ชื่อภาษาไทย : แว่วเสียงวิญญาณหลอนหมวดภาพยนตร์ : Drama, Horror, Mystery, Thrillerผู้กำกับและเขียนบท : Shari Springer Berman, Robert Pulciniนักแสดงนำ : อแมนด้า ไซย์ฟริด, เจมส์ นอร์ตันความยาว : 121 นาทีวันที่เข้าฉาย : รับผ่านสตรีมมิ่งของ Netflixหนังที่จะแนะนำกันในวันนี้ ยังคงเป็นหนังที่ชมได้แล้วผ่านสตรีมมิ่งของ Netflixเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด 19 ที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในบ้านเราหนังที่สร้างจากนิยายชื่อดัง All Things Cease to Appear ของเอลิซาเบธ บรันเดจ โดยมีนักแสดงนำเป็นดาราสาวสวยที่มีเอกลักษณ์ตาโตที่หลายคนจดจำได้เป็นอย่างดี จอร์จ แคลร์ กับ แคทเธอรีน แคลร์ คือคู่สามีภรรยาที่ย้ายเข้าอยู่บ้านหลังใหม่เดิมทีแคทเธอรีนได้งานที่ใฝ่ฝันแล้ว นั่นคือ งานซ่อมภาพวาดในโบสถ์ แต่เธอก็เลือกตัดสินใจย้ายบ้านตามสามีมาอยู่ในเมืองนี้ โดยสามีมาเพื่อเป็นคุณครูในวิทยาลัยเอกชนเล็กๆ ทางตอนเหนือ ขณะที่ภรรยาเลือกจะละทิ้งทุกอย่างเพื่อติดตามเขามาอยู่ที่บ้านใหม่ ก่อนจะเจอเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติส่วนจอร์จผู้มาเป็นอาจารย์พิเศษในวิทยาลัย มีรูปวาดที่ใครดูก็รู้ว่ามีฝีมืออยู่ในห้องทำงาน แต่แปลกที่เขาไม่ยอมทำงานศิลปะออกมาอีก ได้แต่กลับบอกว่าตนเองไม่เก่งพอ ขอเปลี่ยนแนวมาเป็นครูสอนศิลปะและเขียนหนังสือจะดีกว่า
บ้านเก่าคร่ำคร่าใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ คงต้องปรับปรุงบ้างนิดหน่อย แต่อะไรก็คงไม่หนักหนาเท่ากับการที่แคทได้พบเจอเรื่องราวประวัติของเจ้าของเก่าที่เคยอยู่ที่นี่ เหตุการณ์แปลกประหลาดที่เริ่มกวนใจเธอขึ้นทุกที กับทั้งยังมีบางสิ่งที่น่าสงสัย สามีของเธอก็ดูเหมือนจะปิดบังบางสิ่งอยู่ ทุกสิ่งที่เป็นปริศนถึงเวลาต้องคลี่คลายช่วงแรกผีออกมาหลอกลูกสาวของ แคทเธอรีน นางเอกในเรื่องที่เป็นแม่บ้านอยู่กับลูกสองคน และแคทเธอรีนเองก็เห็นหลายอย่างผิดปกติเหมือนกับลูกเช่นกัน แต่ไม่กล้าบอก จอร์จ สามีของเธอที่เป็นอาจารย์ศิลปะในมหาวิทยาลัยในเมืองนี้ ตัวสามียืนกรานว่าบ้านไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ภรรยาชอบระแวงหลอนไปเอง เพราะเธอเป็นพวกอดอาหารกินแต่โปรตีนกระป๋อง แล้วก็มักจะชอบล้วงคอให้อาเจียนหลังกินอาหารเข้าไป ซึ่งนี่เป็นคีย์แมสเซจในเรื่องที่ถูกย้ำบ่อยๆ จนทำให้คนดูในช่วงแรกเริ่มเชื่อว่า การอดอาหารของแคทเธอรีนต้องมีส่วนเกี่ยวกับการเห็นผีแต่เรื่องก็ทำให้ดูคลุมเครือกับประวัติของบ้านที่ดูแปลกๆ มาตั้งแต่เริ่มสร้างด้วยเหมือนหนังตั้งใจอยากจะสยองขวัญ แต่ก็ทำได้แบบครึ่งๆ กลางๆ เพราะอีกส่วนหนึ่งต้องไปเอาจริงเอาจังกับความน่าเคลือบแคลงสงสัยในตัวสามีของแคทเธอรีนเสียมากกว่า บวกกับการหยิบยืมเอานักเขียนคนหนึ่ง กับภาพบนปกของหนังสือเล่มหนึ่งมาร่วมเล่าเคล้าไปกับความลึกลับในบ้านและในตัวสามี ผ่านตัวละครแวดล้อมในเมืองๆ นี้
ทำให้เราสรุปได้ว่า มันไม่ได้เป็นหนังสยองขวัญสักเท่าไหร่ แต่เป็นหนังดราม่าที่มีบางส่วนอิงกับสิ่งลี้ลับในบ้านเสียมากกว่า เรื่องนี้นักวิจารณ์หลายท่านบอกว่า ตัวหนังยังทำได้ไม่ดี เช่นคำวิจารณ์ว่า บางครั้ง เราก็มองเห็นตัวละครมีพฤติกรรมบางอย่างที่ชวนสงสัย แต่แล้วหนังก็ไม่ได้สนใจจะบอกอะไร ปล่อยให้ความสงสัยค้างไปอย่างนั้นสุดท้ายเป็นได้แค่หนังที่ดูไปเพลินๆ ฆ่าเวลา ในช่วงสถานการณ์โควิดระบาดบ้านเราจ้าขอบคุณข้อมูลจาก "www.playinone.com" และ "www.patsonic.com"รวมทั้งภาพประกอบของภาพยนตร์และเพลง จาก internet จ้า