...สัจธรรมที่ค้นพบจากการอยู่ไกลบ้าน...
เคยอยู่ไกลบ้านกันบ้างไม๊คะ?
หนึ่งเคยอยู่ไกลบ้านอย่างมากก็แค่ข้ามจังหวัด... บ้านอยู่กรุงเทพ มาเรียนองครักษ์-นครนายก รังษิตคลอง 16 คิดถึงอย่างมากก็แค่ยกโทรสับกดหาแม่... เพื่อนมากมาย ทำให้นานไป ลืมโทรหาแม่ซะงั้น
จำได้ว่าตอน ม.4 แม่ส่งไปเรียนพิเศษที่เชียงใหม่ตอนปิดเทอม แรกๆดีใจ ได้ไปอยู่เชียงใหม่กับพี่และญาติ เป็นครั้งแรกที่อยู่เชียงใหม่ได้นานที่สุด หลังจากที่เคยอยู่ตอนเด็กโตถึงแค่สามขวบ แล้วก็ไม่ได้กลับมาอยู่เชียงใหม่นานๆอีกเลย
จำได้ว่า ย่างเข้าอาทิตย์ที่สอง คิดถึงพ่อกับแม่จับใจ ความจริง คำว่า "คิดถึงบ้าน" มันไม่ใช่คิดถึง "บ้าน" จริงๆหรอก แต่มันคือการคิดถึง "คนที่อาศัยในบ้าน" นั้นต่างหาก ...คือ "พ่อและแม่" นั่นเอง.... อาทิตย์ที่สองของการอยู่เชียงใหม่ เราเริ่มเหงา เริ่มร้องไห้ แม่สัญญาว่าจะขึ้นมาหาอาทิตย์ที่สาม... รอแล้วรอเล่าว่าเมื่อไหร่จะถึงวันที่แม่ขึ้นมาสักที จนวันที่แม่จะมา เราเครียด คิดถึงมากร้องไห้ๆๆ...อยู่ ๆก็เป็น hyperventilation ขึ้นมาซะงั้น (hyperventilation คืออาการหายใจเอาออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป จนทำให้ควบคุมจังหวะการหายใจได้ไม่ปกติ ทำให้มือเท้าจีบเกร็ง ทางแพทย์เรียกอีกอย่างคือ โรคชักสำออย เกิดจากทางจิตใจได้) ...แต่เราไม่ได้สำออยนะ....ร้องไห้จนหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปมากจริงๆ เล่นเอาคนทั้งบ้านตกใจ นึกว่าเราเป็นลมชัก หรือหอบหืด... เข้าใจคนที่เป็นอาการมือจีบเท้าจีบเลย...
วันนั้นแม่ขึ้นมาพอดี มาถึงรู้ข่าวว่าเรานอนรพ. ก็รีบแจ้นมาหาเลย ดีใจมากที่ได้เห็นหน้าแม่ แต่ก็สลึมสลือ เพราะฤทธิ์ยาคลายเครียด... นั่นคือครั้งแรก ที่ไกลบ้าน แล้วคิดถึงหนักขนาดนั้น... โตขึ้นมา เรียนเภสัช ถึงได้รู้ว่า จิตใจมีผลต่อร่างกายมากมายมหาศาลขนาดไหน ...ก็ขนาดที่ว่า เราคิดถึงพ่อกับแม่ จนเป็น hyperventilation หน่ะ... (เพิ่มเติม...ใครเคยดูเรื่องหมอเจ็บ จะจำได้ ที่ยัยอ้วนจะร้องคาราโอเกะโชว์ เครียดตื่นเต้นจนหอบหน่ะ)
ตอนนี้ เราอยู่ไกลบ้านมาก... ไกลคนละฟากโลก... สี่เดือนแรกที่จากบ้านมา เราไม่สามารถกลับบ้านได้เลย เพราะกำลังเทรนอยู่ และยังไม่มีสิทธิ์ซื้อตั๋วกลับบ้านได้ในราคาถูก ยังไม่มีเงินกลับบ้านได้ขนาดนั้น ประจวบกับเวลาวันหยุดไม่พอกลับ ...ค่าโทรสับแพงมหาโหด นาทีละ 12-16 บาท... ยังดีที่มีอินเตอร์เนท...ก็แชทก๊อกแก๊กไปตามประสาพ่อแม่ไม่ทันไอที... ส่วนคุณแฟนเหรอ...บอกกันไว้ก่อนเลย... ใครเปลี่ยนใจจากกัน ก็บอกกันได้เลย เลิกเป็นเลิก... พิสูจน์ใจกัน....ช่างเป็นช่วงที่ดีจริงๆ กับการพิสูจน์ความรัก... เมื่อยามไกลบ้าน...สิ่งเดียวที่จะทำได้คือ อธิษฐานถึง... ร้องไห้บ้างเมื่อมันอยากจะร้อง...ทำได้แค่...ปลอบใจตัวเอง...
ตะวันออกกลาง เป็นอะไรที่เราไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนว่าจะได้มาอยู่อาศัย มันเป็นโลกที่สามที่เราไม่เคยนึกถึง...อิสลาม อาจคุ้นเคยบ้างตอนอยู่ไทย แต่ มุสลิมที่นี่ มันช่างแตกต่างกับที่ไทยราวฟ้ากับดิน กฏข้อห้ามมากมาย วัฒนธรรมที่ต่างกัน ภาษาที่พูด อาหารที่กิน... ทุกอย่างล้วนทำให้เราเครียด กดดัน ได้หมด... ...ไม่มีใครให้พึ่งพิง...ไม่มีใครช่วยเหลือ...ไม่มีใครให้โทรหาตลอดเวลา... ปลั๊กไฟช๊อต หัวปลั๊กเสีย ถ้าอยู่ไทย ก็แค่เรียกพ่อ หรือลุงข้างบ้าน อยู่ที่นี่ จะเรียกใครดีล่ะ... ไฟดับ อย่างมากก็เดินไปซื้อเทียนหน้าปากซอย... ไฟดับ อยู่ที่นี่ นอนห่มผ้า คิดถึงบ้าน... (ออกไปได้ไง มืดๆอย่างนี้ ร้านก็อยู่ไกล เดี๋ยวได้ผัวแขกกันพอดี)
วันนี้ เราสามารถกลับบ้านได้หลายครั้งแล้ว... แต่ยังอดที่จะ"คิดถึงบ้าน" อีกไม่ได้... ทุกครั้งเวลาไปเมืองไทย แล้วจะกลับมาบาห์เรน มันต้องมีอารมณ์ไม่อยากกลับ อยากอยู่เมืองไทย ไม่อยากกลับเลย....
แต่ความรับผิดชอบต่องาน ต้องมาก่อน... ได้แต่คิดว่า เราทำความฝันของเราจบเมื่อไหร่ เราจะกลับบ้าน...
เพราะมีคนที่เรารัก...อยู่ที่บ้าน.....
Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2550 |
|
4 comments |
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2550 9:11:17 น. |
Counter : 1076 Pageviews. |
|
|
|
Good luck and Take care!