The Wedding: แผนสองสำรองไว้
หลังจากถูกหักหลังอย่างทารุณกับความไม่รับผิดชอบของบริษัทฯ ที่อุตส่าห์ไว้ใจสั่งซื้อของชำร่วย ทิ้งเงินมัดจำไปเกือบสองเดือน เพิ่งจะทราบว่าของเป็นหมัน
หลายคนเป็นห่วง กลัวจะเครียดแล้วไปโดดน้ำตายเสียก่อนได้แต่งงาน โธ่! คงไม่ถึงขนาดนั้น ไม่รู้จะทำตัวเองให้เจ็บไปเปล่าๆ ปลี้ๆ ทำไม สู้เอาปืนไปยิงหัวคนทำเราไม่ดีกว่ารึ อุ๊ย! เขียนไปอย่างนั้นเอง ความคิดโหดๆ คงไม่ผิดมั้ง อย่างน้อยก็ละลายความโกรธไปได้นิดหน่อย
สัปดาห์ที่ผ่านมาเลยไม่ได้นิ่งนอนใจ ลองค้นหาของชำร่วยชิ้นงาม ซึ่งรู้มาว่านำเข้าจากจีน "หากันจนเจอ" ตามเพลงคุณสองกบ ติดต่อกันอยู่เกือบสัปดาห์ เห็นแสงสว่างอยู่ปลายอุโมงค์ และหมายมั่นปั้นมือไว้ว่า "ตรูแน่" จะนำเข้าเองเลยค่อยดู สุดท้ายถูกอาเฮียตี๋หักอกซ้ำสอง เพราะระบุเงื่อนไขห้ามเลือกแบบ อุโมงค์ดับมืด โดนธรณีสูบรอบสอง แต่คราวนี้ "ศรี" ทนได้เพราะโดนมาครั้งหนึ่งแล้ว เลยไม่ค่อยเจ็บเท่าไร เหมือนคนอกหักบ่อยๆ มักจะชินชา
ได้เวลางัดแผนสองของสำรองออกมาใช้ กลับไปไล่ดูรายการที่เคยทำไว้เป็นรายการของที่สนใจ ไล่ลำดับไปเรื่อยๆ ก็ "กลับมายืนที่เดิม" นึกๆ ไปก็ขอบคุณในความไม่ประมาทของตัวเอง อย่างน้อยในสถานการณ์ที่กดดันที่เล่นเอาฉันตกต่ำไปพักใหญ่ สมองคิดอะไรไม่ออก พอได้อ่านได้ทวนก็พอจะฟื้นคืนสติมาได้บ้าง
ฉันยังพอมีเวลาให้คิดต่ออีกหน่อย ถึงแม้ปากจะบอกว่าทำใจแล้วหากของไม่ถูกใจคนรับ แต่อดคิดแบบ "ครีเอทีฟ" ไม่ได้ อยากให้เป็นของที่เข้าธีมเท่าที่จะทำได้ ของแบบที่ใช้สมอง ไม่ใช่สักแต่แจกให้แขกแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่หากถึงกำหนดแล้วคิดอะไรไม่ออก ตานี้คงต้องทำใจแล้วว่า "อะไรก็ได้วะ"
ฉันได้ข้อคิดหลายอย่างในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ความคิด และจิตใจที่มั่นคงที่เกิดขึ้นตามวัย หรือเกิดขึ้นเพราะอ่านหนังสือจำพวกแนวคิด หรือเพราะไปถือศีลมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุไหนล้วนแล้วแต่ทำให้ฉันเป็นปกติเร็วขึ้น ความไม่ยึดติดกับของชิ้นที่หมายปอง และรู้จักปล่อยวางเป็น พอจิตสงบ ดูเหมือนว่าเราจะเห็นหนทางให้เดิน และความคิดอื่นก็พร้อมจะมาเคาะประตูกรูกันเข้ามาให้เลือกใช้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตระหนักว่าชีวิตควรตั้งอยู่บนความไม่ประมาท อะไรที่คิดว่าดีแล้วมั่นใจแล้ว จู่ๆ อาจหายวับไปกับตา ความไม่ประมาทในชีวิต ทำให้ฉันมีสติและรู้จักจัดการกับมันได้ ที่เขียนอย่างนี้ไม่ใช่ว่าสติเราจะกระเจิงไม่ได้ แต่คงต้องหัดให้สติกลับมาวิ่งบนลู่ได้โดยเร็ว แต่หากเกิดสิ่งใดขึ้นมาในอนาคต อะไรที่ปล่อยได้ ก็คงต้องปล่อย อะไรที่วางได้ ก็คงต้องวาง อะไรที่เป็นเนื้อร้าย ก็ตัดมันเสีย คิดเสียอยู่อย่างเดียวว่าจะไปเก็บ จะไปแบกอยู่ใย รู้ว่าไม่ดี รู้ว่ามันเลว รู้ว่ามันชั่ว ก็ไม่ต้องกำมันไว้ ปล่อยให้ "จ. เจ็บ" เข้าป่าไปเสียเถอะ
คนที่กำลังจะแต่งงาน มักเป็นคนอยู่ในห้วงรัก ชีวิตเดินอยู่บนกลีบกุหลาบ และโลกนี้เป็นสีชมพู อาจจะต่างกับฉันสักหน่อย เพราะข้อความในวรรคข้างต้น ฉันไม่ได้หมายถึงแค่สิ่งของที่ไม่ได้ดังใจ แต่หมายรวมไปถึงอนาคตที่ไม่รู้ว่าชีวิตจะได้วิ่งออกนอกลู่อีกเมื่อใด เรื่องของชีวิตคู่ เป็นสิ่งที่อนาคตเราเองก็ไม่อาจรู้ได้ ใจเราเองเรายังไม่รู้ใจเราเลย แล้วใจเขาเราจะหยั่งรู้ได้อย่างไร
ปล. มีคนสงสัยว่าทำไมฉันถึงติดอกติดใจของชำร่วยชิ้นนั้นขนาดหัวเสียเมื่อรู้ว่าเขาหามาไม่ได้แล้ว อุบไว้เป็นความลับเสียนาน ขอเฉลยเพราะไหนๆ ก็ไม่ได้แล้วนะจ๊ะ
ด้านหน้าเป็นลายหนึ่ง
ด้านหลังอีกลายหนึ่ง
Create Date : 05 สิงหาคม 2549 |
|
10 comments |
Last Update : 3 มกราคม 2550 1:02:21 น. |
Counter : 714 Pageviews. |
|
|
|