บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
11 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
Life&Family(43)...อย่าเบื่อในการตอบปัญหาของลูกๆ






รักลูกให้ถูกทาง
หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ
ท่านพ่อแม่ที่นับถือทั้งหลาย...

วันหนึ่ง ข้าพเจ้ายืนรอรถไฟอยู่ที่สถานีอุตรดิตถ์ ได้พบเหตุการณ์อย่างหนึ่งซึ่งเป็นประโยชน์มาก อยากนำมาเล่าให้ท่านได้ฟังบ้าง คือมีชายคนหนึ่งแต่งตัวทันสมัย เข้ามาในชานชาลาสถานีพร้อมกับเด็กชายน้อยๆ ซึ่งพูดได้ดีแล้ว พอพ่อลูกนั่งพักเรียบร้อยแล้ว เด็กน้อยก็เริ่มตั้งปัญหาถามพ่อทันที

นั่นอะไรพ่อ? พ่อก็บอกว่ารถไฟ มันจะไปไหน?...พ่อหนูน้อยถามต่อไป พ่อตอบว่ามันจะไปที่โรงรถจักร เด็กถามต่อไป ว้า! ทำไมมันจึงทำเสียงดังหวีดๆ จ้ะพ่อ? พ่อของเด็กนั้นได้พูดด้วยอารมณ์โกรธว่าไม่รู้! ถามซอกแซกจริง จะรู้เอาไปทำไมกัน นั่งนิ่งๆ เสียเถิด เมื่อได้ฟังคำขู่ของพ่อเช่นนั้นเข้าหนูน้อยก็เกิดความตกใจ สีหน้าที่มีความร่าเริงได้เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันที เขาได้นั่งนิ่ง มิได้เอ่ยถามอะไรต่อไปอีก

การกระทำของพ่อต่อหนูน้อยคนนั้นเป็นการถูกต้องไหม?

ผู้ฉลาดในเหตุผลคงบอกว่าไม่เป็นการถูกต้องเลย

ทำไมจึงทำอาการดุดันกับเด็กเช่นนั้น ทำให้เด็กหมดความร่าเริงไปและไม่กล้าไต่ถามอะไรต่อไปอีก เป็นการตัดทอนความก้าวหน้าในทางความฉลาดของเด็ก และทำให้เด็กกลายเป็นคนขลาดกลัว ไม่กล้าพูดกล้าถามอะไรกับใครๆ ต่อไป เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องโดยแท้

อันธรรมดาของเด็กพอร่างกายของเขาเติบโตขึ้น จิตใจของเขาก็พลอยเติบโตไปด้วย ร่างกายของเด็กต้องการอาหารสำหรับหล่อเลี้ยง ใจของเด็กก็ต้องการความรู้สึกสำหรับหล่อเลี้ยงด้วยเช่นกัน เขาเริ่มสนใจและทึ่งในทุกสิ่งที่เขาได้พบเห็น อยากรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ในขณะที่เขาพูดออกมาไม่ได้ เขาก็แสดงอาการให้คนอื่นทราบว่าเขาอยากรู้ อยากเห็น อยากทราบ ว่าสิ่งนั้นๆ เป็นประการใด

เด็กน้อยที่กำลังดูดนมของแม่ปากดูดนมข้างหนึ่ง มือก็จับนมอีกข้างหนึ่งขยำเล่น นัยน์ตาของเขาจ้องเขม็งที่ดวงหน้าของมารดา ดูเพื่อให้ภาพนั้นประทับแน่นในใจของเขา เขารู้ว่านมของแม่ให้ความแข็งแรงเติบโตแก่เขา ดวงหน้าของผู้ให้ดื่มนมเป็นดวงหน้าที่น่ารัก เขาดูดดื่มสัญลักษณ์ของดวงหน้าไว้ในใจ และจำได้อย่างแม่นยำ ขณะที่เขาเกิดความหวาดกลัว...พอเห็นดวงหน้าของมารดาเขาก็จะโผเข้าหาทันที และซบศีรษะระหว่างทรวงอกของแม่ เขามีความอบอุ่นใจพอใจว่า เขาได้ที่พึ่งอันปลอดภัยแล้ว ไม่เฉพาะแต่มารดาเท่านั้น แม้วัตถุของอื่นใดที่เขาได้พบ สิ่งนั้นทำให้เกิดความสนใจแก่เขา เขาจะจับสิ่งนั้นไว้ และไม่ยอมให้ใครมาแย่งเอาไป ในบางครั้งก็ใส่เข้าไปในปากเลย เพื่อชิมดูว่ารสชาติมันเป็นอย่างไร จะมีรสเหมือนนมที่ตนเคยดูดดื่มไหม อาการที่แสดงออกทั้งหมด เป็นเรื่องของความใคร่ที่รู้เห็น ครั้นพอมาถึงระยะเวลาที่เขาพูดภาษาของมารดาได้ เขาก็จะถามทันทีว่าสิ่งนั้นมีไว้ทำอะไรและเขาจะถามต่อไปอีกไม่หยุดยั้ง จนกว่าเขาจะหมดความสงสัยในสิ่งนั้นๆ หรือจนกว่าจะถูกดุไม่ให้ถามอะไรๆ อีกต่อไป

การที่เด็กหมั่นไต่ถามในเรื่องอะไรๆ ที่เขาไม่รู้นั้น ความจริงมันก็เป็นสัญชาตญาณแห่งการใคร่รู้ใคร่เห็นประการหนึ่งของมนุษย์ ผู้ใหญ่จึงควรจะศึกษาหลักนี้ไว้บ้าง ขออย่าได้ตัดทอนความก้าวหน้าของเด็กๆ โดยขี้เกียจตอบคำถามของเขา แล้วขู่ตะคอกให้เขาเกิดความหวาดกลัวเลย ผลที่สุดเด็กของท่านก็จะกลายเป็นคนไม่เจริญงอกงามทางความรู้ หน้าที่อันสำคัญของท่านคือการสร้างความสนใจ ความอยากรู้ อยากเรียน ให้เกิดขึ้นในใจของเด็กๆ เพราะคนเราทุกคนจะต้องเติบโตด้วยความฉลาด การศึกษาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต สภาพของจิตใจเด็กย่อมพอใจในการเรียนรู้อยู่แล้ว พ่อแม่ทำหน้าที่เพียงเร่งเตือนให้เขารู้จักใช้กำลังที่เขามีอยู่เพื่อการศึกษาเท่านั้น

ถ้าลูกของท่านเริ่มสนใจถามอะไรๆ กับท่าน ท่านควรจะภูมิใจในความก้าวหน้าของเด็ก จงช่วยให้เขาก้าวหน้าต่อไป โดยสละเวลาของท่าน มาทำงานอันเป็นประโยชน์แก่การตอบปัญหาที่ลูกของท่านได้ไต่ถามให้มากที่สุด อย่าเป็นคนใจน้อย อย่าขาดความอดทน ในเมื่อลูกของท่านรบกวนถามปัญหากับท่าน จงตอบปัญหาทุกข้อที่สนใจไต่ถาม และอย่าตอบเพียงเพื่อให้พ้นไปเท่านั้น จงตอบให้ละเอียดสักหน่อย สมมติว่าเด็กของท่านได้เห็นสัตว์ตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกสำหรับเขา เขาก็ถามว่านั่นอะไร อย่าตอบแบบเพียงบอกชื่อเท่านั้น เช่น ถามเรื่องแมว ท่านจงอธิบายให้เข้าใจว่า แมวเป็นสัตว์ประเภทไหน มีประโยชน์อย่างไรสำหรับครอบครัว เป็นต้น

นั่นเป็นการตอบที่ให้ความสว่างแก่เด็ก ถ้าท่านเห็นเด็กแสดงอาการกลัวต่อสิ่งที่เขาเห็น จงทำลายความกลัวเสีย โดยการอธิบายให้เข้าใจว่ามันไม่มีอะไรที่น่ากลัว ถ้าจะให้เด็กเข้าไปลูบคลำจับต้องได้ก็จะเป็นการดี เป็นการฝึกเด็กให้มีนิสัยรักและสงสารสัตว์ไปด้วยในตัว จำไว้เป็นหลักง่ายๆ ว่า เด็กปกตินั้นเขาชอบเรียนชอบรู้ อย่าตัดทางของเด็กโดยการดุ ในเมื่อเด็กต้องการถามอะไรๆ จงพยายามตอบปัญหากับเด็กเสมอ อย่าเหนื่อยหน่ายในการสนทนากับเขาเป็นอันขาด

การทำดังกล่าวนี้เป็นการช่วยให้เด็กได้ก้าวหน้าในทางปัญญาประการหนึ่ง มีอยู่บ้างในบางครั้ง เด็กถามปัญหาที่ไม่น่าตอบ หรือบางทีอาจตอบไม่ได้ ก็จงหาทางทำความเข้าใจกับเขาให้ชัดเจน ขออย่างเดียวอย่าได้แสดงอาการโกรธเขาเป็นอันขาด มารดาบิดาเป็นครูคนแรกของบุตรธิดา ท่านพ่อแม่จึงควรทำหน้าที่ของครูที่ดีไว้เสมอ...อย่าลืมหน้าที่ของท่านเสียเป็นอันขาด ถ้าบิดามารดาทำหน้าที่ของตนให้เรียบร้อย นับว่าได้ทำกุศลอันยิ่งใหญ่แก่ประเทศชาติ

เวลาใดที่ท่านมีโอกาสออกไปนอกบ้าน เป็นการพักผ่อน เช่น ไปเดินเล่นริมแม่น้ำ ไปเดินตากอากาศในสวนสาธารณะ หรือไปเที่ยวตามทุ่งนาป่าเขา ท่านควรจะพาลูกน้อยของท่านไปด้วย มิใช่พาไปเที่ยวกันเฉยๆ แต่เป็นการเที่ยวเพื่อการศึกษาความเป็นไปของโลกเสียบ้าง มีอะไรหลายอย่างในโลกนี้ที่น่าศึกษาเล่าเรียนสำหรับเด็ก ถ้าไปเที่ยวตามริมน้ำเด็กจะได้เห็นปลา เห็นคนจับปลาในแม่น้ำ พ่อแม่ผู้นำไปควรจะอธิบายให้เด็กเขาเข้าใจว่า ปลาเป็นสัตว์ประเภทไหน มีประโยชน์อย่างใด สอนเขาอย่าให้เขาเป็นคนใจโหดร้ายเที่ยวทำลายปลาโดยไม่จำเป็น จงถือเอาสิ่งที่เขาได้พบเห็นเป็นบทเรียนสอนใจเขา


^_^


เรื่องและภาพจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด



Create Date : 11 มกราคม 2554
Last Update : 11 มกราคม 2554 12:25:24 น. 0 comments
Counter : 455 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

atruthoflife10
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




กลับคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยสุขภาพที่ดีกว่า

ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553

ดับไป....???

Friends' blogs
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.