บทความกาแฟ
<<
พฤษภาคม 2561
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
14 พฤษภาคม 2561

กาแฟสด กับเทคนิคการชงกาแฟ



กาแฟสด กับเทคนิคการชงกาแฟ 

กาแฟสด

การชงการแฟ ก่อนที่มนุษย์จะเข้าสู่วัฒนธรรมการชง กาแฟสด โดยวิธีคั่วบดแล้วชงนั้น ค.ศ. 1300 โดยประมาณ มีการนำเอาเมล็ดกาแฟอาราบิก้าดิบมาคั่วแล้วต้มทั้งเมล็ด แล้วเทดื่ม

ต่อมาเมื่อกาแฟอร่อยได้แพร่หลายมากแล้วก็เกิดเป็นวิวัฒนาการใหม่ในการชงเมนูกาแฟสดที่เป็นสากล คือ การชงกาแฟที่ผ่านการคั่วบดแล้วผ่านน้ำร้อน โดยมีกลวิธีที่สามารถแยกกากผงกาแฟออกมาได้ ซึ่งครั้งแรกเป็นผลงานของชาวฝรั่งเศสคือนายหลุยส์ แบร์นาร์ด ราโบต์ เมื่อปี ค.ศ. 1710 โดยการนำถุงผ้าหุ้มกาแฟคั่วบดเอาไว้ แล้วเทน้ำร้อนผ่านกาแฟคั่วบด คล้ายการจุ่ม เพื่อเป็นอุบายเพื่อต้องการแยกกาก และได้รสชาติของกาแฟที่กลมกล่อม วิธีคิดนี้ได้แพร่หลายออกไปจนเกิดนวัตกรรมใหม่ ภูมิปัญญาใหม่ๆ ตามมามากมายเพื่อให้กาแฟมีรสชาติที่แตกต่าง

การชงแบบหยด (Drip)
การชงกาแฟแบบหยด คือการให้น้ำร้อนหยดผ่านกาแฟบดในกระดาษกรอง วิธีนี้เราจะเห็นได้จากเครื่องต้มกาแฟที่มีขายอยู่ทั่วไป การชงกาแฟรูปแบบนี้ไม่สามารถดึงรสชาติกาแฟออกมาได้ดีนัก เพราะอุณหภูมิของน้ำและกระดาษกรองจะทำให้รสชาติของกาแฟเสียไปได้ง่าย การชงแบบนี้ หากใช้เครื่องชง Drip Brewer แล้วชงเสร็จก่อน 4 นาที แสดงว่ากาแฟถูกบดหยาบเกินไป แต่ถ้าเครื่องชงใช้เวลามากกว่า 6 นาที แสดงว่ากาแฟถูกบดละเอียดเกินไป

การชงแบบเอสเพรสโซ่ (Espresso)
การชงวิธีนี้ต้องใช้เครื่องชงเอกเพรสโซ่ ซึ่งใช้หลักการทำงานของระบบแรงดันไอน้ำ อัดน้ำร้อนผ่านกาแฟบด การชงแบบเอสเพรสโซ่จะช่วยดึงรสชาติและกลิ่นของกาแฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การชงแต่ละครั้งควรชงในปริมาณน้อย คือ 1 ½ ออนซ์ กาแฟที่นำมาชงโดยวิธีนี้ต้องบดละเอียดมากๆ หากเครื่องชงเสร็จก่อน 25 วินาที แสดงว่ากาแฟถูกบดหยาบเกินไป และถ้าเครื่องชงใช้เวลามากกว่า 30 วินาที แสดงว่ากาแฟถูกบดละเอียดเกินไป

การชงแบบเฟรนช์เพรส (French Press)
การชงวิธีนี้จะทำให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟที่ดีที่สุด โดยผ่านอุปกรณ์สำหรับการชงกาแฟที่เรียกว่า Plunger pot กาแฟบดที่เหมาะกับการชงวิธีนี้ ต้องเป็นกาแฟบดหยาบมากๆ

สิ่งสำคัญในการบดกาแฟ คือ คุณต้องไม่บดกาแฟในปริมาณมากเกินไปสำหรับการใช้แต่ละครั้ง เพราะทันทีที่กาแฟถูกบด กลิ่นหอมของกาแฟจะเริ่มถูกทำลายลงทันที และเมื่อกาแฟถูกอากาศเป็นเวลานานๆ จะทำให้ความสดของกาแฟลดลง

ในการชง (Brewing) นั้น บรรดาเกจิกาแฟบอกเอาไว้ว่า การชงกาแฟที่ดี จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • กาแฟ ต้องเลือกกาแฟที่ดี มีคุณภาพ ผ่านกระบวนการคั่ว บด และเก็บรักษาที่ถูกวิธี
  • น้ำ ใช้น้ำที่ใสสะอาดผ่านการกรองมาแล้ว เพราะน้ำที่มีรสหรือกลิ่นไม่เป็นธรรมชาติจะทำให้รสชาติของกาแฟผิดเพี้ยนไป ขณะที่อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมต่อการชงกาแฟมากที่สุดอยู่ที่ประมาณ 94-98 องศาเซลเซียส เท่านั้น!!
  • อุปกรณ์ เครื่องชงและกาแฟบดต้องมีความสัมพันธ์กันอย่างที่บอกมาแล้ว คือถ้ากาแฟที่บดละเอียดมากจนเกินไป คุณจะใช้เวลาชงมากกว่าปกติ และมันจะทำให้กาแฟมีรสชาติขม ส่วนกาแฟที่บดหยาบเกินไป คุณจะใช้เวลาชงน้อยกว่าปกติ แต่มันจะทำให้กาแฟที่ได้มีรสชาติจืดจาง

       ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพราะน้ำที่ใช้ชงกาแฟจะมีโอกาสดูดซับและสัมผัสกาแฟแตกต่างกันออกไป ส่งผลให้รสชาติกาแฟที่ได้ก็จะต่างกันออกไปด้วย

         ซึ่งหลักการง่ายๆ โดยทั่วไปแล้ว สูตรการชงกาแฟที่ดี ควรจะใช้ปริมาณกาแฟเพียง 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 6 ออนซ์ และก่อนรินกาแฟลงในถ้วย คุณควรอุ่นถ้วยกาแฟเสียก่อน เพี่อเก็บความร้อนของกาแฟให้นานยิ่งขึ้น...แค่เนี้ย

ที่มาบทความ: www.saengdao.com/view.php?menu=menu2&body=detail2&tid=131&type=1




Create Date : 14 พฤษภาคม 2561
Last Update : 14 พฤษภาคม 2561 20:39:01 น. 0 comments
Counter : 235 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 4422265
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฝาก blog นี้ไว้สำหรับคนที่ชื่นชอบและรักในกาแฟ และอยากอ่านบทความกาแฟดีๆด้วยครับผม และขอฝาก เว็บโปรเจคจบของผม https://www.tpcoffeeshop.com/ เข้าไปดูกันเยอะๆนะครับ ขอบคุณครับ
[Add สมาชิกหมายเลข 4422265's blog to your web]