"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
9 กันยายน 2555
 
All Blogs
 
อายุ 92 ปี เริ่มเรียนหนังสือ อายุ 99 ปี เริ่มเขียนหนังสือขาย คนที่โอบามาส่งสารชื่นชม


คลุกวงใน (มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ 7-13 ก.ย.2555)
พิศณุ นิลกลัด









วันที่ 8 กันยายนของทุกปี ถือเป็นวันรู้หนังสือสากล ริเริ่มโดยองค์การยูเนสโก้ เพื่อให้พลโลกเห็นความสำคัญของการรู้หนังสือ

จากการสำรวจของยูเนสโก้เมื่อปี 2552 พบว่าคนไทยอ่านภาษาไทยไม่ออก เขียนไม่ได้กว่า 4 ล้านคน คิดเป็น 6.3% ของคนทั้งประเทศ และเมื่อนับทั่วโลกมีผู้ใหญ่ที่อ่านหนังสือไม่ออกถึง 793 ล้านคน คิดเป็น 17% ของประชากรโลก ที่น่าตกใจก็จำนวนพลโลกที่ไม่รู้หนังสือเพิ่มจากเมื่อ 20 ปีที่แล้วถึง 8%

คนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้มักจะกลายเป็นคนที่เชื่อคนง่ายเพราะเมื่อได้ยินคนบอกอะไรมา แม้จะเกิดความสงสัยก็ไม่สามารถค้นหาข้อมูลที่เป็นความจริงมาอ่าน หากถูกครอบงำโดยคนไม่ดีก็จะถูกชักจูงไปในทางที่ผิด

มองในระดับที่ใหญ่ขึ้นไป ความไม่รู้หนังสือปิดกั้นโอกาสในการพัฒนาตัวเอง ศักยภาพของคนในการช่วยพัฒนาประเทศก็ลดลง

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คุณตาเจมส์ อาร์รูด้า เฮนรี่ (James Arruda Henry) ชาวอเมริกันวัย 99 ปี เป็นข่าวดังทั่วอเมริกา จากการเขียนหนังสืออัตชีวประวัติชื่อ In a Fisherman"s Language แปลเป็นไทยแบบตรงๆ ว่า "ในภาษาของชาวประมง"

หลังจากเริ่มเรียนอ่านและเขียนหนังสือตอนอายุ 92 ปี ซึ่งประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้ส่งสารแสดงความยินดีและชื่นชมในความพยายามและความสำเร็จ

In a Fisherman"s Language เป็นหนังสือความหนา 80 หน้า เล่าถึงเรื่องของคนที่ไม่รู้หนังสือว่ามีผลกระทบอย่างไรต่อการดำเนินชีวิต รวมทั้งแรงบันดาลใจในการเรียนอ่านเขียนหนังสืออีกครั้งเมื่ออายุเกือบร้อยปี ซึ่งขณะนี้หนังสือเล่มนี้อยู่ในห้องสมุดของโรงเรียนระดับประถมศึกษาทั่วอเมริกา

คุณตาเจมส์ อาร์รูด้า เฮนรี่ เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายโปรตุเกส ครอบครัวอพยพไปตั้งรกรากอยู่ที่รัฐโรด ไอร์แลนด์ ตั้งแต่เป็นเด็ก ด้วยความที่ทางบ้านมีฐานะยากจน พ่อเอาตัวออกมาจากโรงเรียนตอนอายุ 9 ขวบหลังจากเรียนจบแค่เกรด 3 หรือเทียบเท่ากับ ป.3 บ้านเรา-เพื่อทำงานช่วยเหลือครอบครัว

แม้จะเรียนจบเกรด 3 แต่คุณตาเจมส์อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้เพราะพ่อไม่ให้ความสำคัญ ถูกสั่งให้หยุดเรียนเพื่อช่วยพ่อทำงานอยู่เรื่อย

นอกจากนี้ ตอนเด็กคุณตาเจมส์ตัวใหญ่กว่าเพื่อนๆ ในชั้นเรียน ครูก็เลยให้เลื่อนชั้นทุกปีโดยไม่ได้ทดสอบการอ่านเขียน!

คุณตาเจมส์ทำงานรับจ้างไปเรื่อยไม่เคยเลือกงาน จนกระทั่งได้เป็นกัปตันเรือ จับกุ้งล็อบสเตอร์ซึ่งเป็นอาชีพที่งานหนักแต่รายได้ดี (กัปตันเรือจับกุ้งล็อบสเตอร์สมัยนี้ ได้เงินเดือนคิดเป็นเงินไทยปีละหลายล้านบาท)

ด้วยหน้าที่การงานทำให้คุณตาเจมส์ไม่มีเวลา ได้กลับไปเรียนหนังสือ ซึ่งคุณตาเจมส์บอกว่าเป็นความลับ ที่ตัวเองรู้สึกอับอายมากและไม่บอกให้ใครรู้ จนความลับมาแตกเมื่อถึงเวลาที่จะต้องสอบใบขับขี่ คุณตาอ่านใบสมัครไม่ออก รู้แต่เขียนชื่อตัวเองที่หัวกระดาษ

ซึ่งเพื่อนที่ไปด้วยได้อ้อนวอนให้เจ้าหน้าที่อะลุ้มอล่วย ให้ผ่านข้อเขียน โดยบอกว่าคุณตาเป็นยอดนักจับล็อบสเตอร์ ซึ่งถือเป็นสินค้าขึ้นชื่อที่คนโรด ไอร์แลนด์ ภาคภูมิใจ เจ้าหน้าที่ก็อะลุ้มอล่วยและให้คุณตาสอบใบขับขี่ภาคปฏิบัติซึ่งก็สอบผ่าน

เมื่อคุณตาเจมส์แต่งงานก็ไม่ยอมบอกภรรยาว่าอ่านหนังสือไม่ออก ทำให้มีปัญหาเวลาได้รับใบเสร็จค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายต่างๆ เพราะอ่านไม่เข้าใจว่าต้องจ่ายค่าอะไรบ้าง จนในที่สุดหลังจากแต่งงาน 2 ปีถึงยอมเปิดเผยกับภรรยาว่าตัวเองอ่านหนังสือไม่ออก และไม่ยอมบอกใครอีกเลยนานถึง 60 ปี

คุณตาเจมส์บอกว่าการอ่านหนังสือไม่ออก และต้องปิดเป็นความลับไม่ให้ใครทราบ เป็นสิ่งที่ทรมานขมขื่นใจที่สุด

เวลาไปร้านอาหารก็อ่านเมนูไม่ออก ดังนั้น ต้องใช้วิธีสั่งอาหารตามเพื่อนร่วมโต๊ะหรือดูโต๊ะข้างๆ ว่าสั่งอะไรก็สั่งตาม เวลานั่งในร้านกาแฟก็ต้องทำเป็นถือหนังสือพิมพ์อ่าน พอพนักงานเสิร์ฟยื่นใบเสร็จมาให้ก็ทำเป็นไม่มองแล้วถามว่าเท่าไหร่

ที่ทรมานใจที่สุดก็คือตอนเซ็นเอกสาร ต้องจำใจเซ็นทั้งๆ ที่อ่านไม่ออก!

คุณตาเจมส์ไม่คิดที่จะเรียนเขียนอ่านหนังสือเพราะคิดว่าตัวเองแก่แล้ว

จนกระทั่งปี 2000 ขณะอายุ 92 ปี ได้อ่านหนังสืออัตชีวประวัติ Life Is So Good เขียนโดย จอร์จ ดอว์สัน (George Dawson) ชาวอเมริกันที่มีปู่เป็นทาส-ซึ่งมาเรียนเขียนอ่านหนังสือตอนอายุ 98 ปี และเขียนหนังสืออัตชีวประวัติขายเมื่ออายุ 103 ปี

ทำให้คุณตาเจมส์ได้แรงบันดาลใจในการเรียนเขียนอ่านหนังสือตอนอายุ 92 ปี

โดยเริ่มจากการเรียนด้วยตัวเอง อ่านดิกชันนารี อ่านหนังสือที่มีภาพประกอบ

ตามหลักทางการแพทย์ คนเราเมื่ออายุมากขึ้น สมองก็แก่ลง ทำให้ยากต่อการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ่าน เขียน แต่คุณตาเจมส์ไม่ย่อท้อ จ้างครูมาสอนอย่างจริงจัง ใช้เวลา 2 ปีจึงอ่านและเขียนได้คล่อง

สิ่งแรกที่คุณตาเจมส์เขียนหลังจากฝึกเขียนคล่องแล้วคือ เขียนจดหมายไปหาหลานชายที่บอกว่า จะไม่รับโทรศัพท์คุยกับคุณตาเจมส์จนกว่าคุณตาเจมส์จะเขียนจดหมายไปหา

จดหมายฉบับนี้คุณตาใส่กรอบติดไว้ที่บ้าน ซึ่งคุณตาบอกว่าอ่านจดหมายฉบับนี้หลายรอบ อ่านแล้วมีความสุขทุกครั้ง เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้สำเร็จ

ต่อมามีคนแนะนำให้คุณตาเจมส์นำเรื่องราวชีวิตที่สร้างแรงบันดาลใจมาเขียนหนังสืออัตชีวประวัติ ซึ่งคุณตาตอบตกลง

ปัจจุบันคุณตามีงานรับเชิญให้เป็นวิทยากรไปพูดถึงความสำคัญของการอ่านเขียนหนังสือให้ได้ตามโรงเรียนต่างๆ โดยคุณตาบอกว่าอย่ากลัวที่จะลองทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตแม้ตอนแรกจะยาก เพราะเมื่อคุ้นเคยแล้วก็จะเกิดความสนุก

ตอนนี้หนังสือ In a Fisherman"s Language ของคุณตาเจมส์ได้รับความนิยมมาก แรกๆ เวลาไปเปิดตัวหนังสือตามร้านหนังสือ คุณตาก็เซ็นชื่อให้กับคนที่ซื้อ แต่หลังจากความนิยมเพิ่มขึ้น คุณตาเหนื่อยเซ็นไม่ไหวเพราะปวดแขน ต้องใช้ตรายางปั๊มแทน!




ขอบคุณ
มติชนออนไลน์
คลุกวงใน
คุณพิศณุ นิลกลัด

อาทิตยวารสิริวิบูลย์ค่ะ


Create Date : 09 กันยายน 2555
Last Update : 9 กันยายน 2555 13:08:38 น. 3 comments
Counter : 3024 Pageviews.

 
สุดยอดค่ะ...สุดยอด

นี่คือซุพเปอร์แมนตัวจริง

ที่ต่อให้ชนะทั้งสิบทิศ

ก็ไม่เท่าชนะตนเอง


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 9 กันยายน 2555 เวลา:15:09:35 น.  

 
คุณป้าก็สุดยอดเลยค่ะ
เก่งมาก

ความรู้เรียนทันกันหมด
และไม่มีคำว่าสายเลยจริงๆ นะคะ



โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 9 กันยายน 2555 เวลา:15:21:54 น.  

 
สุดยอดอย่างคุณป้ากุ๊กบอกจริงๆค่ะ



โดย: Katai_Akiko วันที่: 9 กันยายน 2555 เวลา:20:03:57 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.