไปอยู่ในที่เดียวกัน ก็ยังมีมุมมองไม่ตรงกันเลย อย่างเช่น พ่อมักหัวเสียกับเรื่องการใช้รถบนถนน ของคนพื้นที่บางส่วน เพราะมักจะเจอคนขับที่มือ หนึ่งบิดมอไซค์ แต่อีกมือหนึ่งหิ้วกรงนก (แต่ไหงออกกฏ จับเฉพาะพวกที่ขับรถไป โทรศัพท์ไป 5555).... ไอ้เราก็ไม่เห็นว่าผิดนิ ไม่ได้หันหน้าไปคุยกับนกสักหน่อย...อิอิ ชอบธรรมชาติของที่นั่นมากกกก แต่จะว่าดูเงียบเกินไป ก็เงียบจริง ๆ แหละ @haiku : แวะมาโหวตให้ตลอดเลยคุณ haiku ขอบคุณมากนะคะ @sweet_pills : ก่อนหน้านี้ฟ้าตื่นคนมากกกก จัดว่าเป็นพวกขี้กังวลเลยนะพี่ต๋า พอกลับมาจาก ปัตตานีหนนั้น เหมือนจะเริ่มเปรี้ยว 555 @Kavanich96 : ขอบคุณที่แวะมาค่าา :) @สาวไกด์ใจซื่อ - ลืมไปเลย...ได้กินข้าวยำหนนึง แต่ร้านนั้นทำเป็นข้าวยำห้าสี ด้วย :) จากหาดใหญ่ ฟ้าไม่รู้ระยะทางว่าไกลแค่ไหน แต่มาสะดุดที่พ่อบ่นนั่นแหละ 555 งัดรูปมาได้น้อยมากค่าาพี่เต้ย 9 ปีก่อนใช้แต่ มือถือถ่ายสะเปะสะปะมาก เสียดายภาพบ้าน เรือนที่ตั้งอยู่แถบนอกเมือง คือดูเขียวดูร่มมาก ๆ ส่วนขากลับจากปัตตานีมีรถวิ่งถึงกรุงเทพนะ แต่อาหารเที่ยวหลังไม่อลังฯ เท่าขามาเลยค่ะ โดย: กาบริเอล
![]() วันนี้มาโหวตน้าา
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต กาบริเอล Diarist ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ![]() โถ~โถ
เห็นคุณพ่อยืนยันหนักแน่นว่ามีรถไปปัตตานีขนาดนี้ มันก็ "ต้องมีสิ" แต่คนขายตั๋วเป็นมักเกิลก็เลยไม่รู้ไง ว่าต้องไปขึ้นรถที่ "ชานชาลาที่ 9 4/3" ![]() ^ ^ (ตอนวิ่งเข้าชานชาลา ลุ้นเอาเองนะว่าจะทะลุผ่านกำแพงได้มั้ย :D) เคยนั่งรถทัวร์ลงใต้คนเดียวเหมือนกัน (ทางมันช่างไกลแท้เนอะ) จองตั๋วติดหน้าต่างด้วยนะ แต่มันก็ไม่เห็นวิวอะไรหรอก เพราะรถสายใต้ที่เส้นทางยาว ๆ เค้ามักจะวิ่งกันกลางคืน พอปิดทีวีแล้วมืดเลย ตอนนั่งก็คอยลุ้นว่าคนนั่งข้าง ๆ นิสัยยังไงด้วย เพราะหนีไปไหนไม่ได้ เส้นทางมืด ๆ ยาว ๆ อย่างงี้ นั่งริมทางเดินน่าจะอึดอัดน้อยกว่าอะ ^^" โห พอไปถึงทัวร์ในประเทศไม่พอ ทะลุไปมาเลย์ด้วย ว่าแต่...แมวมาเลย์ร้องเหมียว ๆ เป็นภาษามลายูหรือภาษาไทยอะ ![]() โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก
![]() ใต้สุดที่พี่เคยไป คือหาดใหญ่ แถมไปทำงาน ออกจากห้องประชุม เข้าห้องพัก แทบไม่ได้ไปไหนเลย อ้อ ไปหาดสมิหลาที่มีนางเงือกด้วย
ปี 2010 พี่ยังนึกอยู่ พอบอกยังใช้ GT200 อ้อ ยุคนั้นเอง แมวมาเลย์ หน้าดุนะเนี่ย ไม่ให้อุ้มใช่มั้ย หน้าเหวี่ยงซะขนาดนี้ แพะชายหาด น่ารัก ![]() โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ
![]() ![]() @ทุเรียนกวนฯ : แหม....ชานชาลาที่ 9 3/4!
เคยค้น ๆ ภาษามลายูมาอ่านเล่นนะ ลาปา นาซิ แปลว่า "หิวข้าว" .... แต่แมวตัวนี้คงบอกว่า "เอาปลา มาซิ" แน่ ๆ คือตอนนั้นกำลังนั่งกินปลาอยู่พอดี ![]() @สายหมอกและก้อนเมฆ : ช่วงนั้นกำลังมีปัญหาอยู่เลยค่ะ พี่หนู จะสตาร์ทรถทีก็แอบหวั่น ๆ ![]() แมวตัวนี้มาเดินป้วนเปี้ยนแถวร้านข้าวที่ฝั่งโน้น ตาโต๊โต แต่ไม่กล้าอุ้ม น้องมอมแมมมาก (กลัวมันข่วน) โดย: กาบริเอล
![]() wow! คิดถึงปัตตานี (แต่ก็เคยไปแค่ครั้งเดียวอะนะ)
ขอลงชื่อไว้ก่อนจ้า เดี๋ยวพรุ่งนี้เข้ามาอีกที วันนี้เลิกดึกเหลือเกิน~ โดย: ชีริว
![]() ![]() @ชีริว : ไม่ต้องรีบมา ดองนานเลย 55
ตอนนั้น แวะไปเมืองโบราณที่ยะรัง ด้วยนะ แต่ถ่ายรูปไม่ติด ... ![]() โดย: กาบริเอล
![]() ไม่ได้สิ แวะมาแล้ว! เม้นท์ซะเลย 555
(ถ่ายยะรังไม่ติดเพราะไปถ่ายหลังคาสังกะสีที่คลุมอยู่ป่าว) ถ้าภาคใต้สงบอยากจะลงไปเที่ยวสามจังหวัดแบบสบายใจซะที จนถึงบัดนี้เที่ยวมา 74 จังหวัดแล้ว เหลือแค่ยะลา นราธิวาส แล้วก็อำนาจเจริญนี่แหละครับที่ยังไม่เคยไป (ขับรถผ่านไม่นับ) ......ว่าแต่อำนาจเจริญไม่เกี่ยวกะสามจังหวัดนี่เนอะ ไม่ไปเพราะมันไม่มีอะไรเที่ยวอะ ส่วนปัตตานีถึงจะอยู่พื้นที่เสี่ยงแต่ต้องไป ของเขาเยอะจริงๆ ทั้งวัดช้างให้ของหลวงปู่ทวด ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวที่แสนขลัง มัสยิดกรือแซะจุดกำเนิดความขัดแย้ง มัสยิดกลางที่ใหญ่โตที่สุดในประเทศไทย เมืองโบราณยะรังยุคเดียวกับทวารวดี ฯลฯ เพิ่งรู้ว่าพ่อฟ้าเป็นคนปัตตานีนะเนี่ย ขับรถเข้าไปก็ยังไม่ค่อยมีคนไป ฟ้านั่งขนส่งสายใต้ลงไปอะเฮ้ย นักผจญภัยจริงๆ (เอาน่า เธอแค่กลับบ้าน) สุดท้ายไม่มีรถลงไปต่อ ปะ โทรเรียกพ่อขึ้นมาเจอกันหาดใหญ่ละกัน แต่ถ้าทำแบบนั้นก็ไม่ใช่กาบริเอลน่ะสิ เหลือเชื่อ! สุดท้ายแล้วเธอว่ายน้ำไปครับ! //ซะที่ไหนกันเล่า! ถนนไปปัตตานีพอไม่มีรถบรรทุกวิ่งแล้วมันก็เรียบเนอะ จุดที่ไม่เรียบมีแค่ช่วงที่โดนระเบิด ไอ้เราก็คิดว่าบล็อกนี้จะพาทัวร์ปัตตานี ลงมาเลย์ซะงั้น! สมัยเด็กเคยนั่งรถพ่อข้ามไปซื้อบุหรี่ เราซื้อช็อคโกแลต ปลอดภาษีได้มาอย่างเยอะ โดย: ชีริว
![]() ![]() |
บทความทั้งหมด
|