อาญาปรารถนา ตอน 34 ระทมทุกข์
เห็นน้ำตาหยาดรินของอีกฝ่ายที่ร้องไห้อย่างหนักด้วยการสะอื้นไม่หยุดแล้วก็ทำให้ชินอิจิรู้สึกย่ำแย่อย่างมาก จากอารมณ์ที่เกิดความต้องการอย่างมากแต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นรู้สึกเซ็งยิ่งนัก เขาพูดออกมาอย่างชัดเจน ใครเห็นหน้าคุณตอนนี้แล้วมีอารมณ์ก็บ้าแล้วล่ะ จะให้ยิ้มกับความทุกข์ที่ฉันโดนยัดเยียดให้อย่างนั้นน่ะเหรอ เพชรไพลินยอกย้อนกลับไป ใส่เสื้อผ้าแล้วรีบออกไปจากห้องนี้ซะ น้ำเสียงกร้าวสั่งแบบขับไล่ แปลว่าคุณจะไม่นอนกับฉันแล้วสินะ อดรู้สึกยินดีไม่ได้ที่เขาเปลี่ยนใจ ผมให้โอกาสคุณอีกครั้ง ถ้าครั้งหน้าคุณร้องไห้อีกล่ะก็ผมจะไม่สนใจคำสัญญาเรื่องแม่เลี้ยงของคุณอีก เพียงบอกเสร็จเขาก็หันหลังไปทางอื่น เพชรไพลินจึงจัดการแต่งตัวโดยเร็ว ก่อนจะรีบก้าวออกไปจากห้อง แต่ยังไม่ทันจะเปิดประตูออกไป ชินอิจิก็จับไปยังต้นแขนนวลพลางถามถึงสิ่งที่ตนเองสงสัยออกมา คุณเข้าไปในห้องนอนของผมใช่รึเปล่าไดยะ ฉันจะเข้าไปในห้องของคุณทำไมกัน เธอตอบเหมือนไม่เข้าใจกับสิ่งที่เขาถาม ก็เข้าไปหยิบกระเป๋ากับโทรศัพท์ของคุณไงล่ะ ฉันไม่ได้หยิบ ยังคงปากแข็งแต่นัยน์ตาหันไปทางอื่น แค่นี้ชายหนุ่มก็รับรู้แล้ว คุณโกหก ฉลาดดีนะที่แอบเข้าไปเอาตอนที่ผมไม่อยู่น่ะ เขานึกชมเชยอีกฝ่าย ก็ถ้าฉันไม่ทำอย่างนี้คุณก็คงจะข่มขู่ฉันไม่เลิก ได้ฟังคำตอบอย่างชัดเจน ชินอิจิก็ใช้มือเชยคางมนให้ขึ้นมามองตาของตนเองก่อนจะบอกให้รับรู้ ครั้งนี้คุณทำผมเสียอารมณ์มาก ครั้งหน้าอย่าให้เป็นแบบนี้อีก เพราะไม่อย่างนั้นผมจะไม่รักษาสัญญาอะไรกับคุณอีก เพียงบอกเสร็จชายหนุ่มก็เดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้เพชรไพลินอยู่เพียงคนเดียวในห้องด้วยความโมโหที่ไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้เลย เธอเดินกลับมาทิ้งกายยังโต๊ะทำงานเพชรไพลิน ไม่มีกระจิตกระใจคิดเรื่องอะไรทั้งสิ้น แม้กระทั่งโทรศัพท์ที่ตลอดเวลาเธอมักจะเช็คอยู่สม่ำเสมอว่าธนดิษฐ์คนรักโทรมาหาตนเองหรือไม่ ตอนนี้มันก็ไม่มีอยู่ในหัวคิดแม้สักนิดเดียว รู้สึกเหนื่อยล้า ล้าทั้งกายและล้าทั้งใจทีเดียว จ๊ะเอ๋ เสียงหนึ่งดังขึ้นนั่นจึงทำให้เพชรไพลินตกใจอย่างมาก ก่อนจะพบว่าตนเองเผลอหลับไปน่ะเอง พลางทำเสียงดุใส่เมื่อเห็นว่าใครที่ทำเสียงดังใส่ตนเอง ยายนุชเล่นอะไรเนี่ย อ้าวพี่ดิษฐ์ก็มากับยายนุชเหรอคะ เธอหันไปดุเพื่อนสาวก็พบว่าชายหนุ่มอีกคนยืนอยู่ด้วย ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เธอจะยิ้มด้วยสีหน้ายินดี แต่ตอนนี้เหมือนกับเป็นพวกมีชนักปักหลังกลัวความลับเปิดเผย จึงยิ้มให้อีกฝ่ายได้อย่างไม่ค่อยเต็มที่เท่าใดนัก จำไม่ได้ใช่ไหมเนี่ยว่าวันนี้เป็นวันอะไรน่ะเพชร เพื่อนสาวถามย้ำซ้ำอีกคราหนึ่ง วันพฤหัสไม่ใช่เหรอนุช หญิงสาวทำสีหน้างุนงงเมื่อเพื่อนเอ่ยคำถามเช่นนี้ นี่จำไม่ได้จริงๆ เหรอ ให้ตอบอีกครั้งละกัน พลางยกนิ้วชี้ขึ้นมาให้เธอเห็น วันสิ้นเดือนเหรอนุช เพชรไพลินคาดเดาออกมาเหมือนเดิม ไม่ต้องทายละเฉลยเลยละกัน วันนี้น่ะเป็นวันเกิดพี่ดิษฐ์ไงล่ะ เธอลืมได้ยังไงกัน ครั้นเพื่อนสาวบอกเพชรไพลินก็ทำท่าคล้ายนึกออกก่อนจะขออภัยอีกฝ่าย เพชรขอโทษค่ะที่เพชรลืมวันเกิดพี่ดิษฐ์ อย่าโกรธเพชรนะคะพี่ดิษฐ์ น้ำเสียงเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด นั่นเพราะว่าตนเองมัวแต่คิดเรื่องอื่นจนลืมเรื่องของเขาน่ะเอง ไม่เป็นไรหรอกพี่เข้าใจว่าเพชรน่ะทำงานเยอะช่วงนี้ พี่ไม่โกรธเพชรหรอก แล้วก็เข้าใจด้วยว่าเพชรคงงานยุ่งแล้วก็เหนื่อยมากถึงไม่ได้รับโทรศัพท์ของพี่ พี่ก็เลยชวนนุชมาหาเพชรที่บริษัทไงล่ะ ดร. หนุ่มกุมมือของคนรักสาวไว้ด้วย พี่ดิษฐ์โทรหาเพชรเหรอคะ พี่โทรหาเพชรตอนกลางคืนด้วย แล้วก็ตอนเช้าด้วย มือเรียวรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูทันทีก็พบว่ามีสายที่ไม่ได้รับหลายสายซึ่งเป็นเบอร์ของดร. หนุ่ม เพชรขอโทษนะคะพี่ดิษฐ์ คือเพชรไม่ได้อยู่ที่ห้องน่ะค่ะ ตอนที่เขาโทรมาหญิงสาวอยู่ที่ห้องของหุ้นส่วนจอมร้ายกาจ ไม่เป็นไรหรอกเพชร เรื่องเล็กน้อยน่ะแล้วว่าแต่วันนี้เพชรว่างไปกินข้าวที่บ้านพี่รึเปล่า พ่อกับแม่พี่ขึ้นมาที่กรุงเทพด้วยนะบอกว่าอยากเจอว่าที่ลูกสะใภ้น่ะ เพียงได้ยินเขาพูดถึงว่าที่ลูกสะใภ้ หญิงสาวก็เผลอทำโทรศัพท์ตกพื้น เอ่อ เพชรนี่ซุ่มซ่ามจังเลยค่ะ เพชรต้องว่างสิคะพี่ดิษฐ์ งานวันเกิดของพี่ดิษฐ์ทั้งที อตินุชตอบแทนเพื่อนสาวเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงพูดไม่ต่างจากตนเองอย่างเด็ดขาด เพชรไพลินยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะตอบกลับไปเบาๆ เพชรว่างค่ะพี่ดิษฐ์ อย่างนั้นก็รีบไปกันเถอะค่ะ เธอหยิบกระเป๋าสะพายก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับทั้งสอง ที่บ้านของธนดิษฐ์บนโต๊ะก็เต็มไปด้วยอาหารซึ่งน่ากินอย่างมากมาย ชายหนุ่มกุมมือของเพชรไพลินเข้าไปหาพ่อกับแม่ของตนเองด้วยใบหน้าที่เกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม ผมพาว่าที่ลูกสะใภ้มาแล้วครับคุณพ่อคุณแม่ หนูเพชรไม่เจอกันสามเดือนนี่หนูผอมลงไปรึเปล่าจ๊ะ ผู้เป็นมารดาของธนดิษฐ์มองอย่างสังเกตในตัวของอีกฝ่าย บิดาของเขาก็เอ่ยไม่ต่างกัน นั่นสิดูหน้าเซียวๆ ลงไป ไม่สบายรึเปล่า เพชรพักผ่อนน้อยน่ะค่ะคุณป้าคุณลุง พอดีว่าคุณพ่อเข้าโรงพยาบาลเพชรก็เลยต้องไปนอนเฝ้าด้วยค่ะ เพชรไพลินยกเรื่องบิดาขึ้นมาบอกเล่าให้ทั้งสองรับรู้ แต่ปิดบังเหตุผลที่แท้จริงไว้ ตอนนี้คุณพ่อของเพชรไม่ได้ทำงานที่บริษัทแล้วครับคุณแม่ เพชรก็เลยต้องดูแลบริษัทคนเดียวครับ ลูกชายอธิบายให้บุพการีได้ทราบ โถ ทำงานเยอะได้แต่ก็ต้องพักผ่อนด้วยนะจ๊ะหนูเพชร หญิงสูงวัยจับไปยังแขนนวลอย่างเอ็นดูรักใคร่เนื่องจากว่าเพชรไพลินกับอตินุชเองก็เคยไปที่บ้านของชายหนุ่มเพื่อไปหาบุพการีของคนรักด้วย แล้วหนูล่ะคะคุณป้าผอมลงไหมคะ อตินุชที่มีนิสัยร่าเริงถามผู้ใหญ่ด้วยรอยยิ้ม หนูนุชน่ะไม่ผอมหรอกจ้ะ แต่อ้วนกว่าเดิมแบบนี้ก็ดีแล้วนะ แก้มยุ้ยๆ น่ารักดีจ้ะ ปกติเพชรไพลินจะยิ้มอย่างรู้สึกดีกับความรักที่ครอบครัวของธนดิษฐ์มอบให้กับตนเอง เสมือนเป็นครอบครัวที่สามของเธอเลยก็ว่าได้ นอกจากครอบครัวของตนเองแล้วก็มีครอบครัวของอตินุชและก็ครอบครัวของดร.หนุ่มเช่นกัน เธอตอบรับความห่วงใยที่ผู้ใหญ่มอบให้ ขอบคุณค่ะคุณป้า เพชรไพลินรู้สึกแย่อย่างมากที่ตนเองคงไม่สามารถตอบแทนความรักอีกฝ่ายได้อย่างเต็มที่ดังเดิมเหมือนเป็นคนทรยศต่อทั้งคู่ก็ว่าได้ อาหารหน้าตาน่ากินมากเลยค่ะคุณลุงคุณป้า อตินุชพลางเอ่ยชมเชยพร้อมกับนัยน์ตามองไปยังกับข้าวที่ส่งกลิ่นกรุ่นหอม อย่างนั้นก็ลงมือกินกันเลยดีกว่านะ ถ้าช้าเดี๋ยวกับข้าวเย็นหมด พ่อของธนดิษฐ์เอ่ยชวนทุกคน ดีค่ะคุณลุงคุณป้า นุชกำลังหิวพอดีเลยค่ะ โดยทั้งหมดก็พากันกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยยกเว้นเพชรไพลินเพียงคนเดียวที่รู้สึกกลืนอะไรไม่ค่อยลง ธนดิษฐ์เห็นคนรักสาวนั่งเขี่ยข้าวไปมาก็ถามด้วยความเป็นห่วง กับข้าวไม่ถูกปากเหรอเพชร ถูกปากค่ะพี่ดิษฐ์ เธอตอบอย่างเอาใจ อตินุชที่เห็นเพื่อนกินน้อยก็พูดอย่างสงสัย ถูกปากแล้วทำไมกินได้น้อยจังเลยล่ะเพชร มันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่พี่คุณพ่อเข้าโรงพยาบาลแล้วล่ะนุช เพชรต้องขอโทษด้วยนะคะที่กินข้าวไม่หมดน่ะค่ะ เธอปดกับทุกคนด้วยสีหน้าที่รู้สึกไม่สบายใจ ฉันเข้าใจว่าตอนนี้เพชรเหนื่อยมาก แต่ถ้าอิ่มแล้วก็ไม่เป็นไรหรอกเพชร เดี๋ยวกินเค้กก็ได้นะ เพชรลืมเอาของขวัญให้พี่ดิษฐ์ เพชรขอให้วันอื่นละกันนะคะ หญิงสาวบอกด้วยสีหน้าที่แย่อย่างมากนั่นเพราะว่าเธอเป็นคนรักที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย พี่ไม่อยากได้ของขวัญอะไรจากเพชรหรอกแค่ความรักของเพชรพี่ก็ไม่อยากได้อะไรแล้วล่ะ เขาเอ่ยด้วยคำพูดและนัยน์ตาที่พราวหวาน เพชรไพลินได้แต่ยิ้มเซียวๆ ให้กับอีกฝ่ายพร้อมกับนึกด้วยความเจ็บปวดหัวใจ แต่เพชรเป็นผู้หญิงสกปรกแล้วค่ะพี่ดิษฐ์ เพชรไม่คู่ควรกับพี่ดิษฐ์อีกแล้ว มือเรียวได้แต่กำแน่นด้วยความรู้สึกเศร้าและหม่นหมอง หลังจากที่ทุกคนกินข้าวจนอิ่มแล้วอตินุชก็เข้าไปยังห้องครัวโดยยกขนมเค้กก้อนโตออกมาพร้อมกับปักเทียนไว้อย่างเรียบร้อย อตินุชมักจะแวะมาหาชายหนุ่มพร้อมกับเพื่อนอยู่บ่อยครั้งจึงรู้สึกคุ้นเคยกับครอบครัวของดร. หนุ่มด้วย เพชรไพลินจำต้องทำสีหน้าร่าเริงร้องเพลงอวยพรให้กับเขาทั้งที่ในใจอยากจะร้องไห้ออกมาเป็นที่สุด มือเรียวปรบไปตามจังหวะติดต่อกัน ทุกครั้งเวลาที่ผ่านไปเพชรไพลินมักจะรอคอยด้วยความหวัง แต่ตอนนี้ชีวิตของเธอหมดหวังลงไปทีละน้อย ธนดิษฐ์ขับรถไปส่งเพชรไพลินกับอตินุชนั่นเพราะว่ารถของอีกฝ่ายเสียน่ะเอง หญิงสาวก้าวลงมาจากรถพลางหันไปบอกกับทั้งสองคน ขอบคุณนะคะพี่ดิษฐ์ที่ขับรถมาส่งเพชร ฝันดีนะเพชร ชายหนุ่มอวยพรให้กับหญิงสาว อย่าลืมกินข้าวเยอะๆ นะเพชร ดูสิผอมลงไปตั้งเยอะ อตินุชบอกอย่างเป็นห่วงเพื่อนโดยกุมมือของอีกฝ่ายไว้ด้วยทั้งยังรับปากในสิ่งที่เพื่อนสาวหวังดี ฉันจะทำตามที่เธอบอกนะนุช ขับรถกลับดีๆ นะคะพี่ดิษฐ์ ครับ เพชรไพลินยกมือโบกให้กับทั้งสองก่อนจะเตรียมตัวเดินเข้าบ้าน เพียงรถของคนรักขับออกไปหญิงสาวก็ร้องไห้ออกมาอย่างมากมายก่อนจะจัดการเดินเข้าบ้าน แต่พอเธอก้าวเข้ามายังด้านในก็เห็นร่างสูงของคนที่ทำลายชีวิตของตัวเธอ เพียงชินอิจิเห็นเธอร้องไห้ก็แสดงความตกใจ เขาจับไปยังร่างนวลและถามด้วยความเป็นห่วง ไดยะคุณร้องไห้ทำไมกัน ฉันไม่ได้ร้อง หญิงสาวสั่นหน้าปฏิเสธ เธอไม่มีวันบอกหรอกที่ร้องไห้เป็นเพราะเขาเพื่อให้อีกฝ่ายหัวเราะเยาะอย่างสะใจ ไม่ได้ร้องได้ยังไงกันก็เห็นอยู่ ยังคงไม่เชื่อในสิ่งที่หญิงสาวพูด คุณจะให้ฉันหัวเราะอย่างมีความสุขทั้งที่ตัวเองมีความทุกข์รึไงกัน เพชรไพลินเอ่ยด้วยคำพูดประชดเพียงบอกเสร็จเธอก็เดินเข้าไปยังในบ้านหลังจากนั้น ชินอิจิได้ยินคำพูดที่หญิงสาวพูดเขาก็รู้สึกไม่ดี สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเครียดอย่างมาก ผมก็ไม่ได้อยากให้คุณทุกข์หรอกไดยะ ถ้าคุณไม่ใช่ลูกของไอ้ก้องภพคนชั่วที่ทำลายครอบครัวของผม ชินอิจิเอ่ยพร้อมกับมองแผ่นหลังเล็กที่เดินหายไปจนสุดสายตา
เพชรไพลินก้าวเข้าไปในบ้านโดยลืมที่จะเช็ดหยาดน้ำตาออกจากใบหน้าของตนเอง ก้องภพที่เห็นจึงเอ่ยทักทายเหมือนเช่นทุกครั้ง กลับมาแล้วเหรอยายเพชร ค่ะคุณพ่อ หญิงสาวตอบกลับไปเบาๆ เพชรร้องไห้ทำไมน่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลาที่เธอมีความทุกข์จะรีบเล่าให้บิดาได้ฟังทันทีนั่นเพราะว่าเธอมีพ่อที่รักเพียงคนเดียวและอีกฝ่ายก็พร้อมที่จะแก้ไขปัญหาและปลอบขวัญเธอ แต่ตอนนี้เพชรไพลินกลับไม่กล้าที่จะเล่าให้ผู้เป็นพ่อได้ทราบ เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นทุกข์เพราะตนเอง จึงโกหกพ่อของตน เพชรคิดถึงคุณแม่ คุณตาแล้วก็คุณยายน่ะค่ะ เพราะว่าใกล้ถึงวันครบรอบการเสียชีวิตของทุกคน พอเพชรเห็นครอบครัวของพี่ดิษฐ์อยู่กันพร้อมหน้าเพชรก็คิดถึงคุณแม่ ถ้าคุณแม่ไม่เสียชีวิตเพชรก็คงมีความสุขมากกว่านี้ค่ะ ก้องภพดึงลูกสาวเข้ามากอดโดยผงกศีรษะตอบอย่างเห็นด้วย ใช่เลยครอบครัวของเราคงอบอุ่นมากเลยล่ะ เธอเหมือนคนที่น้ำท่วมปากเสียจริงอยากจะพูดในสิ่งที่เก็บไว้ออกไปแต่ก็ไม่สามารถที่จะทำได้ จิตสุดาที่เคยคิดว่าอยากเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวสามี แต่เมื่อได้พบกับเป้าหมายใหม่ก็กลายเป็นทำหน้าหมั่นไส้ใส่แทน เหมือนไม่รู้สึกซาบซึ้งกับความรักที่สองพ่อลูกมอบให้กันเลย
+++++++++ เอาตอนต่อไปมาแปะให้อ่านต่อค่ะ อาเฮียยังใจร้ายเหมือนเดิมค่ะ เดี๋ยวข้าวจะส่งนิยายให้กับคนที่ได้รางวัลภายในอาทิตย์นี้นะคะ
Create Date : 05 พฤศจิกายน 2556 |
|
2 comments |
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2556 13:13:08 น. |
Counter : 873 Pageviews. |
|
|
|
ดีใจจังได้นิยายด้วยอ่ะ ขอบคุณค่ะ
ที่อยู่ค่ะ
สุมนมาลย์ จวงประโคน
4/263 ซ.ฝ7 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
10540