ภาพยนตร์ที่จะแนะนำกันในบล็อกนี้ลงโรงฉายในบ้านเราไปเมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาแล้ว เป็นภาพยนตร์ที่นำผู้ชมให้พักจากหนังฟอร์มยักษ์สุดครึกโครม ลองหาโอกาสพาตัวเองไปเสพความเงียบสงบ ที่พาให้เรามองเห็นความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ในหนังที่ไม่จำเป็นต้องมีบทพูดไม่จำเป็นต้องรู้ความหมาย ใช้เวลานั่งเฝ้ามองดูคนกลุ่มหนึ่งก้าวลงไปท่ามกลางความมืด ผ่านมุมกล้องที่ตั้งนิ่งๆ ให้เราเห็นดวงไฟที่ส่องจากหมวกนักสำรวจ แสงไฟที่สว่างอยู่เพียงจุดเดียวท่ามกลางความมืดมิดรอบด้าน ที่พาให้เราได้รับประสบการณ์เหมือนไปอยู่ในสถานที่นั้นจริงๆนี่คือสิ่งที่นักวิจารณ์ชวนให้เราดื่มดำ่ไปกับบรรยากาศของภาพยนตร์ที่เราจะได้รับชมเรื่องนี้ ซึ่งไม่ใช่หนังแนวตลาด เหมือนหนังเรื่องอื่นๆ ที่เข้าฉายโรงภาพยนตร์ ที่คุ้นชินกันในโรงบ้านเราเรื่องย่อหนังพาเราย้อนไปในยุค 60s ที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู มีการสร้างอาคารสูงที่สุดในยุโรปขึ้นแถบอิตาลีตอนเหนือ แต่อีกฟากหนึ่งทางตอนใต้นั้น เหล่านักสำรวจถ้ำกำลังไปเยือนที่ราบสูงคาลาเบรียนในเขตที่ยังไม่เคยถูกสำรวจมาก่อน นักสำรวจหนุ่มสาวในภาพยนตร์ได้เดินเข้าไปค้นพบหนึ่งในถ้ำที่ลึกที่สุดในโลก ด้วยด้วยความ 700 เมตรใต้ผิวโลก ที่ซึ่งยังไม่เคยมีมนุษย์หน้าไหนเยี้ยงกรายเข้าไปถึงก้นถ้ำ คนดูน่าจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศอีกรูปแบบหนึ่งสำหรับการดูหนังการสำรวจถ้ำที่ไม่มีใครล่วงรู้ ทว่าอยู่ในสายตาของชายชราเลี้ยงแกะแห่งที่ราบสูงโปลลิโน ผู้ซึ่งจิตวิญญานของเขาสอดประสานกับเหล่าผู้เดินทาง ระหว่างทาง เราจะได้เห็นทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติ เนินเขาและทิวเขาต้นไม้เขียวขจี เมฆและหมอกสีขาวล่องลอย ฝูงม้าวัวแกะและลา
นอกจากนี้หนังอิตาลีเรื่องนี้ได้รับเลือกให้อยู่ในกลุ่ม “20 หนังยอดเยี่ยมแห่งปี” ของนิตยสาร Film Comment ที่นักวิจารณ์บอกว่า เป้นนิตยสารหนังที่ได้รับการยกย่องที่สุดในอเมริกาเสียด้วยขอบคุณเรื่องราวจากเว็บ "www.patsonic.com" ภาพและเพลงประกอบจาก internet จ้า
หนังเงียบๆ ไม่มีบทพูดแบบนี้
ผมชอบเลยครับ