บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
10 มกราคม 2554
 
All Blogs
 

Life&Family(37)...สองนักคิดชวนสร้างบ้านให้สงบ-ร่มเย็นก่อนคิดจัดเลี้ยงหรูหรา






พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล (ซ้าย) และศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ (ขวา)

ในยุคที่การสร้างครอบครัว หมายถึงการมองหาสถานที่จัดเลี้ยง ชุดแต่งงาน อัลบั้มภาพ สไลด์โชว์ การเชื้อเชิญแขกเหรื่อเพื่อมาร่วมแสดงความยินดี การจัดหาสถานที่ฮันนีมูน และอื่น ๆ อีกมากมายเท่าที่คู่แต่งงานจะออกไอเดียกันได้ แต่ทันทีที่ผ่านคืนแต่งงานไป สิ่งที่มุ่งมั่นเตรียมงานมาตลอดนั้นแทบจะหมดความสำคัญลงในทันที และสิ่งที่สำคัญกว่าอย่าง "จะทำอย่างไรให้ครอบครัวที่สร้างขึ้นแข็งแรง อบอุ่น และอยู่รอด" จะเข้ามาแทนที่อย่างเต็มตัว

ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวให้ความเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า “ผมอยากเห็นคนที่คิดจะแต่งงานหรือมีครอบครัวคิดเรื่องความพร้อมในการสร้างคน สร้างบ้านให้อบอุ่น เย็นสงบก่อนจะคิดแต่เรื่องการจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ จัดเลี้ยงที่ไหน จะถ่ายรูปแต่งงานอย่างไร สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่หัวใจในการสร้างครอบครัว ผมอยากเห็นคู่รักหรือคนที่กำลังคิดจะแต่งงานเปลี่ยนวิธีคิด การแต่งงานไม่ใช่เรื่องการอวดความมั่งมี อวดโก้อวดความหรูหรา หากแต่เป็นการเริ่มต้นที่จะใช้ความรักในการบ่มเพาะความเข้าใจ และพร้อมจะให้อภัยกันและกัน เมื่อมีลูกเด็กๆ จะได้ซึมซับความรัก ความเข้าใจและพร้อมจะให้อภัย นี่คือสันติภาพที่ควรจะเริ่มต้นที่บ้าน ถ้าเราช่วยกันฟูมฟักเด็ก ๆ ลูกหลานตั้งแต่วัยเยาว์ ปัญหาความขัดแย้ง ความรุนแรงจะลดลง”

"บ้านและครอบครัวถือเป็นหน่วยทางสังคมที่สำคัญมากในการทำให้เด็กไทยเกิดสันติสุขขึ้นในจิตใจ ดังนั้นพ่อแม่ต้องทำบ้านให้เป็นบ้านที่เย็นสงบ ร่มเย็น เป็นที่พึ่งให้กับเด็กๆ เพราะอย่าลืมว่าทุกคนล้วนแล้วต่อต้องกลับมาบ้าน ไม่ว่าจะไปทำกิจกรรมที่ไหน ไปเรียน ไปเที่ยว หรือมีปากเสียงกับพ่อแม่แต่เมื่อถึงจิตใจสงบลงทุกคนก็อยากกลับบ้าน"

ด้านพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ พระนักวิชาการด้านสันติภาพและการอนุรักษ์ทรัพยากรป่า กล่าวว่า การจะสร้างให้เด็กไทยมีสันติภาพขึ้นในใจนั้น สิ่งสำคัญต้องเริ่มจากพ่อแม่ต้องเข้าใจเด็กและให้เวลาแก่เด็ก เริ่มจากให้เวลาแนะนำเด็ก อยู่ร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก และที่สำคัญคือให้เวลาที่จะฟังเด็ก

"เด็กมิใช่แก้วเปล่า ทั้งนี้มนุษย์ทุกคนมีเมล็ดพันธ์แห่งปัญญาและคุณธรรมอยู่แล้วในใจ ด้วยเหตุนี้เด็กทุกคนจึงมีความใฝ่รู้และใฝ่ดี หน้าที่ของการศึกษาคือกระตุ้นและส่งเสริมความใฝ่รู้และใฝ่ดีให้เจริญงอกงาม เหมือนเมล็ดพันธุ์น้อย ๆ ที่ถูกกระตุ้นและส่งเสริมจนเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ แผ่กิ่งก้านสาขา และหยั่งรากลึก ให้ดอกไม้ที่งดงามและผลไม้ที่หอมหวานแก่สรรพชีวิต น่าเสียดายที่การศึกษาทุกวันนี้ได้ทำลายความใฝ่รู้และใฝ่ดีในตัวเด็ก ทั้งนี้เพราะผู้ใหญ่พยายามยัดเยียดอะไรต่ออะไรให้เขา ซึ่งบางครั้งกลายเป็นการควบคุมปิดกั้นมิให้เขาเติบโตจากภายใน"

นอกจากความใฝ่รู้และความใฝ่ดีแล้ว เด็กยังมีศักยภาพหรือความสามารถที่แฝงเร้นต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น ความสามารถในทางศิลปะ ความสามารถในทางกีฬา โดยที่เด็กเองอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนมี หน้าที่ของครูหรือพ่อแม่คือช่วยดึงเอาความสามารถนั้นออกมา ตรงนี้เป็นเรื่องของศิลปะที่ครูและพ่อแม่ต้องเรียนรู้และต้องอาศัยความอดทนไปพร้อมกัน บางครั้งเพียงแค่คำชมและการให้กำลังใจก็สามารถกระตุ้นให้ศักยภาพดังกล่าวออกมาได้

“ชีวิตที่ดีงามและเป็นสุขเกิดจากการเรียนรู้ที่ถูกต้อง และการเรียนรู้นั้นก็ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ห้องเรียน โลกรอบตัวของเด็กต่างหากคือแหล่งเรียนรู้ที่แท้จริงของเด็ก ไม่เว้นแม้แต่ศูนย์การค้า สำนักงาน และท้องถนน เด็กนั้นพร้อมจะเรียนรู้อยู่แล้ว สิ่งที่เด็กต้องการก็คือผู้ชี้แนะหรือกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ที่ถูกต้อง ตรงนี้เองที่พ่อแม่และครูสามารถจะมีบทบาทอย่างสำคัญ"

"การสอนด้วยการพูดให้เด็กคล้อยตามหรือท่องจำนั้น มีความสำคัญน้อยกว่าการกระตุ้นให้เด็กรู้จักคิดอย่างถูกทาง บทบาทของพ่อแม่และครูมิใช่ผู้ให้คำตอบ แต่เป็นผู้หมั่นตั้งคำถามกับลูกและศิษย์ การถามเขาว่าพ่อแม่จะรู้สึกอย่างไรหากมีรอยเท้าเปื้อนโคลนเข้ามาในบ้าน ย่อมให้ผลดีต่อเด็กมากกว่าการบอกเขาอย่างเบ็ดเสร็จว่าการกระทำดังกล่าวไม่ดีอย่างไร”

พระไพศาล กล่าวอีกว่า การดึงด้านดีของเด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญ อันจะส่งเสริมให้เด็กมีหัวใจใฝ่สันติขึ้นมาเอง บทบาทของพ่อแม่จึงสำคัญมาก ต้องไม่บั่นทอนพลังบวกหรือความใฝ่ดีในใจเด็ก หากแต่ต้องช่วยส่งเสริมพลังบวกนั้นขึ้นมา เด็กก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่ใฝ่สันติได้ การเรียนรู้แบบเป็นฝ่ายรับในที่สุดแล้วทำให้ชีวิตของเราถูกกำหนดโดยสิ่งแวดล้อมรอบตัวอย่างเดียว จะสุขหรือทุกข์ก็เพราะสิ่งแวดล้อม ทั้ง ๆ ที่เราสามารถรักษาจิตให้เป็นอิสระจากความผันผวนปรวนแปรของโลกรอบตัวได้หากมีปัญญาที่เกิดจากการเรียนรู้อย่างถูกต้อง


^_^


เรื่องและภาพจาก ผู้จัดการออนไลน์




 

Create Date : 10 มกราคม 2554
0 comments
Last Update : 10 มกราคม 2554 19:55:28 น.
Counter : 588 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


atruthoflife10
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




กลับคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยสุขภาพที่ดีกว่า

ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553

ดับไป....???

Friends' blogs
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.