เปลี่ยนลูกหมาก honda jazz ge 2009 ด้วยตัวเอง #EP2

วันเสาร์ ที่ 1 กค 66
หลังจากเปลี่ยนลูกหมาก ปีกนก ฝั่งขวา (ฝั่งคนขับ)​ มาเสาร์นี้ ก็ต้องไล่เปลี่ยนลูกหมากปีกนก ฝั่งซ้ายบ้าง เพราะว่า ก่อนหน้านั้น ผมตอกลูกหมากซ้ายไม่ออก เลยต้องใช้งานไปก่อน

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=mrter2012&month=21-06-2023&group=1&gblog=164

ด้านบน เป็น link ตอนถอดฝั่งขวา มาฝั่งซ้ายบ้างนะครับ ก็เลยถือโอกาส เปลี่ยนรายการดังนี้
1. เปลี่ยนลูกหมากกันโคลง ซ้าย และ ขวา
2. เปลี่ยนลูกหมากปลายแร็คตัวนอก ซ้ายและขวา
3. ลูกหมากปีกนก

ก่อนอื่นต้องเตรียมอะไหล่ ก็ได้สั่ง อะไหล่ไว้รอแล้วครับ



ส่วนลูกหมากต่างๆ ก็เลือก เอาเลยครับ นะครับ อย่าสั่งผิดรุ่น สั่งผิดปีหละครับ เพราะว่า มันจะใส่ด้วยกันไม่ได้ เพราะว่า ผมมีทั้ง  jazz gd ปี 2006 รุ่นแรก และ jazz ge รุ่นสอง ปี 2009




ราคาอะไหล่ ที่สั่ง มา ก็พันกว่า บาท  ยังไม่ได้รวมลูกหมากปีกนกที่สั่งมาก่อนหน้านั้น ประมาณ 900 บาท รวมทั้งหมดก็เบ็ดเสร็จอะไหล่ไม่เกิน 2 พัน บาท ครับ



ฝั่งคนขับ ก่อนหน้าเปลี่ยนลูกหมากปีกนก แล้ว ก็ไล่เปลี่ยน ลูกหมากกันโคลง และ ลูกหมากคันชักตัวนอก




ภาพบน ผมนับร่องเอาครับ นับได้  10 ร่องฟัน และ ขันน๊อตหลวมนิดครึ่งรอบ หากเปลี่ยนอะไหล่ ขันครึ่งรอบเข้าก็แน่นพอดี เพราะว่า ตัวนี้มีผลกับ พวกมาลัยและศูนย์ของรถ หากเปลี่ยนแล้ว หากศูนย์ผิดเพี้ยนก็ไปตั้งศูนย์ครับ
แถวบ้านผม ตั้งศูนย์หน้า ซ้าย ขวา ก็คิด 350 บาท ครับ




ภาพบน เป็นการเอาลูกหมากคันชักออก แนะนำใช้เครื่องมือ ผมจะไม่ตอก เพราะว่า รถจะได้ไม่ช้ำ ประมาณว่า ใช้ฆ็อนตี คงสะเทือนและอาจจะมีปัญหากับอุปกรณ์อื่นที่เราไม่รู้ ต่างจิตต่างใจนะครับ สมัยก่อนคงตอกด้วยฆ้อน
แต่สมัยนี้มีเครื่องมือใช้งาน ก็แนะนำว่าใช้เครื่องมือจะง่ายกว่าครับ




ใช้ประแจ เบอร์ 19,17 ก็ขันน๊อตตัวเล็ก หลวมๆ ครึ่งรอบ แล้ว ก็ ขันลูกหมากคันชัก ออกได้เลย และใส่ตัวใหม่เช้าไป แล้วขันน๊อตครึ่งรอบก็แน่น แล้วครับ เพราะว่าเราทำน๊อตหลวม ไว้ครึ่งรอบ



ก่อนเปลี่ยนอะไหล่ทุกครั้ง เทียบ ให้ตรงกับ ซ้ายและขวา ในตัวคันชัก ก็จะบอกข้างด้วย นะครับ




ใส่ตัวใหม่ขันน๊อตให้แน่น และใส่ ลวดล๊อก กันหลวม หรือ หลุด





เทคนิค เปลี่ยนลูกหมากกันโคลง คือ ขันน๊อตตัวใดตัวหนึ่งออกก่อน ให้เลือก ตัวน๊อตตัวที่ตรง จะได้ง่าย ขันออกให้ออกก่อน 1 ตัว หลังจากนั้น อีกตัว หากขันไม่ออก แนะนำให้ใช้ แม่แรง ยกปีกนก กันโครงก็จะขยับ และออกง่ายครับ
กันโครงต้องไม่บิดงอ หากใช้แม่รองยก ก็จะ ขันเข้า และ ขันออกง่ายครับ






เทียบอะไหล่ ก่อนเปลี่ยน ส่วนกันโคลง จะหน้าตาเหมือนกัน ซ้าย ขวา ใส่ด้วยกันได้ครับ




เทคนิด คือ ขันตัวตัวบน ก่อน แลัวจากนั้นใช้แม่แรง ยกปีกนก รูของเหล็กกันโคลง ก็จะขยับ ตรงกับ ลูกหมาก ก็ใส่แบบง่ายๆ และขันน๊อตครับ



ภาพบน แม่แรง ยกปีกนก ช่วยในการใส่กันโคลง จะได้ง่าย




ใช้ ประแจ หกเหลี่ยม ตอนใส่ก็ไม่จำเป็นครับ แต่ตอนขันออก ด้วยอายุใช้งานหลายปี จำเป็นต้องใช้ ไม่งั้นลูกหมากจะหมุนตามครับ







ก่อนจะเปลี่ยนลูกหมาก ปีกนก ให้เปลี่ยน กันโคลง และ ลูกหมากกันโคลง ก่อนนะครับ




ลูกหมากกันโคลง ด้านซ้าย ก็การเปลี่ยนเหมือนกัน ครับ ใช้แม่แรง ช่วยยก ให้ปลายโครงให้ตรงกันแล้วขันน๊อต ออกแบบง่าย ๆ



ภาพบน วงผิดนะครับ  ให้ดูรู ลูกหมากกันโคลง เอาอะไหล่ขันหลวมๆ ข้างบนก่อน




ใช้แม่แรง ช่วยยกปีกนก แล้วเอาลูกหมากกันโคลงใหม่ใส่ได้เลย ไม่ยากครับ หากใช้แม่แรง




ส่วนลูกหมากคันชัก ก็ใช้หลักการเดียวกัน คือ ขันน๊อตหลวมๆ นิดหน่อย แล้ว หมุนลูกหมากคันชัก ออกมาได้เลย พอเปลี่ยนอะไหล่ใหม่เข้าไป ก็ขันให้แน่น ตามตำแหน่งเดิม เพราะว่าศูนย์จะได้ไม่เพื้อน มากครับ


/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

มาคราวนี้ จะเปลี่ยนลูกหมากปีกนก แล้ว หลังจากที่ผมพยายาม ตอก ลูกหมากปีกนก ออกก้ไม่ยอม ออก เลยจำเป็นต้องถอด ทั้งปีกนก เลยครับ หลังจากถอดแล้ว ต้องบอกได้เลยว่า ครั้งต่อไป
หากจะเปลี่ยนลูกหมาก แนะนำว่า ถอดมาทั้ง ชุด ก็ง่ายดีเหมือนกันครับ เลือก เอาเลยว่า ถ้าตอกลูกหมากปีกนก ออกได้ ก็เปลี่ยนไม่ต้องยกคาน ออกก็ได้นะครับ เอาที่ชอบเลยครับ



ภาพบน คือใช้ฆ้อน ตอก ลูกหมากไม่ออก ผมเลยจำเป็นต้อง ถอดปีกนกล่าง ยกมาทั้งแพ เลยครับ หากใครจะเปลี่ยนปีกนก ยกแผง ก็ง่าย เลือกเอาตามสบายกระเป๋าเลยนะครับ เพราะว่ามีขายชุดปีกนก ยกชุดทั้งปีก เลยนะครับ


ภาพบน คือ ถอดน๊อต ยึด ออก จำนวน  4 ตัว ตำแหน่งน๊อต แต่ละตัว ความยาว และ สั้นจะไม่เหมือนกันนะครับ หลังจากถอด น๊อต วางตำแหน่งน๊อต ให้เหมือนตอนถอด ออกนะครับ ตอนใส่ จะได้ ใส่ให้ตรงตามตำแหน่ง





ภาพบน ยกแพ ปีกนก และ ทั้งชุดดุมล้อ จะได้เอาลูกหมาก ออก ง่ายๆ ครับ



ใช้เครื่องมือ อัดลูกหมาก ขันไม่กี่รอบ ก็ออกแล้ว เสียเวลา ตอกบน ปีกนก ตั้งนาน  พอ ถอดลงมา ทำงานได้ง่าย มากๆ




หลังจาก ลูกหมาก หลุดออกจาก ชุดดุมล้อ แล้ว สภาพ ไม่เคยเปลี่ยนมา 10 กว่าปี



หลังจากอัด ลูกหมากปีกนก ออกจาก ปีกนกล่างแล้ว ก็ทำความสะอาด และ เตรียม ลูกหมากตัวใหม่เข้าไปแทนครับ




เทียบอะไหล่ทุกครั้ง และ ใส่จาระบี เพิ่ม เพราะว่าซื้อให้จาระบี มาน้อยไป ทาจาระบีกันน้ำด้วยและเพิ่มการหล่อลื่นด้วยครับ




หลังจากอัดลูกหมาก ด้วยเครื่องมือ ก็อย่าลืมเอา ยางหุ้มใส่เข้าไปด้วยนะครับ เทคนิค หาเศษเหล็ก มาครอบลูกหมากจะได้ง่าย ถ้าไม่มี ก็ไปร้านรับซื้อของเก่า หรือร้านเหล็ก เศษท่อเหล็กมีเยอะ เอาลูกหมากอะไหล่
ไปเทียบแล้วซื้อติดบ้านไว้ครับ



หลังจากอัดลูกหมาก แล้ว ก็ทดสอบวางบน ดุมล้อ ขันน๊อต เพื่อทดสอบ ว่าไม่ติดปัญหาอะไร ก็ เตรียมยึด ปีกนกคืนครับ



ภาพบน คือ ขันน๊อตตัวหน้าก่อนนะครับ ส่วนน๊อตอีก 3 ตัวปีกนก ขันหลวมๆ ให้เข้าล๊อค เข้ารูให้เรียบร้อยกันทุกรู แล้วค่อยขันแน่น
(เฉพาะชุดปีกนก อย่าพึ่งประกอบพวกดุมล้อ นะครับ ยึดเฉพาะปีกนกก่อน)




หลังจากประกอบปีกนก แล้ว ก็มาคราวนี้เราก็จะใส่ ดุมล้อ เพลา แล้วเราก็จะเอา ดุมล้อ ยกใส่ปีกนกครับ แนะนำว่า อย่าพึ่งไปขัน ชุดลูกหมากคันชักนะครับ จะได้หมุนดุมล้อ ได้ง่าย ๆ





เทคนิค ในการใส่ ดุมล้อ พยายามหักคอ ดุม เพื่อจะได้ใส่น๊อต 2 ตัวขันกับโช๊คให้ตรง มันต้องหักคอ เพื่อจะได้ใส่ ปีกนกได้ ตรงนี้ ลองหามุม ดีๆ แล้วจะใส่ได้ทั้ง ลูกหมากปีกนก และ น๊อตยึด โช๊คครับ




หลังจากขันน๊อตโช๊ค แล้ว ขันน๊อตคันชัก ให้แน่น แล้วใส่หมุดเหล็กกันน๊อต หลุดเป็นอันเรียบร้อย





อย่าลืมขันน๊อต ยึดน๊อต เพลาด้วยนะครับ พอดีก่อนถอด ผมก็ต้องขันน๊อต ยึดเพลาหลวมๆ ก่อน แล้วค่อย ยกแม่แรงนะครับ (ตรายี่ห้อปิดไว้อยู่นะครับ หากจะง่ายถอดล้อ แล้ว ถอดฝาปิดดุมล้อออกก่อน)





เครื่องมือ ที่ผมใช้ แต่ไม่ได้ใช้หมดทุกตัวนะครับ ผมซื้อเก็บไว้เป็น set ทั้งประแจแหวน และประแจ และชุดบล็อก



เครื่องมือบ้านบน เป็นชุดใหญ่ เพราะว่าผมเปลี่ยนทั้ง กระบะ และ เก๋ง ที่ใช้งาน เลยจำเป็นต้องซื้อไว้ ครับ เปลี่ยนเองที่บ้าน ก็ต้องมีเครื่องมือช่วยครับ
หากไม่สะดวก ก็ไปร้านครับ แต่บอกตรงๆ ว่า ค่าเปลี่ยนช่วงล่าง บ้านเรา ราคา แพง เพราะว่า ค่าแรงครับ จริงๆ แล้ว อะไหล่ไม่ได้แพงครับ




ภาพบนเป็นชุด ที่เป็นเครื่องมือถอดลูกหมาก ก็ซื้อเป็น set ไว้ครับ ไม่ได้แพงอะไร สมัยนี้ ถูกกว่าที่สมัยผมซื้อครับ ใช้งานมามากกว่า 10 ปีแล้วครับ




อะไหล่ ทั้งหมดที่เปลี่ยนรวมๆ ก็ 2 พันกว่าบาท ไม่เกินนี้ แล้วแต่ยี่ห้อครับ
ส่วนค่าแรงในการเปลี่ยน ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ

หวังว่า คงเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ

คราวหน้า คงต้องเปลี่ยนยางรองแท่นโช๊ค เพราะว่า ปัญหาของ jazz คือ ยางรองแท่นโช๊ค เสื่อมเร็วกว่าค่ายๆ อื่นๆ ครับ เพราะว่าผมใช้ almera ทุกวันตอนนี้ 2 แสนกิโลกว่าๆ ยางแท่นโช๊ค ยังไม่ยุบเท่า jazz ที่วิ่งแค่ แสนกว่ากิโล
เอาเป็นว่า รถแต่ละยี่ห้อ มีทั้งข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันไป ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าผมใช้ ford fiesta 1.4 ปี 2010 และ jazz gd 2006 และ jazz ge 2009 รวมไปทั้ง nisssan almera 2011 สมัยนั้น ผมออกป้ายแดง
กัดฟันผ่อนรถ จนหมด ก็มีทั้งจ่ายช้า จ่ายไม่ตรงรอบ ก็ผ่านมาหมดแล้วครับ เหนื่อยครับ ก็เลย ซ่อมรถจน พังหนักๆ นั่นหละครับ ถึงจะมองหารถคันใหม่

ซ่อมเองเราก็จะประหยัดค่าแรง และได้ทำงานวันหยุด เป็นกิจกรรม วันหยุดครับ แต่หากใครไม่สะดวกซ่อมเอง ก็แนะนำว่า ดูราคาอะไหล่คร่าวๆ ไปสอบถามอู่พร้อมติตดั้ง หากค่าแรงไม่แรง รวมๆ ไม่แพง ก็เปลี่ยนอู่ครับ
แต่ถ้าราคาที่ผมเคยสอบถาม เปลี่ยนเหมือนผม ซ้ายขวา ก็ไม่ต่ำกว่า 5 พันบาทครับ  แต่ถ้าเปลี่ยนเหมือนผม แล้วคิดเงิน 3 พันไม่ถึง 4 พันก็แนะนำว่าเปลี่ยนเลยนะครับ
หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ นะครับ


















 



Create Date : 02 กรกฎาคม 2566
Last Update : 2 กรกฎาคม 2566 12:23:56 น.
Counter : 758 Pageviews.

0 comments
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
๏ ... รามคำแหง แรงคำหาม ... ๏ นกโก๊ก
(2 ม.ค. 2567 14:22:51 น.)
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mrter2012.BlogGang.com

mrter2012
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]

บทความทั้งหมด