วันนี้มีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆที่จะช่วยทำให้ กาแฟสด ของคุณกลมกล่อมรสดีขึ้น กลิ่มหอม มาฝาก

1. ควรบดกาแฟใหม่ทุกครั้งที่ชงกาแฟ หรือไม่ควรใช้ผงกาแฟที่บดไว้แล้วนานเกิน 3 ชั่วโมง

ข้อนี้ได้รับการยืนยันจากบาริสต้าหลายๆ คนแล้วว่า ถ้าอยากได้ความสดเข้าถึงต้องบดกันแก้วต่อ แก้วเลยที่เดียว แต่ถ้าบดใหม่ทุกครั้งไม่ได้ ก็ให้เก็บกาแฟที่บดแล้วไว้ในที่ที่แห้ง และ อากาศไม่สามารถเข้าไปได้ ก็จะเป็นการรักษารสชาติของกาแฟที่บดแล้วไว้ได้ระดับหนึ่ง

2. ปริมาณกาแฟที่ใช้ชงต่อครั้งให้อยู่ระหว่าง 8-10 กรัม

ซึ่งโดยทั่วไปที่ใส่กาแฟของเครื่องชงทั่วไปก็จะอยู่ในระดับนี้อยู่แล้วต่อการชงกาแฟ 1 ช็อต แต่บางคนอยากได้กาแฟที่รสชาติเข้ม พยายามใส่กาแฟเพิ่มเข้าไปเพื่อให้ได้กาแฟแบบเข้มข้ม สุดท้ายกลับได้กาแฟรสชาติไม่เข้ม ทั้งนี้ก็เพราะผงกาแฟแน่นมากเกินไปทำให้น้ำผ่านผงกาแฟได้ไม่สะดวก เลยได้กาแฟแบบจืดๆ แทน

3. ใช้น้ำสะอาด ที่ไม่มีสีไม่มีกลิ่น

น้ำมักเป็นสิ่งที่เรามองข้าม บางคนคิดว่าแค่น้ำสะอาดก็น่าจะพอแล้ว จึงไม่ค่อยพิถีพิถันในการเลือกน้ำมากนัก บางคนคิดว่าน้ำขวดที่ขายๆ อยู่เป็นน้ำที่เหมาะกับการชงกาแฟแล้ว แต่อยากจะบอกว่าน้ำบรรจุขวดที่ขายๆ อยู่ทั่วไปถ้าลองชิมดูแล้วจะรู้ว่าน้ำแต่ละยี่ห้อก็มีกลิ่น และ รสชาติที่ไม่เหมือนกัน น้ำที่เหมาะที่สุดสำหรับการชงกาแฟ ง่ายที่สุดก็น่าจะเป็นน้ำต้มสุกน่าจะเข้าท่ามากที่สุด

4. ส่วนเรื่องอุณหภูมิของน้ำก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ต้องให้ความสนใจ

อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะในการชงกาแฟอยู่ที่ 90-96 องศาค่ะ ซึ่งเครื่องชงกาแฟทั่วไปจะตั้งค่าไว้ที่ประมาณนี้

5. ควรดื่มกาแฟที่ชงแล้วขณะที่ร้อนอยู่ และ อย่านำกาแฟไปอุ่นซ้ำ

คอกาแฟตัวจริงจะรู้ดีกว่ากาแฟจะมีรสชาติดีหลังจากชงเสร็จแล้วไม่เกิน 15 นาที บางคนที่ชอบชงกาแฟมาทิ้งไว้แล้วปล่อยไว้ให้เย็น อยากจะบอกว่าคุณพลาดชิมรสชาติที่ดีที่สุดของกาแฟไปแล้ว ถ้าจะเอาไปอุ่นด้วยแล้วล่ะก็ ขอบอกว่าคิดผิดถนัด เพราะกาแฟที่ถูกนำไปอุ่นจะเป็นกาแฟที่มีรสฝาดมากขึ้น กาแฟแก้วนั้นจะเสียรสชาติไปทันที

6. ควรอุ่นถ้วยกาแฟก่อนการใช้ทุกครั้ง

ขั้นตอนง่ายๆ ที่ใครๆก็ทำได้ ถ้าเป็นเครื่องชงกาแฟแบบคุณภาพดีจะมีที่อุ่นแก้วกาแฟมาพร้อมกันด้วย แต่ถ้าไม่มีก็แค่เอาแก้วกาแฟที่จะใช้ไปลวกน้ำร้อนก็ใช้ได้แล้ว การอุ่นแก้วกาแฟเป็นการปรับอุณหภูมิของแก้วกาแฟให้พร้อมรับกาแฟร้อน หรือเรียกอย่างง่ายๆ ว่าเป็นการปลุกแก้วกาแฟให้ตื่นก็ว่าได้