The Wedding: เมื่อเขามาขอ (โอ๊ย รอมานานแล้ว)
สมัยตอนวัยรุ่น มักจะชอบแซวกันในหมู่เพื่อนฝูง หรือถูกผู้ใหญ่แซวว่า ทะโมนแบบนี้ใครเอาจะเอา หรือใครมาขอจะยกข้าวสารให้ 20 กระสอบแถมเป็นรางวัล
ชีวิตวัยละอ่อนอย่างเราก็เลยผ่านมาเสียหลายเหมันต์ จนแล้วจนรอดก็ผ่านเลยไปอย่างน่าเสียดายวัยสาว จนจะย่างเข้าสู่วัยทอง มิช้ามินานก็มีคนผ่านมา แต่ไม่เคยผ่านเลยไป ยังคงหยุดอยู่ตรงนี้ ไม่ยอมเดินไปไหน หรือหลุมที่เราขุดไว้นั้นจะลึกจนเกินกว่าระดับความยาวของขามาตรฐานจะก้าวข้ามไปได้
กับเวลาที่ยาวนานนั้นไม่ได้ทำให้เราเบื่อ หรือรู้สึกถึงภาระซึ่งกันและกัน แต่กลับทำให้รู้ว่าอายุที่มากขึ้น ความมั่นคงในจิตใจก็มากขึ้นตามไปด้วย
ฉันน่าจะโชคดีกว่าหลายๆ คนที่มีประสบการณ์และได้เรียนรู้คำว่า "รัก" มาไม่มาก อาจจะน้อยเกินไปสำหรับบางคนที่เจนโลกและบอกว่า "อ่อน" แต่ฉันกลับภาคภูมิใจในทุกๆ หลืบ ทุกๆ ซอก และทุกๆ แง่ของความรัก ที่ฉันประสบมา เพราะสิ่งเหล่านั้นกลับทำให้ฉันเข้าใจใน "รัก" มากขึ้น มองย้อนกลับไป ฉันรู้สึกโชคดีกับความโชคร้าย ความไม่สมหวัง หรือการตัดสินใจของตัวเองที่อาจไม่แน่ใจในเวลานั้น เพราะมันส่งผลให้ทุกๆ สิ่งกลายมาเป็นวันนี้ได้
เพราะความอดทนและความยึดมั่นในสัญญาทำให้เรามีวันนี้ วันที่เราดำเนินการเตรียมงานแต่งงานทั้ง 4 วันตามครรลองของประเพณี วันที่เขาส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอตามคำขอของเรา ถึงแม้ว่าเราจะเตรียมงานไปมากแล้ว และทำบ้านไปจนเกือบครบ แต่ก็ยังคงมีพิธีสู่ขอ ที่ฉันขอเรียกว่าเป็นพิธีอย่างไม่เป็นทางการนัก
วันที่ 2 กันยายน 2549 ดูตามปฏิทินจีนแล้ววันนี้เป็นวันดี ผู้ใหญ่ฝ่ายเขาคือคุณน้า ซึ่งปัจจุบันคลุกคลีกับคนจีน ท่านจึงให้เกียรติบ้านของฉันโดยขอความรู้จากเพื่อนที่อยูถิ่นเยาวราช ท่านจึงมาพร้อมกันเป็นเลขคู่ แต่งกายด้วยสีมงคล พร้อมขนมแบบขันหมากคนจีน 2 ห่อ ห่อละ 10 ชั่ง และส้มติดอักษรซังฮี่ 48 ลูก นับว่าท่านพยายามทำให้เราทั้งสองอย่างมากทีเดียว
ประเพณีนี้นั้นทางฝ่ายครอบครัวของเราเองก็ไม่ทราบว่ามีหรือไม่ เพราะคราวที่ไปสู่ขอพี่สะใภ้ก็ไม่ได้ทำ แต่คุณน้าโจ๋บอกว่าเพื่อนที่เยาวราชแนะนำและจัดหาของให้เรียบร้อย จึงอยากทำให้ถูกต้องตามประเพณี ตามประเพณีนี้นั้นเราต้องเก็บไว้ครึ่งหนึ่งเพื่อนำไปไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ


ฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงประเภท "เปลือง" ผู้ชาย ในชีวิตไม่ได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาแบบที่จะเรียกว่า "แฟน" ได้อย่างเต็มปากสักครั้ง ฉันดีใจที่เขาตัดสินใจรอ รอมากว่า 3 ปีเพื่อพิสูจน์ความจริงใจ ผู้ชายบางคนอาจเรียกว่า "โง่" แต่ฉันมองว่า มันคือ "ความอดทน" "ความจริงใจ" และ "ความซื่อสัตย์" ในคำมั่นสัญญา
ฉันคงต้องสำนึกอยู่เสมอว่า เพราะ 3 "ความ" นี้ จึงทำให้วันนี้มีคำว่า "เรา" และ "ฉันขายออก" แบบไม่ต้องแถมข้าวสารไปสักกระสอบเดียว
ขอปิดท้ายด้วยความพยายามอีกครั้งของเขาสำหรับงานดีไซด์การ์ดงานหมั้นสวยๆ มาประเคนให้ตามความดื้อรั้นของฉัน จนเกือบมีงอนกันตามประสาคนหาเรื่อง ขอไม่บอกว่าเลือกแบบไหน แต่อยากเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก


Create Date : 06 กันยายน 2549 |
|
11 comments |
Last Update : 3 มกราคม 2550 1:03:45 น. |
Counter : 1006 Pageviews. |
|
 |
|