ทำบุญ - ทำกุศล
...


สวัสดีครับ

หลังจากการอัพบล็อกคราวก่อน อันว่าด้วยเรื่องของการทำบุญ 10 วิธี ตามหลักของพุทธศาสนาว่ามีอะไรบ้าง
เชื่อว่าหลายๆคนที่ได้อ่านคงจะรู้สึกกิ๊วก๊าวอยู่ในใจ (นัท-คุงก็เช่นกัน ) ว่า "การทำบุญมันง่ายดายปานนี้เอง" หรือ "เราก็ทำบุญบ่อยเหมือนกันนะเออ" อะไรแนวๆนี้
ซึ่งก็ขออนุโมทนากับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนมา ณ ที่นี้นะครับ

แต่ด้วยจุดมุ่งหมายสูงสุดในทางพุทธศาสนา คือ การไม่ยึดติดในตัวตน อันจะนำไปสู่การพ้นจากทุกข์โดยสิ้นเชิง
การทำบุญเพียงอย่างเดียวคงไม่พอแน่ๆกับจุดหมายดังกล่าว
อัพเดทคราวนี้เรามาลองดูกันดีกว่าครับว่า ถ้าไม่ใช่ "บุญ" ที่จะเป็นตัวส่งให้เราหลุดพ้นจากทุกข์แล้ว จะเป็นอะไร?

(หมายเหตุ: ขอบคุณ "คุณจิ๊บ - Kitsunegari" กับคอมเม้นท์ที่เป็นแรงบันดาลใจในการอัพบล็อกครั้งนี้นะครับ ความดีความชอบและประโยชน์ใดๆอันพึงมีจากการนี้ ขอยกให้คุณจิ๊บครับ )



ท่านพุทธทาสฯเคยได้แสดงธรรมเทศนา ณ วัดธารน้ำไหล เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2493 อันแสดงถึงคำตอบต่อคำถามที่ผมตั้งไว้ข้างต้น ซึ่งผมจะหยิบยกบางส่วนมาดังนี้ครับ

"เมื่อใดมีการพิจารณากันให้ละเอียดถี่ถ้วน เมื่อนั้นจะพบความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เรียกกันว่า บุญ กับ สิ่งที่เรียกว่า กุศล "บุญ เป็นสิ่งที่ทำให้ฟูใจ พอใจ ชอบใจ เช่น ทำบุญ ให้ทาน หรือรักษาศีลก็ตาม แล้วก็ฟูใจ อิ่มเอิบ หรืแม้ที่สุดแต่รู้สึกว่า ตัวได้ทำสิ่งที่ทำยาก ในกรณีที่ทำบุญเอาหน้าเอาเกียรติ อย่างนี้ก็ได้ชื่อว่าได้บุญเหมือนกัน...

"...หรือแม้ในกรณีที่ทำบุญด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อเอาบุญกันจริงๆก็ยังอดฟูใจไม่ได้ ว่าตนจะได้เกิดในสุคติ โลกสวรรค์ มีความปรารถนาอย่างนั้น อย่างนี้ ในภพนั้น ภพนี้ อันเป็นภวตัณหา นำไปสู่การเกิดในภพใหม่ เพื่อเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ตามแต่ตนปรารถนา ไม่ออกไปจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารได้ แม้จะไปเกิดในโลกที่เป็นสุคติอย่างไรก็ตาม...

"...ฉะนั้น ความหมายของคำว่าบุญ จึงหมายถึงสิ่งที่ทำให้ฟูใจ และเวียนไปเพื่อความเกิดอีก ไม่มีวันที่สิ้นสุดลงได้...

"...ส่วนกุศลนั้น เป็นสิ่งที่ทำหน้าที่แผ้วถางสิ่งกีดขวาง ผูกรัดหรือรกรุงรัง ไม่ข้องแวะกับความฟูใจหรือพอใจเช่นนั้น แต่มีความมุ่งหมายจะกำจัดเสียซึ่งสิ่งต่างๆอันเป็นเหตุให้พัวพันอยู่ในกิเลสตัณหา อันเป็นเครื่องนำให้เกิดแล้วเกิดอีก

"...และมีจุดมุ่งหมายกวาดล้างสิ่งเหล่านั้นออกไปจากตัว ในเมื่อบุญต้องการโอบรัดเข้ามาหาตัว ให้มีเป็นของของตัวมากขึ้น ในเมื่อฝ่ายที่ถือข้างบุญยึดถืออะไรไว้มากๆ และพอใจดีใจนั้น ฝ่ายที่ถือข้างกุศลเห็นว่า การทำอย่างนั้นเป็นความโง่เขลาขนาดเข้าไปกอดรัดงูเห่าทีเดียว...

"...ฝ่ายข้างกุศล หรือที่เรียกว่าฉลาดนั้น ต้องการจะปล่อยวางหรือผ่านพ้นไป ทั้งช่วยผู้อื่นให้ปล่อยวาง หรือผ่านพ้นไปด้วยกัน ฝ่ายข้างกุศลนั้นจึงถือว่าข้างบุญนั้นยังเป็นความมืดบอดอยู่...

"...ในการให้ทาน ถ้าให้เพราะจะเอาหน้า เอาเกียรติ หรือเอาของตอบแทน เป็นกำไร หรือเพื่อผูกมิตรหาพวกพ้อง หรือแม้ที่สุดแต่เพื่อให้บังเกิดในสวรรค์ อย่างนี้เรียกว่าให้ทานเอาบุญ หรือได้บุญ...

"...แต่ถ้าให้ทานอย่างเดียวกันนั่นเอง แต่ต้องการเพื่อขูดความขี้เหนียวของตัว ขูดความเห็นแก่ตัว หรือเพื่อค้ำจุนศาสนาเอาไว้ เห็นว่าศาสนาเป็นเครื่องขูดทุกข์ หรือให้เพราะเมตตาล้วนๆโดยบริสุทธิ์ใจ หรืออำนาจเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งปัญญาเป็นเครื่องชี้ขาดว่า ให้ไปเสียมีประโยชน์มากกว่าเอาไว้ อย่างนี้เรียกว่า ให้ทานได้กุศล หรือเอากุศล...

"...ถ้ากล่าวให้ชัดๆสั้นๆ บุญเป็นเครื่องหุ้มห่อ กีดกั้นบาป ไม่ให้งอกงามหรือปรากฎ หมดอำนาจบุญเมื่อไร บาปก็จะโผล่ออกมา และงอกงามสืบไปอีก ส่วนกุศลนั้น เป็นเครื่องตัดรากเหง้าของบาปอยู่เรื่อยไป จนมันเหี่ยวแห้ง สูญสิ้นไม่มีเหลือ ความต่างกันอย่างยิ่งย่อมมีอยู่ดังกล่าวนี้..."



หลักกุศลธรรมบถ 10 ประการ
1. เว้นจากการฆ่าสัตว์
2.เว้นจากการลักทรัพย์
3. เว้นจากการประพฤติผิดในกาม
4. เว้นจากการพูดเท็จ
5. เว้นจากการพูดส่อเสียด
6. เว้นจากการพูดคำหยาบ
7. เว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ
8. ไม่โลภอยากได้ของเขา
9. ไม่พยาบาทปองร้ายเขา
10. ไม่เห็นผิดจากหลักธรรมอันเป็นสัมมาทิฏฐิ



ทำ "บุญ" (ซึ่งคุณดังตฤณเปรียบไว้ว่าเป็นเสบียงสำหรับเลี้ยงตัว) แล้วก็อย่าลืมทำ "กุศล" ด้วยนะครับ


ที่มาของข้อมูล: พุทธทาสดอทคอม, ลานธรรมดอทคอม




-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --





Create Date : 23 มีนาคม 2550
Last Update : 23 มีนาคม 2550 16:18:03 น.
Counter : 1081 Pageviews.

34 comments
you're halfway there พุดดิ้งรสกาแฟ
(11 ม.ค. 2568 13:23:07 น.)
Re dell'abisso affrettati from UN BALLO IN MASCHERA by Giuseppe Verdi ปรศุราม
(8 ม.ค. 2568 11:03:55 น.)
Fukuoka Dream Destination : Day 14 รถไฟ รถบัส เฟอร์รี่ ดั้นด้นจนพบเธอ "ไอโนะชิมะ" mariabamboo
(14 ม.ค. 2568 14:33:16 น.)
ทนายอ้วนจัดดอกไม้ - จัดดอกไม้ง่ายๆ – แจกันแวนด้าหลายสี ทนายอ้วน
(6 ม.ค. 2568 15:58:07 น.)
  
อนุโมทนาบุญกับศิษย์น้องด้วยที่เอาธรรมะดีๆ มาแบ่งปัน “การให้ธรรมะชนะการให้ทั้งปวงใช่มั้ย” สาธุ

มันเป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกันกับการทำบุญโดยไม่หวังผล เพราะจิตของเรามันเคยชินกับความอยากได้ อยากมี อยากเป็น มานับภพชาติไม่ถ้วน ตอนนี้เวลาทำบุญก็พยายามจะทำด้วยใจที่บริสุทธิ์เพื่อหวังขัดเกลาความตระหนี่ถี่เหนียวจากใจเช่นกัน แต่ก็ยังทำไม่ได้เต็มร้อย เพราะมันยังแอบหวังโน่นนี่จาการทำบุญอยู่ตามประสาปุถุชน
คงต้องใช้สมาธิและปัญญาซึ่งพี่ยังไปไม่ถึงเลยเข้าช่วยกระมังนะ

เอ่อ ส่วนวอลเปเปอร์ที่บ๊อกพี่คิดว่าพญาช้างเชือกนั้นน่าจะใช่ช้างนาฬาคีรีที่พระเทวทัตปล่อยมาทำร้ายพระพุทธเจ้านะ เพราะนึกถึงช้างตัวอื่นไม่ออกเหมือนกัน
โดย: Together In 80s Dream วันที่: 23 มีนาคม 2550 เวลา:17:30:13 น.
  
โอ้..เพิ่งรู้ความต่างระหว่างบุญกับกุศลนี่หละ

น่าสนใจจริงๆ

ชอบๆ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:8:52:55 น.
  
บุญเป็นเครื่องหุ้มห่อ กีดกั้นบาป ไม่ให้งอกงามหรือปรากฎ หมดอำนาจบุญเมื่อไร บาปก็จะโผล่ออกมา...
...
เห็นภาพแจ่มชัด
ต้องพยายาม ละเว้น หลายข้อให้ได้
โดย: แร้ไฟ วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:15:41:21 น.
  
สาธุ!! ค่า

จากหลักกุศลธรรมบถ 10 ประการ อย่างน้อยๆก็มี 3 ข้อแล้วล่ะ ที่เราปฏิบัติอยู่ตลอด ถึงภายนอกเราจะดูติ๊งต๊อง ไร้สาระไปวันๆ ก็เถอะ


ปล. รถเมล์สายที่เล่าให้อ่านน่ะ สายไรเหรอ แล้วขึ้นที่ไหน ตอนกี่โมง เผื่อจะแอบไปใช้บริการบ้าง

ปล2. เพลงที่ถามเราใน blog อ่ะ เป็นเพลงประกอบซีรี่ส์ญี่ปุ่นเรื่อง "สุดแต่ใจจะใฝ่หา" เคยดูป่าวอ่ะ หนังญี่ปุ่นที่ฉายช่อง 3 อ่ะ เก่าโคดๆเลยล่ะ
โดย: ตุ๊กตาไขลาน วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:16:39:45 น.
  
สวัสดีจ้า คุณนัท วันนี้อิฉันทำบาปและ
มะกี๊คุยโทรฯกะแม่ ดันพูดจาเพ้อเจ้อไป
บาปแน่ๆเลย
โดย: กระต่ายลงพุง วันที่: 25 มีนาคม 2550 เวลา:17:33:21 น.
  
กลับมาแล้วค่า่คุณนัท อิอิ แต่ยังแอบขี้เกียจอัพบล็อกอยู่
แบบว่ามีเรื่องเขียนเยอะ เลือกไม่ถูก เลยไม่เขียนซะงั้น \\^^/ เด๋วคืนนี้จะพยายามอัพบล็อก

ขอบคุณที่เอามาให้อ่านกันค่า เพิ่งรู้ความแตกต่างของบุญ กับกุศลก็คราวนี้หล่ะ
ยิ่งอ่านหลักกุศลธรรมบถ 10 ประการแล้ว มีเรื่องเกี่ยวกับ การใช้คำพูดเยอะมากเลย
แฮ่ ๆ วจีสุจริตนี่เป็นอะไรที่ทำยากจริง ๆ

ปอลอ แอบดีใจที่เมื่อคืนเยอรมันชนะ คุณนัทได้ดูรึเปล่า

ยังไงแวะไปหาอ่านกระทู้ชิวในห้องบอลได้ค่ะ (อิอิ แอบโฆษณาซะงั้น)
โดย: ชิวเทียน วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:1:23:21 น.
  
ข้อ 5 ยากที่สุด...
เห็นเด็กหงส์ที่ไหนอดไม่ได้ซักทีสิน่า

=)
โดย: hunjang วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:8:05:29 น.
  
สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณนัท
บุญมีน้อย กุศลมีไม่มาก

สบายดีนะคะ
เช้านี้หม่ำอะไรอ่ะ^^...
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:8:18:56 น.
  
เข้าใจเล่นนะนัทคุง
ส่งบทความมาให้รู้สึกฟูใจ
ทำให้ใจฟูอยู่ครู่หนึ่ง
แล้วก็ส่งบทความที่ทำให้ใจแฟบตามมา
เพราะกุศล ทำได้ยากกว่าบุญและบาป
สังคมทุกวันนี้หล่อหลอมให้
เรามีพฤติกรรมที่เป็นอกุศลซะมาก
แต่ยังไงก็จะพยายาม
สร้างกุศลดังกล่าวให้มากที่สุด

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ
ตลอดมาและตลอดไป


โดย: Noname - โนนามิ IP: 124.120.3.160 วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:8:22:53 น.
  
...

--Together In 80s Dream / ผมก็ไปไม่ถึงเหมือนกันอ่าครับ คงต้องทำบุญให้เยอะๆไว้ก่อนแล้วอาศัยโอกาสนั้นเปลี่ยน "บุญ" ให้เป็น "กุศล" ได้นิดนึงก็ยังดีกว่าไม่ได้

-- สาวไกด์ใจซื่อ / ดีใจที่ชอบครับพี่

--แร้ไฟ / ขออนุโมทนากับคุณแร้ฯด้วยคร้าบบบบ...

-- ตุ๊กตาไขลาน / ยินดีด้วยครับ ขอให้ได้เพิ่มเป็น 4, 5, 6 เรื่อยไปจนครบ 10 นะคร้าบบบบบ...

-- กระต่ายลงพุง / ไม่ถึงกับบาปหรอกครับ แค่ "อกุศล" เท่านั้นเอง (ควรจะดีใจมั้ยเนี่ย? )

--ชิวเทียน / วจีสุจริตว่ายากแล้ว แต่มโนสุจริตน่าจะยากที่สุดนะครับ

-- hunjang / นี่ล่ะหนอปีศาจ (แดง)

--blueberry_cpie / อ่านที่คุณโบว์โพสแล้วนึกถึงประโยคประมาณว่า "ถึงชั้นจะไม่สวย แต่ชั้นก็จนนะ"

--Noname - โนนามิ / ขอบคุณที่พี่ให้การติดตามเช่นกันครับ



--ขอบคุณที่แวะมาครับผม --

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:10:00:48 น.
  
แหมๆๆๆ

คราวนี้เอาจริงเฟ้ย

เพราะมีเรื่องต้องใช้ตังค์มากๆ ซึ่งคงไม่สามารถเอาเงินไปซื้อหนังสือเหยียบหมื่นได้แน่ๆ

จะทำให้ได้เฟ้ยยยยยยย



เป็นคนดีจริงๆ นะเนี่ย ตกลงไม่เลือกใช่มะ

งั้นเดี๋ยวเค้าเลือกกันหมดแล้วจะมาบอกว่าได้อะไรนะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:10:45:16 น.
  
สามสี่พันก็คงไม่ไหวง่ะ เหอๆ


ยังไงก็เอาใจช่วยพี่ด้วยแล้วกันนะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:14:17:28 น.
  

สาธุครับ ขอรับบุญด้วยคน

จะขอคิดดี พูดดี และทำดีครับ
โดย: yyswim วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:14:30:44 น.
  
อนุโมทนาใน "บุญ" และ "กุศล" ที่ได้กระทำนะครับ



ป.ล. ส่งหลังไมค์ไปแล้วครับ
โดย: สะเทื้อน วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:16:06:29 น.
  
ขออนุโมทนาค่ะ

สำหรับเรา ทำได้จริงๆแค่ 4 ข้อเอง(2,3,8,9) ข้อแรกปาณาติปาตนี่ ทำไม่ได้เลยค่ะ ทำยุงตายทุกวัน แล้วแผ่เมตตาให้ทีหลัง ส่วนข้ออื่นๆก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่นั่นล่ะฮับ

ว่าแล้วก็ชวนคุณนัท-คุงไปร่วมแสดงทัศนะตามลิงก์ซะเลย ไม่แน่ใจว่าถ้าไม่ใช่สมาชิกจะเข้าได้รึเปล่านะคะ ลองดูนะ

คลิกค่า

ถ้าเข้าไม่ได้ ถือซะว่าเรามาถามคุณละกันค่ะ ลองอ่านข้อความดูนะคะ



ถ้าฆ่าสัตว์เยอะๆแล้วทำบุญจาผ่อนผันได้ไหม

เรื่องของเรื่องคือ...(ขอสงวนชื่อเจ้าของกระทู้นะคะ)ชอบตบยุง ตบตายไปเป็นพันตัวได้มังครับ

แล้ว...ไปอ่านในสัญชีวนรก คือเป็นนรกรองรับสำหรับผู้ที่ชอบการฆ่า ทำผิดศีลปาณาติปาตฺ มาเยอะ ...ก็ยังตบยุงทุกวันอยู่ แต่ตอนนี้ก็ตบไม่ได้เพื่อตัวเอง แต่ตบเพราะพ่อโดนยุงกัดคันบ่น เราเลยตบให้

แบบนี้ถ้าเราทำบุญเยอะๆ จะสามารถผ่อนผันโทษในนรกได้หรือไม่ ถามสำหรับคนที่เชื่อนะครับ สำหรับคนที่ไม่เชื่อก็ไม่ว่ากะไรครับ มาออกความคิดเห็นได้

...ว่านรกนั้นคือสิ่งที่อยู่ในใจเรา ถ้าใจเรามีแต่ความผิดบาป ใจเราก็มืดดำเหมือนไปลงนรกอ่าครับ นี้คือความเห็นสำหรับนรก เหมือนกับว่าใจเราเป็นตัวกำหนดครับว่าหลังความตายเราจะไปอยู่ภพภูมิไหนครับ
โดย: Kitsunegari วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:16:34:20 น.
  
เข้าไปอ่านมาแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ ที่ให้อ่านนี่ คือเปรียบความหวังดีที่บุตรมีต่อบิดา ดังเช่นความปรารถนาดีที่เด็กเลี้ยงโค อยากให้โคได้ดื่มน้ำสะอาด และเปรียบแรงพยาบาทของยุง กับการที่โคต้องอดทนต่อไปอีกระยะหนึ่งถึงจะได้ดื่มน้ำรึเปล่าคะ

แต่ว่า เรื่องแรกนั้นเป็นการทำร้ายสิ่งหนึ่งเพื่ออีกชีวิตหนึ่ง ในขณะที่เรื่องของเด็กเลี้ยงโค เป็นการทำเพื่อโคนี่นา ทำไมถึงกลายเป็นกรรมติดตามไปถึงชาติอื่นล่ะคะ
โดย: Kitsunegari วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:17:27:57 น.
  
วิ่งเข้ามาทักตอนแรก เปิดบล๊อกเข้ามาไม่ได้..ก็เลยตอบไว้ที่บล๊อกนัทเอง..
สบายดีนะคะ..
โดย: Why England วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:19:18:36 น.
  
ขอบคุณที่แวะไปให้ความเห็นดีๆค่ะ

โดยมากจะเจอแต่คนดีนะ
แต่ตัวเองยังเป็นคนทำใจและปล่อยวางได้ไม่ดีนัก
อาจเพราะชีวิตตอนนี้มันตึงเกินไป พยายามจะผ่อนเส้นนี้ไม่ให้ตึงเกินไป

โดย: keyzer วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:21:08:08 น.
  
ชอบบทนี้มากเลยค่ะ แล้วก็เห็นด้วยมากๆด้วย ทุกวันนี้ ก็พยายามทำบุญและทำทานด้วยความบริสุทธิ์ใจตลอดค่ะ (ถ้าทำได้นะ แหะแหะ)...
โดย: หวัน (หวันยิหวา ) วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:23:13:18 น.
  
แหะ แหะ คุณนัท มโนสุจริตนี่เว้นไว้ในฐานะที่เข้าใจกันค่ะว่า "ยากมากกกกก" "ทำไม่ได้"
ชิวพยายามกับวจีสุจริตอยู่ยังไม่รอดเลย มโนสุจริตยิ่งยากเกิ๊น
โดย: ชิวเทียน วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:0:52:12 น.
  
ปีนี้ไปทำสังฆทานที่วัดโสธรมาแต่คงไม่ได้บุญเพราะใจมัวตำหนิติเตียนวัดนี้ที่กลายเป็นวัดธุรกิจไปแล้ว

ทำบาปทำกรรมไว้เยอะ พระลงโทษหนักหนาสาหัส ทุกวันนี้มีความสุขตามประสาแม้บาปจะยังคาใจอยู่ลึกๆ
โดย: ป้านิด IP: 195.93.60.72 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:13:22:15 น.
  
เข้าใจแล้วค่ะ ลืมไปว่าโคมันเป็นสัตว์เดรัจฉาน ไม่มีกระบวนการคิดที่ซับซ้อนเหมือนมนุษย์ เลยแยกไม่ออกว่าเขาหวังดีกับมันอ่ะ

ขอบคุณค่า ส่วนอีกบล็อกที่ให้มา ขอกลับไปอ่านทีหลังนะคะ ตอนนี้อยู่ที่ทำงานแวบมาได้เป็นพักๆอ่ะ แหะๆ
โดย: Kitsunegari วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:15:29:52 น.
  
...

-- สาวไกด์ใจซื่อ // เอาใจช่วยสุดฤทธิ์ครับ

--yyswim // ขออนุโมทนาในจิตอันเป็นกุศลของพี่ครับ

--สะเทื้อน // ยินดีครับ โอนแล้วจะแจ้งไปครับผม

-- Why England // ตอบที่ไหนก็เหมือนกันครับ แล้วจะตามไปที่บล็อกบ่อยๆ

-- keyzer // เหนื่อยนักก็พักใจสักนิด (กายอาจจะพักไม่ได้ต้องเดินต่อไปเรื่อยๆ )

--หวันยิหวา // อย่างน้อยคุณหวันก็มีความเห็นที่ชอบแล้วล่ะ ขอให้สมหวังดังตั้งใจครับ

-- ชิวเทียน // ค่อยๆเก็บแต้มไปครับ ไว้ได้เยอะๆแล้วค่อยไปแลกมโนสุจริต

--ป้านิด // ไว้วันหลังป้านิดก็ไปทำบุญที่อื่นก็ได้นี่ครับ จะได้ไม่ต้องร้อนใจกับเรื่องนี้

--Kitsunegari // ยินดีมากๆกับการสนทนาธรรมด้วยกันนะครับ



-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --


โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:15:37:34 น.
  
๕๕๕

เรื่องเก้าอี้ของปธน.กับแขก เราเองก็มาคิดว่า

แล้วถ้าเค้าเอาแขกต่างชาตินั่งเท่ากัน แต่พอแขกในประเทศนั่งต่างกัน มันก็ดูถูกชาติตัวเองน่ะนะ

จะให้ดีก็เท่ากันหมดก็หมดเรื่องเนาะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:16:07:20 น.
  
ข้อ 7. เว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ ท่าจะยากเกินสําหรับเรา ขอใจฟูๆต่อละกัน
โดย: เป๋อน้อย วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:17:49:54 น.
  
จะมาตอบคำถาม


เรื่องนั้นอ่ะ ทาคูยะเล่นสมัยยังเอ๊าะๆอยู่น่ะ เป็นซีรี่ส์ที่เก่ากึ๊กเลยล่ะ
โดย: ตุ๊กตาไขลาน วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:23:23:15 น.
  
โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:10:06:53 น.
  
สวัสดีค่ะ...ก็แบบ นัทไม่รู้ว่าเขาต้องทำกันยังไง ทำไม่เป็นง่ะ..จะบอกราคาก็บอกไม่ถูก เพราะซื้อมาแพงมาก และก็ไม่เคยใช้เลย..เป็นโรคจิต ชอบซื้อมาเก็บ 555

ดีจังจังที่แวะไปคุย ไม่เห็นมีใครเข้าไปคุยด้วยเลย..น้อยใจยสแล้วด้วย
โดย: Why England วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:10:18:14 น.
  
u'll never walk alone....
โดย: ทูน่าค่ะ วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:13:05:04 น.
  
ข้อคิดของท่านอาจารย์สวนโมกข์และดังตฤน
เป็นสิ่งที่กำลังศึกษาและพยายามปฏิบัติให้ได้อยู่เลยค่ะ

โดย: Jikkyjang วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:13:17:11 น.
  
อะกุศลก็อกุศล
วันนี้ก็ทำการอกุศลกับแม่อีกและ

อัพบลอคใหม่ได้แล้วคุณนัท เอาเรื่องอื่นที่ไม่ใช่ ธรรมมะบ้าง
เค้ามาอ่านทีไร ละเจ็บแปล๊บบบ กลัวบาป ทุกที
โดย: กระต่ายลงพุง วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:14:33:36 น.
  
บล็อกแพนด้ามหาภัย...ผมเป็นโรคจิต

บล็อกrebel...จะไปท้าต่อยกะไอ้พวกโรคจิต

-- ตกลงจะต่อยตัวเองช่ายม้ายยยยยย

=)
โดย: hunjang วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:15:00:47 น.
  
...

--สาวไกด์ใจซื่อ /// แม่นแล้วครับพี่

-- เป๋อน้อย /// ค่อยๆทำไปครับ

--ตุ๊กตาไขลาน /// ทาคุยะๆ คุ้นๆว่าเคยดูตอนเด็กๆ

--แพนด้ามหาภัย ///

--Why England /// ถ้าไม่จำเป็นต้องขายก็เก็บไว้ได้นี่นา

--ทูน่าค่ะ ///

--Jikkyjang /// ขออนุโมทนาในความคิดดีๆครับ

--กระต่ายลงพุง /// ขนาดนั้นเชียวรึครับ?

--hunjang ///



--ขอบคุณที่แวะมาครับผม --


โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:16:33:52 น.
  
ตามมาเที่ยว..ขอบคุณนะคะที่แวะไปคุย วันนี้ทานขนมจีน แถมขยันอะไรขึ้นมาไม่รู้ ทำเค้กกล้วยหอม กับบัตเตอร์เค้ก แล้วจะเหลือเหรอ...
โดย: Why England วันที่: 29 มีนาคม 2550 เวลา:0:01:44 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Thenut.BlogGang.com

The Legendary Midfielder
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด