The Wedding: ไปถือศีล
ฉันบรรจุกิจ "ถือศีล" อยู่ในแผนงานแต่งงานของตัวเองไว้ด้วย หลายคนอาจคิดว่าแปลก แต่เป็นเพราะเมื่อสมัยรุ่นๆ นั้นฉันเคยคิดอยากจะไปบวชชีพราหมณ์สักครั้งหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ไปสักที เพราะมัวแต่เกี่ยงงอนเรื่องสถานที่ ความสะอาด และข้ออ้างอีกร้อยแปดพันเก้า จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้แล้ว หากไม่ไปก็ไม่รู้ว่า "โอกาส" จะมีอีกหรือเปล่า เพราะ "ภาระ" ในชีวิตสมรสคงไม่อำนวยให้มี "โอกาส" มากนัก
กระนั้นก็ยังประวิงเวลาจนกระทั่งมีผู้มาทักเกี่ยวกับเรื่องนี้เข้า ทำให้ฉันตัดสินใจเลือกที่จะไปสถานธรรมแห่งหนึ่งเรียกว่า "แดนมหามงคล" ที่เลือกที่นี่เพราะสถานธรรมแห่งนี้มีแต่ผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ และผู้ที่เคยไปมาแล้วบอกว่าเงียบ สงบ และ "สะอาด" ดีเยี่ยม ที่ต้องเน้นว่า "สะอาด" เพราะลึกๆ ที่ไม่ "กล้า" ไปถือศีลที่วัด เพราะกลัวความสกปรก อีกข้อหนึ่งคือไม่ค่อยสะดวกใจในการไปถือศีลในวัดที่มีพระสงฆ์
"แดนมหามงคล" ตั้งอยู่บนพื้นที่ติดริมแม่น้ำแคว หากดูจากมุมสูงพื้นที่เกือบทั้งหมดจะเป็นรูปตัวยู การเดินทางเข้าไปนั้นต้องข้ามสะพาน และทุกคนต้องแต่งกายในชุดสีขาวเท่านั้นจึงจะอนุญาตให้ข้ามไปได้ ปัจจุบันมีกรณีพิพาทเรื่องสถานธรรมแห่งนี้มีการก่อสร้างมหาวิหารหินอ่อนบนเขาซึ่งเป็นเขตป่าสงวน
สะพานข้ามไปดินแดนมหามงคล


ฉันเองแทบไม่รู้จักสถานธรรมแห่งนี้เลย รู้จักก็แต่คำบอกเล่าจากผู้ที่เคยมาเยี่ยมชม ซึ่งล้วนแล้วแต่ชื่นชมในความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสะอาด และความประพฤติปฏิบัติของผู้ถือศีล และผู้ทรงศีล กรณีพิพาทนั้นสะดุดใจฉันอยู่บ้าง แต่ด้วยความที่ฉันถือเอาแก่นของพระพุทธศาสนาเป็นที่ตั้ง และฉันเป็นประเภทถูกล้างสมองยากอยู่สักหน่อย บวกกับความตั้งใจมาถือศีล จึงไม่ขอถือเรื่องนี้เป็นอคติในตอนที่ตัดสินใจไป
ที่นี่มีชุด "ฟอร์ม" ของผู้ถือศีล คือนอกจากเสื้อแขนยาวและผ้านุ่งสีขาวที่เราๆ เคยเห็นอยู่ทั่วไป และทุกคนสามารถไปซื้อหามาเอง หรือจะซื้อที่นี่ก็ได้แล้ว ยังต้องมีผ้าสีขาวคล้ายจีวรสำเร็จรูปคลุมไว้ด้วยซึ่งต้องซื้อที่นี่ การใส่จีวรดังกล่าวทำให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย และดูน่าเกรงขาม การที่ฉันได้สวมชุดเต็มยศแบบนั้นทำให้ได้เตือนถึงสถานะตัวเอง และเป็นการเตือนสติตัวเองให้ "รู้" ถึง "ศีล" อยู่โดยตลอด
ข้อดีของจีวรขาวคือ ชุดขาวนั้นค่อนข้างสว่างทำให้มองเห็นชั้นใน การใส่ชุดคลุมไว้ทำให้ดูสุภาพ ปกปิดร่องรอยชั้นในมิดชิด อีกข้อหนึ่งถือเป็นข้อปฏิบัติของแดนมหามงคลคือทุกครั้งที่นั่งกับพื้นต้องใช้ผ้าจีวรคลุมเท้าให้มิดชิด
ชุด "ฟอร์ม": ภาพนี้เป็นวันแรกแอบถ่ายยังไม่ "สำรวม"
ฉัน อาม้า และเพื่อน พร้อมผู้มาถือศีลใหม่อีก 2 คนสวดอาราธนาศีล 8 ในวันแรกที่มาถึง
ศาลาบวชใจ ที่ฉันมักฟังเพี้ยนเป็นศาลา "ปวดใจ" สถานที่สำหรับทำวัตรเช้า และวัตรเย็น 
กิจที่ผู้ถือศีลต้องทำภายในหนึ่งวันคือตื่นแต่ 3:30 น. ทำวัตรเช้า จนถึงเวลาราว 5:00 น. ทำสมาธิ เสร็จเวลา 6:30 น. ดื่มน้ำปานะ แล้วให้ไปทำศาสนกิจเช่นล้างห้องน้ำ ถูเรือนนอน กวาดใบไม้ ฯลฯ เสร็จแล้วจึงเป็นเวลาทำกิจส่วนตัวคืออาบน้ำ รับประทานอาหาร นอน ทำสมาธิ เดินจงกรม เดินขึ้นเขา ฯลฯ พอถึงเวลา 13:30 น. มารวมกันอีกครั้งเพื่อฟังเทศน์ฟังธรรมจากเทปของคุณแม่ในแดนธรรม ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งแดนธรรมแห่งนี้ หรือในบางครั้งผู้นำอาจนำไปนอกสถานที่เพื่อร่วมทำกิจกรรมต่างๆ จนกระทั่ง 17:30 น. ให้อาบน้ำเตรียมทำวัตรเย็นตอน 19:30 น. จนถึงเวลา 21:30 น. จากนั้นแยกย้ายกันไปนอน
หอนอนซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 3 หอรองรับผู้มาถือศีล และผู้มาขอพำนักชั่วคราว
การนอนคือ การนอนบนเสื่อในชุดเสื้อสีขาวแขนยาว และผ้านุ่งสีขาวเหมือนชุดที่ใส่ในเวลาปกติ ห้ามเปลี่ยนเป็นชุดกางเกง หรือชุดลำลองอื่นๆ การกินคือ การกินอาหารมังสวิรัติเพียงมื้อเดียวก่อนเวลา 11:30 น. โดยตักอาหารบนถาดหลุม หรือภาชนะที่เตรียมไว้ ให้ตักอาหารทั้งคาว หวาน และน้ำดื่มให้เรียบร้อย จึงนั่งลงบนเสื่อหันหน้าไปทางกำแพง กินอย่างช้าๆ ไม่คุยกัน เพื่อพิจารณาอาหารว่า เรากินเพื่อประทังชีวิต มิใช่กินเพื่อติดในความอร่อย อุบาสก และอุบาสิกานั่งแยกกัน ต่างกันต่างกินจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงนำไปล้าง และลวกเก็บให้เรียบร้อย ต่างคนต่างล้างภาชนะของตัวเอง
ศาสนประโยชน์ที่ฉันได้ทำขณะที่อยู่ที่นี้นั้นเรียกว่าทำงานอย่างเต็มที ล้างห้องน้ำ ขนดินทำกั้นน้ำ และกวาดเศษหญ้า อาจจะเหนื่อยแรงบ้าง แต่สุขใจอย่างบอกไม่ถูก การที่ฉันอยู่ในศีลทำให้ฉันไม่ห่วง "สวย" เหมือนตอนที่อยู่ในโลกปกติของตัวเอง ไม่มีกระจกให้ส่อง ไม่มีนาฬิกาให้ดู ชีวิตดำเนินไปได้อย่างไม่ต้องรีบร้อนเหมือนอย่าง "เคย"
ห้องน้ำกลางตึกนอนที่ช่วยกันล้าง ขัด ถู
ลานสนามหญ้าที่ช่วยกันกวาดที่ "เกาะพระจันทร์"
นั่งสมาธิหลังเสร็จการกวาดสนามหญ้า
"เกาะพระจันทร์" ที่ไม่ใช่เกาะจริงๆ แต่เป็นเรือนไม้สักที่พำนักของพระสงฆ์และอุบาสกที่มาถือศีล อุบาสิกาจะเข้าไปได้เมื่อได้รับอนุญาตเท่านั้น
เวลาอื่นๆ ที่ระบุว่าเป็นเวลาทำกิจส่วนตัวนั้น ฉันได้เดินจงกรมเท้าเปล่าบนลานดินผสมกรวด 9 รอบใหญ่ๆ และที่รู้สึกภูมิใจที่สุดคือการเดินขึ้นเขาเท้าเปล่าไปที่มหาวิหารบนภูเขา นับว่าต้องเดินขึ้นเขาถึง 2 ลูกด้วยกัน ทางปกตินั้นเป็นบันไดหินก็จริงอยู่ แต่มีหลายจุดที่เป็นดินกรวด และเป็นบันไดขอนไม้ เราขึ้นเขากันตั้งแต่เช้าจึงได้เห็นหมอกลงหนาจัด และได้เห็น "อาณาจักร" แดนธรรมมหามงคลเกือบทั้งหมดเลย
หมอกหนายามเช้าตรู่
"อาณาจักร" รูปตัวยู ในภาพถ่ายมาครึ่งเดียว
มหาวิหารหินอ่อน

การเป็นผู้ถือศีล หรือเป็นผู้ทรงศีลในสายตาของผู้มาพำนักที่สถานธรรมแห่งนี้ชั่วคราว ทำให้ผู้มาถือศีลจะได้รับความเกรงใจ และให้เกียรติจากกลุ่มคนเหล่านั้น คำพูดคำจาอ่อนน้อมถ่อมตน ลงท้ายด้วยคำว่า "เจ้าค่ะ" และ "ขอขมาเจ้าค่ะ" ยามต้องขอโทษ เมื่อพบปะกันก็จะยกมือไหว้ ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้ใดก็ตาม ถึงจะยังไม่ได้โกนหัวเป็นแม่ชีแท้ๆ แต่ฉันก็มักจะถูกเรียกว่า "ท่าน" "แม่เจ้าค่ะ" และ "แม่ชี" อยู่บ่อยๆ เดาว่าคงมาจากชุด "ฟอร์ม"
การมาถือศีลเพียงแค่ 3 วันนั้นอาจจะเป็นระยะเวลาที่สั้นเกินกว่าที่จะทำให้ฉันเข้าใจในรสของพระธรรมในเบื้องลึกได้ แต่ฉันก็ดีใจที่ได้เริ่มต้น และได้ทำตามความตั้งใจของตัวเองสำเร็จแล้ว
ในวันข้างหน้าโน่นไม่รู้ว่าชีวิตคู่จะเป็นอย่างไร การที่ได้ไปถือศีลอาจทำให้ฉันเข้าใจชีวิตได้ดีขึ้น คู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกันนั้น อาจจะแคล้วคลาดกันด้วยเหตุผลใดๆ ในวันข้างหน้า หนทางต่อไปนั้นจะเป็นอย่างไร "สติ" และ "ศีล" คงทำให้เราได้อยู่ด้วยกันจนตลอดรอดฝั่งด้วยความรัก และความเข้าใจ "ชีวิต"
Create Date : 04 กรกฎาคม 2549 |
Last Update : 3 มกราคม 2550 0:59:44 น. |
|
21 comments
|
Counter : 2312 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: jengly วันที่: 5 กรกฎาคม 2549 เวลา:0:37:34 น. |
|
|
|
โดย: แร้ไฟ วันที่: 5 กรกฎาคม 2549 เวลา:4:38:47 น. |
|
|
|
โดย: รักนะจุ๊บๆ (สะลึมสะลือ ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2549 เวลา:8:28:06 น. |
|
|
|
โดย: numainew วันที่: 5 กรกฎาคม 2549 เวลา:13:35:21 น. |
|
|
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 5 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:56:01 น. |
|
|
|
โดย: jenny (สาวอิตาลี ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:37:05 น. |
|
|
|
โดย: วี วันที่: 6 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:34:47 น. |
|
|
|
โดย: nuyo (CooKiiE ) วันที่: 8 กรกฎาคม 2549 เวลา:0:54:28 น. |
|
|
|
โดย: paper wing วันที่: 8 กรกฎาคม 2549 เวลา:1:38:42 น. |
|
|
|
โดย: ทราย IP: 203.118.74.85 วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:20:50:38 น. |
|
|
|
โดย: ลูกปลาดุก IP: 58.8.169.195 วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:8:10:51 น. |
|
|
|
โดย: MalangD IP: 202.91.19.206 วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:22:04:18 น. |
|
|
|
โดย: น้องน๊อคคับ IP: 117.47.112.250 วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:0:18:42 น. |
|
|
|
โดย: ปอนด์ IP: 61.90.95.207 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:17:21:16 น. |
|
|
|
โดย: vini IP: 202.149.25.235 วันที่: 10 กันยายน 2552 เวลา:20:02:14 น. |
|
|
|
โดย: หมูอ้วน IP: 125.24.183.205 วันที่: 10 ตุลาคม 2553 เวลา:14:19:45 น. |
|
|
|
โดย: MOTOAKANOE วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:21:48:45 น. |
|
|
|
โดย: อีฟ IP: 223.206.103.229 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:15:26:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]

|
"ห้ามนำภาพ เนื้อหา ข้อความ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของภาพในเว็บไซต์นี้ไปใช้ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร หากละเมิดจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
ห้ามผู้ใดละเมิด ด้วยการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog นี้ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของ Blog
********************* ช่องทางติดต่อ Email : WeddingByMoonieLin@gmail.com Skype : nu_yo@hotmail.com Facebook: WeddingbyMoonieLin Pinterest: Weddingbymoonie
*********************
|
|
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
สาธุ
อยากทำได้มั่งจังค่ะ