จขบ.ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านและขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้กันตลอดปี 2563 กับ https://www.bloggang.com/event/popularaward16/ จ้า







ชื่อภาษาไทย :    แสงแห่งหวังที่ทุกฝั่งฟ้า
หมวดภาพยนตร์ :   โรแมนติก, ดราม่า
ความยาว :   108 นาที
ผู้เขียนหนังสือ :  Jennifer Niven
นักแสดงนำ :  แอลล์ แฟนนิ่ง, จัสติส สมิธ
ค่ายภาพยนตร์ : Netfeix







หนังที่จะแนะนำกันในวันนี้ก็ยังคงเป็นหนังของ Netflix สำหรับคอหนังที่จะ
ไปหาดูกันในช่วงสถานการณ์โควิดระบาดบ้านเรา แทนการไปโรงภาพยนตร์จ้า 
ว่าด้วยเรื่องของวัยรุ่นมีปัญหา ที่ร่วมกันเดินทางผจญภัยออกไปเจอโลกข้างนอก
จดจำช่วงเวลา สถานที่ ความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อสิ่งรอบข้างในรัฐอินดีแอนาทั้งหมด
เพื่อปลดเปลื้องอารมณ์มืดมนที่ทั้งสองโดนครอบงำ โดยเปลี่ยนชีวิตและวิธีคิดใหม่







เรื่องย่อ
หลังจากสูญเสียพี่สาวไป สาวโลกส่วนตัวสูงอย่างไวโอเล็ต มาร์กีย์ (แอลล์ แฟนนิ่ง) 
ก็เจอความหมายในชีวิตอีกครั้งเมื่อได้พบกับหนุ่มแปลกอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อย่าง
ธีโอดอร์ ฟินช์ (จัสติส สมิธ)  เตรียมโบกมือต้อนรับเดือนแห่งความรักด้วยภาพยนตร์
โรแมนติกดราม่า ซึ่งเป็นโรแมนติกดราม่าจริงๆ เป็นหนังรักที่ไม่ได้ให้ความรู้สึก
กุ๊กกิ๊กดูแล้วบิดหมอนนะ  หนังเปิดมาด้วยตัวละครหลักที่ประสบความเจ็บปวดในชีวิต 

ไวโอเล็ต หญิงสาวอมทุกข์ที่สูญเสียพี่สาวไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแบก
ความเศร้าเอาไว้บนบ่าและใบหน้า เปลี่ยนไปจากคนเดิมที่เคยเป็น จนได้มา
เจอกับฟินช์ ชายหนุ่มที่โผล่เข้ามาในจังหวะที่ยากลำบากของชีวิตพอดี และ
ฉุดเธอให้ผ่านพ้นจากความหม่นหมองในชีวิต ด้วยการพาไปท่องเที่ยวตาม
สถานที่สวยงามต่างๆ ในเมืองด้วยกัน โลกของเธอสดใสและมีความหมายมากขึ้น 
ในขณะเดียวกันโลกของฟินช์เองกลับมืดมนและอ้างว้างเกินกว่าที่ไวโอเล็ตจะเข้าใจ

ไวโอเล็ตสูญเสียคนในครอบครัวที่เป็นทั้งพี่สาวและเพื่อนสนิท การแสดงออก
ถึงความเจ็บปวดของเธอคือการปิดกั้นตัวเองออกจากสังคม ปลีกตัวแยกออกมา 
ส่วนฟินช์เองก็เคยสูญเสียคนสำคัญไปเช่นกัน แต่การตอบสนองต่อความเจ็บ
ของฟินช์จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากไวโอเล็ต (ถึงทั้งคู่ดูรวมๆ เป็น
การหนีปัญหาคล้ายๆ กัน) ฟินช์จะเก็บซ่อนเรื่องราวของเขาเอาไว้ ปกปิดด้วย
รอยยิ้มและท่าทางที่ดูว่าเขาไม่เป็นไร ซึ่งเหมือนคนเราบางคนที่ไม่จำเป็น
ต้องแสดงออกเวลาเศร้าเหมือนกัน  และมันก็เป็นหนังรักที่มักจะต้องมี
ฝ่ายใดฝ่ายนึงชอบกัน ในเรื่องนี้เป็นฝ่ายพระเอกของเรา ฟินช์ที่เจอไวโอเล็ต
ครั้งแรกตรงสะพาน ขอขยายความว่ามันไม่ใช่การเจอกับบนสะพาน แต่เป็น
การเห็นไวโอเล็ตยืนอยู่บนขอบสะพาน (สาวสวยผมบลอน์ตาเศร้า) พอฟินช์
เดินเข้าไปปรากฏว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่บนนั้นคือไวโอเล็ต ซึ่งเกี่ยวข้องเป็น
เพื่อนร่วมชั้นเดียวกับเขาในโรงเรียน และนั้นคือจุดเริ่มต้นของหนังรักเรื่องนี้

หลังจากที่ฟินช์เจอไวโอเล็ตในสถานการณ์แบบนั้น ฟินช์ก็ทำตัวเป็นพระเอก
ที่่พยายามเยียวยาไวโอเล็ตจากความหม่นหมองที่ครอบคลุมเธออยู่ ประจวบ
เหมาะกับที่อาจารย์วิชาภูมิศาสตร์สั่งโปรเจ็กต์คู่ให้ไปค้นหาสถานที่ต่าง ๆ 
ของเมืองแล้วเขียนถึงความงดงามของสถานที่ที่ไปมา ซึ่งก็เข้ากับสถานการณ์ดี 
บางทีความเศร้าก็แก้ได้ด้วยการออกไปค้นหาสิ่งธรรมดาที่สวยงามแทนเนอะ

หนังที่สร้างจากหนังสือเรื่อง All the Bright Places ของ Jennifer Niven เรื่องนี้
เป็นนิยาย Young Adult เรื่องแรกของผู้เขียนคนนี้ เนื้อหาที่ผู้เขียนต้องการสื่อสาร
ให้ผู้อ่านตระหนักคือเรื่องการฆ่าตัวตาย มันอาจจะไม่ได้เกิดกับตัวเรา แต่มันอาจจะ
เกิดกับคนรอบข้างคุณได้ นอกจากการฆ่าตัวตายยังมีเรื่อง โรคที่มีอาการป่วยทางจิต
อยู่ด้วย แหมจะว่าไปก็ใกล้เคียงกับสังคมหนุ่มสาวบ้านเราช่วงยุคสมัยนี้เหมือนกันนะเนี่ย

เป็นหนังดีอีกเรื่องนึง ที่ขอแนะนำกันในบล็อกนี้ แต่ไม่เคยได้ยินว่ามีหนังสือฉบับแปลไทย
ของหนังสือเล่มนี้ หรือท่านใดมีข้อมูลดีดีก็บอกฝากกันไว้ในบล็อกเผื่อคนอ่านได้เลยจ้า