"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
22 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช .. "ขอลาตายอีกครั้ง"






ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช




อย่าเพิ่งตกใจกับชื่อเรื่องที่ปรากฏอยู่ด้านบน เพราะเรื่องราวทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับวลี นี้เกิดขึ้นในงานสัมมนาแห่งศตวรรษ "ปราชญ์สยาม นามคึกฤทธิ์" ในโอกาสครบรอบชาตกาล 100 ปี ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องคอนเวนชั่น 1 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์

ซึ่งคนที่กล่าวถึงเรื่องนี้ก็คือ อัศศิริ ธรรมโชติ นักหนังสือพิมพ์ที่ผันตัวเองมาเป็น นักเขียนจนได้รับรางวัลซีไรต์ หยิบยกเรื่องลาตายอีกครั้งของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ขึ้นมากล่าวในงานเสวนา เริ่มจากการยกเอาประโยคเด็ดของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์มาเกริ่นว่า

"ระบอบกษัตริย์เปรียบเหมือนโคมแก้วระย้า หากมีใครไปขยับให้ตกลงมา มันก็จะบาดผู้คนที่อยู่ด้านล่างไปทั่ว"

นี่คือคำกล่าวของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ที่ผ่านมาหลายสิบปีแล้ว แต่ก็ยังคมกริบมาถึงปัจจุบัน สำหรับคำพูดของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ผู้เป็นนักปฏิบัติที่ประนีประนอม แต่ก็จะแข็งกร้าวต่อผู้ที่ไม่ ยึดมั่นในระบอบกษัตริย์

"ถ้าหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์กลับมาเกิดใหม่ในยุคปัจจุบัน คงต้องขอลาตายอีกรอบแน่นอน"

พอจะขยายความจากคำพูดของประโยคนี้ได้ว่า เพราะยุคสมัยที่การเมืองการปกครองของไทย เกิดระส่ำระสายมาหลายขวบปี จนกระทบถึงสถาบันหลักของประเทศ ในการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข

"สิ่งที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ฝากไว้ก็คือ หากใครคิดจะล้มล้าง ก็จะทำให้ผู้คนที่อยู่ด้านล่างรอบ ๆ ได้รับผลกระทบไปด้วย" คำกล่าวของอัศศิริที่พูดถึงบุคคลสำคัญของโลกที่องค์การ ยูเนสโกยกย่องรวดเดียว 4 สาขา ได้แก่ การศึกษา วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ และสื่อสารมวลชน

ดังที่ทราบกันดีว่า เรื่องราวชีวิตของปูชนียบุคคลผู้นี้ ยังคงถูกหยิบยกมาพูดคุย เป็นบุคคลตัวอย่างในทุกแวดวง ตลอดระยะเวลากว่า 100 ปีนับตั้งแต่บุรุษผู้นี้ถือกำเนิด ดำรงอยู่ และดับไป แต่ชื่อเสียงของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ผู้คิดลึก ก็ยังก้องอยู่ในทุกส่วนของสังคมที่หม่อมเหยียบย่างลงไป

หนึ่งในบทบาทที่คนกล่าวถึงมากที่สุดก็คือ บทบาทสื่อมวลชน อัศศิรินำมายกย่อง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ผู้อุทิศชีวิตให้กับงานหนังสือพิมพ์จนวาระสุดท้ายของชีวิต หลังวางมือจากทุกวงการแต่ไม่ยอมวางมือจากงานเขียน แม้จะไม่มีแรงจับปากกา

แต่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ก็ยังเขียนคอลัมน์ต่าง ๆ ผ่านปาก โดยให้คนอื่นเขียนตามคำบอก พออายุล่วงเลยเข้าสู่วัย 82 ปี สายตาเริ่มไม่ค่อยดี อ่านหนังสือพิมพ์เองไม่ได้ ก็ต้องให้คนอื่นอ่านให้ฟัง เรียกว่าเป็นสื่อสารมวลชนจนนาทีสุดท้ายของชีวิต

"เป้าหมายของการก่อตั้งหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ก็เพื่อให้คนไทยในกรุงเทพฯ มีความรู้เรื่องการเมืองในประชาธิปไตยอย่างแพร่หลาย เป็นส่วนสำคัญ ที่ทำให้สังคมไทยเห็นประชาธิปไตย และเสริมพื้นฐานประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้แข็งแกร่ง"

ในอีกด้านหนึ่ง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ก็แสดงให้เห็นว่า เสรีภาพของหนังสือพิมพ์นั้น จะอยู่ในตัวของคนทำหนังสือพิมพ์อยู่แล้ว ไม่มีใครสามารถมาเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นการดำรงไว้ซึ่งเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ นักหนังสือพิมพ์ก็ต้องรู้จักประสานตน และเห็นแก่ประโยชน์สังคมเป็นหลัก

วิทยากรคนเดิมยังได้วิพากษ์บทประพันธ์ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ เรื่อง "สี่แผ่นดิน" ไว้ 2 มุมด้วยกันคือ ถ้ามองในแง่ดีก็ทำให้เกิดเสรีภาพ แต่ในแง่ร้ายก็ทำให้เกิดความแตกแยกกันภายในสังคมได้เช่นกัน

สังเกตได้จากการเมืองเมื่อ 60 ปีก่อน กับตอนนี้ไม่ได้ขยับก้าวหน้าไปไหนไกล การเมืองไทยตั้งแต่ตอนนั้นกับตอนนี้ไม่ได้ต่างกันเลย

แม้จะมีบุคคลอย่าง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ผู้ที่ได้รับฉายาทางการเมืองว่า "เฒ่าสารพัดพิษ" ผู้ที่สามารถแสดงความเห็นทางการเมืองได้อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลใด ๆ ได้รับฉายาว่า "เสาหลักประชาธิปไตย"

แต่จนถึงวันนี้ประชาธิปไตยของไทย ก็ยังปักหลักอยู่ที่เสาต้นเดิมไม่ได้เติมหรือเพิ่มเสาต้นใดลงไปเสริมความมั่นคง แข็งแกร่งให้กับเสาต้นเดิมต้นเดียวอีกเลย

กลับมาที่ผลงานดีเด่นที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์แสดงให้เห็นแสนยานุภาพเหนือกองทัพไทย โดยการออกมาวิพากษ์บทบาทและหน้าที่ของทหารไทยอย่างตรงไปตรงมา

"ทหารไทยฉลาดไม่ได้ ทหารไทยทำตัวเหมือนกับม้าลำปาง ที่มัวแต่คอยลากรถเลื่อนไปวัน ๆ มองเห็นแต่ภาพข้างหน้าเท่านั้น ทิวทัศน์ข้าง ๆ และข้างหลังจะมองไม่เห็นเลย"

คงจะจริงดังที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์เคยกล่าวไว้ เพราะมาถึงยุคปัจจุบัน อานันท์ ปันยารชุน ผู้ได้รับโจทย์ให้กล่าวถึง ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ในหัวข้อการเมืองระหว่างประเทศ หยิบยกประโยคขึ้นมาเปรียบเทียบให้เห็นภาพทหารไทยว่า

"ทั้ง ๆ ที่ทหารไทยมีความฉลาดอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถหยิบยกขึ้นมาใช้ได้ เพราะมัวแต่ทำตัวเป็นม้าลำปาง"

ก่อนจะอธิบายเสริมว่า คนเราจะพัฒนาได้ ต้องมองเห็นให้รอบได้ ไม่ได้มองจุดใดจุดหนึ่งเท่านั้น โดยทางกายภาพ แม้คนเราจะมองให้ครบ 360 องศาไม่ได้ แต่ในเรื่องแนวคิด เราควรมองให้รอบได้ เพื่อเป็นการชดเชยในเรื่องของกายภาพ ถ้าเราทำได้ เราก็จะสามารถพัฒนาตัวเองต่อไปได้

"เหมือนกับที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์สามารถทำได้ เป็นคนที่มองอะไรได้รอบด้าน มีมุมมองที่กว้างไกลมองทุกอย่างอย่างลึกซึ้ง"

ดังที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์มักจะพูดเสมอว่า ประเทศไทยจะมองเห็นแต่ประโยชน์ถาวรเท่านั้น แม้แต่มิตรประเทศก็ต้องหาชาติที่จะเป็นมิตรถาวรเท่านั้น

และสิ่งที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์บอกไว้เสมอคือ
"ประเทศไทยห้ามมีศัตรูถาวรเด็ดขาด"

อานันท์อธิบายเสริมว่า คำพูดนี้เป็นการบอกใบ้ให้สหรัฐอเมริการู้ว่า ความสัมพันธ์ของประเทศไทย คือการมีประโยชน์ร่วมกัน ไม่ใช่ดำรงไว้ในลักษณะของกำลังทหาร ดังที่อเมริกามาตั้งฐานทัพ จ.อุดรธานีแม้สงครามเวียดนามสิ้นสุดลง

"อันเนื่องมาจากมีการลงนามระหว่างทหารไทยกับทหารอเมริกา เรื่องการมอบอำนาจอธิปไตยใน จ.อุดรธานีให้อเมริกา แบบไม่มีกำหนดเวลา ผมขอบอกว่า เป็นสัญญาที่อุบาทว์ที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง ในการลงนามระหว่างประเทศ ที่ใช้คำว่า ไม่มีกำหนดเวลา

หากเรื่องนี้ผ่านทางรัฐบาลพลเรือน ผ่านมาทางกระทรวงการต่างประเทศ จะไม่มีการปล่อยผ่านอย่างแน่นอน เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า กระทรวงการต่างประเทศในยุคก่อนไม่มีน้ำยาพอ

จนกระทั่งยุคของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ จึงได้ปรับปรุงกระทรวงการต่างประเทศให้ดีขึ้นกว่ายุคนั้น นับเป็นครั้งแรกที่ระบบการเมืองสามารถควบคุมระบบทหารได้" คำกล่าวที่นายอานันท์ยกย่อง และยอมรับในความสามารถของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์

พร้อมยกตัวอย่างสิ่งที่เขาได้แลกเปลี่ยนพูดคุย กับปูชนียบุคคลของประเทศไทยถึงการบริหารงานภายในประเทศของไทย

"ปัญหาไหนก็ตามภายในประเทศที่ไม่สามารถแก้ได้และ แก้ไม่ตก รัฐบาลชุดนั้นมักจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษา เรื่องนั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนั้น ไม่สามารถแก้ไขปัญหานั้นได้ หรือแสดงว่ารัฐบาลชุดนั้นไม่มีศักยภาพเลย แล้วทิ้งค้างไว้อยู่อย่างนั้นโดยไม่สามารถแก้ปัญหานั้นได้เลย"

นี่คือแนวคิดคำคมที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ฝากไว้ในสังคมไทย นอกเหนือจากผลงานในฐานะศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ มีผลงานที่โดดเด่นมากกว่า 200 เรื่อง ทั้งนวนิยาย เรื่องสั้น และเรื่องแปล และบทบาทอื่น ๆ อีกมากมายเกินที่จะกล่าว ได้หมดในกระดาษเพียงแผ่นเดียว

บุคคลผู้มีวาทศิลป์เป็นเลิศชวนให้จดจำ แม้กระทั่งการอธิบายชื่อของตัวเองด้วยการผวนคำ "คึกฤทธิ์ ก็คือ คิดลึก"


ขอบคุณ ประชาชาติธุรกิจออนไลน์


สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ



Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2555 13:07:52 น. 0 comments
Counter : 3246 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.