พักยกRound1 ใจรักแต่ร่างกายไม่เอื้ออำนวย + ห้องฝึกกล้ามเนื้อสำหรับนักกีฬายูโดโอลิมปิค ใจรักแต่ร่างกายไม่เอื้ออำนวย + ห้องฝึกกล้ามเนื้อสำหรับนักกีฬายูโดโอลิมปิค วันนี้(เขียนไว้นานแล้วครับประมาณ3อาทิตย์ที่แล้ว แต่ไม่มีโอกาสลงบล๊อค) เป็นหนึ่งวันที่ว่าเหนื่อย เจ็บ และท้อกับการเรียนการซ้อมยูโด เรื่องมันเกิดจาก3องค์ประกอบ คือ สภาพร่างกายตัวผมเอง, สภาพอากาศ, และคู่ซ้อมกับท่าที่อาจารย์สอน เริ่มจากสภาพร่างกายก่อน คือวันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมไปตีแบตกับเพื่อน2กลุ่ม กลุ่มละ2ชั่วโมง รวมแล้วก็4ชั่วโมง พอเวลาผ่านไปวันสองวัน มันก็เริ่มเห็นผล จากเมื่อยขา ปวดก้น(ไม่รู้เป็นอะไรตีแบตทีไร ปวดก้นทุกที) ส่วนหัวไหล่กับมือไม่มีปัญหาเท่าไร วันนี้ปล่อยให้ท้องว่างไปซ้อมยูโด (เกือบขึ้นรถไฟไม่ทันก็เลยต้องตัดเวลาโภชนาการออกไป) ประกอบกับช่วงนี้นอนดึกเพราะใกล้สอบแล้วต้องทบทวนหนังสือกับวิชาต่างๆที่เรียนมา ผลก็คือวันนี้ไปซ้อมแบบหมดสภาพ องค์ประกอบที่2 คือเรื่องอากาศ ญี่ปุ่นเดือน7-8 ถือได้ว่าร้อนระอุมากๆ ประกอบกับปีนี้มีปัญหาเรื่องโรงไฟฟ้า ทำให้ทุกองค์กรทุกบริษัท ทุกสถานที่เน้นมาตรการประหยัดไฟ ผลก็คือปิดแอร์ หรือเปิดก็28องศา เอาแค่ว่าพอเวลาผมเปลี่ยนเป็นชุดยูโดแล้วไม่ต้องทำอะไรยืนเฉยๆ ผมก็เหงื่อออกแล้ว บริเวณตัวกับแขนจะคล้ายๆกับคนเพิ่งอาบน้ำแล้วไม่ได้เช็ดตัว พอเจอวิดพื้นซิทอัพเข้าไปหน่อยนึง ก็ยิ่งเหงื่อท่วม ผลที่ตามมาก็คือชุดยูโดน้ำหนักก็จะเพิ่มมากขึ้น สุดท้ายปัญหาใหญ่สุดคือเรื่องคู่ซ้อม การซ้อมยูโดคู่ซ้อมมักจะเป็นแบบหมุนเวียน เจอดีบ้างแย่บ้าง แต่วันนี้เกือบจะทั้งหมดไม่ดีเท่าที่ควร ท่าที่เรียนวันนี้มี3ท่าคือ de ashi barai (อีกแล้ว), Sasae Tsurigomi ashi, harai-goshi วันนี้ไม่มีท่าใหม่เพิ่มมา แถม2ท่าแรกผมไม่ค่อยถนัดด้วยซิ สองท่าแรกพอถึงตอนทุ่มคู่ซ้อมจะเจอฝรั่งทุกที ก้าวขาผิดตลอด พอถึงจังหวะที่จะเข้าทำคู่ซ้อมก็จะสลับขาออกมาทำให้ปัดไม่ได้ เพราะเป็นการซ้อมnagekomi(ใส่ท่าทุ่มให้ถูกวิธี)ไม่ใช่ซ้อมรันโดริ ถ้าเป็นการซ้อมรันโดริแล้วจะก้าวมายังไงผมก็จะตวัดได้อย่างไม่เกรงใจ แต่ว่านี่เป็นการซ้อมคู่ในการเข้าท่า แต่แล้วท่าของผมวันนี้ก็ไม่เข้าท่าซักครั้ง พอถึงคิว harai-goshi ก็เจอคู่ซ้อมคนเดิมคราวนี้ผมเป็นหุ่นให้เค้าทุ่มบ้าง ระยะการลงพื้นต่ำมาก(เพิ่งเคยเจอทุ่มแบบนี้เป็นครั้งแรก)ไม่มีการดึงมือช่วย สรุปก็คือหลังกระแทกลง หมดสภาพจริงๆ อาจารย์เห็นตั้งแต่ตอนซ้อม de ashi barai แล้วว่าคนนี้มันก้าวขาผิดตลอดหรือไม่ก็หลบออกข้างในเวลาที่จะถูกทุ่ม แต่ว่าอาจารย์ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะว่าหลักการเรียนยูโดคือไปกันเป็นกลุ่มค่อยเป็นค่อยไป ก็ได้แต่ทำใจ วันนี้เท่ากับว่าไม่ได้อะไรใหม่เพิ่มเข้ามา เพียงแต่ได้บทเรียนของการล้มในท่าทุ่มแปลกๆแบบเอาหลังลง สรุปแล้ววันนี้เรียนเสร็จรู้สึกท้อเล็กน้อย ว่าถ้าเจอคู่ซ้อมอย่างนี้ทุกวันต่อๆไปมันจะก้าวหน้าขึ้นจริงๆเหรอ เพื่อนที่เรียนด้วยกัน2-3คนเห็นหน้าแล้วก็พอจะเข้าใจว่าเจออะไรมาบ้าง กลุ่มนี้มีเป้าหมายเหมือนกันคือโชดั้งแต่ว่าถ้าได้สายดำมาแล้ว ฝีมือไม่ได้เรื่องให้มันสมฐานะสายดำโคโดดังมันก็น่าอายอยู่เหมือนกัน ก็เลยอยู่ต่อซ้อมกันหลังเลิกเรียนอีกหน่อยนึงประมาณครึ่งชั่วโมง อยากน้อยก็ได้ออกกำลังไปอย่างถูกที่ถูกทางไม่ได้เสียเวลาเปล่า เมื่อเข้าใจถึงองค์ประกอบที่ทำให้เหนื่อยและท้อแล้ว สภาพอากาศกับคู่ซ้อมคงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ก็คงต้องมาเปลี่ยนที่ตัวผมเอง เกี่ยวกับเรื่องการพักผ่อนให้เพียงพอ ให้ร่างกายพร้อมก่อนไปซ้อมยูโด(กินก่อนซ้อมยูโดซักครึ่ง-1ชั่วโมง) วันนี้มีโอกาสแก้เซ็งด้วยการเข้าห้องฝึกกล้ามเนื้อ (เรียกง่ายๆก็คือการยกน้ำหนักนั้นแหละ) เพิ่งรู้ว่าชั้นใต้ดินของตึกโคโดกัง มีห้องฟิตเนสอยู่ หน้าห้องมีป้ายเขียนไว้ซะหรูว่าเป็นห้องฝึกกล้ามเนื้อสำหรับนักกีฬายูโดโอลิมปิค (ต้องมาใช้บ่อยๆเผื่อจะได้ไปโอลิมปิคกะเค้าบ้าง---ฝันซะยาวเชียว) กฏระเบียบการใช้ห้องนี้มีอยู่2ข้อคือ หนึ่งต้องมีจำนวนมากกว่า1คน(เรียกง่ายๆก็คือ1คนขึ้นไป) สองคือต้องได้รับอนุญาติจากอาจารย์ประจำชั้นซะก่อน(ฝ่ายธุรการพูดซะเหมือนกับว่า ไม่ใช่ว่ามีคน2คนขึ้นไปแล้วจะใช้ห้องนี้กันได้ทุกคน บางคนอาจารย์ไม่อนุญาติให้ใช้ห้องนี้ก็เคยมีเหมือนกัน) วันนี้เป็นวันแรกรวบรวมสมาชิกได้4คนก็ไปขออาจารย์ อาจารย์ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่บอกว่า อย่าทำอะไรที่ทำให้บาดเจ็บหรือเจ็บตัวละกัน หลังจากเขียนชื่อในสมุดลงชื่อสำหรับใช้ห้องเสร็จก็ได้กุญแจมาเป็นที่เรียบร้อย ลุยกันเลยชั้นใต้ดิน .. สภาพด้านในก็มีอุปกรณ์เสริมสร้างกล้ามเนื้อต่างๆวางเรียงกันอยู่ แต่อุปกรณ์ในห้องนี้ทุกอย่างล้วนแต่ออกแบบมาสำหรับกีฬายูโดโดยเฉพาะ (ถึงได้เรียกว่าห้องฝึกกล้ามเนื้อสำหรับนักกีฬายูโด) เช่นอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อแขนสำหรับการเพิ่มแรงดึง หรือ อุปกรณ์ที่เน้นบริเวณขาและเข่าสำหรับท่า Seoinage ก็มีของเล่นให้เล่นเยอะดี ตอนนี้ตั้งเป้าเอาไว้สำหรับbench pressอยู่ที่ 130-150โล (ไม่รีบร้อนครับ ค่อยเป็นค่อยไป) อย่างอื่นไม่เท่าไร ที่กลัวอยู่อย่างเดียวก็คือจะเล่นผมผิดคิวจนทำให้แขนขาหักซิครับ แขนขวาผมบริเวณข้อศอกก็ยังหลวมๆไม่เข้าที่เท่าไร
2อาทิตย์ก่อนฝรั่งคนเดิมนี้แหละใช้ท่าtai-otoshiแต่ผิดประเภท คือยื่นขาไปขัดกับเข่าขณะทุ่มเพื่อนผมคนนึง (จริงๆแล้วต้องยื่นขาไปขัดกับข้อเท้าไม่ใช่เข่า) อาจารย์เห็นพอดีแต่บอกห้ามไม่ทัน สรุปแล้วเพื่อนคนนี้ก็หายไปรักษาเข่าประมาณอาทิตย์กว่า พอเข้าใจว่าไม่ได้ถึงกับขาหักหรือเข่าเคลื่อน แต่มันก็เจ็บแบบเกะกะเวลาเคลื่อนไหว โดย: ablaze357
![]() สู้ๆนะคะ
ยิ่งเจออากาศร้อนด้วยยอารมณ์ต่างๆ ก็หงุดหงิด... ดูแลสุขภาพดีๆนะคะ ดูจะอันตรายเหมือนกันนะเนี่ย ถ้าผิดคิวกันหนัก โดย: Sassy Imp
![]() สู้ๆนะคะ
ยิ่งเจออากาศร้อนด้วยยอารมณ์ต่างๆ ก็หงุดหงิด... ดูแลสุขภาพดีๆนะคะ ดูจะอันตรายเหมือนกันนะเนี่ย ถ้าผิดคิวกันหนัก โดย: Sassy Imp
![]() คนอื่นไม่รู้แต่ว่ายิ่งร้อนผมยิ่งชอบครับ เหงื่อออกเยอะๆแล้วจะได้น้ำหนักลดเยอะๆ
ขึ้นเดือนใหม่ ตอนนี้ฝรั่งคนนั้นย้ายไปเรียนอีกclassนึงแล้ว กว่าจะได้เจอกันอีกก็ต้องเดือนหน้าหรือไม่ก็เฉพาะตอนรันโดริเท่านั้น ตอนรันโดริไม่กลัวครับเจอท่าแปลกๆผิดคิวมา ผมรอจังหวะสวนกลับอยู่แล้ว วันนี้เจอคนไทยด้วยครับเป็นเด็กม.ต้นเพิ่งเริ่มมาเรียนเองครับ ก็ถือว่าดีมีเพื่อนคุยเป็นภาษาไทยแล้ว โดย: ablaze357
![]() การศึกษาองคประกอบทางรางกายและ รอยละไขมันในนักกีฬา ยูโดเยาวชนไทยกลุมที่ไดรับชัยชนะกับไมไดรับชัยชนะ
ลิงค์ //rehabmed.or.th/main/wp-content/uploads/2014/03/L-325.pdf //www.kmutt.ac.th/jif/public_html/article_detail.php?ArticleID=90976 โดย: oozingplanet IP: 114.109.54.29 วันที่: 18 กรกฎาคม 2557 เวลา:20:18:53 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ไม่รู้จะช่วยแก้ปัญหายังไงเสียด้วย เพราะไม่เคยเล่นยูโด 55 แต่ป้าเชื่อว่า ในสถานการณ์ที่ย้ำแย่อย่างที่เจอมานี้ มันก็ต้องมีสิ่งดีๆ บ้างแล อย่างอีตาฝรั่งงี่เง่าคนนั้น ถือว่า เป็นอุปสรรคสำคัญ ที่ช่วยให้เราเก่งก่อนจะไปถึงโอลิมปิค ว่าม่ะ