The Wedding: จดหมายจากวังหลวง กับวันรัฐประหาร
ย่ำค่ำคืนหนึ่งของสัปดาห์ก่อน เราได้รับโทรศัพท์จากท่านรองราชเลขาฯ ในสมเด็จพระเทพรัตนฯ ขณะที่กำลังจะสั่งอาหารเย็นที่ร้านมังสะวิรัติเจ้าประจำย่านสยามสแควร์แหล่งรวมวัยรุ่น เราดีใจที่ได้รับข่าวอันน่ายินดีเช่นนี้ อาหารเย็นมื้อนี้จึงมีความอร่อยมากเป็นพิเศษ
เป็นความกรุณาของท่านรองราชเลขาฯ มากที่โทรศัพท์มาบอกให้ได้รู้ตัวล่วงหน้าทั้งๆ ที่เวลานั้นท่านควรจะได้พักผ่อน ท่านแสดงความยินดีกับเราทั้งคู่ เวลาตามกำหนดรับพระราชทาน "น้ำสังข์ข้างที่" คือวันที่ 30 ตุลาคม 2549 ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้นอยู่ในจดหมายที่เราต้องไปรับมาอ่าน และทำความเข้าใจ
วันที่ 19 กันยายน 2549 เขาจึงขับรถไปวังสวนจิตรลดา เขาบอกฉันตั้งแต่เช้าแล้วว่า "วันนี้จะแวะไปวังหลวงนะ ไปเอาจดหมาย" ฉันเองลืมนึกไปเสียสนิท ตกบ่ายนัดแนะกับเพื่อนๆ พี่ๆ ว่าวันนี้จะไปทานสุกี้บาร์แถวห้างเอ็มโพเรียม ฉันเลยโทรศัพท์คุยกับเขาให้ตามไปที่นั่น
ขับรถไปถึงกรมศุลกากร ได้รับโทรศัพท์จากญาติคนสนิท พร้อมคำเตือนเรื่องการปฏิวัติ กำชับฉันว่าให้รีบกลับบ้านนะ ฉันเองนึกขำ แย้งไปว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะว่าจะมีการเลือกตั้งอยู่แล้ว กกต. ก็จัดตั้งแล้ว ไม่น่าจะมีการทำรัฐประหารอะไรอีก
แต่สุดท้ายเราก็ได้ข่าวเรื่องรัฐประหารในคืนนั้น พร้อมกับจดหมายจากวังหลวง ข่าวคราวต่างๆ ที่แลกเปลี่ยนกันทั้งคืนทำเอานอนไม่หลับ ความรู้สึกวิตกกังวลของเหตุการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อการจัดงานต่างๆ ที่ดันมาเกิดขึ้นในช่วงเดือนแต่งงาน ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ดูราบรื่นและสงบเงียบ แต่ใครจะไปรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
หากนึกถึงแง่ดี ฉันไม่ต้องกลัวหลงลืมเดือนปีที่ตัวเองแต่งงาน เพราะจำได้ง่ายตามเหตุการณ์รัฐประหารที่ผู้สื่อข่าวมักจะย้อนรำลึกเมื่อถึงช่วงนั้นของทุกปี
รุ่งเช้าฉันจึงมีโอกาสได้อ่านจดหมายจากวังหลวงโดยละเอียด เพิ่งรู้และเข้าใจในพิธีการขอรับพระราชทาน "น้ำสังข์ข้างที่" อย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน ความเข้าใจที่นึกว่ารู้ กลับตาลปัตรเป็นความรู้ไม่จริง
ในจดหมายระบุว่าเจ้าสาวให้แต่งกายด้วยชุดไทยแบบใดแบบหนึ่ง คราวก่อนที่ไปตัดชุดสำหรับวันสำคัญวันนี้ฉันกลับได้รับคำบอกเล่าจากช่างเสื้อว่าต้องใส่ชุดไทยบรมพิมาน สีงาช้าง สีขาว หรือสีโทนสว่าง แต่สุดท้ายหลังจากที่ฉันสอบถามเข้าไปถึงผู้รู้ ก็ได้ทราบว่าสีใดก็ได้ ยกเว้นสีดำ ทำเอาฉันรีบไปซื้อผ้าไหมยกดอกลำพูน สีกลีบบัว เป็นสีโทนสดใสตามแบบฉบับที่ฉันชอบ
ช่างเสื้อเกือบจะไม่ตัดชุดไทยบรมพิมานให้แก่ฉัน หลังจากที่เห็นผ้าชิ้นนี้ ทำเอาฉันต้องแบกกลับมา แล้วโทรไปสอบถามผู้รู้กว่าท่านหนึ่ง คำตอบยังคงเป็นเช่นเดิม ฉันจึงต้องเสียเวลาแบกผ้าชิ้นนี้เอาไปคืนช่างเสื้ออีกรอบ ฉันคิดว่าช่างเสื้อเองก็คงเพิ่งจะรู้เหมือนกัน
น่าเสียดายที่เพิ่งรู้ว่าฉันสามารถใส่ชุดไทยแบบใดแบบหนึ่งก็ได้ทั้งนั้น ถ้ารู้เสียแต่ต้นฉันคงตัดชุดไทยจักรพรรดิ์อย่างที่ชอบมากกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้เข้าเฝ้า และได้เข้ารับพระราชทาน "น้ำสังข์ข้างที่" ที่หลายคนมักจะบอกฉันว่าช่างเป็นความโชคดีอย่างสูงสุด เพราะต้องรอคอย ต้องเข้าคิว และต้องอดทน
จดหมายฉบับนี้ฉันจึงสแกนเก็บไว้เป็นที่ระลึก ให้ตัวเองได้จดจำใจความสำคัญที่ควรรู้ และแก้ไข "ความไม่รู้" ของตัวเองให้รู้จริง ไม่ใช่ฟังเขามา หรือปฏิบัติตามคนอื่น โดยไม่ขวนขวายหาความจริงเสียก่อน
เปรียบเหมือนการทำรัฐประหารครั้งนี้ ที่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น คนแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ไม่มีใครรู้จริงๆ หรอกว่าความจริงนั้นคืออะไร นอกจากตัวอดีตท่านนายกฯทักษิณเพียงคนเดียว
จดหมายตอบรับ
ข้อปฏิบัติการแต่งกาย
Create Date : 21 กันยายน 2549 |
|
11 comments |
Last Update : 3 มกราคม 2550 1:04:08 น. |
Counter : 2195 Pageviews. |
|
|
|
ยินดีด้วยนะคะ เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตคู่จริงๆ