ย้อนเวลาหากระทงและคนร่วมลอย[1] : "แต่เล็กจนโต...โอ้แม่ถนอม"
เมื่อถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย เราชาวไทยเรียกวันนี้ว่าวันลงกระทอยหรือวันลอยกระทง ตามประเพณีความเชื่อที่สืบต่อกันมา เราจะทำสิ่งที่เรียกว่า "กระทง" ตกแต่งให้สวยงาม ปักธูปเทียน แล้วลอยไปตามสายน้ำเพื่อเป็นการบูชาพระแม่คงคา บ้างก็อธิษฐานให้ความทุกข์ที่มีลอยตามสายน้ำไป เนื่องด้วยบล็อกนี้ไม่มีสาระอยู่แล้ว ฉะนั้นจะขอข้ามประวัติของเทศกาลลอยกระทงและนางนพมาศไปโดยปริยาย
จำกันได้บางรึปล่าวคะว่าที่ผ่านมานี้คุณมีส่วนร่วมกับเทศกาลนี้มากน้อยแค่ไหน วันนี้เจ้าของบล็อกขอย้อนอดีตกลับไปคิดถึง อย่างน้อยในวันเหงา ๆ ลองมองย้อนกลับไปแล้ว มันทำให้ฉันมีความสุข...
โรงเรียนประถมของฉันจัดงานวันลอยกระทงขึ้นทุกปี ในวันก่อนวันงานหนึ่งวัน (หมายถึง 14 ค่ำเดือน 12) คุณครูและเด็ก ๆ จะช่วยกันทำกระทงเพื่อคัดเลือกกระทงใบสวยไว้ให้นางนพมาศของโรงเรียนถือเข้าประกวดในวันรุ่งขึ้น ช่วงนั้นกระทงใบตองยังไม่ฮิตติดอันดับหนึ่ง ดังนั้นกระทงที่ทำจะเป็นกระทงโฟม ทำได้ง่ายแสนง่าย แค่แปะกลีบบัวปลอมเข้ากับแผ่นโฟมแล้วคาดด้วยกระดาษอังกฤษปิดรอบฐานกระทง ความสวยของกระทงจะขึ้นอยู่กับการเรียงกลีบบัวปลอมและความเนียนในการแปะกระดาษอังกฤษ ไม่ต้องถามหรอกค่ะว่ากระทงเจ้าของบล็อกได้ให้นางนพมาศถือขึ้นไปลุ้นรางวัลประกวดด้วยรึปล่าว เพราะคำตอบเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว... แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงของหลาย ๆ คนก็คือมีอยู่ปีนึง เจ้าของบล็อกได้ประกวดนางนพมาศของโรงเรียนแล้วชนะด้วยนะ ฮ่า ฮ่า ตอนนั้นอายุยังไม่ขึ้นเลขสองหลักเลยค่ะ ในตอนเช้าวันลอยกระทง ตัวแทนนางนพมาศของแต่ละห้องจะมารวมกันที่ห้องแต่งตัว แล้วคุณครูก็จะจัดการเลือกเสื้อผ้าให้ใส่ เนื่องด้วยเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก เสื้อผ้าที่ใช้ในการประกวดก็จะเป็นสมบัติที่ตกทอดกันมา ไม่ได้หรูหรา มีแค่สไบปักลายกับประโปรงเท่านั้น เรียกว่าชนะไม่ชนะเฉือนกันที่หน้าตาจริง ๆ ฮ่า ฮ่า เออ...จริง ๆ แล้วยอมรับอ่ะคะ ได้ยินคุณครูคุยกันว่าให้หนูชนะเพราะหมู่บ้านหนูอยู่หลังโรงเรียนกับแม่รู้จักกับคุณครู (=เล่นเส้น)
พอตกเย็นกระทงที่เราทำไว้จะได้รับกลับคืนมาเพื่อเอากลับบ้านไปลอย ถ้าปีไหนคุณแม่ขี้เกียจก็จะพาคุณลูกไปลอยที่คลองหลังหมู่บ้าน แต่ถ้าปีไหนคุณแม่เกิดคึกคักก็จะพาคุณลูกไปลอยที่วัด (ก็คลองเดียวกันกับที่ติดหลังหมู่บ้านนั่นแหล่ะ) เป็นเช่นนี้อยู่หลายปี จากประถมสู่มัธยม ยังคงต้องทำกระทงส่งในวิชาสังคมศึกษากับพระพุทธศาสนา (แต่ไม่ได้ประกวดนางนพมาศแล้วเพราะสังขารไม่เที่ยง) เนื่องจากโรงเรียนติดวัด และอดีตเป็นพื้นที่วัด (= ป่าช้า) ทางโรงเรียนมีนโยบายช่วยเหลือวัดด้วยการทำกระทงเข้าวัดเพื่อให้ทางวัดเอากระทงไปขาย จากกระทงโฟมพัฒนาเป็นกระทงใบตอง ตอนทำน่ะ ไม่รู้หรอกว่าจะลอยได้หรือไม่ได้ รู้แต่ว่ามีส่งได้คะแนนก็ดีแล้ว แต่พอทำเพื่อเอาไปลอยเองจึ่งค้นพบว่า ไอ้ที่ทำ ๆ น่ะ ใช่ว่ามันจะลอยได้ (ตายละหว่า...ใครซื้อกระทงฉันไปคว่ำแน่ ๆ ขอโทษด้วยค่ะ) เลยพัฒนากระทงที่ตัวเองจะนำไปลอย จากกระทงใบตองเป็นกระทงดอกบัว ทำได้ง่ายและลอยได้ชัวร์ โดยใช้บัวหลวงสีชมพูมาพับกลีบซ้อนไปเรื่อย ๆ จนถึงด้านใน และใช้เทียนวันเกิดกับธูปก้านเล็ก ๆ ปักในดอกบัว เรียกว่าเป็นกระทงประยุกต์รุ่นใหม่ แต่ถึงยังไงฉันก็พับกลีบดอกบัวไม่สวยอยู่ดี
ปีไหนเพื่อน ๆ เกิดคึกคักก็จะพากันไปคว้าใบสมัครประกวดกระทงจากศาลากลางจังหวัดมาเพื่อทำกระทงส่งเข้าประกวด เพราะมีของรางวัลล่อตาล่อใจมิหนำซ้ำยังมีค่าตอบแทนให้ผู้ส่งกระทงเข้าร่วมประกวดทุกคนด้วย (เป้าหมายของเพื่อน ๆ อยู่ที่ค่าตอบแทนมากกว่ารางวัล) ฉันไม่เคยส่งกระทงไปประกวดกับเพื่อนเลยสักครั้ง จริง ๆ ก็อยากส่งเข้าประกวดด้วยเพราะอยากได้ค่าตอบแทนเหมือนกัน (คุ้มนะนั่นน่ะ) แต่รู้ว่าฝีมือเราแค่ไหน ส่งประกวดไปอายคณะกรรมการเลยขออยู่เฉย ๆ ดีที่สุด (จริง ๆ แล้วกลัวคนอื่นจะไม่ได้รับรางวัลต่างหากล่ะ อิอิ)
ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันไปลอยกระทงกับแม่ตลอดแหล่ะค่ะ ถ้าปีไหนแม่ไม่พาลอยก็ไม่ได้ลอย ถ้าอยากลอยมาก ๆ จะเอาน้ำใส่กาละมังหน้าบ้านแล้วเอากระทงลอง (อิอิ ลอยน้ำเหมือนกัน) เพื่อน ๆ ชวนไปลอยที่วัดแถวบ้านก็ไม่เคยไปลอยกับพวกเขาเลย เริ่มรู้สึกไม่ชอบบรรยากาศที่วัดอย่างหนึ่งคือเวลาเราเอากระทงไปลอยจะมีคนมาคว่ำกระทงเราเราเพื่อเอาเศษเหรียญในกระทงต่อหน้าต่อตา ดังนั้นถ้าให้ไปลอยก็อยากไปลอยที่คลองหลังหมู่บ้านมากกว่า แต่เนื่องจากพื้นที่ติดคลองหลังหมู่บ้านถูกบ้านหลังที่อยู่ติดคลองยึดจองที่เป็นที่เก็บของและที่จอดรถ มิหนำซ้ำสะพานที่ทำลงไปในคลองก็ชำรุผุพังไปตามกาลเวลา ได้ลอยบ้างไม่ได้ลอยบ้าง ความรู้สึกอยากลอยกระทงก็เริ่มหมดไป จนเริ่มรู้สึกว่าวันลอยกระทงก็เป็นวันหนึ่งที่มี 24 ชั่วโมงเหมือนวันอื่น ๆ ต่างกันก็เพียงแค่ วันนั้นเราจะเห็นต้นกล้วย ใบตอง ดอกดาวเรื่อง และธูปเทียนแต่งด้วยกระดาษย่นวางขายเต็มไปหมดเท่านั้น
เข้ามหาวิทยาลัยได้หันมาลอยกระทงออนไลน์แทน (อานะ ไฮเทคไหมล่ะ) คลิ๊ก ๆ แล้วลอยได้เหมือนกัน มิหนำซ้ำยังชวนแม่มาลอยด้วย แม่ก็เป็นจริงเป็นจังต้องเขียนคำอธิษฐานกับขำขอขมาพระแม่คงคาด้วยนะเอ้า ต่างกันตรงที่ไม่มีโอกาสตัดผมตัดเล็บใส่ลงไปด้วยก็เท่านั้นแหล่ะ เหอ เหอ สุขใจผู้ลอยจริง ๆ ก็คิดว่านับแต่นี้คงไม่ได้ไปลอยกระทงที่ไหนอีกแล้วนอกจากกระทงออนไลน์
อยู่มาจนปีสาม ใครจะรู้ว่าอยู่ ๆ จะได้ไปลอยกระทงอีก ก็เพื่อนสนิทจากมัธยมโทรมาหาแล้วบอกว่าจะชวนไปลอยกระทง (เพื่อนผู้หญิงนะคะ) เราก็เห็นว่าไม่ได้ลอยมาหลายปี แล้วคุณเธอก็บอกว่าพ่อแม่ของเธอไปด้วย แต่...ไปต่างจังหวัดนะ พ่อเขาจะเลี้ยงรับปริญญาด้วย เหอ เหอ เกิดมาไม่เคยไปลอยกระทงต่างจังหวัดเลย นึกว่าแม่เราจะบัญชาประกาศิตห้ามไปเสียแล้ว แต่ด้วยข้อข้างชักแม่น้ำทั้ง 15 ประกอบกับเอาพ่อเพื่อนมาอ้าง(ถ้าไม่ไปจะให้พ่อมาขอให้) แม่เลยเปิดไปเขียวให้ไปอ่ะค่ะ Yahoo!!!
งานนี้เรื่องยาวค่ะ มาต่อบล็อกหน้า...บรรยากาศเมื่อสองปีก่อน อุ๊อิ๊อุ๊อิ๊
Create Date : 11 พฤศจิกายน 2548 |
|
5 comments |
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2548 8:05:46 น. |
Counter : 815 Pageviews. |
|
|
|