โดย สิรนันท์ ห่อหุ้ม

ผู้ชายคนนี้เริ่มต่อสู้กับบรรณาธิการนิตยสารต่างๆ ผ่านตัวอักษรของเรื่องสั้นมาตั้งแต่ พ.ศ.2535

นับถึงวันนี้ "นิวัติ พุทธประสาท" จึงอยู่บนเส้นทางของนักเขียนมา กว่า 20 ปี

นอกเหนือจากผลงานที่ปรากฏสม่ำเสมอ เขายังเป็น 1 ในนักเขียนไม่กี่คนที่มีบทบาทในแทบทุกวงจรของการสร้างงานเขียน ทั้งในสถานะบรรณาธิการที่มักจะมีรุ่นน้องส่งงานไปให้ "สำนักพิมพ์เม่นวรรณกรรม" พิจารณา และในฐานะผู้ก่อตั้งและเคยดูแลเว็บไซต์ Thaiwriter.net ที่แลกเปลี่ยนความเห็นของนักเขียนและนักอยากเขียน ซึ่งมีส่วนร่วมสร้างนักเขียนรุ่นใหม่ให้สร้างผลงานสู่โลกจริง

ในการก้าวย่างสู่ทศวรรษที่ 3 ของเส้นทางสายอักษร เขาก้าวมาพร้อมกับสิ่งใหม่ๆหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นผลงานใหม่ การทดลองระบบธุรกิจสำนักพิมพ์แบบใหม่ การเข้าหาเครื่องมือการอ่านใหม่ๆ และที่สำคัญคือการเปิดพื้นที่ใหม่ให้กับคนมีแรงฝันใฝ่อยู่เต็มเปี่ยม

"นิยายเล่มใหม่"

"ความโดดเดี่ยวทั้งมวลที่ไม่มีใครสังเกตเห็น" คือนิยายเล่มล่าสุด ซึ่งห่างจากนิยายเรื่อง "ใบหน้าอื่น" นานถึง 10 ปี

นิวัติชอบที่จะเล่นกับชีวิตแหว่งวิ่นของคนเหงาในเมืองใหญ่ ไม่ต่างกับ"มูราคามิ" นักเขียนที่เขาชื่นชอบ เขามองว่าเสน่ห์ของตัวละครเชิงนี้คือความไม่สมบูรณ์ และโดดเดี่ยว ความท้าทายของนักเขียนจึงเป็นการทำยังไงให้ตัวละครขาดๆ เกินๆ นี้มีชีวิตชัดเจนในบริบทของเรื่องแต่ง

"เราเสพงานลักษณะนี้เยอะ หนัง หนังสือ ดนตรี ซึ่งคงเป็นหนึ่งในรากฐานอารมณ์ความรู้สึกของเรา ทำให้รู้สึกว่าในโลก ในสังคมมีอะไรแบบนี้อยู่ และมีการต่อต้านสังคมจากข้างใน ขณะที่ตัวเองก็ต้องอยู่ร่วมกับมันและดำเนินชีวิตต่อไป เหมือนภายในล้มเหลวโดยสิ้นเชิง แต่ข้างนอกยังต้องขับเคลื่อน"

เหมือนตัวละครที่ต่อสู้อย่างอึกทึกอยู่ข้างใน ท่ามกลางความเงียบงันของข้างนอก ก่อนจะถูกมือมืดมิดฉุดรั้งไปสู่ประตูของความฝัน

ความเรียบลื่นของเรื่องราวที่มอมเมาให้หลงอยู่ในโลกขมุกขมัว ทำให้ใครหลายคนหลงรักนิยายเล่มนี้ ทว่าอีกด้านก็มีการตั้งคำถามถึงความพอดีของ "แรงบันดาลใจ"

และคำถามที่ว่ามันช่างเหมือนผลงานของนักเขียนที่เขาชอบ รวมถึงภาพยนตร์บางเรื่องเหลือเกิน

"ได้ยินมาเหมือนกันครับ" เขารับ

"จริงๆ แล้วพูดยาก เพราะถ้าอ่านของมูราคามิจะรู้สึกได้เลยว่า เฮ้ย! นี่ยุคของเราเลยนี่หว่า หรือหลายอย่างก็เป็นสิ่งที่อยู่ในความคิดเรานานแล้ว ตัวละครประหลาด แมวบ้าน หรือเรื่องการเข้าไปในความฝันนี่เป็นเรื่องสากลมากนะกับการนำเสนอในสิ่งที่เหนือจริง เมื่อเจอจังหวะที่เหมาะสมสิ่งเหล่านี้ก็เหมือนวัตถุดิบที่หยิบมาได้หมด"

"แต่ผมก็เข้าใจทุกคน"

"โมเดลใหม่ของสำนักพิมพ์เล็ก"

งานชิ้นนี้เขาพิมพ์จำนวน 500 เล่ม ตอนนี้เหลืออยู่ร้อยกว่าเล่ม นิวัติบอก ก่อนจะแจงว่าสิ่งที่ดีที่สุดของการทำแบบนี้ คือเขาไม่ต้องแบกรับภาระเรื่องเงิน

"ยังไงก็ขายหมด อาจขาดเหลือนิดหน่อย แต่ปิดประตูขาดทุนไปเลย"

"สำนักพิมพ์ใหญ่ มันไม่คุ้มที่เขาจะมาพิมพ์น้อยแบบเรา เขามีศักยภาพพอจะจัดการได้ตามระบบของเขา แต่เราทำเองทุกอย่าง เป็นสายส่งให้ตัวเอง จัดระบบเอง บางคนอาจมองว่าพิมพ์น้อยไม่คุ้ม แต่เราว่าคุ้ม เพราะเห็นตัวเลขชัดเจน ต้นทุนกับเงินกลับมาเร็วมาก ไม่ไปค้างอยู่ที่โกดังหรือสต๊อก"

"แต่จะทำอย่างนี้ก็ต้องรู้ฐานคนอ่าน ของตัวเองในระดับหนึ่งเช่นกัน"
เขาประเมินว่าคนอ่านวรรณกรรมตามความหมายเคร่งครัด ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ 4,000 คน จากประชากร 60 กว่าล้านนี่ละ

หากดูตามตัวเลข พิมพ์ 3,000 เล่มก็น่าจะขายหมด แต่เอาเข้าจริง ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะ

1.หนังสือไปไม่ถึง โดยเฉพาะต่างจังหวัด

2.เรื่องของดีมานต์-ซัพพลาย

ช่วงที่หนังสือวางไม่สมดุลกับคนซื้อ และเมื่อกลับมาหาอีกทีหนังสือก็หายไปเรียบร้อย ด้วยระยะเวลาการวางที่สั้นมาก ดังนั้นการประเมินกำลังของตน การเข้าหาคนอ่านโดยตรง และจำกัดจำนวนพิมพ์ น่าจะเป็นอีกทางออกหนึ่ง

ขณะเดียวกันก็ยังจะมี E-Book อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจพิมพ์ด้วยจำนวนดังกล่าว

"เปิดพื้นที่ใหม่ ในสนามใหม่ (กว่า)"

หน้าปกฉบับปฐมฤกษ์ของ"นิตยสารเรื่องสั้น" เป็นรูป "สุชาติ สวัสดิ์ศรี"

นิตยสารแจกฟรีในรูปแบบ E-Book เล่มนี้ เป็นโปรเจ็กต์ต่อเนื่องจากคำว่า "ให้โอกาส"

"ตอนที่เราเข้ามา เราเกิดได้เพราะสนามเรื่องสั้นตามหน้านิตยสาร แต่ตอนนี้มันน้อยลง พื้นที่มาตรฐานลดลง ทั้งที่นักเขียนรุ่นใหม่มีเรื่อยๆ ถึงตอนนี้เขาจะได้โชว์ผลงานมากกว่าเมื่อก่อน ผ่านบล็อก ผ่านเฟซบุ๊ก แต่ไม่มีคนคัดกรองหรือแนะนำ ซึ่งไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น"

"งานของหลายคนมีพลังและเป็นอนาคต วรรณกรรมจะไม่เติบโตเลยถ้าไม่มีพื้นที่ให้รุ่นใหม่ๆ"

ภาพรวมของเล่มจะประกอบด้วยเรื่องสั้น บทวิจารณ์วรรณกรรม และข่าวสารในแวดวง ซึ่งเขาตั้งใจทำอย่างน้อยสัก 1 ปี 12 ฉบับ เพื่อให้ทุกคนเห็นว่า ถ้าการพิมพ์ต้องลงทุนเยอะ การทำหนังสือขายยากแบบนี้เป็น E-Book ก็เป็นอีกโมเดลที่ไม่อยากให้มองข้ามและน่าต่อยอด

"ต่อยอดในทุกสิ่งเหมือนที่นิวัติทำอยู่ และจะทำต่อไปด้วยความรู้สึกของ "นักเขียนรุ่นใหม่" ตลอดเวลา"

ขอบคุณ
มติชนออนไลน์
คุณสิรนันท์ ห่อหุ้ม

สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ

Create Date : 25 มิถุนายน 2555
Last Update : 25 มิถุนายน 2555 10:46:54 น.		0 comments
Counter : 2604 Pageviews.
Share Tweet