เขยผักไห่
คอลัมน์ วัฒน์ วรรลยางกูร
| โอกาสหน้า พี่จะมาหาใหม่ ไม่ลืมคนชื่อวิไล บ้านผักไห่ อยุธยา แม่คุณคนสวย พี่จะมาช่วยทำนา เห็นข้าวมันขึ้นราคา อยากมีพ่อตา ทำนาดู
ฟังเพลงเพลินๆ ไปในรถ ขณะขับรถจากอยุธยา ผ่านทุ่งผักไห่ ก่อนเลี้ยวซ้ายเข้าสุพรรณ ทะลุมากาญจนบุรี
เพลงนี้ดนตรีมีโลโก้ คือเสียงกีตาร์ที่ตอดอยู่ตลอดเพลง "แต๊วแนว แต๊วแหน่ว" ฟังปุ๊บ ติดหูปั๊บ เป็นผลงานการเรียบเรียงดนตรีของ ครูพีระ ตรีบุปผา ล่วงลับไปหลายปีแล้ว
น่ารักมากๆ คือ เนื้อเพลงที่ ชาตรี ศรีชล หรือ สมบุญ ลีเส็ง ลูกทุ่งชลบุรี แต่งเองร้องเอง ฟังเนื้อเพลง และวิธีการร้องแล้ว เกิดมุขบรรเจิด
ช่วงปี 2518 ข้าวขึ้นราคา เพราะว่า ช่วงปี 2516 ข้าวขาดตลาด จนคนไทยต้องเข้าคิวซื้อข้าวสาร (ส่วนเรื่องเบื้องหลัง จะมีการกักตุนข้าว เพื่อเขย่ารัฐบาล ถนอม - ประภาส หรือไม่ ไม่แน่ใจครับ)
เพลงสาวผักไห่ จึงบอกว่า ข้าวขึ้นราคา เช่นเดียวกับอีกเพลงในยุคเดียวกันบอกว่า ข้าวไม่มีขาย - ศรเพชร ศรสุพรรณ
คือตอนมีข้าวเปลือกมาก ข้าวก็ไม่มีราคา พอข้าวมีราคา ก็ดันไม่มีข้าวจะขายซะแล้ว
คล้ายกับปีนี้ ที่รัฐบาลรับจำนำราคาข้าว เกวียนละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท แต่น้ำก็เกิดขาดแคลน ทำนาไม่ได้ แถมบรรดา "คนดี" ก็ดาหน้าออกมาต่อต้านนโยบายรับจำนำข้าว กลัวว่าจะมีการโกง
เหมือนกับต่อต้านการแจกไอแพดให้เด็ก เพราะกลัวเด็กโดนไฟดูด คิดแบบนี้ ก็กลัวไปได้ทุกเรื่องแหละครับ
กลัวไฟดูด ก็เลิกใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้า กลับไปใช้หม้อดินหุงข้าวเตาฟืน แต่ใช้เตาฟืน ระวังนะ ...ไฟไหม้ กลัวรถชน ต้องเลิกใช้รถ ไปใช้เกวียนแทนแล้วกัน ปลอดภัยกว่า เฮ้อ เอาไหม คนกินเหล้า กลัวมีเรื่องวิวาทกัน
แท้จริง ชีวิตต้องไม่อยู่ด้วยการกลัวไปทุกเรื่อง มนุษย์มีสติปัญญา เมื่อมีปัญหา ต้องรู้จักใช้ปัญญาแก้ไข ทำโครงการรับจำนำข้าวอย่างไร ไม่ให้โกง หรือโกงแล้วต้องตรวจสอบ ลงโทษกันไป
รู้จักวิธีใช้ไฟฟ้า ไม่ให้ไฟดูด รู้จักใช้รถ ใช้ถนน ให้ปลอดภัย ดื่มสุราเมรัย อย่างมีรสนิยม...แบบ อมฤตเทวา ไม่เอะอะ ไม่เกะเกะ ไม่เดือดร้อนผู้อื่น
ไม่ใช่อยากจะข่มขืนอยู่แล้ว ก็กินเหล้าย้อมใจ ไปข่มขืน แล้วอ้างเหล้า เสียสถาบัน อมฤตเทวา หมด ฟังเพลงสาวผักไห่ ขณะขับรถผ่านทุ่งผักไห่ แล้วครึ้มใจ
เพราะวิธีการร้องของ ชาตรี ศรีชล นั้น ตรง "พี่จะมาช่วยทำนา" คำว่า จะ เป็นเสียงสั้น ไม่เต็มโน้ต เลยต้องออกเสียงเป็น "พี่จา" ซ้ำกันถึงสองครั้ง ในท่อนเดียวกัน
"พี่จามาหาใหม่" และ "พี่จามาช่วย ทำนา" พี่จา ไหน ใช่ จา พนม หรือเปล่า
ทุ่งผักไห่ ถนนโล่งลิ่ว ไม่มีชุมชนบ้านเรือนข้างทาง มีนกทุ่งนาตัวใหญ่เป็นฝูง ลงหากินหอยปูปลา น่าจะเป็นฝูงนกปากห่าง
ท้องทุ่งภาคกลางช่างกว้างใหญ่ เป็นพื้นที่รองรับอาชีพทำนา นี่คือความเป็นจริง ยิ่งภาคอีสานนั้น กว้างใหญ่กว่าเสียอีก
ผู้คนที่ทำมาหากินบนท้องทุ่งเหล่านี้ต้องได้รับการดูแลและอุ้มชูจากรัฐ ไม่ใช่ปล่อยตามยถากรรม อย่างที่ผ่านมาเป็นร้อยปี
ไม่ใช่อยู่ตามยถากรรมธรรมดา แต่อยู่ใต้การผูกขาดโดย ทุนกลุ่มเดียว กลุ่มเดิม หน้าเก่าหน้าแก่
จะเป็น ทุ่งผักไห่ ทุ่งกุลาร้องไห้ หรือทุ่งไหนๆ ข้าวขึ้นราคามักเป็นแค่ปรากฏ การณ์ชั่วคราว เขยผักไห่อย่าดีใจเกินไป
หน้า 6
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ คอลัมน์ วัฒน์ วรรลยางกูร ภุมวารสิริสวัสดิ์ค่ะ
Create Date : 18 ธันวาคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 18 ธันวาคม 2555 9:13:50 น. |
Counter : 2626 Pageviews. |
|
|
|