ชนิดของนมข้นหวานที่ใช้ชง เมนูกาแฟสด ในบ้านเรา

นมข้นหวานที่จะนำมาใช้ชงกับกาแฟสดเอายี่ห้อไหนถึงจะดี ทำไมร้านกาแฟสดที่เปิดใหม่ๆ ไร่กาแฟสดที่คั่วกาแฟสดได้เองเมล็ดกาแฟสดดีๆราคาแพงๆ มักใช้นมข้นหวานที่ราคาแพงๆมาชง เมนูกาแฟสดแต่ทำไมพวกเซียนชงกาแฟสดขายเป็นอาชีพลูกค้าติดกันตั้งมากมาย นมข้นหวานที่นำมาใช้ชงกันทำไมสังเกตดูแล้วพบว่า ฉลากยี่ห้อของนมข้นหวานต้องแกะออกกันหมดเลยสังเกตกันบ่างหรือไม่ เพราะเหตุใดจึงต้องเอาออกกันหมดทุกที่ไป หรือบางร้านก็เปลี่ยนภาชานะที่ใส่นมข้นหวานใหม่ แต่ก็ดูรู้ว่าเป็นนมข้นหวานแต่ไม่รู้ยี่ห้อแล้ว แต่ถ้าไปตรวจสอบแล้วจริงๆกับพบว่าพวกเซียนชงกาแฟสดเหล่านี้กลับหันมาใช้นม ข้นหวานที่ราคาถูกที่สุด ทีรถซาเล้งใช้ชงกัน หรือกาแฟดีๆต้องใช้กับนมข้นหวานราคาแพงๆเท่านั้น หรือ แต่พวกเซียนชงกาแฟสด ต้องการของที่ราคาถูกจะได้กำไรมากๆ เลยอายไขหน้า ที่ใช้นมข้นหวานที่ราคาถูก เหมือนทีรถซาเล้งใช้ชงกัน เลยพากันต้องแกะหรือถอดฉลากของนมข้นหวานออกหมด มันเกิดอะไรกันแน่ ในการที่จะเลือกใช้นมข้นหวานชนิดใด ?

ถ้าหากเราหยุดเรื่องนมข้นหวานไว้ตรงนี้ก่อน

    และเดี๋ยวกลับมาถกปัญหานี้กันใหม่ก่อนก็ดี กลับมาคุยเรื่องกาแฟอร่อยโบราณของเราก่อน สมัยสงครามที่ 2 ตอนนั้นของทุกอย่างของเราแพงมากผู้เขียนตอนนั้นคงอายุได้ 8-9 ปีเอง กาแฟที่เรานำเข้าจากต่างประเทศก็มีราคาแพงมากหากินกันได้ยากเต็มที จึงมีพ่อค้าหัวใสในบ้านเราทำการลดต้นทุนการผลิตลงโดยการลดเนื้อกาแฟลงเหลือ ปริมาณ ( ไม่แน่นอน ) 20% นอกนั้นจะใส่สารเร่งดำ สารเร่งดำหมายถึง เนื้อกาแฟเมื่อลดลงแล้เวลาเอาไปทำเป็นนำกาแฟมันจะไม่ดำ สีคล้ายน้ำชามากกว่า จึงต้องหาอะไรมาผสมให้มันดำ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เมล็ดข้าวโพดเกือบ 70-80 % คั่วให้ดำปี๊เลย แล้วนำมาบดรวมกัน ( มักมีงาดำ ปลายข้าวคั่วหรืออื่นๆพสมที่ถูกกว่าเมล็ดข้าวโพดด้วย ) เพื่อเร่งให้น้ำกาแฟออกมาดำเหมือนน้ำกาแฟไง ปัญหาของกาแฟตัวที่ถูกประสมนี้คือ กลิ่นกาแฟหายไปเกือบหมดหรือหมดเลย เราเรียกกาแฟตัวนี้ว่า กาแฟโบราณจึงลำบากต้องมีผู้มาช่วยด้านกลิ่น ก็นมข้นหวานที่ใช้กันยี่ห้อดังๆไง กลิ่นกาแฟหรือปล่าวไม่ใช่กลิ่นของเขาเองยี่ห้อใครยี่ห้อมัน ไม่เคยทำกลิ่นที่ซ้ำๆกันด้วยเพราะมีจุดประสงค์เดียวกันคือ ต่างคนต่างจะแย่งตลาดกาแฟโบราณกัน หากใครมีความหอมที่มากๆหวายมากๆก็จะมีคนกินกันมากๆด้วย เพราะเราถูกสอนให้รู้ว่ากาแฟโบราณที่ดีๆ ต้องเป็นกาแฟที่ขมมากเข้มมากดำมากและหวานมากๆด้วย ยังมีกาแฟอีกตัวด้วยไม่ใช่มีแต่กาแฟโบราณอย่างเดียงเขาเรียกติดปากกันในตราด ที่ขายกาแฟในบ้านเราว่า กาแฟเทียม กาแฟเทียมคือกาแฟที่ไม่มีส่วนประสมของเมล็ดกาแฟเลยแม้แต่เมล็ดเดียวจะใช้ เมล็ดข้าวโพดเกือบ 100% ด้วยเหตุผลเดียวที่ว่ากาแฟโบราณไม่มีกลิ่นของกาแฟเนื่องจากใส่สารเร่งดำไป เป็นส่วยใหญ่ แล้จะเปลืองเมล็ดกาแฟไปทำไมก็ไม่ใส่เลยดีกว่า

     อยากผสมและชิมกาแฟเทียมแล้วใช่ไหม หากินได้ไม่ยากครับมักพบได้ในพวกขายกาแฟเย็นโอเลี้ยง ใน รถ 3 ล้อแดงที่ถีบไปตามตรอกซอกซอยไงมักไม่อยู่เป็นที่ไม่ทราบสาเหตุว่าเพราะอะไร เขาบอกกันว่าลองเอานมข้นหวานยี่ห้อดังๆสัก 3 ยี่ห้อมาชงกับน้ำร้อนแล้วลองดมดูจะพบว่าเป็นตัวละกลิ่นกัน เด่นชัดมากเพราะอย่างที่บอกแล้วว่า มีจุดประสงค์เดียวกันคือ ต่างคนต่างจะแย่งตลาดกาแฟโบราณกัน หากใครมีความหอมที่มากๆหวายมากๆก็จะมีคนกินกันมากๆด้วย และเจ้านมข้นหวานนี้เองที่มาชงกับกาแฟสดต่างๆก็จะไปกดทับกลิ่นของกาแฟสดไป มากทีเดียว แต่ก็อยู่ที่ผู้ปริโภคด้วยว่าชอบแบบไหน กลิ่นของกาแฟแบบต่างๆตามธรรมชาติ หรือกินกาแฟสดแล้วต้องมีกลิ่นอย่างอื่นมาผสมด้วยจึงชอบ เช่น เนย หรือวนิลาเป็นต้น

ขอบคุณบทความจาก : www.wattanakaffee.net/b-28/นมข้นหวานที่ใช้ชงกาแฟสด