อาญาปรารถนา ตอน 10 กามเทพ (ไม่) จำเป็น
พักเที่ยงชินอิจิก็ไปกินข้าวพร้อมกับเพชรไพลินระหว่างนั้นเขาก็ถามเธอด้วยความอยากรู้ นั่นเพราะเขาอยากจะหาสถานที่ออกกำลังกายน่ะเอง คุณพอจะรู้ไหมไดยะว่าที่ไหนมีฝึกเคนโด้บ้าง คุณจะไปเรียนเหรอคะ หญิงสาวย้อนถามกลับมาด้วยแววตาสงสัย ผมชอบกีฬานี้น่ะ ก็น่าจะมีนะคะเดี๋ยวฉันจะลองหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตให้ละกันค่ะ เพชรไพลินเต็มใจที่จะช่วยเหลืออีกฝ่าย ชินอิจิก็ยิ้มตอบรับกลับไป ขอบคุณนะไดยะ ช่วงเย็นเพชรไพลินก็เดินเข้าไปหาเขายังห้องทำงาน มือเรียวเคาะไปยังบานประตูเบื้องหน้าสามครั้งเพื่อบอกให้คนภายในได้รับรู้ คุณอิจิโร่คะ ฉันเองนะคะ แต่กลับไม่ได้ยินเสียงอะไรตอบกลับมาจึงลองเคาะซ้ำใหม่อีกคราวหนึ่ง คุณอิจิโร่อยู่ไหมคะ ก็ได้รับคำตอบด้วยความเงียบดังเก่า เธอจึงเปิดประตูเข้าไปยังด้านในอย่างถือวิสาสะ กวาดตาไปทั่วห้องก็ไม่เห็นเขาเห็นแต่เก้าอี้ที่หันไปทางเบื้องหลังจึงคิดที่เรียกไม่ได้ยินคงเพราะมัวแต่มองออกไปด้านนอกน่ะเอง จึงเดินเข้ามาดูใกล้ๆ ก็พบว่าอีกฝ่ายนอนหลับอยู่ที่เก้าอี้ เธอทำท่าถอนหายใจออกมา ที่แท้คุณอิจิโร่ก็หลับน่ะเอง มิน่าถึงเคาะประตูแล้วไม่ตอบ เพชรไพลินก้มหน้ามองใบหน้าคมที่นอนหลับอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ พลางยิ้มอย่างอ่อนหวานนัยน์ตาเป็นประกาย จนเผลอขยับลงไปใกล้เกินปกติเหมือนต้องการที่จะเห็นใบหน้าหล่อในยามหลับอย่างชัดเจนมากขึ้น แต่อยู่ๆ ร่างระหงก็ถูกฉุดอย่างไม่ตั้งตัวเธอร้องออกมาด้วยความตกใจ อุ๊ย กายนุ่มล้มลงไปบนร่างแกร่งจนปากเล็กจุมพิตไปที่แก้มของเขา พร้อมกับที่นัยน์ตาซึ่งหลับเมื่อครู่ก็พลันลืมขึ้นมากับรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์ อยากหอมแก้มผมทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ ไดยะไม่เห็นต้องแอบหอมเลย วงหน้านวลเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงพร้อมกับอาการหน้าแดงที่จู่ๆ ไปหอมแก้มเขาเสียนั่น คุณเป็นคนดึงฉันให้ล้มลงมา ฉันไม่ได้อยากหอมแก้มคุณสักหน่อย เธอเถียงกลับไปทันควัน ผมไม่ได้ดึงนี่ เขาไม่ยอมรับอย่างหน้าตายเป็นที่สุด เพชรไพลินพยายามที่จะผละร่างออกมาแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยซ้ำยังโอบเอวเล็กคล้ายต้องการแกล้งเสียด้วย คุณอิจิโร่ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคะ เพียงพูดเสร็จก็ใช้มือดันบ่ากว้างของเขาเพื่อที่จะลุกขึ้นแต่มือใหญ่ก็ฉุดกายนุ่มให้นั่งบนตักแกร่ง เอ๊ะ คุณอิจิโร่ ทำไมคุณถึงทำอย่างนี้ ไม่เพียงพูดแต่ยังดิ้นไปดิ้นมาไม่หยุดด้วย โดยปลดมือที่อยู่ยังเอวของตนออกแต่ดูเป็นเรื่องที่ยากเย็นเหลือเกิน เหมือนหยิบคีมเหล็กออกปานนั้น นั่งเฉยๆ ได้ไหมไดยะ พลางทำเสียงดุใส่เหมือนไม่ชอบใจ คุณก็ปล่อยฉันสิคะคุณอิจิโร่ เธอแย้งเขากลับไปไม่ยอมทำตามที่อีกฝ่ายบอกยังคงดิ้นต่อดังเดิม ถ้าผมเกิดอารมณ์ขึ้นมาจะช่วยไม่ได้นะไดยะ ได้ผลทีเดียวร่างที่ดิ้นจะลงให้ได้อยู่นิ่งๆ ในพลัน ก็เขาพูดอย่างนี้ใครจะกล้าดิ้นอีกล่ะ ต้องพูดแบบนี้สินะถึงได้ยอมหยุดน่ะ เขามอบรอยยิ้มให้กับเธอโดยนัยน์ตาจับจ้องวงหน้านวลด้วยหลังจากที่พูดประโยคดังกล่าวจบ คุณมีเรื่องอะไรจะ / คือฉันจะบอก ทั้งสองเอ่ยขึ้นมาพร้อมกันอีกคราวหนึ่ง เป็นจังหวะเดียวกับที่เขายื่นหน้ามาถามเพชรไพลิน ทำให้ใบหน้าของทั้งสองเกือบจะชนกันต่างรับรู้ได้ถึงลมหายใจของกันและกันที่รินรดใบหน้าของแต่ละฝ่าย เพชรไพลินขยับห่างออกมาแต่ก็ยังนั่งอยู่บนตักของเขาดังเดิมก็เขาไม่ยอมปล่อยเธอนี่ จะบอกอะไรผมเหรอไดยะ ชายหนุ่มถามด้วยความอยากรู้โดยมองแก้มเนียนอย่างไม่ละไปทางใดราวกับถูกต้องมนต์จากใบหน้าหวาน เริ่มตั้งแต่ที่เขาได้พบกับอีกฝ่ายในวันแรก ถ้าหญิงสาวไม่ใช่ลูกของไอ้ก้องภพก็คงดี ฉันจะบอกว่าฉันหาที่ฝึกเคนโด้ให้คุณได้แล้วค่ะ อย่างนั้นเหรอไดยะ เมื่อได้ยินที่เธอบอกเขาก็ยิ้มอย่างยินดี ใช่ค่ะ คุณจะไปโรงเรียนสอนเคนโด้เลยไหมคะฉันจะได้บอกคนขับรถพาไปค่ะ คุณไปกับผมด้วยนะไดยะ เขาชักชวนเธอ เพชรไพลินมองหน้าเขาก่อนจะย้อนถามกลับไป ฉันจะไปทำไมคะในเมื่อฉันไม่ได้อยากไปเรียนสักหน่อยค่ะ ไปเป็นเพื่อนผมแค่นั้นเองนะไดยะ ไปกับผมหน่อยนะ เขาทำน้ำเสียงออดอ้อนใส่อย่างน่ารัก ฉันจะไปก็ได้ค่ะแต่คุณต้องปล่อยฉันก่อนค่ะ หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง ไม่อยากปล่อยเลย ตอบตรงกับความรู้สึกของตนเองเวลาได้กอดร่างนุ่มนี้แล้วเขารู้สึกอยากกอดแบบนี้ตลอดไป หากทว่าเพชรไพลินกลับไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น แต่คุณต้องปล่อยค่ะ ออกคำสั่งพร้อมกับที่มือเรียวจิกปลายเล็บไปยังมือของเขาหลังจากที่พูดจบ ชินอิจิร้องอย่างโอดโอยพร้อมกับปล่อยมือจากกายระหงทันที นั่นจึงทำให้เพชรไพลินถือโอกาสลุกออกมาจากร่างแกร่งทันทีก่อนจะเปิดประตูเดินออกไป นัยน์ตาของชินอิจิเป็นประกายอารมณ์ดีที่ได้หยอกล้อเพชรไพลิน แววตาที่ต้องแสดงความจงเกลียดจงชังกลับไม่มีอยู่ในดวงตาของเขาเลย อย่าบอกนะว่าเขากำลังใจอ่อนให้กับลูกสาวศัตรูน่ะ ไม่มีวันเขาต้องไม่ใจอ่อนอย่างเด็ดขาด ระหว่างที่ชายหนุ่มก้าวเข้าไปในลิฟท์ก็พลันนึกถึงอุบัติเหตุที่ตนเองได้ทำให้หญิงสาวบาดเจ็บจึงหันไปถามด้วยความห่วงใย หน้าผากของคุณหายช้ำรึยังไดยะ หายช้ำแล้วค่ะ เธอบอกให้เขาได้คลายกังวล ไหนผมดูสิกลัวคุณพูดไม่จริง แม้จะบอกเช่นนั้นแต่อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะไม่เชื่อ พลางขยับกายเข้ามาใกล้ชิดพร้อมกับใช้มือเปิดเส้นผมที่ปรกลงมายังหน้าผากนวลเพื่อให้เห็นกับตา ก็พบว่ายังมีรอยเขียวช้ำหลงเหลือให้เห็น ช้ำน้อยลงแล้ว เห็นไหมคะ ว่าไม่เป็นอะไรมากแล้ว เธอพูดให้เขาได้รับรู้ซ้ำ ผมต้องเห็นกับตา ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ของเขาก็พลันดังขึ้นมา ชินอิจิจึงหยิบเสื้อสูทส่งให้กับเพชรไพลิน ฝากถือหน่อยสิไดยะ ได้ค่ะ หญิงสาวตอบรับด้วยความเต็มใจ หวัดดีครับ อีกฝ่ายโทรโวยวายใส่อย่างไม่พอใจ นี่แกมารับโทรศัพท์เมียฉันได้ยังไงกัน คิ้วเข้มขมวดเข้ามาชนกันมุ่นอย่างงุนงงกับประโยคที่ได้ยิน นี่โทรศัพท์ของผมนะครับ เขาตอบกลับไปให้อีกฝ่ายรับรู้ จะโทรศัพท์แกได้ยังไงกันนี่มันเบอร์เมียฉัน แกเป็นชู้กับเมียฉันรึไงกัน ชู้อะไรครับ ผมไม่รู้เรื่อง ไดยะเขาหาว่าผมเป็นชู้กับเมียเขาน่ะ ชินอิจิหันไปบอกให้หญิงสาวได้ทราบ เขาโทรผิดรึเปล่าคะ เพชรไพลินคาดการณ์กับการเข้าใจที่ว่า ไม่รู้สิน่าจะเป็นอย่างนั้นนะ ไปบอกเมียฉันให้มารับสายเลยนะ ชายหนุ่มจึงโยนสายให้กับเธอแทน คุณคุยเถอะไดยะผมไม่รู้เรื่อง แน่ใจนะคะว่าคุณไม่ได้ไปเป็นชู้กับเมียเขา นัยน์ตาของเธอเริ่มหวาดระแวงในแง่ร้ายขึ้นมาบ้าง เขาก็ส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน เปล่านะไดยะผมไม่เคยเป็นชู้ใครเลย อย่างนั้นเดี๋ยวฉันคุยให้ละกันค่ะ หลังจากนั้นหญิงสาวก็คุยโทรศัพท์แทนชายหนุ่ม สวัสดีค่ะ มาแล้วเหรอนังตัวดี บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นใคร ขอโทษนะคะฉันไม่ใช่เมียคุณนะคะ คุณโทรมาผิดแล้วล่ะค่ะ เพชรไพลินอธิบายให้อีกฝ่ายได้ฟังแต่ดูเหมือนคนในสายจะไม่เชื่อ แล้วเธอเป็นใครเป็นเพื่อนของเมียฉันล่ะสิ นี่มันคงไม่กล้ารับสายใช่ไหม ฉันก็ไม่ได้เป็นเพื่อนของเมียคุณด้วยค่ะ คุณน่ะคงจะกดเบอร์โทรมาผิดแล้วล่ะค่ะ ไม่ต้องมาโกหกว่าโทรผิดก็เบอร์นี้ฉันโทรหาเมียฉันอยู่เป็นประจำ คนในสายก็ดื้อดึงไม่เลิกรา เมียคุณเบอร์อะไรคะ อีกฝ่ายก็บอกให้ได้ทราบ คุณอิจิโร่คะเบอร์โทรศัพท์ของคุณเบอร์อะไรคะลองบอกเขาสิคะ เธอส่งสายกลับมาให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้วยกัน 084xxxxxxx ไม่ต้องมาโกหกว่าเบอร์ไม่ใช่ ยังไงก็ไม่เชื่อหรอก ผมว่าคุณลองโทรใหม่อีกรอบดีกว่าครับ แค่นี้นะครับ หลังจากนั้นเขาก็กดวางสายโดยไม่ยอมเสียเวลาคุยอีก คุยไม่รู้เรื่องเลยใช่ไหมคะ ใช่ครับ เขาพยักหน้าตอบรับโดยทั้งสองก้าวออกมาจากลิฟท์ด้านใน โดยที่เพชรไพลินยังคงถือเสื้อสูทของอีกฝ่ายให้เหมือนเช่นเดิม ซึ่งเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกคราวหนึ่ง เขาจำเบอร์โทรได้จึงบอกให้เพชรไพลินได้ทราบ โทรกลับมาอีกแล้วล่ะ ลองรับดูสิคะเผื่อจะรู้ว่าโทรผิด ชายหนุ่มก็ยอมรับตามที่หญิงสาวบอกอย่างคาดเดา สวัสดีครับ ขอโทษนะครับที่เมื่อกี้ผมโทรผิด ผมลองโทรไปหาเมียใหม่ ตอนนี้เขาอยู่ที่บ้านครับ อีกฝ่ายเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นเบาลงไม่กล้าตวาดเหมือนเมื่อครู่ ไม่เป็นไรครับ ชินอิจิไม่ได้โมโหอะไรมากหลังจากนั้นเขาก็วางสายไป ชายหนุ่มก้าวขึ้นไปนั่งยังรถของเพชรไพลินเพื่อให้เธอขับรถไปยังโรงเรียนฝึกสอนเคนโด้ เพชรไพลินขับรถมาส่งเขาที่โรงเรียนหลังจากที่ไปสมัครออกกำลังกายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาหันไปยังร่างระหงที่นั่งอยู่ไม่ไกลกัน เสียดายนะที่คุณไม่ยอมสมัครด้วยน่ะ ฉันคงไม่เหมาะกับกีฬาอย่างนั้นหรอกค่ะ เธอรีบสั่นหน้าไปมาบอกให้ทราบถึงเหตุผลตนเอง แล้วคุณชอบกีฬาอะไรล่ะไดยะ ฉันชอบว่ายน้ำกับตีเทนนิสค่ะ เพชรไพลินพูดเกี่ยวกับกีฬาที่ตนเองชอบให้เขาฟัง ตีเทนนิสผมก็ชอบเหมือนกันนะ ถ้าคุณไปมาชวนผมด้วยนะ ได้ค่ะ หญิงสาวตอบรับด้วยความเต็มใจ ขับรถกลับบ้านดีๆ นะไดยะ ขอบคุณมากนะที่พาผมไปโรงเรียนสอนเคนโด้ ใบหน้าคมจุมพิตไปยังแก้มนวลโดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว คุณอิจิโร่คะ น้ำเสียงแสดงความไม่พอใจแบบปรามใส่ ผมลืมอีกแล้วน่ะขอโทษที เอาอย่างนี้ละกันถ้าคุณกลัวขาดทุนก็หอมผมกลับคืนจะได้หายกัน เจอข้อเสนอนี้หญิงสาวก็ตอบกลับมาทันควัน ไม่เอาหรอกค่ะ ฉันกลับก่อนนะคะ หลังจากนั้นเพชรไพลินก็ขับรถออกมาจากที่นั่น เพชรไพลินก้าวลงมายังบริษัทชั้นล่างในช่วงบ่ายหลังจากนัดกับเจ้าของบ้านที่ได้ติดต่อไว้เมื่ออีกฝ่ายกลับมาจากต่างจังหวัด ทั้งที่ตอนแรกนัดกันว่าจะให้เธอไปรับที่บ้านแต่อีกฝ่ายกลับขับรถมายังที่ทำงานแทน เพชรไพลินก้าวออกมายังด้านนอกพบกับรถเก๋งคันคุ้นตาจึงเดินลงไปหา ซึ่งเจ้าของบ้านสาวก็ลดกระจกลง หวัดดีค่ะคุณป้อม ความจริงให้เพชรไปรับกุญแจที่บ้านก็ได้นะคะ ไม่เป็นไรค่ะพอดีว่าเป็นทางผ่านของป้อมน่ะค่ะ นี่กุญแจบ้านนะคะคุณเพชร อีกฝ่ายส่งกุญแจบ้านให้กับเธอ ขอบคุณมากค่ะคุณป้อม เพชรไพลินยืนคุยกับอีกฝ่ายอยู่ไม่นานก็กลับขึ้นไปยังห้องทำงาน ซึ่งชินอิจิเพิ่งจะเดินขึ้นมาจากโรงงานชั้นล่าง เพียงเห็นเธอก็ตรงเข้ามาหาในทันที เมื่อกี้คุณออกไปไหนมาเหรอไดยะเห็นคุณรีบเดินใหญ่เชียว ออกไปไหน อ๋อ ไปรับกุญแจบ้านมาให้คุณน่ะค่ะ พอดีว่าเจ้าของบ้านที่ฉันติดต่อเช่าไว้ขับรถเอากุญแจบ้านมาให้ที่บริษัท คุณจะย้ายเข้าไปอยู่เลยก็ได้นะคะ งั้นผมย้ายเข้าไปวันนี้เลยละกันได้ไหม พลางถามหญิงสาวด้วยความอยากรู้ ได้ค่ะ เพชรทำอาการผงกศีรษะตอบรับพร้อมกับรอยยิ้ม อย่างนั้นตอนเย็นผมจะได้กลับไปเก็บของ เพียงบอกเสร็จทั้งคู่ก็แยกย้ายกันกลับไปยังห้องทำงาน จิตสุดาเห็นลูกสาวเดินมาจึงถามด้วยความสงสัย ไปไหนมาเหรอยายเพชร เมื่อครู่เธอจะไปหาหุ้นส่วนหนุ่มที่ห้องแต่พบว่าอีกฝ่ายไม่อยู่ จึงคาดเดาว่าอาจจะอยู่ในห้องของเพชรไพลิน แต่ยังไม่ทันไปถึงห้องทำงานก็เห็นลูกเลี้ยงสาวเดินมาพอดี ไปรับกุญแจบ้านมาจากคุณป้อมน่ะค่ะ แล้วก็ถามคุณอิจิโร่ว่าจะย้ายเข้าไปอยู่เลยไหม คุณอิจิโร่บอกว่าจะย้ายเข้าไปวันนี้เลยค่ะ ย้ายเร็วก็ดีค่ะจะได้ไม่ต้องพักที่โรงแรม เธออธิบายให้มารดาเลี้ยงได้รับทราบ ดีนะเพราะว่าเช่าโรงแรมมันก็แพงอยู่เหมือนกัน อีกฝ่ายเห็นด้วยกับความคิดของเธอ แล้วพลันก็ทำเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เอ่อเพชรจ๊ะแม่มีบางอย่างจะบอกน่ะ เธอต้องทำให้ลูกเลี้ยงสาวรู้ว่าสามีคิดจะทำอะไรเพื่อที่ว่าจะได้ไม่มาขวางทางรักของตนเองกับหุ้นส่วนคนใหม่ บอกอะไรเหรอคะคุณแม่ เพชรไพลินทำแววตาสงสัย มาทำอะไรกันอยู่ตรงนี้สองแม่ลูก ก้องภพที่จะต้องออกไปคุยงานข้างนอกถามด้วยความอยากรู้ จิตสุดาแสดงอาการตกใจเมื่อสามีเข้ามาอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง เมื่อกี้คุณป้อมเอากุญแจมาให้เพชรแล้วค่ะคุณพ่อ คุณอิจิโร่บอกว่าจะย้ายของเข้าไปอยู่วันนี้เลยค่ะ เธอบอกให้ผู้เป็นพ่อได้ทราบเช่นเดียวกัน พักที่บ้านสบายกว่าโรงแรม อีกอย่างเราก็เสียเงินเช่าทั้งเดือนไปแล้วน่าจะถูกกว่าอยู่โรงแรมเสียอีก นั่นเพราะว่าก้องภพมีแผนบางอย่างหลังจากนี้น่ะเอง เพชรก็ว่าอย่างนั้นล่ะค่ะ หญิงสาวไม่รู้เลยว่าผู้เป็นพ่อกำลังคิดจะทำอะไร เดี๋ยวพ่อจะออกไปคุยงานกับลูกค้าข้างนอกยังไงพ่อฝาก่อนจะกเพชรดูแลคุณอิจิโร่ด้วยนะ ทำให้คุณอิจิโร่พอใจมากที่สุดเผื่อว่าเขาจะตัดสินใจลงทุนกับบริษัทของเราเพิ่มขึ้นแล้วก็จะได้อยู่ที่นี่นานๆ ซึ่งถ้าอีกฝ่ายได้แต่งงานกับลูกสาวของตนเอง สิ่งที่เขาหวังไว้ก็คงจะเป็นจริง ค่ะคุณพ่อเพชรจะดูแลคุณอิจิโร่อย่างดีแล้วก็จะทำให้พอใจมากๆ ตามที่คุณพ่อบอกค่ะ แล้วเมื่อกี้คุณแม่จะบอกอะไรเพชรเหรอคะ หญิงสาวเห็นว่าอีกฝ่ายพูดค้างไว้เมื่อครู่นี้ จิตสุดาจะเอ่ยคำพูดออกมาแต่เจอกับแววตาของผู้เป็นสามีที่ถลึงตาใส่อย่างไม่ชอบใจ คล้ายรู้ทันว่าเธอจะพูดอะไรทำให้แม่เลี้ยงสาวไม่กล้าเอ่ยตามที่ได้คิดไว้ คือแม่จะบอกว่าคุณพ่อน่ะอยากให้เพชรดูแลคุณอิจิโร่ให้ดีมากๆ น่ะ แต่คงไม่ต้องบอกแล้วล่ะเพราะว่าเมื่อกี้คุณพ่อบอกแล้ว จิตสุดาอ้อมแอ้มตอบกลับมาอย่างไม่สะดวกปากนัก ถึงคุณพ่อไม่บอกยังไงเพชรก็ต้องทำอยู่แล้วค่ะ เพราะว่าถ้าไม่ได้คุณอิจิโร่บริษัทของเราก็คงจะแย่ค่ะ อย่างนั้นพ่อออกไปข้างนอกก่อนนะแล้วค่ำๆ เจอกัน โดยเมื่อเอ่ยเสร็จเขาก็กุมมือของภรรยาสาวเดินมาด้วย เพชรไพลินจึงเดินกลับไปยังห้องทำงาน ลับหลังที่ลูกสาวก้าวไปแล้วก้องภพก็ถามจิตสุดาออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ใคร่พอใจเท่าใดนัก เมื่อกี้คุณคิดจะทำอะไรสุดา เขาบีบมือของเธอโดยแรงด้วย ทำอะไรเหรอคะคุณภพ ฉันไม่ได้ทำอะไรนี่คะ เธอตอบอย่างตะกุกตะกัก คุณคิดจะบอกเรื่องที่ผมคิดไว้ให้ยายเพชรรู้ใช่ไหม ผมขอสั่งคุณไว้เลยนะว่าห้ามบอกยายเพชรเด็ดขาด แต่ยายเพชรมีคนรักแล้วนะคะคุณภพ คุณทำอย่างนี้มันไม่เหมาะ ภรรยาสาวแย้งกลับมาแบบไม่เห็นด้วย เหมาะไม่เหมาะยังไงผมไม่สนใจ รู้แต่ว่าดร. ธนดิษฐ์น่ะดูแลยายเพชรกับบริษัทของผมไม่ได้อย่างเด็ดขาด เขาเชื่อมั่นว่ามันต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน คุณภพคะฉันว่า... จิตสุดาพยายามจะเปลี่ยนใจเขาให้เลิกคิดเรื่องนี้เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง สุดาถึงคุณจะไม่เห็นด้วยกับผมแต่ถ้าเรื่องนี้ยายเพชรรู้เมื่อไรล่ะก็ คุณจะว่าผมใจร้ายกับคุณไม่ได้นะ คุณหมายความว่ายังไงคะคุณภพ ภรรยามองหน้าเขาด้วยสีหน้าหวาดหวั่นกับประโยคที่ได้ยิน ผมอาจจะเลิกกับคุณไงล่ะ อย่าทำให้ผมโมโห อยู่เงียบๆ ไว้ดีกว่าถ้าไม่อยากกลับไปอยู่ในสภาพเดิม เพียงเขาบอกเสร็จก็เดินตรงไปยังรถเก๋งคันใหญ่ที่จอดรออยู่ทางเบื้องหน้า จิตสุดาสบถออกมาอย่างหงุดหงิดใจ บ้าที่สุดเลย นัยน์ตามองสามีแก่เบื้องหน้าอย่างเจ็บใจที่ดับฝันของตนเอง เมื่อไม่อาจที่จะทำให้ลูกเลี้ยงสาวรับรู้ถึงแผนของอีกฝ่ายได้ มือทั้งสองได้แต่กำแน่นเพียงอย่างเดียว +++++++++++++ เอาตอนต่อไปมาให้อ่านต่อค่ะ คุณ sakeena ความรักของคู่นี้เหรอคะ ต้องรอลุ้นจะรักหรือจะร้ายนะ
Create Date : 13 กันยายน 2556 |
Last Update : 13 กันยายน 2556 10:54:11 น. |
|
1 comments
|
Counter : 774 Pageviews. |
|
|