ชื่อภาษาไทย : ล่าคนโคตรพลัง ภาค 2หมวดภาพยนตร์ : แอคชัน / ไซไฟ / ผจญภัยผู้กำกับ : เจฟฟ์ ชานนักแสดงนำ : ร็อบบี้ อาเมล, สตีเฟน อาเมล, อเล็กซ์ มาลารี จูเนียร์, ไซรีนา กูเลมกอสความยาว : 100 นาที (ที่ Netflix)ช่วงนี้หนังภาคต่อกำลังดัง แต่ก็มีหนังภาคต่อบางเรื่อง ที่เคยฉายในโรงภาพยนตร์กลับไม่ได้ไปต่อในโรงภาพยนตร์ในภาค 2 แต่ก็ยังอุตส่าห์มีภาค 2 ให้ได้ไปหาชมกันทางอื่น
เจฟฟ์ ชาน (Jeff Chan) ได้ระดมทุนพื่อนำ ‘Code 8’ หนังสั้นไซไฟวิสัยทัศน์ไกลของเขาขยายเป็นภาพยนตร์ขนาดยาวเพื่อฉายโรง จนนำมันเข้าโรงได้ในปี 2019 ส่วนเมืองไทยเองหนังก็เข้าฉายในชื่อ ‘ล่าคนโคตรพลัง’ ซึ่งเคยแนะนำกันไปแล้วในบล็อกก่อนหน้านี้นะhttps://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=homkorn&month=01-2020&date=29&group=10&gblog=32แต่เนื่องจากงบประมาณที่ค่อนข้างต่ำเลยไม่สามารถทำให้วิสัยทัศน์สุดทะเยอทะยานของชานออกมาได้ตรงใจและเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด – 19 ก็ยิ่งซ้ำเติมให้หนังดูจะกลายเป็นงานที่ถูกลืมได้ง่าย แต่แล้วในปี 2021 Netflix ได้ซื้อสิทธิในการสร้างหนังเรื่องนี้เรื่องย่อและมอบโอกาสให้ ชานได้กลับมาสานต่อเรื่องราว ที่ยังมีศูนย์กลางอยู่ที่ ตัวละครพี่น้องจากภาคแรกอย่าง แกร์เรต (รับบทโดย สตีเฟน เอเมล) พี่ชายเจ้าพ่อค้ายานรก ‘ไซค์’และคอนเนอร์ รีด (รับบทโดย ร็อบบี เอเมล) น้องชายชีวิตอาภัพที่ยอมติดคุกแทนแกร์เรตโดยในหนังภาคนี้ คอนเนอร์ต้องจำใจขอความช่วยเหลือจากพี่ชายสุดโฉดเพื่อปกป้อง พาวานี(รับบทโดยไซรีนา กูเลมกอส) หนีการตามล่าจากเหล่าตำรวจชั่วอย่าง จ่าคิงสตัน (รับบทโดยอเล็กซ์ มาลารี จูเนียร์) แต่แกร์เรตจะเป็นคนที่พวกเขาไว้ใจได้จริงเหรอ (อย่างนี้ก็ไม่น่าจริงหละ)‘CODE 8 Part 2’ มีพัฒนาการแบบเห็นได้ชัดเจนคืองานวิชวลเอฟเฟกต์ที่ทำได้เนียนขึ้นและสามารถเพิ่มปริมาณช็อตที่ใช้ได้มากขึ้นจากทุนสร้างที่ ชาน ไม่น่าจะต้องวิตกกังวลเหมือนหนังภาคแรกที่เขาระดมทุนเอง คุณภาพงานดีกว่าตอนหนังภาคแรกที่ฉายโรงเสียอีกด้านบทหนังก็มีการลดความซับซ้อนของบทลง เพื่อเน้นไปที่การพัฒนาคาแรกเตอร์มากขึ้นซึ่งในหนังภาคนี้ก็ยังคงเป็นตัวแกร์เรต ของสตีเฟน เอเมล ที่ยังคงมีความซับซ้อนและเทา ๆ อเล็กซ์ มาลารี จูเนียร์ ในบทจ่าคิงสตัน ก็ชั่วได้ใจ และเล่นประเด็นการฉ้อฉลในวงการตำรวจหลายซีนทำให้อดนึกถึงวีรกรรมตำรวจชั่ว ๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่ได้ เหมือนกันทั่วโลกนักวิจารณ์บอกว่า หนังดูได้เป็นหนังฆ่าเวลาที่มีด้านวิชวลเอฟเฟกต์ ดูสนุกๆ อีกเรื่องหนึ่งแล้วกัน แต่หนังยังไปไม่ถึงระดับหนังไซไฟที่มีศักยภาพระดับที่น่ายกย่อง หรือน่าจดจำหนังไม่ได้เข้าฉายในโรงจ้า แน่นอนต้องไปหาชมเอาในระบบตรีมมิ่งของ Netflix กันเอาเองในเมื่อช่วงนี้ปิดเทอมมีแต่หนังการ์ตูนญี่ปุ่นเข้าโรงต้อนรับเด็กๆ เข้าโรงหนังในวันอากาศร้อนกับหนังสยองขวัญที่เพื่อนบล็อกไม่ชอบ งั้นก็ขอแนะนำเรื่องนี้แทนไปก่อนแล้วในบล็อกนี้จ้าขอบคุณข้อมูลหนังจาก "www.beartai.com" ภาพและเพลงประกอบ จาก internet
มาดูรีวิวหนังด้วยครับ
แอคชั่น ไซไฟ น่าสนุกครับ