The Wedding: เข้าเฝ้า (30 ตุลาคม 2549)
ในบรรดาพิธีแต่งงานที่ผ่านมาทั้งหมด ฉันยอมรับว่าวันนี้เป็นวันที่ฉันรอคอยอย่างใจจดใจจ่อมากกว่าวันอื่นๆ ด้วยว่าเราได้รับพระราชทานวโรกาสให้เข้าเฝ้า และรับพระราชทานน้ำสังข์ข้างที่จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นนำมาซึ่งเกียรติแด่วงศ์ตระกูลของเราทั้งสอง
ก่อนวันรับพระราชทานน้ำสังข์ฯ ภายใน 1 สัปดาห์ คู่สมรสต้องไปฝึกซ้อมพิธีการที่วังสวนจิตรลดาตามที่ได้นัดหมายไว้ ซึ่งโดยมากแล้วมักจะตรงกับวันสุดสัปดาห์ กำหนดการสำหรับคู่สมรสทุกคู่ที่ได้รับพระราชทานฯ ในวันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2549 ต้องมาซ้อมพิธีการในวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม ทุกคู่มาพร้อมเพรียงกันที่ศาลาดุสิตาลัยในเวลา 9:00 น. มีด้วยกันทั้งหมด 8 คู่ คู่ของเราเป็นลำดับเข้าเฝ้าลำดับที่ 3 วันนี้มีว่าที่เจ้าสาวคนหนึ่งใส่ชุดไทย แต่ไม่ใช่ชุดไทยบรมพิมานที่จะต้องสวมใส่กันในวันจริง นัยว่าเพื่อการทำให้ "เคยคุ้น" ฉันเองนั้นทำเพียงแค่สวมรองเท้าที่ต้องใส่ในวันนั้นเท่านั้น เนื่องจากไม่คุ้นเคยกับรองเท้าที่เพิ่งสั่งตัดมาหมาดๆ เพื่อให้เข้ากับสีชุดที่สวมใส่ และลดความทรมานกับ "ความใหม่" ของรองเท้าแบบรัดส้น
ผู้ที่เป็นข้าราชการทหารและตำรวจจะมาพร้อมกระบี่ ในวาระนี้มีด้วยกัน 3 คู่ เป็นข้าราชการทหาร 2 นายและข้าราชการทหารเรือ 1 นายซึ่งมีอาวุโสมากกว่าเพราะสังเกตจากยศที่ติดบนไหล่ อีกทั้งยังได้รับการแสดงความเคารพจากผู้น้องตามประเพณีอันดีงามแบบ Seniority เวลาที่ท่านทั้ง 3 ยืนพร้อมกระบี่คู่กายนั้นดูสง่างามเป็นยิ่งนัก แต่พอถึงเวลาฝึกซ้อมพิธีการช่วงนั่ง คลาน หมอบ ออกจะทุลักทุเลพอสมควร เพราะต้องระวังมิให้กระบี่ไปโดนพระบาท
เจ้าหน้าที่ทุกท่านในวันนั้นมีอยู่ราว 5 - 6 ท่าน ทุกท่านให้ความกรุณาแก่คู่สมรสเป็นอย่างดี บางคู่ทำไม่ได้ก็ไม่แสดงสีหน้าเหนื่อยหน่าย อีกทั้งยังจัดเตรียมน้ำดื่ม และน้ำผลไม้ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของวังสวนจิตรลดาให้ทุกคน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทราบถึงการแต่งกายของคู่สมรส และสักขีพยาน ตั้งแต่ทรงผม เสื้อผ้า และรองเท้า จำได้ว่าข้าราชการชายทั้งคู่สมรสและสักขีพยานให้ใส่ชุดข้าราชการสีขาว พร้อมกระบี่ ข้าราชการพลเรือนคู่สมรสชายให้ใส่ชุดขาวพร้อมแถบขอเฝ้า (หาซื้อได้ตามร้านที่ขายชุดเครื่องแบบ) สักขีพยานชายให้ใส่สูทสากล สีใดๆ ก็ได้ยกเว้นสีดำ คู่สมรสหญิงใส่ชุดไทยแบบใดแบบหนึ่งไม่ระบุสี ยกเว้นสีดำ สักขีพยานหญิงให้ใส่ชุดสุภาพ ทรงผมของคู่สมรสทั้งคู่ต้องเปิดหน้าและหน้าผาก รองเท้าต้องเป็นรองเท้าหุ้มส้น นำดอกไม้ ธูปเทียน พร้อมพานรองมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้เน้นย้ำว่าหากให้ทางสำนักพระราชวังจัดเตรียมให้ไม่มีปัญหา แต่หากท่านใดไปหาซื้อมาเองให้สังเกตว่าต้องเป็นธูปแล้วตามด้วยเทียน ไม่ใช่เทียนแล้วตามด้วยธูปเพราะอันนี้ใช้สำหรับพิธีตรงข้ามกับพิธีอันเป็นมงคล เป็นอันว่ารู้กันเองในใจว่าใช้สำหรับงานศพนั้นเอง ฉันเองนึกสงสัยอยู่ในใจว่าหากท่านใดที่ไม่ทราบรายละเอียดการแต่งงานต่างๆ มาก่อนเลยและเพิ่งจะมาทราบในวันนี้จะทำอย่างไรกันละเนี่ย แต่สุดท้ายฉันก็พบว่ามีบางคนยังไม่พร้อมเหมือนกัน ต้องวิ่งไปหาซื้อของหลังการซ้อมเสร็จสิ้น เพราะมีเพื่อนคู่สมรสท่านหนึ่งมาถามฉันว่าซื้อรองเท้าที่ไหน ด้วยว่าเป็นรองเท้าสั่งตัด ฉันจึงได้แต่แนะนำชื่อร้านซึ่งเธออาจหาขนาด และแบบสำเร็จรูปที่ทางร้านมีวางจำหน่ายได้ตามห้างสรรพสินค้า และที่ร้านสำนักงานใหญ่ได้บ้าง ส่วนฉันเองนั้นก็ยังต้องโทรกลับไปเช็คกับทางบ้านว่าได้เตรียมเสื้อผ้า รองเท้าแบบใด ตรงตามข้อกำหนดหรือไม่
การได้มาฝึกซ้อมพิธีการต่างๆ ในวันนี้ทำให้ฉันได้รู้จัก ส้ม ข้าราชการครูที่โรงเรียนจิตรลดา กับสามีชาวเอเซียอเมริกัน Rod ด้วยว่า Rod ไม่เข้าใจภาษาไทย อีกทั้งเวลาฝึกซ้อมฝ่ายชายต้องยืนข้างเดียวกันฝั่งหนึ่ง ฝ่ายหญิงยืนอีกฝั่งหนึ่งหันหน้าตรงข้ามกัน แต่ละคนก็ดูเป็นกังวลกับขั้นตอนต่างๆ จนลืม เพื่อน ส้มฝากฝัง Rod ไว้กับเพื่อนคู่สมรสชายคนหนึ่ง แต่เขาก็ออกตัวว่ามีปัญหาเรื่องภาษาอังกฤษว่าไม่คล่องเท่าใดนัก นนท์ซึ่งยืนอยู่อีกด้านหนึ่งจึงอาสามาช่วยกันอธิบาย ทำให้คู่ของเรามีโอกาสได้ฝึกซ้อมพร้อมๆ กันหลังจากที่ผ่านการซ้อมแบบคู่ต่อคู่ต่อหน้าเจ้าหน้าที่และคู่สมรสคู่อื่น 2 ครั้ง ทำให้เราดูจะสนิทสนนกันจึงแม้ว่าจะรู้จักกันนับเป็นชั่วโมงก็ตามที ความรู้สึกสนิทสนมทำให้ส้มและ Rod พร้อมด้วยครอบครัวของ Rod มางานฉลองสมรสพระราชทานของเราตามคำเชิญในวันรับพระราชทานน้ำสังข์ เสียดายนักที่ฉันไปงานของพวกเขาไม่ได้เพราะว่าติดประเพณีจีนที่ว่าคู่แต่งงานหมาดๆ ห้ามออกงานใดๆ ทั้งสิ้นเป็นเวลา 3 เดือน แต่ยังโชคดีที่นนท์นั้นเป็นคนไทยไม่ได้ถือสาอะไรกับประเพณีนี้ จึงเป็นตัวแทนไปงานของส้มและ Rod ในวันรุ่งขึ้นถัดจากวันฉลองสมรสฯ ของเรา
ฉันยอมรับว่าประหม่ามากเสียจนจำอะไรไม่ค่อยได้ ผิดกับนนท์ที่จำขั้นตอนได้อย่างแม่นยำ จนฉันเองเกิดความละอายใจที่เกิดเมืองไทย โตเมืองไทยแท้ๆ น่าจะคุ้นกับพิธีการที่เห็นกันตามทีวีบ้าง ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตื่นเต้นหรืออะไรกัน เราฝึกซ้อมจนมั่นใจแล้ว ราวๆ เที่ยงจึงลาเจ้าหน้าที่ และส้มกับสามีกลับ
วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2549 เช้าวันนี้ฉันตื่นขึ้นมารอช่างแต่งหน้าและช่างทำผมคู่ชีพที่วันนี้จะได้พบหน้ากันอีกเป็นครั้งที่ 3 เราทั้งหมดเกือบ 13 คนเดินทางไปถึงวังสวนจิตรลดาราวเที่ยงตามนัดหมาย เจ้าหน้าที่ให้นำรถไปจอดไว้ที่ตึกหนึ่งสำหรับประกอบพิธี ในห้องนี้มีโต๊ะพร้อมเก้าอี้ตั้งไว้อยู่หลายชุด ห้องเป็นห้องสีครีมขนาดใหญ่ กลางห้องมีฉากยาวสีงาช้างกั้นไม่ให้เห็นส่วนเข้าเฝ้าด้านใน ซึ่งจะเป็นที่ประทับเมื่อสมเด็จพระเทพรัตนฯ เสด็จมาถึง รอบๆ ห้องมีรูปของสมเด็จพระเทพรัตน์ฯ ในอิริยาบถต่างๆ
เจ้าหน้าที่ให้แต่ละครอบครัวนั่งตามหมายเลขลำดับเข้าเฝ้า วันนี้จึงมีเจ้าบ่าวเจ้าสาวถึง 8 คู่ ใครที่บอกว่าวันแต่งงานจะเป็นวันที่เจ้าสาวสวยที่สุดนั้น ประโยคนี้ไม่จริงสำหรับสถานการณ์นี้ เจ้าบ่าวทั้ง 8 คนอยู่ในชุดสีขาว ส่วนเจ้าสาวทั้ง 7 คนก็อยู่ในชุดไทยบรมพิมานสีครีมหรือสีงาช้างตามความนิยมที่เรามักเคยเห็นกันบ่อยๆ ส่วนเจ้าสาวอีกคนหนึ่งนั้นคือฉันเองที่อยู่ในชุดไทยบรมพิมานสี ต่าง คือสีชมพูกลีบบัว ตอนที่เข้ามานั้นมีสักขีพยานของครอบครัวอื่นๆ มองฉันด้วยความแปลกใจ และ ส้ม ก็เดินมาคุยกับฉันว่าไม่นึกว่าไม่จำเป็นต้องใส่สีครีม หรืองาช้าง ไม่เช่นนั้นส้มก็อยากตัดสีนี้เหมือนกัน เพราะเป็นสีโปรด ฉันเองเคยเจอปัญหาเรื่องสีของชุดมาแล้ว จากที่เคยเล่าในตอนเก่าๆ กว่าจะอธิบายความเข้าใจผิดของช่างเสื้อ และคนรอบข้างก็เล่นเอาเหนื่อย เพราะเดินทางกลับไปกลับมาอยู่หลายครั้ง
ครอบครัวอื่นนั้นจะมากันเพียงแค่ 10 คน คือบ่าวสาว 2 คน และสักขีพยานฝ่ายละ 4 คน แต่โต๊ะของเรานั้นนับว่ามีสมาชิกมากกว่าโต๊ะอื่นๆ ด้วยเราตั้งใจว่าจะไปถ่ายรูปกันหลังจากเสร็จสิ้นพิธี ตามกำหนดการเข้าเฝ้าคู่แรกจะเริ่มเวลา 16:00 น. ที่เจ้าหน้าที่เรียกให้มาถึงเร็วกว่าปกติเพราะต้องการฝึกซ้อมคู่บ่าวสาวพร้อมสักขีพยานอีกสักรอบสองรอบ หลังเสร็จสิ้นการซักซ้อมทุกคู่แล้ว ยังเหลือเวลาอยู่อีกราว 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จัดวางของว่างซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนฯ ได้ประทานเลี้ยงไว้ที่มุมหนึ่ง จึงว่าจะเตรียมรองท้องอะไรมาก่อนแล้ว แต่น้ำชา กาแฟ ขนมที่ท่านประทานมาก็ทำให้ฉันซึ่งควรจะกินน้อยๆ เพื่อให้เสื้อผ้ารัดคับติ้วมากไปกว่านี้อีก เพลินสวาปามไปมากพอควร
เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่จากอำเภอมานั่งรอจดทะเบียนสมรสให้สำหรับคู่สมรสที่ต้องการจดทะเบียนสมรส ถึงตอนนี้ทุกคนเข้าห้องน้ำจัดผมแต่งหน้าอีกรอบ เมื่อคู่ที่สองเดินเข้าไปส่วนของพื้นที่หลังฉากยาว ก็ถึงตาของเราไปเข้าแถวยืนรอ ฉันแอบมองตรงช่องพับของฉากเห็นท่านทรงชุดสีน้ำเงินม่วง รู้สึกประหม่า แอบกระซิบบอกนนท์ว่าตื่นเต้นมาก
และแล้วนาทีที่เฝ้ารอก็มาถึง ฉันจำได้ว่าเห็นท่านทอดพระเนตรเอกสารอะไรอยู่ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินเข้ามาในห้องพร้อมแย้มพระสรวลให้กับนนท์และคุณแม่ พร้อมรับสั่งว่า อ้าว เรียนจบแล้วเหรอ และ คุณหญิงไม่ต้องยืน (คุณแม่สามีนั่งเก้าอี้อยู่ในแถว เนื่องจากขาไม่ค่อยดีนัก) ฉันเองได้แต่ยิ้ม ยิ้ม และยิ้ม ยิ้มจนเกือบลืมบทจนต้องเหลือบมองดูนนท์อยู่บ่อยๆ เมื่อท่านพระราชทานใบมะตูมให้ ลองนึกถึงเพลงพุ่มพวง เสียบหล่นๆ ตั้ง 5 6 ที เราทั้งคู่จำไม่ได้จริงๆ ว่าท่านรับสั่งอวยพรอะไร จำได้แต่ประโยคขึ้นต้นเพียงว่า ขอให้คู่สมรสทั้งสองมีความ........ เจริญรุ่งเรือง..... เท่านั้น เพราะฉันเองมัวแต่จ้องมองรองพระบาท
ลำดับพิธีการ (ภาพถ่ายได้รับพระราชทานมาภายหลัง)












ฉันพยายามซึมซับสัมผัสเล็กๆ เย็นๆ ท่านทรงเจิมแป้ง 3 จุดตรงหน้าผากของฉัน เมื่อถ่ายรูปเสร็จแล้วท่านได้รับสั่งเรื่องท่านหญิงมารศรีที่ท่านเพิ่งเสด็จไปเยี่ยมมา เสร็จแล้วจึงรับสั่งถามว่า นนท์ทำงานอะไรอยู่ และเจ้าสาวละทำงานอะไรอยู่เหรอ ฉันมัวแต่แหงนมองพระพักตร์ของท่านจนเกือบลืมคำพูดใดๆ ทั้งหมด เมื่อเสร็จแล้วท่านก็เสด็จฯ ออกไปหลังฉากอีกฉากหนึ่ง
พวกเราทั้งหมดจึงเดินกลับออกมาเพื่อให้คู่สมรสคู่ต่อไปเดินแถวเข้าไปแทน เราออกจากวังสวนจิตรลดาราว 17:30 น. และแวะถ่ายรูปกันที่วัดเบญจมบพิตร เวลานั้นยังมีนักท่องเที่ยวอยู่ มีหลายคนแอบถ่ายรูป บ้างก็มาขอถ่ายรูป ซึ่งแน่นอนพวกเราย่อมยินดีเป็นอย่างยิ่ง กว่าจะเสร็จก็ปาไปเกือบ 18:30 น.

 
 
 
 
 
 
 
  พวกเราจบการฉลองเล็กๆ วันนี้ที่ร้านอาหารจีนแห่งหนึ่ง ความสุขยังคงอยู่ ฉันไม่อยากจะล้างหน้า หรือเปลี่ยนเครื่องแต่งกายใดๆ ออกทั้งสิ้น ความรู้สึกยังคงอบอวลอยู่จนไม่อยากผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ไปเลย
ฉันย้ำกับตัวเองเสมอว่าช่างเป็นโชค เป็นวาสนาของฉัน ในชาตินี้ฉันคงไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิดเช่นนี้อีกแล้ว ใครหนอที่บอกว่าปีนี้ดวงฉันจะไม่ดี ฉันก็ไม่สน ต่อให้ฉันต้องโชคร้ายยิ่งไปกว่านี้ แต่หากได้เข้าเฝ้าเพียงเสี้ยวนาที ฉันก็ยอมแลก
Create Date : 02 มกราคม 2550 |
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2550 0:23:51 น. |
|
39 comments
|
Counter : 11968 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Tink IP: 125.25.202.62 วันที่: 3 มกราคม 2550 เวลา:0:58:52 น. |
|
|
|
โดย: numainew วันที่: 3 มกราคม 2550 เวลา:14:36:43 น. |
|
|
|
โดย: เสียงซึง วันที่: 4 มกราคม 2550 เวลา:9:15:03 น. |
|
|
|
โดย: กุมภีน วันที่: 4 มกราคม 2550 เวลา:11:21:28 น. |
|
|
|
โดย: jengly วันที่: 5 มกราคม 2550 เวลา:0:55:57 น. |
|
|
|
โดย: แมคกี้ IP: 124.120.132.158 วันที่: 5 มกราคม 2550 เวลา:14:31:00 น. |
|
|
|
โดย: yadegari วันที่: 6 มกราคม 2550 เวลา:18:45:06 น. |
|
|
|
โดย: LEE (lyfah ) วันที่: 7 มกราคม 2550 เวลา:23:59:08 น. |
|
|
|
โดย: นุ้ย IP: 124.120.151.32 วันที่: 8 มกราคม 2550 เวลา:17:07:09 น. |
|
|
|
โดย: น้องเก๋ ร้านม่านฟ้า IP: 124.121.108.252 วันที่: 8 มกราคม 2550 เวลา:23:35:39 น. |
|
|
|
โดย: nuyo (CooKiiE ) วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:23:27:43 น. |
|
|
|
โดย: แบ๊น แบน IP: 58.9.196.153 วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:17:18:02 น. |
|
|
|
โดย: gadeja วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:19:10:10 น. |
|
|
|
โดย: numainew วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:21:23:25 น. |
|
|
|
โดย: lhee IP: 198.53.189.68 วันที่: 13 มกราคม 2550 เวลา:9:02:56 น. |
|
|
|
โดย: แร้ไฟ วันที่: 13 มกราคม 2550 เวลา:13:36:20 น. |
|
|
|
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 15 มกราคม 2550 เวลา:7:59:21 น. |
|
|
|
โดย: เสลาสีม่วง (เสลาสีม่วง ) วันที่: 15 มกราคม 2550 เวลา:12:22:47 น. |
|
|
|
โดย: ต่อตระกูล วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:0:11:15 น. |
|
|
|
โดย: jenny (สาวอิตาลี ) วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:20:50:19 น. |
|
|
|
โดย: ชายคา IP: 124.121.19.106 วันที่: 21 มกราคม 2550 เวลา:12:36:44 น. |
|
|
|
โดย: p_tham วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:4:41:49 น. |
|
|
|
โดย: นายสบาย IP: 125.24.217.25 วันที่: 27 มกราคม 2550 เวลา:3:36:47 น. |
|
|
|
โดย: แร้ไฟ วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:11:30:30 น. |
|
|
|
โดย: เสลาสีม่วง (เสลาสีม่วง ) วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:22:51:03 น. |
|
|
|
โดย: น้องเก๋ IP: 124.121.115.3 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:47:44 น. |
|
|
|
โดย: jenny (สาวอิตาลี ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:15:35:43 น. |
|
|
|
โดย: nuyo (CooKiiE ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:22:07 น. |
|
|
|
โดย: somnumberone วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:14:10 น. |
|
|
|
โดย: teety IP: 192.165.213.18 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:39:08 น. |
|
|
|
โดย: มีนะ IP: 124.121.81.207 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:39:42 น. |
|
|
|
โดย: MOMO วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:59:03 น. |
|
|
|
โดย: Aomy IP: 171.7.105.112 วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:21:27:05 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]

|
"ห้ามนำภาพ เนื้อหา ข้อความ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของภาพในเว็บไซต์นี้ไปใช้ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร หากละเมิดจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
ห้ามผู้ใดละเมิด ด้วยการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog นี้ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของ Blog
********************* ช่องทางติดต่อ Email : WeddingByMoonieLin@gmail.com Skype : nu_yo@hotmail.com Facebook: WeddingbyMoonieLin Pinterest: Weddingbymoonie
*********************
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|