หนังของค่าย A24 ตั้งแต่ Talk to me และ Civil War ที่เคยแนะนำกันไปแล้ว มาคราวนี้ จขบ. ขอนำเสนอภาพยนตร์เรื่องใหม่จากค่ายA24 นี้ แต่ไม่น่าจะได้นำมาฉายในโรงแน่ๆเรื่องย่อโอเว่น และ แมดดี้ สองเพื่อนรักที่ผูกพันธ์กันหลังเป็นแฟนคลับทีวีซีรี่ย์แนววัยรุ่นปราบอสูรกายที่ฉายทาง TV ทุกคืนวันเสาร์ แต่แล้ววันหนึ่ง จู่ๆ ทางสถานีโทรทัศน์ได้แคนเซิลซีรี่ย์นี้ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความสยองขวัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ เมื่อ จู่ๆ แมดดี้กลับหายตัวไปอย่างปริศนา แล้วเหล่าบรรดาอสูรกายจากซีรี่ย์ที่โอเว่นรู้จัก กลับหลุดออกจากจอทีวี เพื่อตามมาหลอกหลอนโอเว่นไปทั้งชีวิต...อยากรู้จริงๆ ว่าเรื่องนี้จะมีตอนจบอย่างไร น่ามาฉายในโรงนะเป็นหนังดราม่า-สยองขวัญ-จิตวิทยาเรื่องใหม่ของค่าย A24 เจ้าของผลงานหนังใหม่ที่ได้รับทั้งคำวิจารณ์ที่ยอดเยี่ยมและคะแนนบนเว็บต่างๆ ที่สูงมากๆเรื่องหนึ่งของปีนี้ แหมน่าดูจริงๆ เลยนะที่ใช้ความ horror สะท้อนถึงประเด็นทางสังคมต่างๆ มีวิธีการเดินเรื่องแบบหนังที่พึ่งพาด้วยบรรยากาศและความรู้สึกของตัวละคร ในการต้องดึงดูดคนดูให้ต่อให้ติดกับเรื่องที่พวกเขาจะนำเสนอ ซึ่งนักวิจารณ์บอกตัวหนังประสบความสำเร็จ เพียงแค่ 10 นาทีแรกของหนังทีเดียวหนังมีวิชวลสไตล์การเล่าเรื่องที่สวยมากๆ เพื่อบ่งบอกสถานะตัวละคร การเล่นแสงสีที่ภายนอกดูสวยงาม แต่เป็นลูกกวาดอาบยาพิษ การสร้างฉากต่างๆ ที่เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในฝันร้ายการออกแบบดีไซน์อสูรกายในเรื่องก็ดี น่าขนลุกขนพองสยดสยองขวัญ แล้วมีซีน horror ที่น่าประทับใจมากๆ ที่สุดคือฉาก final episode ของซีรี่ย์ในหนังที่หลอนมาในรูปแบบความกลัวของคนจริงๆ ที่ประสบกับความยากลำบาก ในการพยายามจะเป็นใครสักคนที่สังคมจะยอมรับหนังพูดถึงโอเว่นและแมดดี้ ที่ทั้งคู่ต่างมีความเหมือนกันตรงที่พวกเขากลับเป็นคนนอกที่ถูกสังคมผลักไสไล่ส่ง เพียงเพราะความไม่เหมือนคนทั่วไป แมดดี้เป็นเลสเบี้ยน (ยุคที่สังคมยังไม่ยอมรับ)ส่วนโอเว่นก็ถูกความหวาดกลัวครอบงำตัวเอง จนไม่กล้าแสดงออก จนยากที่จะปฎิสัมพันธ์กับคน
โอเว่นขี้แพ้ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับปัญหา หรือแม้แต่การตัดสินใจลงมือทำอะไรบางอย่างที่ยังกลัวๆ จนต้องหลีกหนีไปหลบอยู่ในเซฟโซนเดิมๆ ของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้แต่การสื่อสารกับคนอื่นที่ตะกุกตะกัก จนรู้สึกอึดอัดกับการใช้ชีวิตในสังคมร่วมกันกับคนอื่น เดี๋ยวนี้มีเยอะนะ
นักวิจารณ์บอกว่า เหล่านักแสดงในเรื่องนี้เล่นดีกันมากจริงๆ ถ่ายทอดตัวละครที่มีความหวาดกลัวตลอดเวลาจนทำให้บุคลิคภายนอกดูเป็นคนแปลกๆ พูดจาห้วนๆเสียงทุ้มๆ มันช่างน่าเศร้าและสะเทือนใจอย่างมาก การเดินทางของตัวละครโอเว่นมีแต่หนามที่ตัวละครต้องเข้าไปฝ่าฟันตลอดหนังสะท้อนว่า เวลาที่ทีวีซีรี่ย์สักเรื่องหนึ่งถูกแคนเซิลไปแล้วบางเรื่องยังจบค้างคาสุดๆ แล้วเหมือนกับว่า โลกชีวิตทั้งใบของพวกเขาที่เคยอยู่ได้หายสาบสูญไปตลอดกาล ความสุขที่เคยมีหายไปแล้วพวกเขาก็ต้องเติบโตไปใช้ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง....ที่ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายความเจ็บปวดนี้มันจะถูกแคนเซิลหายไปตลอดกาลได้ เหมือนกับซีรี่ย์ที่พวกเขาชื่นชอบหรือไม่ขอบคุณข้อมูลจาก Facebook คนวิจารณ์หนังไม่เป็น Part 2 ภาพและตัวอย่างจาก internet จ้า
จัดแสดงได้ดี น่าจะดีครับ