รู้จักกับ M79 และกระสุนชนิดต่าง ๆ ![]() M79 เปิดศูนย์เล็ง (Credit: //www.militaryfactory.com) ถ้าจำไม่ผิดเหมือนผมเคยเขียนไปแล้วเมื่อคราวปี 2551 โน้นนนนนน แต่มันกระจัดกระจายกันไป คราวนี้จึงขอรวบรวมเอาไว้ที่เดียวครับ รู้สึกตอนนี้ M79 จะดังเหลือเกิน ความจริงหลายปีหลังนี่มันเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นทุกที ว่าเข้าไปนั่น ความจริง M79 ไม่ใช่อาวุธปืนใหม่หรือหรูหราอะไรเลยครับ เพราะ M79 มันถูกออกแบบมาหลายสิบปีแล้ว และถูกใช้งานอย่างมากในช่วงสงครามเวียดนาม ภายหลังจึงถูกแทนที่ด้วยอาวุธแบบอื่น เราจัด M79 เป็นเครื่องยิงลูกระเบิด แปลว่ามันมีหน้าที่ยิงลูกระเบิดออกไป คนยิงไม่ต้องขว้าง แนวคิดตั้งต้นของการออกแบบ M79 คือ ความต้องการในการเพิ่มอำนาจการยิงให้กับหน่วยระดับหมวด (ราว 50 นาย) โดยใช้ระบบอาวุธที่อำนาจการทำลายล้างสูงแต่พกพาสะดวก ลักษณะของ M79 นั้นจะมีพานท้ายปืนที่ทำด้วยไม้และลำกล้องปืนขนาดไม่ยาวนัก การยิงจะทำโดยการหักกระบอกปืนออกเพื่อบรรจุลูกระเบิด (กระสุน) เข้าไปที่ด้านท้ายของกระบอก แล้วพับกระบอกกับพานท้ายกลับไปติดเข้าด้วยกันอีกครั้ง บนกระบอกปืนจะมีศูนย์เล็งเพื่อใช้ในการทำการเล็งยิง โดยเมื่อยิงเสร็จแล้วต้องทำการบรรจุกระสุนใหม่ครับ ![]() การหักลำกล้องเพื่อบรรจุกระสุน (credit: //www.tokyotoydistribution.com/) M79 นั้นความจริงเป็นชื่อเรียกตัวปืนนะครับ ส่วนมันจะยิงอะไรออกมานั้นเป็นอีกเรื่อง เพราะมีกระสุนหรือระเบิดขนาด 40 มม. หลายชนิดให้เลือกใช้กับ M79 หลายสิบแบบ ซึ่งลักษณะการใช้งานจะต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น กระสุนหัวระเบิดแบบ M406 ซึ่งเป็นกระสุนที่บรรจุดินระเบิดอยู่ เมื่อยิงออกไป ชนวนของกระสุนจะเปิดทำงานเมื่อพ้นปากกระบอกปืนไปแล้วราว 15 - 30 เมตร (ดังนั้นหมายความว่าถ้ามายิงใกล้ ๆ สมมุติสัก 5 เมตรนี่มันจะไม่ระเบิดนะครับ) เมื่อมันกระทบเป้าหมาย มันจะระเบิดออกและส่งสะเก็ดจำนวนราว 300 ชิ้นกระเด็นออกไปด้วยความเร็วเหนือเสียงซึ่งจะมีระยะสังหารในรัศมี 5 เมตร นอกจากนั้นก็ยังมีกระสุนแบบ M576 ซึ่งใช้สำหรับสังหารบุคคลเช่นกัน แต่จะมีพิสัยสั้นกว่า M406 เพื่อใช้งานในระยะใกล้ นอกจากกระสุนสังหารแล้ว ก็ยังมีกระสุนแบบอื่นอีกด้วยเช่น กระสุนควัน โดย M79 สามารถยิงกระสุนควันแบบ M676 ซึ่งให้ควันสีเหลือง, M680 ซึ่งให้ควันสีขาว, หรือ M682 ซึ่งให้ควันสีแดง (แหมครบสีเลย) หรืออาจจะเป็นระเบิดควันสำหรับชี้เป้าเพื่อให้สัญญาณในการยิงทำลายหรือโจมตีทางอากาศ หรืออาจจะเป็นการยิงพลุสัญญาณหรือพลุส่องสว่างเช่น พลุส่งสว่างซึ่งจะเผาไหม้นาน 7 วินาทีในกระสุนแบบ M585 (สีขาว), M663 (สีเขียว), หริอ M664 (สีแดง) หรือถ้าต้องการแสงสว่างที่นานกว่านั้นก็อาจจะเลือกกระสุนที่มีร่มชูชีพติดอยู่ โดยร่มชูชีพจะหน่วงการตกของกระสุนและกระสุนก็จะเผาไหม้ได้ถึง 40 วินาทีเช่น กระสุนแบบ M585A1 (สีขาว), M661 (สีเขียว), หริอ M662 (สีแดง) พลุส่องสว่างพวกนี้ส่งแสงออกมาได้สว่างมากทีเดียวครับ นอกจากกระสุนที่ใช้ในการสงครามแล้ว ยังมีกระสุนที่ใช้ในการปราบจลาจลอีกด้วยเช่น กระสุนแก๊สน้ำตาแบบ M651 ซึ่งจะมีแก๊สน้ำตาบรรจุอยู่ 53 กรัม สามารถเผาไหม้ได้ 25 วินาที ครอบคลุมพื้นที่ถึง 120 ตารางเมตร (ราว ๆ พื้นที่ขนาด 10.95x10.95 เมตร) และมีระยะยิงราว 200 เมตรสำหรับเป้าหมายที่เป็นจุด หรือ 400 เมตรสำหรับเป้าหมายเป็นพื้นที่ นอกจากนั้นยังมีกระสุนแบบ M1029 ซึ่งบรรจุกระสุนยางขนาด .48 นิ้ว ทั้งหมด 48 นัด การยิงจะใช้ในการปราบจลาจลโดยมีระยะยิงตั้งต้นตั้งแต่ 10 เมตรไปจนถึง 30 เมตรซึ่งกระสุนจะหมดพลังงานและตกลงสู่พื้น ![]() M79 กับกระสุนชนิดต่าง ๆ (Credit: //www.autoweapons.com) ดูแล้ว M79 มีประสิทธิภาพมากทีเดียวครับ เนื่องจากข้อดีมันมีหลากหลายคือ น้ำหนักเบา ให้อำนาจการยิงสูง มีความแม่นยำสูง มีระยะยิงไกล (ไกลสุด 350 เมตร) สามารถเพิ่มอำนาจการยิงให้กับหน่วยได้ ในช่วงหนึ่งตามอัตราการจัดหน่วยทหารราบนั้นมีอัตราของพลยิงเครื่องยิงลูกระเบิดแบบนี้เลยด้วยซ้ำ แต่ข้อเสียสำคัญก็คือ มันทำการยิงได้ช้า คือทำการยิงได้ราว 6 นัดต่อนาที และที่สำคัญก็คือ พลยิงมีแค่ M79 อย่างเดียว ไม่ได้พกปืนไรเฟิลเหมือนกำลังพลคนอื่น อาวุธที่ใช้ป้องกันตัวมีเพียงปืนพกเท่านั้น นั้นให้อัตราการเสียชีวิตของพลยิง M79 ในการรบค่อนข้างสูง เพราะเมื่อยิงกระสุนจนหมดแล้วพลยิงมีเพียงปืนพกเท่านั้นที่ใช้ป้องกันตนเอง และทำการรบในระยะใกล้ได้ยากเนื่องจากกระสุนต้องมีระยะเวลาและระยะทางในการเดินทาง เมื่อเห็นปัญหานี้ภายหลัง M79 จึงเริ่มถูกลดระดับลงและทดแทนด้วย M203 ซึ่งติดตั้งอยู่ใต้เล็กยาวแบบ M16 นั้นเองครับ ทำให้เวลายิงก็สามารถบรรจุกระสุนแล้วทำการยิงจาก M203 ได้เลย เมื่อยิงจบแล้วก็ทำการยิงกับปืน M16 ได้อีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าระยะยิงของ M203 จะน้อยกว่าและความแม่นยำต่ำกว่าก็ตาม ส่วน M79 นั้นบางครั้งก็ยังถูกใช้ในบางหน่วยที่ต้องการอำนาจการยิงเฉพาะแบบอยู่ครับ ![]() M203 ติดตั้งกับปืนเล็กยาวแบบ M16 (Credit: //www.freewebs.com/armyranger101) สำหรับกองทัพไทย มี M79 ประจำการมานานแล้วตั้งแต่ช่วงสงครามเวียดนาม และก็เป็นไปในทางเดียวกันนั้นก็คือ ปัจจุบัน M79 ถูกลดระดับลงไปเป็นอาวุธสำรองราชการ คือเก็บไว้เผื่อกรณีเกิดสงคราม หรือถ้ายังมีประจำการอยู่ก็จะมีเพียงบางหน่วยที่ยังใช้อยู่เท่านั้น นอกนั้นหน่วยรบหลักต่างเปลี่ยนไปใช้ M203 แทนแล้ว นอกจากนั้นในระดับหมวดหรือระดับกองร้อยก็ยังมีเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติขนาด 40 มม.เข้าประจำการแทนแล้วครับ เจ้าเครื่องนี้มันก็คล้าย ๆ กับ M79 ที่ติดบนขาทรายและยิงอัตโนมัติได้นั่นเอง หวังว่าคงเป็นความรู้ให้กับทุกท่านได้ครับ ![]() โดย: น้าหนูนีล_น้องขวัญ
![]() ตรงด้ามมันประหลาดดีนะ เหมือนมันกลับหัวกลับหางยังไงไม่รู้อะ
โดย: น้องผิง
![]() สวัสดียามเช้าครับพี่โย
ช่วงนี้พี่เอ็มเป็นพระเอกเลยนะครับ ยึดครองพื้นที่ข่าวทุกวันเลย เดี๋ยวก็ยิงที่นั่น เดี๋ยวก็ยิงที่นี่ ![]() ![]() ![]() ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() ที่แน่ๆ
หมิงหมิงไม่ได้ถือเอ็ม 79 แน่ๆครับพี่โย 555 ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() 55555555
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() เสียงตอนยิงไม่ดังเท่าไหร่สำหรับปืนแบบนี้ แต่เสียงฮาของผมดัวกว่า 55555 ![]() ![]() ดีใจด้วย โดย: บิน102
![]() |
บทความทั้งหมด
|