จากที่ไปเห็นมา อยากจะบอกว่าระบบ support ของ Gripen นั้นมันโง่ ๆ บ้าน ๆ มากเลยครับ แบบรูปนี้ครับ ไอ้รอกคล้าย ๆ เบ็ดตกปลานี่แหละใช้โหลดอาวุธ แบบตอนนี้เขากำลังโหลด RBS-15F อยู่ โดยเขาจะเกี่ยวรอกไว้กับไพลอนสองอันแล้วหมุน ๆ ๆ รอก อาวุธมันก็จะถูกยกขึ้นมาติดกับ Pylon ครับ ไม่มีอะไรซับซ้อนหรือใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เลย Gripen 1 ลำจะมีรอกประจำตัวอยู่ในรถ support ขนาดเล็กกว่า Nissan March อยู่ 5 อัน
แต่ปัญหาก็คือไอ้รอกเนี๊ยมันยกได้ทุกอย่างตั้งแต่จรวดยันเครื่องยนต์ โครตบ้าเลยครับรอกสามตัวยก RM12 ได้ทั้งยวง ตัวเครื่องยนต์มันมีหมุดยึดกับตัวถังแค่ 3 ตัวเท่านั้นเอง พอเกี่ยวรอก ปลดหมุนยึด และเอารถรองรับเครื่องยนต์มารอไว้ใต้เครื่องและค่อย ๆ หมุนรอกลงมา แป๊บเดียวเครื่องก็ถูกถอดออกมาแล้ว ถอดเครื่องกับใส่เครื่องใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ส่วนโหลดอาุวุธ เติมน้ำมันทั้งหมด ผมนั่งจับเวลาใช้แค่ 16 นาทีเท่านั้นเอง
ไอ้รอกโง่ ๆ บ้าน ๆ เนี๊ย ราคามันเท่ากับรถเบนซ์เลยนะครับ ... เพราะมันต้องยกได้ทุกอย่าง ลวดและวัสดุมันต้องแข็งแรงมาก แต่รวมแล้วก็ยังถูกกว่ารถไฮโดรลิคโหลดอาวุธหลายเท่าตัว และเนื่องจากมันไม่ต้องใช้อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นก็ไม่ต้องกลัวน้ำมันหมดหรือไฮโดรลิคพัง การซ่อมบำรุงก็ต่ำมาก ๆ เพราะกลไลมันไม่ซับซ้อนเลย ความซับซ้อนคือวัสดุที่เอามาใช้ทำรอก แต่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องของคนใช้เป็นเครื่องของคนทำ นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ว่าทำไมค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษากริพเพนถึงถูกมาก เพราะใช้อุปกรณ์สนับสนุนง่าย ๆ ไม่หรูหรา แต่ได้ผลลัพธ์เท่ากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ราคาแพง ทางเขาเล่าให้ฟังว่าเวลาสวีเดนมีสงครามเขาจะอพยพออกจากสนามบินแล้วไปวางซุ่ม อยู่ตามพุ่มไม้ พอเครื่องบินขึ้นไปยิงเสร็จแล้วก็จะกลับลงมา ช่างที่แอบตามพุ่มไม้ก็จะเอามาติดอาวุธกับเติมน้ำมันให้แล้วก็ส่งเครื่อง ขึ้นไปใหม่ ทำแบบนี้ข้าศึกจะไม่รู้ว่าเครื่องมันไปลงตรงไหน บ้านเราอาจจะไม่ต้อง extreme ขนาดนั้น แต่เราอาจจะเปลี่ยนสนามบินเล็ก ๆ ที่ปกติเครื่องบินรบลงไม่ได้เลยเช่นสนามบินตามภูมิภาคต่าง ๆ แถวระนอง พังงา หรือกองบินเล็ก ๆ อย่างกองบิน 5 เป็นฐานบินหลักได้เลยไมต้องกลับมาลงที่สุราษฎ์เพราะเครื่องมันใช้รันเวย์สั้นมาก ๆ เท่าที่เห็นมามันวิ่งยังไม่ถึงกลางรันเวย์เลยมันก็วิ่งขึ้นแล้ว แบบนี้จะทำให้ข้าศึกไม่รู้ว่าจะโจมตีตรงไหนดีหรือถ้าจะโจมตีทั้งหมดก็จะเสีย ทรัพยากรมมากเกินไป และเป็นการลดความเสี่ยงของฝ่ายเราด้วย

พวกโปรแกรมเมอร์เขาจะพูดกันว่า เวลาทำอะไรให้ยึดหลัก KISS คือ Keep It Simple and Stupid นี่แหละเริ่ดสุด



