บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
12 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
Life&Family(53)...คำสอน 4 หมวด






พบพ่อแม่จีนรุ่นใหม่ยังเน้นสอนลูกหลานผ่านคำคมจีน เชื่อปลูกฝัง "เด็กดี"ดีที่สุดโดยเฉพาะคำสอนใน4 หมวด ได้แก่ การดำเนินชีวิต การมุ่งพัฒนาตนเอง ความกตัญญู และอุดมการณ์ทางการเมือง โดยปรัชญาขงจื่อ-สามก๊ก เด่นสุด นักวิชาการจีนศึกษาชี้เด็กจีนจะได้รับการปลูกฝังตั้งแต่เล็กๆทั้งที่บ้านและโรงเรียน โดยจะเน้นใช้ประโยคสั้น คล้องจอง เพื่อให้จำง่าย

คำหรือถ้อยคำที่มีคุณค่า แฝงด้วยคำสอนของนักปรัชญาที่สะท้อนวิถีชีวิตในแต่ละยุคสมัย เปรียบเสมือนสมบัติอันล้ำค่าของมวลชนที่นำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตและใช้อบรมสั่งสอนคนรุ่นหลัง พร้อมยังคงส่งต่อแนวความคิดผ่านคำคมเหล่านั้นจากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะในประเทศจีน คนจีนตั้งแต่สมัยก่อนนั้นให้ความสำคัญมากกับการสั่งสอนลูกหลานโดยนำเอาคำคม หรือ วาทะ สำคัญของคนต่างๆมาปลูกฝังแนวคิด และค่านิยมสำคัญๆให้ลูกหลาน จวบจนปัจจุบันการสั่งสอนลูกหลานด้วยวิธีดังกล่าวยังได้รับความนิยม และนี่อาจเป็นสิ่งสำคัญให้จีนประเทศขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยคนมากถึง 1,300 ล้านคนยังคงรวมกันเป็นปรึกแผ่นและเป็นหนึ่งเดียวอยู่ได้...

4 หมวดคำสอน-ป้อนให้เป็นเด็กดี

ดร. ศศิพร เพชราภิรัชต์ อาจารย์ประจำ สาขาภาษาจีน ภาควิชาภาษาตะวันออก คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าปัจจุบันนี้พ่อแม่ชาวจีนยังคงนิยมนำคำคมสุภาษิตจีนที่เด่นๆ มาสอนลูกหลานของตน โดยนำคำคมที่นักปรัชญาเมธีที่ยิ่งใหญ่ของจีนหลายท่านมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติตน

ดังนั้นคำคมที่เด่นๆ ของคนจีนสมัยก่อนยังคงมีอิทธิพลต่อคนยุคใหม่มาก จะเห็นได้จากมีการนำชีวประวัติของบุคคลสำคัญของจีนหรือวรรณกรรมคลาสสิคของจีนมาสร้างเป็นละครทีวีหรือภาพยนตร์มากมาย ซึ่งในละครและภาพยนตร์เหล่านี้ล้วนเต็มไปด้วยคำคมที่เด่นๆ ซึ่งสะท้อนความเป็นอมตะของคำพูดเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น เรื่อง ขงจื่อ หรือ สามก๊กตอนต่างๆ คำคมเหล่านี้ล้วนกระตุ้นให้เยาวชนชาวจีนรักความเป็นชาติจีน ปลูกฝังจิตสำนึกความเป็นคน สร้างแรงขับเพื่อให้เยาวชนเติบโตอย่างมีคุณธรรม

"ตัวอักษรที่ใช้ประกอบสร้างให้เป็นประโยคสั้นๆ ล้วนแฝงไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง แทบทุกประโยคจะสั้น กระทัดรัด และมีสัมผัสคล้องจอง ทำให้ง่ายต่อการจำ ซึ่งเด็กๆ จะได้รับการอบรมสั่งสอนเกี่ยวกับคำคมเหล่านี้ตั้งแต่เล็กๆ ทั้งในโรงเรียนและที่บ้าน"

จุดเด่นของคำคมที่เป็นคำสอนเหล่านี้เพื่อนำไปสอนเยาวชนจีน จะเน้นใน 4 ประการสำคัญคือการใช้ชีวิตในสังคม การพัฒนาตนเองให้มีปัญญา การกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่และอุดมการณ์ทางการเมือง

อ่อนน้อมถ่อมตน รักษาคุณธรรม

ในส่วนของการปฏิบัติตนในการใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จ มีคำคมที่เด่นๆ และได้รับความนิยมในการนำไปสอนลูกหลานมาตลอดที่สำคัญได้แก่

คำคมของ ขงเบ้งในเรื่องสามก๊ก ที่ได้กล่าวถึงหนทางการปฏิบัติตนเพื่อนำไปสู่ความเป็นคนที่มีคุณธรรมและประสบความสำเร็จว่า "เงียบสงบเพื่อปฏิบัติตน สมถะเพื่อสร้างคุณธรรม" เพื่อสอนให้เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ขณะเดียวกันก็สอนให้มีชีวิตเพื่อสร้างคุณธรรมด้วย

ในปรัชญาเมธีจวงจื่อกล่าวไว้ว่า "มนุษย์เราเกิดมาอยู่ท่ามกลางฟ้าและดิน เวลาผ่านไปเร็วราวกับม้าชั้นดีที่ควบผ่านรอยแยก" ท่านเสนอความสำคัญของเวลาที่ไม่คอยท่าใคร ดังนั้นเด็กๆ ควรตั้งใจเรียน เพราะเวลาไม่สามารถย้อนกลับมาได้ และผ่านไปเร็วราวกับการควบม้าชั้นดี

ส่วนปรัชญาเหลาจื่อ สอนว่า "เรื่องยากต้องทำให้ง่าย เรื่องใหญ่และสำคัญต้องทำอย่างรอบคอบ" เน้นให้เห็นถึงการทำงานที่ถูกต้อง และต้องคิดพิจารณาในการทำงานแต่ละชิ้นอย่างรอบคอบ อีกทั้งยังต้องเห็นความสำคัญของการพูด เช่น "คำจริงไม่ไพเราะ คำไพเราะไม่จริง"

ปรัชญาเมธีขงจื่อกล่าวว่า "เรื่องเล็กไม่อดทน ย่อมจะเสียการใหญ่" แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความอดทน หรือปรัชญาของนักปรัชญาหวังหยางหมิงที่สอนว่า "ไม่มีความตั้งใจมุ่งมั่น สิ่งต่างๆ ย่อมก็ไม่สามารถสำเร็จได้" โดยเน้นความตั้งใจในการเรียนและทำงานให้ประสบความสำเร็จ

แนวคิดดังกล่าวได้ทำให้คนจีนทั้งในอดีตมาจนปัจจุบันนี้ มีลักษณะเฉพาะตัวที่เด่นชัด คือเป็นคนขยันหมั่นเพียร และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก

พัฒนาความเป็นคนให้เด็กดี

อย่างไรก็ดี ถ้าสังเกตและศึกษาให้ลึกซึ้งจะพบว่าปรัชญาเมธีจีนที่ยิ่งใหญ่หลายท่านยังให้ความสำคัญเรื่อง การพัฒนาความเป็นคนอย่างมากด้วย เนื่องจากความเป็นคนนั้นค่อนข้างซับซ้อน หากบ่มเพาะเด็กและเยาวชนไม่ดีก็อาจทำให้เยาวชนจีนกลายเป็นคนเลวได้

คำคมที่สำคัญได้แก่ "รู้ก็บอกว่ารู้ ไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้ นั่นแหละคือปัญญาที่แท้จริง" คำคมนี้กล่าวโดยท่านขงจื่อ ใช้เตือนใจทุกคนว่า การใช้ชีวิตและการแสวงหาความรู้ จำต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตัวเองเป็นที่ตั้ง และสิ่งนี้จึงเรียกว่า ปัญญา

หรือคำกล่าวที่ว่า "ในกลุ่มคน 3 คนที่เดินมา ย่อมมีครูของข้าพเจ้าอยู่ด้วยเสมอ ข้าพเจ้าเลือกข้อดีของพวกเขาเพื่อเอาอย่าง ดูข้อเสียเพื่อศึกษาและปรับปรุงตัวเอง" เพื่อสอนว่า คนเราควรจะรู้จักการอ่อนน้อมถ่อมตนและรู้จักเรียนรู้ข้อดี-ข้อเสียจากผู้อื่นเพื่อพัฒนาตนเอง

"คนที่รู้ใจผู้อื่นคือผู้มีปัญญา คนที่รู้ใจตนเองคือผู้รู้แจ้ง คนที่ชนะผู้อื่นคือผู้มีกำลัง คนที่ชนะตนเองคือผู้เข้มแข็ง คนรู้จักพอเป็นคนร่ำรวย" กล่าวโดยท่านเหลาจื่อ เน้นให้ถึงความเป็นคนที่มีคุณธรรมที่ประกอบด้วยคุณลักษณะต่างๆ

"ผู้รักผู้อื่น ย่อมได้รับรักตอบ ผู้เคารพผู้อื่น ย่อมได้รับความเคารพตอบ" ท่านเมิ่งจื่อกล่าวไว้ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตัวต่อผู้อื่นด้วยความรักและเคารพ

"มนุษย์ย่อมมีอุดมการณ์และความหวัง ถึงแม้ว่าระดับจะสูงต่ำไม่เสมอกัน แต่ก็มีความหมาย" กวีเอกสมัยจีนเกิดการปฏิวัติ หลู่ซวิ่น เสนอความเป็นคนในอีกแง่หนึ่งคือ ความมีอุดมการณ์และความหวังจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้มีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข หรือ"ตั้งใจเรียนให้ดี แล้วทุกวันตัวเราจะพัฒนาขึ้น" โดยท่านประธานเหมา เจ๋อตุง

ขงจื่อเน้น "กตัญญู"

ความกตัญญูเป็นอีกเรื่องที่ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมาก โดยจะเห็นได้จากตัวอักษรจีนอ่านว่า เซี่ยว ประกอบด้วยส่วนบนหมายถึงคนชรา ส่วนล่างหมายถึงลูก ตัวอักษรจีนคำนี้แสดงให้เห็นว่า บิดามารดาที่ชราภาพต้องมีลูกอยู่เบื้องล่างคอยดูแล โดยเฉพาะปรัชญาเมธี ขงจื่อ ก็ให้ความสำคัญกับความกตัญญูเป็นอันดับแรก ท่านเห็นว่าความกตัญญูเป็นต้นกำเนิดของคุณธรรมทั้งหลาย ดังนั้นทุกคนควรสำนึกและปฏิบัติรักษาอยู่เสมอ ท่านมีคำคมที่เกี่ยวกับความกตัญญูมากมาย เช่น

"หมื่นพันตำลึงทองมากมาย ยากจะซื้อชีพกายบิดามารดา" คำคมนี้เปรียบความสำคัญของบิดามารดาว่าแม้แต่เงินทองก็เปรียบไม่ได้

"เมื่อบิดามารดายังมีชีวิตอยู่แต่ลูกไม่เคารพดูแล คราวเมื่อท่านนิ่งแน่กลับร้องไห้ให้ป่วยการ" บอกถึงความอกตัญญู คือการไม่ดูแลบิดามารดายามเมื่อท่านมีชีวิตอยู่ แต่เพิ่งจะรู้ถึงบุญคุณของท่านยามที่ท่านจากไปแล้ว การร้องไห้ระลึกถึงบุญคุณท่านนั้นไร้ประโยชน์อย่างยิ่ง

"พระคุณบิดานั้นเพียงพสุธา พระคุณมารดาดั่งมหาสมุทรใหญ่" เปรียบความยิ่งใหญ่ของบุญคุณบิดามารดากับพื้นดินและมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ไพศาลเหลือคณานับ

"รักลูกผูกถวิลจนสิ้นใจ ไม่มีใครเหมือนดั่งบิดามารดา" คำคมนี้กล่าวถึงความรักที่บริสุทธิ์ที่บิดามารดามีต่อลูก

ใช้ "สามก๊ก" ส่งต่ออุดมการณ์การเมือง

นอกจากการปลูกฝังในเรื่องคุณธรรม การพัฒนาตนเอง และความกตัญญูแล้ว ยังพบว่า ชาวจีนได้มีการปลูกฝังด้านอุดมการณ์ทางการเมืองเสริมไปด้วย โดยเฉพาะการนำคำคมในนวนิยายชื่อดังอย่างเรื่อง สามก๊ก ได้มีคำคมที่เกี่ยวกับการเมืองการปกครองและความเป็นผู้นำมากมายมาสั่งสอนลูกหลาน อาทิ

"สถานการณ์ในโลกนี้ เมื่อแยกกันนานก็จักรวมตัว เมื่อรวมตัวนานก็จักแยกกัน" สื่อถึงความเป็นจริงของสังคมว่ามีการรวมตัวก็ย่อมมีการแยกตัว เหมือนมีเกิดก็ย่อมมีดับ หากจะเป็นผู้นำต้องเข้าใจกฎธรรมชาติข้อนี้

"พญาอินทรีบินไกลนับหมื่นลี้ นกธรรมดาสามัญฤาจักรู้เจตจำนงค์ของมัน" พญาอินทรี หมายถึงผู้นำประเทศ ส่วนนก หมายถึงประชาชนรากหญ้า คำคมนี้เป็นการตัดพ้อผู้นำว่าประชาชนธรรมดาจะรู้ได้อย่างไร ถ้าผู้นำประเทศไม่ได้บอก ซึ่งส่งผลให้ประเทศไม่สามารถก้าวต่อไปได้ ดังนั้นผู้นำควรบอกผู้น้อยว่าจะนำประเทศไปในทิศทางไหน

"คิดทำการใหญ่ อย่าสนใจเรื่องเล็กน้อย" บอกให้ผู้นำอย่านำเรื่องเล็กน้อยกลับมาคิดหรือใส่ใจให้มากนัก มุ่งไปที่การปกครองหรือเรื่องที่สำคัญกว่าให้ดีก็เพียงพอแล้ว

"ในสมัยราชวงศ์ซ่ง ซู ตง โพ ยังเน้นให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่ดี คือผู้ที่ทำงานใหญ่ในอดีตไม่เพียงแต่มีความสามารถเหนือคน ยังต้องมีปณิธานอันแน่วแน่แก่กล้า"

ท่าน ซุน จง ซาน เป็นนักปกครองที่เปี่ยมด้วยคำคมที่แฝงความหมายที่กินใจ ท่านเคยกล่าวไว้ว่า "ความมุ่งมาดปรารถนาของข้าพเจ้าก้าวรุดหน้าไปอย่างองอาจห้าวหาญโดยไม่เกรงกลัวอุปสรรคใดๆ ยิ่งถูกขัดขวางยิ่งต้องต่อสู้ยืนหยัดอย่างไม่ระย่อท้อถอย" เช่นเดียวกับท่านประธานเหมาเจ๋อตุงได้กล่าวไว้ว่า "คำพูดของข้าพเจ้าแปดตัวอักษร คือ ดาวเทียมทยานฟ้า ธงแดงบนดิน" หรือคำกล่าวที่มีชื่อเสียงของท่านคือ "ประชาชนชาวจีนได้ลุกขึ้นมาแล้ว" คำกล่าวของท่านเหล่านี้ล้วนเป็นแรงกระตุ้นผลักดันให้ชนชาวจีนเกิดความรักชาติอย่างยิ่งยวด รวมถึงการปลุกจิตสำนึกของพวกเขาอีกด้วย


^_^


ที่มา : Mail ฉบับหนึ่ง






Create Date : 12 มกราคม 2554
Last Update : 12 มกราคม 2554 17:28:43 น. 0 comments
Counter : 1566 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

atruthoflife10
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




กลับคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยสุขภาพที่ดีกว่า

ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553

ดับไป....???

Friends' blogs
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.