รู้จัก..."เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง" ลำใหม่ของกองทัพเรืออาเซียน กองทัพเรืออาเซียนในรอบ 2 - 3 ปีที่ผ่านมามีการจัดหาเรือรบใหม่ ๆ เข้ามามายมาย ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนิเซีย กัมพูชา และที่มีข่าวว่าจะจัดหาคือพม่า บรูไน และฟิลิปปินส์ แต่เรือที่ได้รับความนิยมในการจัดหามาใช้งานมากนี้ช่วงนี้ก็เห้นจะเป็น "เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง" หรือ "Off-Shore Patrol Vessel" ซึ่งมีสามชาติในปัจจุบันที่ได้จัดหาเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งหรือ OPV เข้าประจำการคือราชนาวีไทย กองทัพเรือมาเลเซีย และกองทัพเรืออินโดนิเซีย มาวันนี้ ผมจะขอพาทุกท่านไปรู้จักกับเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งของทั้งสามชาติอาเซียนนี้กันครับ เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งเป็นเรือที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก คือประมาณ 1,000 - 2,000 ตัน ส่วนใหญ่ติดอาวุธเพียงปืนเรือหลักและปืนรองเท่านั้น แต่เมื่อถึงคราวจำเป็น เรือ OPV ก็จะสามารถติดอาวุธเช่นจรวดต่าง ๆ หรือระบบเป้าลวงเพื่อทำหน้าที่คล้ายเรือฟริเกตเบาได้ OPV ส่วนใหญ่จะทำหน้าที่ลาดตระเวนในเขตเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ ในยามสงบ ส่วนใหญ่แล้วภัยคุกคามในภารกิจนี้ก็คือเรือโจรสลัดหรือเรือที่ขนสินค้าหนีภาษีหรือของผิดกฏหมายต่าง ๆ เท่านั้น ในประเทศอาเซียนนั่นการจัดหาเรือ OPV จะเป็นไปในทิศทางที่คล้าย ๆ กัน คือใช้ระบบของยุโรปและพยายามสั่งต่อในประเทศเอง แต่สุดท้ายก็มีบางประเทศที่ไม่ได้เป็นไปตามนั้น ลองติดตามดูครับ ![]() กองทัพเรือมาเลเซียให้สัญญาการต่อเรือ OPV กับผู้ชนะในการแข่งกันเสนอแบบแผนคือกลุ่มบริษัทของเยอรมันในการสร้างเรือจำนวน 6 ลำให้กับกองทัพเรือมาเลเซียเพื่อทดแทนเรือตราจการณ์ชั้นเก่าที่มีอายุใช้งานมานานกว่า 30 ปี ตามแผนแล้วมาเลเซียจะสั่งสร้างเรือชั้นนี้ที่ประเทศเยอรมัน 2 ลำ โดยลำแรก KD Kedah (F171) นั้นจะสร้างที่อู่ Blohm + Voss ลำที่สอง KD Pahang จะสร้างที่อู่ Howaldtswerke ในเยอรมันเช่นกัน และอีก 4 ลำจะสร้างในมาเลเซีย พร้อมทั้งสัญญาในการถ่ายทอดเทคโนโลยี และในแผนระยะยาว มาเลเซียวางแผนไว้ว่าจะสร้างเรือชั้นนี้ไห้ได้ถึง 27 ลำ เพื่อคุ้มครองน่านน้ำและรักษาความมั่นคงในช่องแคบมะละกา โดย KD Kedah เข้าประจำการอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนปีนี้ เป็นที่น่าสังเกตุว่ามาเลเซียมักจะทำสัญญาสั่งซื้ออาวุธได้ดีเสมอ อย่างเช่นในการซื้อ Su-30 MKM ที่จ่ายราคาค่าเครื่องบิน 1 ใน 3 เป็นน้ำมันปาล์ม และส่งมนุษย์อวกาศชาวมาเลเซียคนแรกไปกับยานโซยุสของรัสเซียด้วย (ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างการคัดเลือกรอบ 2 คนสุดท้าย) เรือลำนี้ติดปืนใหญ่ขนาด 76 มม. (Oto Melara 76/62 Naval Gun) และปืนกล 30 mm ของ Oto Melara และมีพื้นที่ที่สามารถติดตั้ง SAM แบบ RAM ได้ 1 ชุด และมีพื้นที่ติดขีปนาวุธต่อต้านเรือรบแบบ Exocet MM40 จำนวน 8 นัด และมีสามารถรองรับเฮลิคอปเตอร์แบบ Super Lynx 300 ได้จำนวน 1 ลำ ว่ากันจริง ๆ แล้วผมยังไม่เคยเห็นรูปเรือชั้นนี้แบบตัวเป็น ๆ สักที พยายามหาหลายรอบแล้วยังหาไม่เจอ คล้าย ๆ กับ Su-30 MKM ที่ยังไม่มีใครรู้แม้กระทั้งระบบต่าง ๆ ของมัน แต่ในเมื่อมันเข้าประจำการแล้วอีกไม่นานอาจจะมีภาพมาให้ชมกัน ตอนนี้ชมภาพกราฟฟิกไปก่อนครับ อาวุธที่ยังไม่ได้ติดทั้ง RAM และ Exocet MM40 นั้นน่าสนใจทั้งสิ้น Exocent MM40 รุ่นใหม่มีการปรับปรุงไปมากกว่ารุ่นก่อน ๆ มาก เพิ่มระยะยิงให้ไกลขึ้น เพิ่มระบบน้ำร่องขีปนาวุธต่าง ๆ เพื่อนำทางจรวดเข้าสู่เป้าหมาย ส่วน RIM-116 RAM นั้นก็เป็นระบบ SAM ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก จากการฝึกยิงในกองทัพเรือเยอรมันนั้นมีอัตราการทำลายเป้าหมายอยู่ที่ 100% (ยิงยังไงก็ตาย) โดย RAM นำวิถีด้วยอินฟราเรดที่ความเร็ว 2 มัค ระยะยิง 7.5 กม. ![]() ![]() อินโดนิเซียสั่งซื้อเรือ OPV ชั้น Diponegoro ซึ่งย่อขนาดมาจากเรือคอร์แวตต์ชั้น Sigma ของเนเธอแลนด์จำนวน 4 ลำ โดยสองลำแรกจะต่อที่เนเธอแลนด์ และอีกสองลำหลังจะต่อที่อินโดนิเซีย แต่สุดท้าย ด้วยปัญหาบางอย่าง เรือทั้งหมดก็จะถูกต่อที่เนเธอแลนด์ เรือสองลำแรกในชั้นคือ KRI Diponegoro (หมายเลข 365) และ KRI Hasanuddin (หมายเลข 366) กำหนดจะเข้าประจำการในปีหน้า ![]() แต่เรือลำนี้ดุแล้วจะแตกต่างจากเรือ OPV ของมาเลเซียและไทยตรงที่มีการติดตั้งขารองรับอาวุธปล่อยนำวิถีโจมตีเรือแบบ Exocet MM40 ตั้งแต่แรก ซึ่งคาดว่าในการปฏิบัติการจริงเรือลำนี้ก็จะมีการโหลด Exocet ติดไปด้วย น่าจะเป็นเพราะอินโดนิเซียต้องการให้เรือชั้นนี้เป็นกำลังรบหลักไปเลย โดยเสริมกับกองเรือรบของตนที่ค่อนข้างเก่าลงของตน ปืนใหญ่เรือมีขนาด 76 มม. ของ Oto Melara เช่นกัน โดยมีอัตรายิงอยู่ที่ 82 นัดต่อนาที โดยรวมแล้ว เรือลำนี้ต่อออกมาได้ปราณีตและสวยงามมากครับ ![]() ![]() กองทัพเรือไทยได้จัดหาเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งจำนวน 2 ลำคือเรือหลวงปัตตานี (หมายเลข 511) และเรือหลวงนราธิวาส (หมายเลข 512) เพื่อทดแทนเรือรบรุ่นสงครามโลกอย่างเรือหลวงแม่กลอง หรือหลวงท่าจีน และเรือหลวงประแสที่ปลดระวางประจำการไป โดยว่าจ้างให้อู่ของบริษัท China Shipbuilding จำกัด สร้างจากที่ของเดิมอู่อิเติลไทยจะรับหน้าที่สร้าง ซึ่งเหตุผลมาจากการที่จีนให้ราคาที่ต่ำกว่าการต่อในเมืองไทย การต่อเรือนั้นตำเนินการที่ประเทศจีน โดยติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิคต่าง ๆ ซึ่งเป็นของยุโรบเช่นฝรั่งเศส เนเธอแลนด์ ฯลฯ ทั้งสิ้น ซึ่งเป้นระบบที่ทันสมัยที่สุดของกองทัพเรือไทย และนำเรือเปล่ากลับมาติดอาวุธที่เมืองไทย ![]() ปัจจุบัน เรือติดตั้งปืนใหญ่เรือ 72/62 Super Rapid ของ Oto Melara อัตรายิง 120 นัดต่อนาที และปืนรองอื่น ๆ เช่นปืน .50 นิ้วเป็นต้น แต่ตัวเรือก็เตรียมการทั้งพื้นที่และซอฟแวร์เอาไว้แล้วสำหรับการติดตั้งจรวดนำวิธีโจมตีเรืออย่างเช่น Harpoon เป็นต้น สำหรับเฮลิคอปเตอร์ประจำเรือนั้นเรือหลวงปัตตานีสามารถรับ Super Lynx 300 ได้จำนวน 1 ลำ โดยมีโรงเก็บฮ. ทำให้สามารถนำฮ.ออกทะเลกับเรือได้ สะพานเดินเรือทันสมัยมาก (ไม่ต้องห่วง ในเว็บทร.ก็เผยแพร่ครับ) ![]() เราคงต้องตามดูกันต่อไปว่าเรือหลวงปัตตานีจะได้ติดจรวดนำวิถีโจมตีเรือหรือไม่ และรุ่นใด สหรับวันนี้ เน็ตช้า จึงต้องขอจบเพียงเท่านี้ครับ ปล. ภาพเรือขอขอบคุณคุณ Highskygate แห่ง Wing21 ครับ เปรียบเทียบศักยภาพกันแล้วเป็นอย่างไรครับ
โดย: north_end IP: 203.114.97.103 วันที่: 17 ตุลาคม 2549 เวลา:18:37:57 น.
น่าจะตามนี้ครับ
Kedah --> Pattani --> Diponegoro แต่อันที่จริง มันค่อนข้างใกล้เคียงกันครับ โดย: Skyman IP: 203.131.209.66 วันที่: 18 ตุลาคม 2549 เวลา:11:26:01 น.
ขอบคุณมาก
โดย: 147 IP: 203.113.17.149 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:41:30 น.
SSM, Harpoon and C-802 now to be compared by RTN...
And SSM will install before this September 2007... โดย: highskygate IP: 125.24.218.40 วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:16:16:16 น.
จะเอากันจริงๆผมว่าเรือชั้นปัตตานีเองก็สามารถติดตั้ง RAM รุ่น 21 ท่อยิง หรือ Sea RAM ได้บนหลังคาโรงเก็บครับ เพราะดูพื้นที่หลังปล่องควันเรือ ดูเหมือนเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับต่อเสาสำหรับติดตั้งเรด้าร์ควบคุมการยิงขนาดเล็กได้ แต่ตอนนี้ไปติดตั้งจรวดฝรั่งเศสแล้วนี่ครับ แต่ไม่ได้ติดตั้งบนหลังคาโรงเก็บ ไปที่ตั้งที่พื้นยกข้างโรงเก็บฮ.แทน แหมพื้นที่ว่างยังมีอยู่นะครับ .............มีตังค์เมื่อไหร่ถอดจรวดมิสทรัลออกแล้วติด RAM หรือ โครเทล แทนจะดีกว่านะครับ เท่านี้ก็ไม่ด้อยไปกว่าเรือของมาเลย์แล้วนะครับ โดย: neosiamese IP: 124.120.119.157 วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:0:46:39 น.
อย่าคิดแต่จะเตรียมกำลังไว้รบกันเลยครับ ใช้การทูตนำการทหารอย่างที่ผู้ใหญ่เราทำนะดีแล้ว รบกันทะเลาะกันเจ็บตัวทั้งสองฝ่าย
![]() โดย: ทหารจริงๆ IP: 61.19.220.13 วันที่: 3 สิงหาคม 2550 เวลา:16:16:36 น.
กองทัพเรือไทยเรารวมทั้งบุคลากร ก็ไม่ด้อยไปกว่าชาติใดๆในโลกนี้ อีกทั้งเครื่องแต่งกาย( กลาสี) กองทัพเรือไทยก็เป็นที่ชื่นชอบและดูคลาสสิคยามที่มีแขกต่างบ้านต่างเมืองมาเยือน ชั่งนิยมชมชอบ ผมภูมิใจที่เกิดมาเป็นลูกหลานราชนาวีไทยแม้ตัวผมจะไม่สามารถรับใช้กองทัพเรือไทย.
โดย: ลูกหลานราชนาวี IP: 124.157.209.234 วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:14:58:44 น.
ชาติไทยจงเจริญ
![]() ![]() ![]() ![]() โดย: คนดี IP: 125.25.216.27 วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:20:19:08 น.
เพื่อนผมเคยอยู่ กองเรือยุทธการ ที่สัตหีบ เขาบอกว่า
เมาคลื่นมากครับเวลาออกไปทะเลเนี่ยสุดๆเลย โดย: ............. IP: 58.9.96.52 วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:22:06:24 น.
ผมเป็นเด็กสัตหีบรักทหารเรืออยากให้ประเทศเราต่อเรือรบได้เองครับรัฐบาลต้องสนับสนุ่นให้มากทั้งเงินทุนและการวิจัยเทคโนโลยีต่างๆี่ไม่ต้องถึงกับขั้นสร้างเรือพิขาตเรือฟิริเกต...เอาแค่ขนาดเรือOPVไม่ต้องใหญ่มากมีความเร็วสุงติดExocetสี่ลูกปืนใหญ่หนึ่งกระปอก.....มีสักสิบลำฝั่งอัดามันยี่สิบลำฝั่งอ่าวไทยยี่สิบลำแค่นี้เพือนบ้านก็หนาวแล้ว
โดย: เบียร์แดนชล IP: 203.113.80.16 วันที่: 30 ตุลาคม 2550 เวลา:20:45:29 น.
เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งเรามีกี่ลำหรือครับ อย่าบอกนะว่ามีแค่ 2 ลำ
![]() โดย: ทอแสง IP: 58.8.50.230 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:10:50 น.
|
บทความทั้งหมด
|