"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
14 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
วรรณไว พัธโนทัย เล่าเรื่องสัมพันธ์ไทย-จีน ตอนสอง ส่งลูกในไส้ไปเป็นตัวประกันผูกมิตรไมตรีกับจีน




[วรรณไว พัธโนทัย เล่าเรื่องสัมพันธ์ไทย-จีน ตอนหนึ่ง : ยุคขุดบ่อหล่อธารา .. วันที่ 7 - 4 - 2555]




คุณวรรณไว พัธโนทัย ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ
ASTVผู้จัดการออนไลน์
(ภาพ โครงการปริญญาโทวัฒนธรรมจีนศึกษา มธ.)




วรรณไว พัธโนทัย และนวลนภา พัธโนทัย ได้มีโอกาสเข้าพบ
นายกฯโจว ผู้เป็นบิดาบุญธรรมเพียงไม่กี่ครั้งเนื่องจากท่านมี
ภารกิจมาก แต่การสนทนากับท่านทุกครั้งก็นำความประทับใจ
มาให้เขาเสมอ




มารดาของคุณวรรณไวได้มีโอกาสมาเมืองจีนเพื่อเยี่ยมลูกๆ
โดยมีนายกฯ โจวมาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง




ส่งลูกในไส้ไปเป็นตัวประกันสานมิตรไมตรีกับจีน

“คุณพ่อสนใจประวัติศาสตร์มาก ได้อ่านเรื่องสานสัมพันธไมตรีระหว่างเจ้าผู้ครองแคว้น โดยส่งลูกหลานไปเป็นบรรณาการ เป็นบุตรบุณธรรม เป็นคนรับใช้ แต่งงานเป็นทองแผ่นเดียวกัน เป็นต้น จึงคิดส่งลูกไปเป็นตัวประกัน เพื่อแสดงความจริงใจ ให้จีนเชื่อว่าไทยต้องการผูกมิตรกับจีนจริงๆ

“หะแรก ท่านโจว เอินไหล ได้ทัดทานความคิดคุณสังข์ ที่จะส่งลูกไปยังเมืองจีน ว่าอาจเกิดอันตรายเพราะพวกสายลับซีไอเอของสหรัฐฯ มีหูตาแพรวพราวทั่วไปหมด”

ในที่สุด คุณสังข์ก็ได้ตัดสินใจส่งบุตรธิดาสองคน คือ คุณวรรณไว และคุณสิรินทร์ (ขณะนั้นอายุ 12 ขวบ และ 8 ขวบ) ไปศึกษาที่เมืองจีน ภายใต้ความอุปการะของท่านโจว เอินไหลในเดือน ส.ค. 2499

“นี่เป็นต้นตอของชีวิตพิศดารของผม ที่คุณพ่อเป็นผู้ลิขิต” คุณ วรรณไว เล่า

“ที่จริง คนที่ควรไปคือ พี่มั่น (ดร.มั่น พัธโนทัย) เพราะเป็นบุตรชายคนโต โตมากกว่า แต่ที่ส่งผม ซึ่งเป็นบุตรคนที่สองไป เพราะชื่อของผมพ้องกับพระองค์เจ้าวรรณไวทยากร (หรือเสด็จในกรมกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์)

พระองค์วรรณฯ ประทานชื่อให้ผมเนื่องจากผมเกิดวันเดียวเดือนเดียวกับท่าน คุณพ่ออยากให้ท่านโจวได้ระลึกถึงคำมั่นสัญญา ที่ท่านให้ไว้แก่พระองค์วรรณฯ ในการประชุมบันดง

“คุณพ่อได้บอกเรื่องส่งพวกเราไปเมืองจีน ก่อนหน้าวันเดินทางวันเดียว พ่อน้ำตาคลอเบ้าด้วยความสงสารลูกกอดลูก อธิบายว่า ‘พ่อกับท่านจอมพล กำลังร่วมกันทำงานสำคัญเพื่อผูกมิตรกับประเทศจีน...พ่อรักลูก ลูกคือหัวใจของพ่อ แต่เพื่อชาติบ้านเมือง พ่อจำเป็นต้องตัดใจส่งลูกไปอยู่เมืองจีนสักพักหนึ่ง’

“และประวัติศาสตร์ตอนนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าคุณแม่ (วิไล พัธโนทัย) ไม่เห็นด้วย การยอมให้ลูกไปเมืองที่ไม่มีเครื่องบินไปลงโดยตรง ติดต่อทางจดหมาย-โทรศัพท์ก็ไม่ได้ สำหรับคนเป็นแม่ หัวอกแม่ เอาเลือดในอกสองก้อนไปอยู่ในประเทศศัตรู นับเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้น ประวัติศาสตร์ตอนนี้ ถ้าพ่อเป็นวีรบุรุษ แม่ก็เป็นวีรสตรี”

“ปกติการเดินทางไปจีนสมัยนั้นไปทางฮ่องกง แต่ที่ฮ่องกงสายลับอเมริกันเยอะเหลือเกิน ไปทางพม่าดีกว่า เก็บความลับได้ดีที่สุด ความสัมพันธ์จีน-พม่าดีมาก พม่าเป็นศูนย์กลางปฏิบัติการติดต่อลับระหว่างไทย-จีนในขณะนั้น

“พวกเราสี่คน ผมและน้อง และพี่เลี้ยงสองคน คือคุณเจริญ กนกรัตน์ คุณพิศิษฐ์ ศรีเพชร คนสนิทของพ่อเป็นคนพาไป นั่งรถเข้าพม่าโดยไม่ต้องไปตรวจหนังสือเดินทาง ประทับตราเอกสารเข้าเมืองเลย

ตรงนี้เป็นความอนุเคราะห์ของนายกฯ อูนุ ท่านช่วยเต็มที่ เมื่อเห็นไทย-จีนจะเริ่มเปิดสัมพันธ์กัน ท่านก็ยินดีด้วย เอารถไปส่งขึ้นเครื่องบินทหารที่จีนส่งมารับที่ย่างกุ้ง...”

และการณ์ก็เป็นไปตามที่ท่านโจวมอง ปีต่อมาพวกสายลับอเมริกันก็รู้เรื่องหมด จอมพล ป.ก็กระเด็นออกจากรัฐบาล โดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารบกทำการปฏิวัติล้มจอมพล ป. ในวันที่ 16 ก.ย. 2500

“พวกอเมริกันนั้น ผลประโยชน์เป็นใหญ่ หมดประโยชน์ก็โยนทิ้ง ผิดกับจีนที่มีความจริงใจ แม้จอมพล ป.หลุดจากอำนาจแล้ว ผู้นำจีนก็ยังเลี้ยงดูแลผมและน้องอย่างดี จนเข้ามหาวิทยาลัยปักกิ่ง แม้เวลาล่วงไปนานนับสิบๆปี ท่านโจว เอินไหล ได้ถึงแก่อสัญกรรมในปี 2519

คุณสังข์ล้มป่วยเป็นอัมพาตในปี 2521 รัฐบาลจีนก็ยังได้เชิญท่านไปรักษาตัวที่ปักกิ่งจนอาการดีขึ้น”

จอมสฤษด์ ธนะรัชต์ ผ่าตัดม้ามที่อเมริกาเพียงวันเดียว ก็บินกลับมากรุงเทพฯ ทำการรัฐประหารอีกครั้งในวันที่ 20 ต.ค. 2501 ทำลายระบอบประชาธิปไตย ดำเนินนโยบายขวาจัด หันมาต่อต้านจีนอย่างไม่ลืมหูลืมตา

สัมพันธ์ไทย-จีนมีอันหยุดชะงักงันไป มีการจับกุมผู้ที่เคยเดินทางไปจีน โดยยัดเยียดข้อหา ‘คอมมิวนิสต์’ รวมทั้งคุณสังข์ และกัลยาณมิตรในปฏิบัติการทูตใต้ดินในจีน

คุณสังข์ถูกคุมขังนาน 7 ปี ในยามวิบัติเช่นนั้น ระหว่างนั้น คุณวิไล ได้เสี่ยง “ดำดิน” ไปเยี่ยมลูกที่ปักกิ่ง ปี 2504

เมื่อศาลฯ พิพากษาคุณสังข์ชนะคดี มิได้มีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ตามที่จอมพลสฤษดิ์และพวกกล่าวหาแต่อย่างใด และออกจากคุกในปี 2509 คุณสังข์คิดถึงลูกจะไปเยี่ยมลูกที่เมืองจีน ได้ติดต่อสันติบาล

แต่สันติบาลแจ้งว่า “ท่านเป็นคนมีประวัติทางการเมือง ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ”

และจู่ๆนาย นอร์แมน บี. ฮันน่า ที่ปรึกษาเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ก็เชิญคุณสังข์ไปทานข้าว ฉลองการพ้นโทษ (ทั้ง ๆ ที่อเมริกันอยู่เบื้องหลังจับคุณสังข์เข้าคุก) เมื่อคุณสังข์บอกว่าไม่ได้เจอหน้าลูก 10 ปีแล้ว อยากไปเยี่ยมลูก ฮันน่าตอบว่า “ตกลง เดี๋ยวจัดการให้”

และหนึ่งสัปดาห์ต่อมา คุณสังข์ก็สามารถเดินทางไปประเทศจีน ‘อเมริกาสามารถบีบไทยออกหนังสือเดินทางได้’.. ซึ่งต่อมาเมื่อมีการแฉเรื่องนี้ออกหนังสือพิมพ์ สหรัฐฯ โกรธมาก

การที่คุณสังข์ได้เดินทางไปเยี่ยมลูกครั้งนั้น หาใช่ความเมตตากรุณาของอเมริกันแต่อย่างใด แต่มีผลประโยชน์แลกเปลี่ยน โดยสหรัฐฯได้ฝากคุณสังข์ ช่วยพูดจากับผู้นำจีนเรื่องสงครามเวียดนามที่ยืดเยื้อมานาน และอเมริกันเบื่ออยากจะถอยโดยไม่เสียหน้า ขอให้ผู้นำจีนช่วยจัดการเจรจายุติสงครามในประเทศใดก็ได้...

แต่เวลานั้น คือ ปี 2509 (1966) จีนกำลังอยู่ในช่วงการปฏิวัติใหญ่ทางวัฒนธรรมโดยแก๊งสี่คน การจะพบตัวผู้นำนั้นยากลำบาก ผู้นำทางการเมืองหลายคนถูกใส่ร้ายว่าเป็นพวกปฏิกิริยา ถูกลงโทษส่งไปทำงานในชนบทก็มาก

ส่วนท่านนายกฯโจว เอินไหลก็เหลือแต่ชื่อ อำนาจทุกอย่างตกอยู่ในอุ้งมือของแก๊งสี่คน นำโดยภรรยาของเหมา เจ๋อตง คือนางเจียง ชิง

เมื่อคุณสังข์ไปถึงจีน คุณวรรณไวได้เล่าสถานการณ์ในจีนน่ากลัวมาก การนำเรื่องที่สหรัฐฯ ฝากมาไปบอกแก่จีนนั้นเสี่ยงอันตรายมาก “...

แต่คุณพ่อก็ไม่ยอม บอกว่าการทำให้คนเลิกฆ่ากันได้และกลับมาเป็นมิตรกันนั้นเป็นเรื่องที่ดี พ่อไม่กลัวอะไรทั้งนั้น...” คุณสังข์ยืนกราน และไปพบกับผู้นำยามพิทักษ์แดง หรือเรดการ์ด

พวกเรดการ์ดไม่ให้เข้าพบท่านโจว โดยอ้างว่าท่านโจวสุขภาพไม่ดี และได้มอบหมายให้ท่านทูตเหยา จงหมิง (ทูตจีนประจำพม่าที่เป็นตัวแทนนายกฯ โจวเจรจากับคุณสังข์ที่ย่างกุ้งในปี 2598) มาฟังเรื่องราวที่คุณสังข์เล่าความปรารถนาของสหรัฐฯ

คุณวรรณไว เล่า “หลังจากรู้ไต๋ของมะกันแล้ว ทูตเหยาก็หายไปหลายวัน สุดท้ายได้กลับมาตอบอย่างแข็งกร้าวว่า มะกันทำจีนไว้เจ็บแสบ เลือดต้องล้างด้วยเลือด จีนไม่มีวันประนีประนอมกับสหรัฐฯ เด็ดขาด จะยืนข้างเวียดนามต่อสู้กับสหรัฐฯต่อไป...”

ท่านทูตเหยาบอกว่าโลกขณะนี้แบ่งเป็นสองค่าย จะซ้ายหรือขวา ให้คุณสังข์เลือกเอาเองว่า “จะอยู่ในจีนหรือจะกลับไปให้อเมริกาใช้งาน”

“คุณพ่อตอบไปว่า "ผมเห็นว่าเวลานี้ถ้าประเทศมหาอำนาจไม่หันมาจับมือกัน สันติภาพโลกก็เกิดขึ้นไม่ได้"

สุดท้ายคุณสังข์ตัดสินใจขอกลับเมืองไทย ขอให้จีนคืนหนังสือเดินทางให้ พร้อมกับขอเยี่ยมคารวะท่านโจวสักครั้ง แต่เรดการ์ดก็อ้างท่านโจว “ไม่ว่าง...ไม่ว่าง...” ทูตเหยากลับมาบอกว่าหาหนังสือเดินทางไม่เจอ จนคุณสังข์ยื่นคำขาดจะกลับเมืองไทย ในที่สุด คุณวรรณไว และนวลนภาก็มาส่งที่ชายแดน

ถูกขับออกจากจีน
เมื่อคุณสังข์กลับเมืองไทย ไม่กี่เดือนต่อมา ตำรวจจีนก็เอาแถลงการณ์มาประกาศ ระบุว่าคุณวรรณไวอยู่จีนมานาน ไม่รู้บุญคุณข้าวแดงแกงร้อน จึงตัดสินให้เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา ขับออกจากจีนภายใน 48 ชั่วโมง

วันรุ่งขึ้นตำรวจก็มารับตัวคุณวรรณไว ไปขึ้นเครื่องบินไปก่วงโจว ไปพักโรงแรมคืนหนึ่งรุ่งเช้าตีห้าก็มาปลุก พาขึ้นรถไปที่ชายแดน “ตอนนั้น กลัวมาก กลัวถูกยิงเสียกลางทาง โชคดีที่รอดมาได้ ส่วนน้องสาว (สิรินทร์) ก็แยกไปอยู่กับเรดการ์ด เขียนบทความด่าพ่อเป็นสมุนซีไอเอ ประกาศตัดพ่อตัดลูก ด้วยสถานการณ์บังคับ”

“ออกจากจีนแล้ว ก็เจอปัญหาพาสปอร์ตหมดอายุ จะขอลี้ภัยการเมืองอยู่ที่มาเก๊า ตอนนั้นกลับเมืองไทยไม่ได้ เพราะอยู่จีนมานาน อาจโดนข้อหาคอมมิวนิสต์ แต่เจ้าหน้าที่โปรตุเกสในมาเก๊าก็พาตัวไปที่สถานกงสุลไทย และก็คุมตัวอยู่ที่นั่น”

“จากนั้นเจ้าหน้าที่กงสุลไทยในมาเก๊า ส่งเรื่องไปยังฮ่องกง ทูตไทยที่ฮ่องกงรู้ที่มาที่ไปเป็นอย่างดี ก็รีบเดินทางด่วนมาถึง ผมโทรเลขไปบอกพ่อ พ่อก็ไปหาทูตฮันน่าให้ช่วยจัดการ ผมไปอยู่ที่ฮ่องกง มีเจ้าหน้าที่ทหารไทยสามคนมาสัมภาษณ์ เขาจะเอาตัวกลับไทย แต่เราไม่ยอม กลัวโดนข้อหาคอมมิวนิสต์ ในที่สุดก็อยู่รอจนกระแสเย็นลง”

เมื่อกลับประเทศไทย เจ้าหน้าที่ก็พามาอยู่ที่บ้านสุขุมวิท ซอย 24 มีตำรวจไทยคอยเฝ้าอยู่สามคน เจ้าหน้าที่อเมริกันแวะเวียนมาซักถามเรื่องราวเกี่ยวกับจีนมิได้ขาด อิทธิพลอเมริกันสมัยนั้นแรงมาก ขนาดไล่ตำรวจสันติบาลไทยยศสูงที่เข้ามาหาคุณวรรณไว ว่า

“นี่ คนของผม” สุดท้ายอเมริกันยื่นข้อเสนอให้คุณวรรณไวไปเป็นที่ปรึกษาฝ่ายจีนให้กับสหรัฐฯ

คุณวรรณไวปฏิเสธ “จะให้ออกจากจงหนานไห่ ไปเข้าทำเนียบขาวนั้น อกตัญญู ผมทำไม่ได้ ทำอย่างนั้นยิ่งกว่าหมาอีก จีนเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ก็เหมือนพ่อแม่เรา ”

และคุณวรรณไว ก็ได้กลับมาอยู่กับครอบครัว ได้ทำงานถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับจีน เขียนหนังสือ โจว เอินไหล ผู้ปลูกไมตรีไทย-จีน ซึ่งตีพิมพ์ครั้งสอง เมื่อปีที่ผ่านมา และแปลวรรณกรรมเรื่องสามก๊ก


ขอบคุณ
ผู้จัดการออนไลน์
โครงการปริญญาโทวัฒนธรรมจีนศึกษา มธ.


โสรวารสิริสวัสดิ์ค่ะ



Create Date : 14 เมษายน 2555
Last Update : 14 เมษายน 2555 20:25:31 น. 0 comments
Counter : 3145 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.